ตอนที่ 10

1380 คำ
ภายในโรงหนังมืดสลัวและหนาวเย็นจนหล่อนสะท้านไปทั้งร่างกาย แต่กระนั้นกลับไม่ได้ทำให้หล่อนทรมานได้เท่ากับสิ่งที่สองตากำลังจ้องมองอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว หนังรักโรแมนติกของดาริน ทำไมถึงได้มีฉากอย่างว่ามากมายนัก หากหล่อนมาดูกับเพื่อน คงไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจหนักหนาแบบนี้ แต่นี้หล่อนมาดูหนังเรื่องนี้กับเขา เคียร์ส เบนด์เนอร์ พี่ชายที่ถูกกาลเวลาเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นคนใจร้ายเลือดเย็น “อ๊า... อูยยย...” เสียงครวญครางจากปากของนางเอกภาพยนตร์ดังกระหึ่มลั่นโรงหนัง และทุกคนที่ร่วมชมก็พร้อมใจกันนั่งจ้องมองภาพร่วมรักถึงพริกถึงขิงของพระนางในจอเงียบๆ รวมทั้งผู้ชายข้างตัวด้วย สองพระนางแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ร่างกายของคนทั้งคู่เปลือยเปล่าล้อนจ้อนและแนบชิดกันจนคล้ายกับว่าทั้งสองคนร่วมเพศกันจริงๆ หล่อนหน้าร้อนผ่าว และรู้สึกวูบวาบในกายสาวจนไม่อาจจะทนดูได้อีกต่อไป หล่อนละสายตาจากจอภาพยนตร์ลงมองมือของตัวเอง นั่งบิดมือเข้าหากันไปมาด้วยความขัดเขินและประหม่า จนกระทั่งแก้มนวลร้อนรุ่มด้วยลมหายใจของเคียร์ส เป่าลด หล่อนตกใจหันไปมอง และก็พบว่าเขาเอียงหน้าเข้ามาหา ในความมืดหล่อนไม่สามารถล่วงรู้ได้หรอกว่า ในสายตาคมกริบคู่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่กระนั้นเขาก็ทำให้หล่อนสั่นสะท้านได้ทั้งตัว “นี่หรือหนังที่คุณแม่อยากให้เราดูด้วยกัน” “เอ่อ...” ปากของเขาชิดใกล้กับหล่อนมากมายเหลือเกิน คงเป็นเพราะเขาต้องกระซิบเบาๆ เกรงว่าจะรบกวนคนอื่นล่ะมั้ง เขาจึงแนบหน้าเข้ามาหาจนใกล้ขนาดนี้ “หรือว่ามันเป็นความคิดของเธอ” เอาแล้วไง สุดท้ายเคียร์สก็โยนบาปทุกอย่างมาใส่มือของหล่อน หล่อนเม้มปากแน่น มองเขาทั้งน้ำตา “ไม่ใช่นะคะ” “หึ” เขาแค่นยิ้ม และดึงตัวกลับไปนั่งตรงๆ บนเก้าอี้ประจำตัว และจ้องมองฉากร่วมรักของพระนางในจอต่อไปทำราวกับว่ามันคือฉากบู้ล้างผลาญแสนธรรมดา อัญชันน้ำตารื้น ยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง และก้มหน้ามองมือของตัวเองต่อไปเงียบๆ ภาวนาให้หนังเรื่องนี้จบลงโดยเร็ว หล่อนถอนใจออกมาทันทีด้วยความโล่งอกเมื่อภาพยนตร์ตรงหน้าจบลงแล้ว หล่อนรีบลุกขึ้น และเดินตามคนอื่นๆ ออกมา โดยมีเคียร์สเดินตามหลังมาติดๆ “จะรีบเดินไปไหน” เขาคว้าแขนของหล่อนเอาไว้ เมื่อออกมาจากโรงหนังแล้ว หล่อนหันไปมองเขา ก่อนจะตอบเสียงเรียบ “หนูอัญจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ ขอตัวนะคะ” เขาหรี่ตาแคบมองนิ่ง ก่อนจะเค้นเสียงราบเรียบออกมา “งั้นฉันจะรออยู่ตรงนี้ รีบมาล่ะ” หล่อนไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธคำสั่งของเขา เพราะน้ำตาเจียนจะไหลออกมาอยู่แล้ว หล่อนรีบจ้ำอ้าวเดินไปยังห้องน้ำ การได้อยู่ห่างจากคนใจร้ายสักพักคงทำให้หล่อนเจ็บปวดน้อยลง หล่อนใช้เวลาในห้องน้ำเกือบสิบนาทีจึงตัดสินใจเดินออกมา มุ่งหน้าตรงไปหาเขา เพราะรู้ดีว่าถ้ามัวแต่ชักช้าจะต้องถูกเขาเอ็ดตะโรเอาอย่างแน่นอน “พี่...” หล่อนกำลังจะเรียกเขา แต่เขาที่หันหลังให้อยู่กำลังยืนคุยยิ้มแย้มกับผู้หญิงคนหนึ่ง ชัชชุอร! ผู้หญิงคนที่กำลังยืนยิ้มหวาน และทำให้เคียร์สพูดไปยิ้มไปด้วยได้คือน้องสาวต่างมารดาของหล่อนนั่นเอง หล่อนพยายามยืนนิ่งๆ และไม่คิดจะเข้าไปรบกวนคนทั้งคู่ แต่ชัชชุอรมองมาเห็นหล่อนเสียก่อน “พี่อัญ... ไม่คิดจะเข้ามาทักทายอรบ้างเหรอคะ” “เอ่อ สวัสดีอร” “นั่นสิ ทำไมถึงได้เป็นคนมารยาทเสียแบบนี้ล่ะ” คนตัวโตหันมาดุหล่อน และเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียว ลากให้เข้าไปในวงสนทนา “พี่เคียร์สอย่าไปว่าพี่อัญเลยค่ะ อรคงเป็นน้องสาวที่พี่อัญไม่อยากรู้จัก พี่อัญถึงได้ทำหมางเมินกับอรทุกครั้งที่เจอกันเลย นี่ขนาดเจอกันที่มหา’ลัยพี่อัญยังเดินหนีอรเลยนะคะ” อัญชันเม้มปากแน่น มองน้องสาวต่างมารดาที่กำลังแสร้งแสดงละครเป็นน้องผู้แสนดีด้วยความอึดอัด หล่อนอยากจะพูด อยากจะเถียง แต่ก็รู้ดีว่าเคียร์สคงเลือกที่จะไม่เชื่อหล่อน “ฉันคิดอยู่แล้วว่าเธอจะต้องเป็นคนแบบนี้ อัญชัน” ใครว่าใครกล่าวหาหล่อน ไม่เคยเจ็บช้ำเท่ากับคำกล่าวหาไร้ความเป็นจริงจากปากของเคียร์ส หล่อนมองเขาน้ำตาซึม กัดปากแน่น “หนูอัญขอตัวนะคะ” แล้วหล่อนก็ไม่อาจจะทนยืนฟังคำตำหนิติเตียนจากปากของผู้ชายที่ตัวเองแสนเทิดทูนได้อีก หล่อนหมุนตัวก้าวยาวๆ เดินหนีไปทันที เสียงเรียกของเคียร์สดังตามหลังมา แต่ไม่อาจจะหยุดเท้าของหล่อนที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วได้ หล่อนเจ็บ... เจ็บจนจุกไปทั้งหัวใจแล้ว “อัญชัน... กลับมาเดี๋ยวนี้นะ อัญชัน!” เคียร์สกำลังจะวิ่งตามไป แต่ชัชชุอรกระชากแขนเอาไว้เสียก่อน พร้อมกับทำเป็นบีบน้ำตา “พี่อัญคงรังเกียจอรมากน่ะค่ะ ก็เลยรีบเดินหนีไปแบบนี้” “พี่ขอโทษน้องอรแทนอัญชันด้วยนะ” เขาแกะมือของชัชชุอรออกจากแขนของตัวเอง “พี่ต้องไปตามอัญชันก่อน” “ไม่เห็นต้องเป็นห่วงเลยค่ะพี่เคียร์ส อย่าลืมสิคะว่าพี่อัญน่ะเก่งกล้าสามารถขนาดไหน แค่นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านสบายอยู่แล้วค่ะ แต่อรว่านะ พี่อัญคงไม่เลือกลำบากนั่งแท็กซี่หรอก เพราะผู้ชายที่มารุมขายขนมจีบพี่อัญเยอะแยะไป แค่โทรตามขี้คร้านจะรีบแย่งกันออกมารับ” เคียร์สฟังไปกัดฟันไป ความเดือดดาลแน่นอก ชัชชุอรเห็นสีหน้าและแววตาของเคียร์สก็ลอบยิ้มและใส่ไฟพี่สาวต่างแม่ของตัวเองต่อไป “แล้วหลังจากนั้นก็คงพากันไปเที่ยวก่อน ถึงจะกลับบ้าน อ้อ มีครั้งหนึ่งนะคะอรเห็นพี่อัญหายเข้าไปในโรงแรมกับผู้ชายด้วย อุ้ย...” ชัชชุอรยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ทำหน้าทำตาเหมือนกับรู้สึกผิด “อร... อรไม่น่าพูดออกไปเลยพี่เคียร์สคิดเสียว่าไม่ได้ยินที่อรพูดนะคะ” เคียร์สแทบระเบิดออกมาทั้งตัว เขาพยายามควบคุมโทสะเอาไว้ แต่มันก็ยากเย็นเหลือเกิน “พี่ขอบใจน้องอรมากนะที่บอกเล่าเรื่องราวของอัญชันให้พี่รู้มาตลอดหลายปี” ชัชชุอรสอดมือรัดรอบท่อนแขนของเคียร์สเอาไว้ และใช้ฝ่ามืออีกข้างลูบผิวเรียบตึงของเขาแผ่วเบา “ด้วยความยินดีค่ะ ก็อรหวังดีกับพี่เคียร์สนี่คะ” “ขอบใจมาก” เคียร์สแกะมือของชัชชุอรออกจากแขนของตัวเองอีกครั้งด้วยกิริยาที่พยายามจะสุภาพ “พี่ต้องขอตัวก่อนนะครับ” ชัชชุอรหงุดหงิดจนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ “นี่พี่เคียร์สยังจะไปตามนัง... พี่อัญอีกเหรอคะ” “คุณแม่ของพี่จะไม่พอใจ ถ้าอัญชันไม่ได้กลับบ้านกับพี่” “แต่ป่านนี้คงขึ้นรถไปกับผู้ชายคนไหนแล้วล่ะค่ะ” ชัชชุอรได้สติว่าไม่ควรหลุดภาพนางมารร้ายออกไป จึงรีบแก้คำพูด “เอ่อ อรก็แค่ไม่อยากให้พี่เคียร์สวิ่งตามคนที่ไม่เต็มใจจะกลับบ้านกับพี่เคียร์สน่ะค่ะ” เคียร์สยืนนิ่ง มองเห็นความจริงจากคำพูดของชัชชุอร นั่นสินะ เขาไม่ควรจะวิ่งไล่ตามผู้หญิงคนนั้น เพราะหล่อนไม่มีค่าพอแม้แต่จะให้เขานึกถึงด้วยซ้ำ “แล้วนั่นพี่เคียร์สจะไปไหนคะ” ชัชชุอรเห็นเคียร์สหมุนตัวจะเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับทางที่อัญชันเดินจากไปก็รีบเอ่ยถาม “พี่จะไปลานจอดรถน่ะ จะกลับบ้าน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม