“อยากซื้ออะไรก่อนหรือเปล่า อีกเกือบสี่สิบนาทีแน่ะกว่าหนังของคุณแม่จะฉาย”
จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น พร้อมกับหันมามองหน้าหล่อน ซึ่งก็ทำให้หล่อนที่ลอบมองเขาอยู่หลบสายตาไม่ทัน แก้มสาวซับเลือดฟาด ดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตารีบเสมองลงต่ำ
“ฉันถามทำไมไม่ตอบ หรือว่าหูตึง”
“เอ่อ ไม่ใช่นะคะ หนูอัญไม่ได้หูตึง” หล่อนจำต้องรีบปฏิเสธ ก่อนจะยิ้มบางๆ มองเขาด้วยสายตาหวาดหวั่น
“แล้วทำไมไม่ตอบ”
“ก็หนูอัญ... กำลังคิดอยู่น่ะค่ะว่าอยากได้อะไรหรือเปล่า”
เขามองหล่อน มองด้วยสายตามืดลึกไม่บอกความรู้สึก ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน และคว้ามือนุ่มไปกุมเอาไว้ “มัวแต่คิดอยู่ได้น่ารำคาญ ฉันตัดสินใจเองดีกว่า”
“พี่ชาย... จะไปไหนคะ”
“ไม่ต้องถามหรอกน่า ตามมาเดี๋ยวก็รู้”
เขาลากร่างของหล่อนออกไปจากหน้าโรงหนัง มุ่งหน้าตรงไปยังแผนกที่มีตู้ตุ๊กตาหยอดเหรียญมากมาย หล่อนหมุนตัวมองไปรอบๆ มองตุ๊กตาในตู้อย่างตื่นตาตื่นใจ
เคียร์สเอียงหน้ามามองอัญชัน และก็อดที่จะเผลอยิ้มออกมาไม่ได้ แต่พอนึกได้ก็หุบยิ้มทันที
“อยากได้ตุ๊กตาหรือเปล่า”
“คะ?” หล่อนที่กำลังมองตุ๊กตาเพลินๆ หันไปถามซ้ำเพราะไม่ทันได้ฟัง
“ฉันถามว่าอยากได้ตุ๊กตาหรือเปล่า”
หล่อนยิ้มเจื่อนๆ และก็พยักหน้ารับเล็กน้อย “หนูอัญชอบตุ๊กตา แต่คงคีบออกมาไม่ได้หรอกค่ะ”
“นั่นเพราะเธอไม่ฉลาดยังไงล่ะ”
คนตัวโตว่าหล่อนเสร็จ ก็เดินไปแลกเหรียญโดยทิ้งหล่อนไว้ที่เดิม ไม่ช้าก็เดินกลับมา และดึงหล่อนไปที่ตู้ตุ๊กตา
“อยากได้ตัวไหน”
หล่อนมองเขาด้วยความตื่นเต้น “พี่ชายจะ... คีบให้หนูอัญเหรอคะ”
เขาหรี่ตามองหน้าหล่อน ก่อนจะพูดออกมาด้วยความรำคาญ “อย่าถามให้มากความ อยากได้ตัวไหน ฉันจะคีบให้”
แม้จะยังน้อยใจเขาอยู่ แต่ความตื่นเต้นที่จะได้ตุ๊กตาในตู้ตรงหน้าทำให้หล่อนฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้าที่หวานฉ่ำอยู่แล้วจึงยิ่งสวยงามยิ่งกว่านางสวรรค์ เคียร์สเผลอมองอยู่นาน ก่อนจะรีบเรียกสติของตัวเองด้วยการทำเสียงดุใส่หล่อน
“ตัวไหน บอกมาสักทีสิแม่คุณ”
“เอ่อ ตัว... นี้ค่ะ”
นิ้วเรียวจิ้มไปที่ตุ๊กตาแม่หมูตัวสีชมพูน่ารัก คนตัวโตเห็นแล้วก็ไหวไหล่น้อยๆ ก่อนจะจัดการหยอดเหรียญลงไป และพยายามที่จะคีบเจ้าแม่หมูสีชมพูออกมาให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างเคียร์สไม่เคยทำอะไรพลาดแม้แต่การคีบตุ๊กตาออกจากตู้
“เย้...”
หล่อนดีใจกระโดดจนตัวลอย เมื่อพี่ชายทำได้สำเร็จ ตุ๊กตาแม่หมูสีชมพูอยู่ในมือใหญ่ และยื่นมาให้หล่อน
“ขอบคุณค่ะพี่ชาย”
หล่อนยิ้มกว้าง ดวงตาสุกใสไร้เดียงสา เคียร์สเมินหน้าหนี และเดินไปตู้อื่น คิดว่าอัญชันจะเดินตามมา แต่หญิงสาวยังคงยืนยิ้มอยู่กับตุ๊กตาแม่หมูในมือเช่นเดิม ร้อนถึงเขาต้องเดินไปคว้ามือนุ่มและรั้งให้เดินตามมา
“มัวแต่โอ้เอ้อยู่ได้”
“เอ่อ หนูอัญขอโทษค่ะ”
หล่อนรีบก้าวยาวๆ ตามร่างของเคียร์สไป และเขาก็พาหล่อนแวะทุกตู้ที่มีตุ๊กตาอยู่ภายใน เวลาผ่านไปหลายนาที ในอ้อมแขนของหล่อนจึงเต็มไปด้วยตุ๊กตาน่ารัก
“พี่ชาย... พอเถอะค่ะ”
คนที่กำลังจะหยอดเหรียญเพิ่มหันมามอง “ทำไม หรือว่าไม่อยากได้ตุ๊กตาแล้ว”
“มันเยอะแล้วน่ะค่ะพี่ชาย นี่ก็หกตัวแล้ว”
เขาไหวไหล่ตามใจหญิงสาว
“ตามใจ แต่อย่าฝันนะว่าฉันจะทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้ซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
ชายหนุ่มเค้นเสียงราบเรียบออกมา ก่อนจะเดินนำไป อัญชันมองตามร่างของพี่ชายไปอย่างตัดพ้อ เพราะไม่ว่าหล่อนจะทำอะไร พูดอะไร พี่ชายก็มักจะไม่พอใจ ซึ่งมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เขากลับมา
หญิงสาวยิ้มเศร้าๆ ให้กับตัวเอง กำลังจะเดินตามชายหนุ่มไป แต่เสียงเด็กชายคนหนึ่งร้องเรียกเสียก่อน
“พี่สาวครับ”
“คะ”
หล่อนหันไปมอง เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักน่าชังยืนอยู่ข้างหลัง หล่อนย่อตัวลงไปนั่งบนส้นเท้า และเอ่ยถาม
“มีอะไรหรือครับคนเก่ง”
เด็กชายซึ่งวัยไม่น่าเกินห้าขวบมองหน้าหล่อน ก่อนจะลดสายตามองตุ๊กตาที่หล่อนหอบอยู่ อัญชันเข้าใจความต้องการของเด็กชายตรงหน้าในทันที
“หนูอยากได้ตุ๊กตาเหรอคะ”
เด็กชายไม่ตอบเป็นคนพูด แต่พยักหน้ารับ
อัญชันระบายยิ้มหวาน ก่อนจะยืนตุ๊กตาน่ารักในมือให้กับเด็กชายตรงหน้าหนึ่งตัว
“น้าให้ครับ”
เด็กชายยิ้มกว้าง กอดตุ๊กตาให้มืออย่างดีใจ “ขอบคุณครับพี่สาว”
“น้าสาวจ้ะ คนเก่ง” เพราะหล่อนน่าจะแก่พอที่จะเป็นน้าของเด็กชายคนนี้ได้แล้ว จึงรีบแก้คำพูดให้
“ขอบคุณครับน้าสาว”
อัญชันยกมือขึ้นลูบศีรษะของเด็กน้อย “แล้วนี่มากับใครหรือครับ คุณพ่อคุณแม่ไปไหนล่ะ”
“ผมมากับคุณยายครับ คุณยายอยู่ทางนู้น” เด็กชายชี้ไปที่ผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังจูงเด็กอีกสองคนซึ่งกำลังเดินมาทางนี้พอดี
“สองคนนั่นน้องของหนูเหรอครับ”
“ใช่ครับ น้องของผมก็ยังไม่มีตุ๊กตาเลย”
อัญชันยิ้มน้อยๆ ก่อนจะยื่นตุ๊กตาให้กับเด็กชายไปอีกสองตัว
“งั้นน้าฝากให้น้องของหนูด้วยนะครับ”
“ขอบคุณครับคุณน้า”
แล้วเด็กชายก็หอบตุ๊กตาสามตัวที่หล่อนมอบให้วิ่งไปหาคุณยายและน้องของตัวเอง หล่อนระบายยิ้ม และกำลังจะหมุนตัวเดินตามเคียร์สไป แต่ก็มีเด็กอีกสามคนโผล่เข้ามาหา
“น้าคนสวยครับ พวกผมอยากได้ตุ๊กตา”
อัญชันมองเด็กน้อยทั้งสามคนอย่างเอ็นดู เด็กพวกนี้คงเห็นที่หล่อนมอบตุ๊กตาให้เด็กชายคนก่อนหน้า
“ได้สิจ๊ะ แต่ต้องสัญญากับน้าว่าจะรักษาตุ๊กตาให้ดีนะจ๊ะ”
“พวกผมสัญญาครับ”
เด็กๆ ดีใจที่ได้ตุ๊กตาไปกอดคนละตัว หล่อนมองเด็กวิ่งหายไปด้วยความสุขและก็ความเสียดายเล็กน้อย
“ใจดีเหลือเกินนะ”
เสียงกระด้างดังอยู่ด้านหลัง หล่อนรีบหันไปมอง ก่อนจะพบว่า เคียร์สเดินกลับมาตามหล่อน ใบหน้าหล่อจัดของเขาบึ้งตึง และแน่นอนว่าหล่อนรู้สึกไม่ดีนัก
“หนูอัญขอโทษค่ะ...”
“ให้ตุ๊กตาเด็กไปหมดแบบนั้น เธอก็ไม่มีน่ะสิ”
“หนูอัญมีหลายตัวแล้วค่ะในห้องนอน แต่เด็กๆ คนอยากได้กันจริงๆ เลยกล้าเข้ามาขอ...”
“เธอก็เลยใจดียกให้เด็กพวกนั้นไป”
“ค่ะ” หล่อนตอบรับ และรีบก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของเคียร์ส ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามาหา
“ขอบคุณมากนะครับที่ให้ตุ๊กตาลูกชายของผม”
อัญชันหันมามอง และก็จำเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ คู่สนทนาได้ หล่อนระบายยิ้มกว้าง
“ถือว่าเป็นของขวัญก็ได้ค่ะ จริงไหมครับคนเก่ง”
อัญชันโน้มตัวลงลูบศีรษะเด็กชาย ซึ่งเด็กชายก็ระบายยิ้มให้กับหล่อน ก่อนจะหันไปพูดกับบิดาของตัวเอง
“พ่อครับ พี่สาวสวยจังเลยครับ พ่อจีบพี่สาวสิครับ”
“เอ่อ...” อัญชันตกใจกับคำที่เด็กชายพูด ซึ่งคนเป็นพ่อของเด็กชายก็ยิ้มเก้อๆ และรีบแก้ตัว “พอดีน้องนัฐแกเสียแม่ไปตั้งแต่เด็กน่ะครับ แกเห็นใครใจดีไม่ได้ ก็อยากให้ผมจีบดะไปหมด”
“เอ่อ ค่ะ...”
“เออ... ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรือครับ บางทีเราอาจจะนัดกินข้าว...”
“คงจะไม่สะดวกหรอกครับ เพราะอัญชันไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย” คนที่ยืนนิ่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นเสียงราบเรียบ “หมดธุระของคุณหรือยังครับ ผมกับอัญชันจะต้องรีบไปดูหนัง”
“เออ... ผู้ชายคนนี้เป็น...” พ่อของเด็กชายมองหน้าหล่อนสลับกับใบหน้าบึ้งตึงของเคียร์ส
“พี่เคียร์สเป็น...”
“ผมจะเป็นอะไรกับอัญชันก็ไม่สำคัญ แต่อัญชันไม่มีเวลาว่างไปกินข้าวกับคุณแน่ๆ ไม่ว่าจะมื้อไหนก็ตาม ขอตัวนะครับ” แม้จะพยายามควบคุมโทสะเอาไว้แค่ไหน แต่ก็ยังพูดออกมาด้วยความก้าวร้าวอยู่ดี “ไปกันได้แล้ว อัญชัน” เขาคว้าแขนของหล่อนและลากออกมาทันที
“พี่ชายคะ... หยุดก่อนคะ หนูอัญเดินไม่ทันค่ะ”
เขาหยุดเดิน พร้อมกับปล่อยมือจากแขนของหล่อน “ทำไม อยากจะกลับไปสานสัมพันธ์กับไอ้พ่อหม้ายเมียเผลอนั่นอย่างนั้นหรือ”
“พี่ชายคะ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” หล่อนพยายามจะอธิบาย แต่เคียร์สเป็นอะไรไปก็ไม่รู้ เอาแต่มองหล่อนในแง่ร้ายตลอด
“นี่ฉันรู้แล้ว ความจริงเธอน่ะไม่ใช่คนใจดีอะไรหรอก ไม่ได้รักเด็กๆ ด้วย แต่ที่เธอให้ตุ๊กตาของฉันกับเด็กพวกนั้น ก็เพราะหวังไง หวังว่าพ่อของเด็กพวกนั้นจะมองมาที่เธอ และเข้ามาหาเธอแบบไอ้คนเมื่อกี้นี้ ใช่ไหมล่ะ เธอนี่มันร้ายกาจมากนะอัญชัน”
“พี่ชาย...”
หล่อนอุทานออกมาอย่างเจ็บปวด คาดไม่ถึงกับความคิดนี้ของเคียร์ส
“ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ”
หล่อนน้ำตาไหล แต่ก็รีบป้ายทิ้ง และหมุนตัวจะเดินหนี แต่เขาคว้าแขนเอาไว้ หล่อนพยายามบิดออกแต่ไม่สำเร็จ
“จะไปไหน”
“หนูอัญจะกลับไปเอาตุ๊กตาพวกนั้นคืนจากเด็กๆ ค่ะ พี่ชายจะได้เลิกบ้าเสียที”
“ฉันไม่ได้บ้า แต่เธอต่างหากที่ทำให้ฉันเป็นบ้า”
หล่อนหันมองเขา ดวงตาแดงก่ำ
“หนูอัญยังไม่ได้ทำอะไรเลย พี่ชายนั่นแหละ เอาแต่ต่อว่าหนูอัญตลอดเวลา ถ้าเกลียดกันนัก ไม่อยากอยู่ใกล้ๆ กัน ก็แยกทางกันตรงนี้เถอะค่ะ หนูอัญกลับบ้านเองได้”
เขากัดฟันแน่น มองคนที่พยศอย่างโมโห
“ฉันรู้ว่าเธออวดดี เธออวดเก่งแค่ไหน และฉันก็ไม่อยากอยู่ใกล้เธอแม้แต่วินาทีเดียว แต่ที่ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้ ก็เพราะฉันเกรงใจคุณแม่”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าหนูอัญจะเรียนคุณป้าเอง จะบอกว่าหนูอัญหนีพี่ชายออกมาเอง”
“อย่ามาทำเป็นคนดี”
“หนูอัญไม่ได้ทำเป็นคนดี แต่หนูอัญไม่อยากอยู่ใกล้ๆ พี่ชายแล้ว หนูอัญทรมาน...”
คนตัวโตอึ้งไป แต่กระนั้นเขาก็ไม่ยอมที่จะปล่อยมือจากแขนของหล่อน
“ปล่อยหนูอัญนะคะ”
“เสียใจด้วย เราจะต้องดูหนังด้วยกัน ตามความต้องการของคุณแม่ จบนะ อัญชัน”