หลังจากจบจากงานเลี้ยงไดม่อนก็กลับมานอนที่คอนโดตัวเอง เมื่อมาถึงคอนโดเขาก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนจากนั้นก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงแล้วเอียงหน้าไปมองกรอบรูปที่เขาถ่ายคู่กับโรสในช่วงอายุสิบสามปีที่วางไว้บนโต๊ะหัวเตียงโดยในรูปโรสนั้นนั่งคล้องแขนเขาแล้วเอียงหน้าซบไหล่เขาพร้อมกับยิ้มหวานใส่กล้อง ทำเอาไดม่อนนั้นยิ้มตามทุกครั้งที่เขามองรูปนี้
“ม่อนอยากเห็นรอยยิ้มของโรสตอนโตจัง คงจะสวยไม่แพ้ตอนเด็กเลยใช่มั้ย กลับมาหาม่อนได้แล้วนะโรส กลับมาส่งยิ้มหวานให้ม่อนได้แล้วนะครับ ม่อนรอโรสอยู่นะ”
ไดม่อนพูดขึ้นแล้วพลิกนอนตะแคงข้างยื่นมือไปลูบใบหน้าหวานในรูปถึงตอนนี้เขาจะยิ้มแต่น้ำตากลับไหลออกมาเพราะคิดถึงคนในรูปแทบขาดใจ เขาเป็นแบบนี้มาตลอดเจ็ดปีโดยไม่มีใครรู้เวลาอยู่ข้างนอกเขาจะทำตัวปกติเพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวเป็นห่วง แต่เมื่อไหร่ที่เขาอยู่คนเดียวก็มักจะคุยกับรูปของเธอแล้วน้ำตาของเขาก็ไหลออกมาทุกครั้ง ไดม่อนนอนมองรูปถ่ายสักพักก็หลับลงทันที เช้าวันต่อมาไดม่อนก็ไปเรียนตามปกติเมื่อไปถึงมหาลัยเขาก็ตรงไปนั่งกับเจไดที่ลานคณะเพื่อรอเรียน
“ขอโทษนะคะพี่ไดม่อน”
ไดม่อนเงยหน้ามองทันทีเมื่อได้ยินเสียงคนเรียกชื่อก็เห็นข้าวฟ่างรุ่นน้องคณะเขายืนมองเขาด้วยรอยยิ้มแต่ไดม่อนไม่รู้จักชื่อเธอเพราะไม่ได้สนใจที่รู้ว่าเป็นรุ่นน้องเพราะเห็นเธอใส่เสื้อช็อปของคณะตัวเอง
“ครับ”
ไดม่อนขานตอบเธอเสียงเรียบทำเอาข้าวฟ่างประหม่าเล็กน้อยเพราะเขาไม่ยิ้มตอบเธอเลยสักนิด
“เอ่อ…คือข้าวอยากให้พี่ไดม่อนช่วยติววิชาฟิสิกส์ให้ข้าวหน่อยได้มั้ยคะ ข้าวได้ยินข่าวว่าพี่ไดม่อนเก่งเคมีฟิสิกส์มาก”
ข้าวฟ่างพูดกับไดม่อนพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้หวังให้เขายอมสอนเธอ สาเหตุที่เธอมาขอร้องไดม่อนเพราะเธอชอบเขาตั้งแต่ตอนรับน้องเมื่อรู้ว่าเขาไม่มีแฟนเธอจึงหาวิธีเข้าหาเขาเพื่อให้เขาสนใจเธอ
“ให้คนอื่นสอนเถอะครับ ผมไม่ถนัดสอนใคร”
ข้าวฟ่างหน้าเสียทันทีเมื่อโดนไดม่อนปฏิเสธเธอตรงๆ แถมเขายังตอบขณะก้มเขียนงานโดยไม่มองหน้าเธอสักนิดจนข้าวฟ่างทำตัวไม่ถูก
“อ่อค่ะ งั้นพี่ไดม่อนมีหนังสือแนะนำหรือมีให้ข้าวยืมอ่านมั้ยคะ พอดีข้าวไม่รู้จะอ่านหนังสือแบบไหนคะ”
ข้าวฟ่างยังพยายามชวนเขาคุยต่อเพราะยังไงเธอก็ต้องทำให้ไดม่อนยอมใจอ่อนมาคุยกับเธอให้ได้
“ไม่มีครับ”
ไดม่อนตอบกลับสั้นๆ ขณะที่ก้มหน้าเขียนงานโดยไม่มองหน้าเธอเลยสักนิด คำตอบของไดม่อนทำเอาข้าวฟ่างถึงกับไปต่อไม่ถูกเพราะเขาเล่นตัดบทเธอสั้นๆ จนเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อจึงตัดสินใจถอยไปตั้งหลักก่อน
“งั้นข้าวไม่รบกวนพี่ไดม่อนแล้วค่ะ ข้าวขอตัวนะคะ”
พูดจบข้าวฟ่างก็ยืนรอสักพักเผื่อเขาจะหันมาตอบเธอแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเขานั้นนั่งก้มหน้าก้มตาเขียนงานโดยไม่คิดจะเงยหน้ามาตอบเธอเลยสักนิด ข้าวฟ่างจึงเดินไปอย่างอารมณ์ไม่ดีเมื่อไม่เป็นตามที่ตัวเองคิดไว้
“หึ ปฏิเสธสาวได้อย่างเลือดเย็นจริงๆ นะมึง สาวๆ ก็ขยันมาชอบมึงจริงๆ เนาะ”
เจไดพูดแซวไดม่อนทันที เพราะตั้งแต่เขาเรียนกับไดม่อนก็มีผู้หญิงมาจีบไดม่อนไม่ขาดสายแต่ก็กินแห้วกันทุกคนเพราะโดนไดม่อนปฏิเสธไปตรงๆ อย่างเย็นชาแบบนี้ตลอดทุกครั้ง ส่วนไดม่อนก็ไม่ได้ตอบอะไรเมื่อโดนเจไดแซวก้มหน้าก้มตาเขียนงานตัวเองต่อ สักพักก็มีสายเรียกเข้าจากอคินโทรหาเขาไดม่อนจึงรับสายทันที
“ว่าไง”
(วันนี้พักงานแล้วไปดื่มกัน ไอ้ตัวแสบมันชวน)
“อืม กี่โมง”
(หนึ่งทุ่ม มึงเลิกเรียนก็กลับไปนอนพักที่คอนโดไม่ต้องไปทำงานที่สนามแข่งอย่าโหมงานมากเดี๋ยวจะตายก่อนได้เจอโรส)
“ไอ้สัส”
อคินวางสายทันทีโดยไม่รอให้ไดม่อนพูดต่อ ส่วนไดม่อนก็ไม่ได้โกรธอะไรอคินเพราะรู้ที่อคินพูดเพราะเป็นห่วงเขา แต่เพราะนิสัยเย็นชาปากร้ายการแสดงความเป็นห่วงของอคินก็จะดูไม่ค่อยอ่อนโยนสักเท่าไหร่จะมีแค่ไดม่อนและรามินเท่านั้นที่ดูอคินออกว่าการกระทำของเขานั้นห่วงพี่น้องตัวเองมากแค่ไหน หลังจากวางสายอคินไดม่อนและเจไดก็ขึ้นไปเรียนทันที พอเรียนเสร็จไดม่อนก็กลับไปนอนพักที่คอนโดตามที่อคินบอกเพราะเขาก็อยากพักร่างกายตัวเองเหมือนกัน จนถึงเวลาเกือบหนึ่งทุ่มไดม่อนก็อาบน้ำแต่งตัวในเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงขายาวสีเดียวกัน หลังจากแต่งตัวเสร็จก็ออกจากคอนโดขับรถตรงไปที่ผับตัวเองทันที เมื่อมาถึงแล้วไดม่อนก็เดินขึ้นไปชั้นสองตรงไปยังห้องประจำของพวกเขาทันทีพอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นอคินและรามินนั่งดื่มอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับแพรวาและเค้กที่นั่งข้างๆ คู่ของตัวเอง
“มานั่งกันเป็นคู่แล้วจะชวนกูมาทำไม”
ไดม่อนบ่นให้อคินและรามินทันทีพร้อมกับนั่งลงที่ประจำของตัวเอง
“แหม อย่าน้อยใจสิครับ ถึงพวกผมจะมีแฟนกันแล้วแต่พวกผมก็ยังให้ความสำคัญกับพี่อยู่นะพี่ม่อน มาดื่มทั้งทีจะขาดพี่ไปได้ยังไง อะ หมดแก้วโทษฐานมาช้ากว่าเพื่อน”
รามินพูดขึ้นแล้วยื่นแก้วเหล้าให้ไดม่อนทันที เมื่อไดม่อนรับแก้วเหล้ามาแล้วก็กระดกดื่มจนหมดแก้วในรวดเดียว
“เดี๋ยวนี้ดูมึงเริ่มล้านะไอ้ม่อน พักบ้างสิ หยุดตามหาเธอบ้างก็ได้”
อคินพูดกับไดม่อนเสียงเรียบแต่แววตาสื่อความเป็นห่วงชัดเจน
“ผมเห็นด้วยกับพี่คินนะพี่ม่อน พักเรื่องตามหาพี่โรสบ้างก็ได้อย่าลืมสิว่าพวกผมก็ตามหาช่วยพี่อยู่นะ”
รามินพูดเสริมอคินอีกคนเพราะเป็นห่วงไดม่อนไม่ต่างจากอคิน จนไดม่อนได้แต่ส่งยิ้มบางให้ทั้งสองเพราะนอกจากพ่อแม่เขาก็มีอคินและรามินพร้อมกับครอบครัวทั้งสองที่ห่วงใยเขามาตลอดแถมยังช่วยเขาตามหาโรสมาตลอดเจ็ดปีโดยไม่มีใครบอกให้เขาเลิกตามหาสักคน
“อืม ขอบใจพวกมึงมากนะที่ห่วงกู วันนี้กูก็พักตามที่พวกมึงบอกแล้วไง”
ไดม่อนตอบกลับอคินและรามินด้วยรอยยิ้ม
“ขอโทษนะคะ ผู้หญิงที่ทุกคนกำลังตามหาชื่อโรสหรอคะ”
เค้กถามแทรกขึ้นทันทีเมื่อได้ยินรามินพูดชื่อผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา ถึงรามินจะเคยเล่าให้เธอฟังว่าพวกเขาตามหาผู้หญิงของไดม่อนมาเจ็ดปีแล้วแต่เธอก็ไม่เคยถามเซ้าซี้หรือขอดูข้อมูลเพราะเห็นเป็นเรื่องส่วนตัวของไดม่อนจึงไม่อยากเข้าไปยุ่งมาก แต่เพราะวันนี้ได้ยินชื่อที่คุ้นหูเธอจึงเอ่ยถามขึ้นมา
“พี่เค้กรู้จักคนชื่อนี้หรอคะ”
แพรวาเอ่ยถามทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเค้ก ทำเอาสามหนุ่มหันไปมองเค้กทันทีโดยเฉพาะไดม่อนที่สื่อแววตาอยากรู้มากที่สุด
“พี่รู้จักอยู่คนหนึ่งอะน้องแพรแต่ไม่รู้จะใช่มั้ย ผู้หญิงคนนั้นอายุเท่าไหร่หรอคะคุณไดม่อน”
เค้กหันไปพูดกับไดม่อนทันที
“เธอหายไปตอนอายุสิบสามปีตอนนี้อายุก็เท่ากันกับพวกผมครับ”
ไดม่อนตอบเค้กทันทีโดยไม่ถามอะไรเธอต่อ
“อายุเท่ากันกับคุณไดม่อนก็ยี่สิบปี หน้าตาสวยออกหวานๆ ปากนิดจมูกหน่อย นิสัยเรียบร้อยพูดเพราะๆ รึเปล่าคะ”
ไดม่อน อคินและรามินเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินเค้กพูดถึงลักษณะหน้าตาของโรสเพราะมันตรงกับคนที่พวกเขาตามหา
“เธออยู่ไหนครับ พาผมไปหาเธอได้มั้ย”
“เดี๋ยวก่อนพี่ม่อน ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ เรายังไม่รู้เลยว่าจะใช่พี่โรสมั้ย”
รามินรีบดึงไดม่อนให้นั่งลงทันทีเมื่อไดม่อนตั้งท่าจะให้เค้กพาเขาไปหาโรส
“โทษที”
ไดม่อนพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองให้เย็นลงทันทีเมื่อรามินห้ามไว้ก่อน
“พี่เค้กครับ พี่มีรูปของคนที่พี่รู้จักมั้ยครับ”
รามินหันไปถามเค้กทันทีเมื่อไดม่อนนั่งสงบสติตัวเองแล้ว
“ไม่มีอะ น้องโรสไม่เล่นโซเชียลเลย ให้พี่ดูรูปตอนเด็กได้มั้ยคะ ถ้าเป็นคนเดียวกันก็หน้าจะมีส่วนคล้ายกันบ้าง”
ไดม่อนรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วเปิดปลดล็อคโทรศัพท์ให้ดูรูปโรสที่เขาตั้งเป็นภาพหน้าจอหลักยื่นให้เค้กดูทันที
“นี่ครับ”
เค้กรับโทรศัพท์จากไดม่อนตากลมเบิกตากว้างตกใจทันทีทำเอาทุกคนถึงกับลุ้นตามว่าใช่คนเดียวกันมั้ย
“เป็นไงครับพี่เค้ก หน้าตาเธอคล้ายกับพี่โรสมั้ย”
รามินถามเค้กด้วยความอยากรู้ เช่นเดียวกันกับไดม่อน อคินและแพรวาที่มองหน้าเค้กอย่างรอคำตอบ
“คล้ายกันมากเลยรามิน ภาพนี้ตอนเด็กว่าสวยแล้ว น้องโรสที่พี่รู้จักตอนนี้สวยมากเลยนะ”
“เธออยู่ที่ไหนหรอครับ สะใภ้เล็กรู้จักเธอได้ยังไง”
ไดม่อนรีบถามเค้กขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ หัวใจเขาเต้นแรงมากกว่าปกติอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ข้อมูลของคนที่ตามหามานาน
“น้องโรสเป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์ห้องสมุดที่มหาลัยเราค่ะ ฉันเจอกับน้องโรสเมื่อเดือนก่อนแล้วรู้สึกถูกชะตาเลยสนิทกันมาตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ อยากฟังเสียงเธอมั้ยคะถึงน้องโรสจะไม่เล่นโซเชียลแต่ก็ให้เบอร์ติดต่อฉันมา”
“โทรตอนนี้เลยครับสะใภ้เล็ก”
ไดม่อนรีบตอบเค้กทันทีด้วยท่าทางตื่นเต้นจนแทบนั่งไม่ติดโซฟา เช่นเดียวกับอคินและรามินที่พยักหน้าเป็นคำตอบเห็นด้วยกับไดม่อนเค้กจึงกดโทรหาโรสแล้วเปิดสปีกเกอร์โฟนทันที
(สวัสดีค่ะพี่เค้ก)
ไดม่อนชะงักนิ่งทันทีแววตาสั่นรัวเมื่อได้ยินเสียงหวานที่คุ้นหูชัดเจน