ตอนที่ 1 เพื่อนคนแรก
ไดม่อนเด็กหนุ่มวัยสิบสองปีรูปร่างสูงโปร่งเกินวัยกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ที่ส่วนหลังบ้านของตัวเอง เขาเป็นลูกชายคนเดียวของดินแดนและเมย์ และเป็นพี่ใหญ่ของแก๊งสามพี่น้องโดยมีอคินลูกชายของมาวินกับเพลงขวัญเป็นพี่รอง และรามินลูกชายของราเชนทร์กับมะนาวเป็นน้องเล็ก ทั้งสามคนถูกเลี้ยงดูให้รักใคร่กลมเกลียวกันดุจพี่น้องแท้ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรหรือมีปัญหาอะไรทั้งสามคนก็มักจะช่วยเหลือกันตลอดเวลา หลังจากที่ไดม่อนไปเล่นกับอคินและรามินเสร็จก็กลับมาอ่านหนังสือที่สวนหลังบ้านตัวเอง ขณะที่ไดม่อนกำลังนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีโบว์ผูกผมสีแดงปลิวมาตกอยู่บนหนังสือของเขา ไดม่อนจึงหยิบมาดูพร้อมกับทำหน้าสงสัยว่ามันปลิวมาจากไหน
“พี่คะ”
ขณะที่ไดม่อนกำลังทำหน้าสงสัยก็ต้องหันไปมองตามเสียงเรียกของเด็กผู้หญิง เมื่อมองไปก็เห็นเธอยืนเกาะอยู่รั้วกำแพงหลังบ้านเขาที่มองเห็นเพียงหัวเท่านั้น ไดม่อนหันไปมองเธออย่างตะลึงเพราะเห็นในหน้าสวยหวานของเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่มองแล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“คือ…ช่วยคืนโบว์ผูกผมนั่นมาให้หน่อยได้มั้ยคะ โบว์นั่นเป็นของหนูค่ะ”
โรสสาวน้อยวัยสิบสองปีพูดขึ้นขณะที่ยืนเกาะกำแพงของบ้านขนาดใหญ่ เธอพึ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่วันแรก ขณะที่พ่อกับแม่กำลังวุ่นวายกับการจัดของโดยแม่ไม่ให้เธอช่วย เธอจึงออกมาเดินเล่นสวนหลังบ้านแล้วเห็นบ้านสามหลังที่ทั้งใหญ่และสวยงามเด่นกว่าบ้านหลังอื่นๆ แถมสวนหลังบ้านเธอยังติดกับกำแพงบ้านหลังที่อยู่ซ้ายสุดเธอจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ระหว่างที่เธอเดินไปใกล้กำแพงโบว์ผูกผมสีแดงของเธอก็หลุดแล้วปลิวข้ามไปยังในบ้านหลังใหญ่หลังนั้น ด้วยความที่เป็นของขวัญที่แม่ซื้อให้เธอจึงรีบวิ่งไปเกาะกำแพงดูว่าโบว์เธอปลิวไปตกตรงไหน ตากลมเบิกตากว้างเมื่อเห็นโบว์ผูกผมตัวเองปลิวไปตกตรงหน้าเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่กำลังนั่งอ่านหนังสือจึงเรียกขอความช่วยเหลือเขาด้วยรอยยิ้ม ทางด้านไดม่อนที่มัวแต่มองใบหน้าสวยไม่ละสายตาก็มีสติขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของเธอจึงลุกขึ้นเดินไปหาเด็กสาวทันที
“โบว์นี่เป็นของเธอหรอ”
ไดม่อนเอ่ยถามโรสทันทีเมื่อเดินมาถึงเธอแล้ว
“ค่ะ”
โรสตอบกลับสั้นๆ แล้วก้มหน้าหลบตาไดม่อนทันทีเมื่อเห็นสายตาดุๆ ของเขา
“หลบตาทำไม”
ไดม่อนถามขึ้นเสียงเรียบตามประสาคนนิสัยนิ่ง สุขุมแถมยังเป็นคนพูดน้อยอีก ปกติเขาไม่เคยสนใจคุยกับคนแปลกหน้าเลยสักครั้ง ขนาดกับเพื่อนผู้หญิงในห้องเรียนถ้าไม่คุยเรื่องเรียนเขาก็แทบไม่ปริปากพูดกับใครยกเว้นกับอคินและรามินเท่านั้น แต่กับเด็กสาวตรงหน้าทำให้เขาอยากพูด อยากรู้จักเธอทั้งๆ ที่พึ่งเจอกันครั้งแรกด้วยซ้ำ ทางด้านโรสเมื่อได้ยินคำถามของเขาก็เงยหน้าขึ้นตอบเขาทันที
“ก็พี่ทำหน้าดุใส่หนู หนูกลัวค่ะ”
โรสตอบไปตามตรงจนไดม่อนถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นแววตาสั่นกลัวของเธอ
“ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่ใช่คนหน้ากลัวขนาดนั้น นี่โบว์ผูกผมของเธอ”
ไดม่อนพูดขึ้นแล้วยื่นโบว์ผูกผมให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของไดม่อนพร้อมกับเห็นแววตาเขาคลายความดุลงเธอก็ยิ้มกว้างยื่นมือไปรับโบว์ผูกผมตัวเองแล้วเอ่ยขอบคุณไดม่อนทันที รอยยิ้มของโรสทำเอาไดม่อนถึงกับใจเต้นแรงเพราะช่างเป็นรอยยิ้มที่สวยจริงๆ สำหรับเขา เมื่อโรสได้โบว์ผูกผมแล้วก็ตั้งท่าจะเดินกลับเข้าบ้านแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกของไดม่อนก่อน
“เดี๋ยวก่อน”
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
โรสหันกลับมาถามไดม่อนด้วยความสงสัย
“เธอชื่ออะไรหรอ”
ไดม่อนถามชื่อของเด็กสาวตรงหน้าทันทีเพราะเขาอยากรู้จักกับเธอ
“ชื่อโรสค่ะ โรสที่แปลว่าดอกกุหลาบ แล้วพี่ชื่ออะไรหรอคะ”
โรสแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรแล้วเอ่ยถามชื่อเขากลับพร้อมกับเดินมาเกาะกำแพงคุยกับเขา จนไดม่อนได้แต่อมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางยืนเกาะกำแพงของเธอมันช่างน่ารักซะเหลือเกิน
“ชื่อไดม่อน อายุเท่าไหร่หรอทำไมเรียกฉันพี่ล่ะ”
ไดม่อนตอบกลับโรสแล้วเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ก็เห็นพี่ตัวโตเลยเรียกพี่ไว้ก่อนค่ะ โรสอายุสิบสองปีค่ะ”
“เราอายุเท่ากัน”
ไดม่อนตอบกลับโรสทันทีเมื่อได้ยินคำตอบของเธอ
“เอ้า! เห็นตัวสูงขนาดนี้นึกว่าจะอายุสิบสี่สิบห้าแล้วซะอีก งั้นโรสเรียกว่าม่อนเฉยๆ ได้มั้ยคะ”
โรสเอ่ยถามไดม่อนด้วยรอยยิ้ม เธอก็รู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มตรงหน้าจึงกล้าคุยกับเขา
“ได้สิ”
ไดม่อนตอบกลับโรสด้วยรอยยิ้มจนโรสนั้นยิ้มตามไปด้วย
“โรส อยู่ไหนลูก”
“แม่เรียกแล้ว งั้นโรสเข้าบ้านก่อนนะ บ๊ายบาย”
พูดจบโรสก็วิ่งไปทันทีทำเอาไดม่อนถึงกับยิ้มตาม
“น่ารักจัง”
ไดม่อนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อยืนมองจนเธอเข้าบ้านไป
“พี่ชอบหรอครับ”
“เฮ้ยยย!”
ไดม่อนร้องตกใจทันทีเมื่ออยู่ดีๆ รามินก็โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“แหม ทำเป็นขวัญอ่อน จิตใจคงไปอยู่กับสาวสวยคนนั้นแล้วสินะ”
รามินพูดแซวไดม่อนพร้อมกับอคินที่ยืนยิ้มมุมปากอยู่ข้างๆ รามิน
“พวกมึงมาทำอะไรที่บ้านกู”
ไดม่อนเอ่ยถามรามินและอคินอย่างอารมณ์ไม่ดีเมื่อโดนรามินพูดแซว
“ถามดีๆ ก็ได้ครับจะอารมณ์เสียใส่พวกผมทำไมเนี่ย หรือว่าพวกผมไปขัดจังหวะรักพี่”
“ไอ้น้องเวร”
ไดม่อนด่ารามินทันทีเมื่อโดนรามินพูดกวนใส่
“มึงชอบเธอหรอ”
อคินเอ่ยถามไดม่อนสั้นๆ
“อืม เธอน่ารักดี”
ไดม่อนตอบไปตรงๆ โดยไม่ปิดบังเพราะเขาไม่เคยมีเรื่องปิดบังกับอคินและรามินอยู่แล้ว
“ชอบก็จีบเลยพี่ โอ้ย! ตบหัวผมทำไมพี่ม่อน”
รามินร้องเจ็บทันทีเมื่อโดนไดม่อนตบหัวอย่างแรง
“จีบบ้านมึงสิ อายุเรามันควรมีแฟนแล้วรึไง”
“เอ้า! ก็พี่บอกว่าชอบ ถ้าไม่จีบจะสานสัมพันธ์กับเธอยังไงล่ะครับ”
รามินเอ่ยถามไดม่อนด้วยความสงสัย
“ก็เริ่มทำความรู้จักในฐานะเพื่อนก่อนสิ พอเลิกพูดเรื่องกู ตกลงพวกมึงมาบ้านกูทำไมพึ่งแยกกันไม่ถึงชั่วโมงเอง”
ไดม่อนเอ่ยถามอคินและรามินด้วยความสงสัย
“พ่อให้มาตามไปฝึกต่อสู้ เห็นว่าวันนี้เราต้องทดสอบสู้กับลูกน้องของพ่อเลยอยากให้ไปเตรียมตัวเร็วกว่าทุกวัน”
อคินตอบไดม่อนทันที เพราะพวกเขาถูกฝึกให้เรียนรู้วิธีการต่อสู้ตั้งแต่เด็กจนเมื่อไดม่อนและอคินอายุสิบสองก็ต้องเข้าทดสอบการต่อสู้จริงกับลูกน้องพ่อตัวเอง ยกเว้นรามินที่ต้องทดสอบปีหน้าเพราะอายุของรามินพึ่งสิบเอ็ดปี
“อืม”
ไดม่อนตอบกลับอคินสั้นๆ แล้วทั้งสามก็เดินไปยังสนามฝึกของสามครอบครัวทันที เมื่อถึงเวลาทดสอบอคินและไดม่อนก็เข้าทดสอบต่อสู้กับลูกน้องของพ่อตัวเองโดยพวกเขาต้องสู้หนึ่งต่อสามซึ่งการทดสอบวันแรกของอคินและไดม่อนก็ทำเอาพวกเขาสะบักสะบอมเลยทีเดียวหลังฝึกเสร็จไดม่อนก็เดินมาสวนหลังบ้านมองไปยังบ้านของโรสแล้วมองหาคนตัวเล็กทันที ตาคมยืนมองหาเธอสักพักก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็งเพราะไม่มีวี่แววว่าเธอจะเดินออกมาจึงตั้งท่าจะเดินเข้าบ้านตัวเองไป
“ม่อนนน”
ไดม่อนหยุดชะงักแล้วหันกลับไปด้วยความดีใจเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากโรส เมื่อเขาหันกลับไปก็เห็นโรสรีบวิ่งมาหาเขาด้วยท่าทางดีใจ โรสวิ่งมาถึงก็มาเกาะกำแพงเหมือนเดิมส่วนไดม่อนก็มายืนใกล้กำแพงตำแหน่งที่เธอยืนอยู่จนทำให้ทั้งสองมองหน้ากันใกล้ขึ้น ใบหน้าสวยหุบยิ้มทันทีเมื่อมองเห็นแผลบนใบหน้าของไดม่อน
“หน้าไปโดนอะไรมาหรอม่อน งืออ ทำไมหน้าบวมช้ำแบบนี้ ปากก็แตกคิ้วก็แตกอีก”
โรสเอ่ยถามไดม่อนพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อเห็นใบหน้าบวมของเขา
“อย่าร้องสิ ม่อนแค่ไปฝึกต่อสู้มา ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
ไดม่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อให้เธอหยุดทำหน้าจะร้องไห้
“งั้นม่อนรอโรสอยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะ”
พูดจบโรสก็วิ่งเข้าบ้านไปทันทีจนไดม่อนได้แต่ยืนงงเพราะไม่รู้ว่าเธอวิ่งเข้าบ้านไปทำไม ไดม่อนยืนรอสักพักก็เห็นโรสวิ่งออกมาพร้อมกับกระเป๋าใส่อุปกรณ์ทำแผล เมื่อวิ่งมาถึงโรสก็วางกระเป๋าไว้ที่พื้นแล้วเปิดเอายามาทาให้ไดม่อนทันที
“ให้โรสทายาให้ได้มั้ย หน้าม่อนบวมมากเลย”
โรสพูดขึ้นเมื่อหยิบยาแล้วยืนขึ้นมาใกล้กำแพงบ้านของไดม่อน จนไดม่อนได้แต่ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเธอวิ่งเข้าไปเอายามาทาให้เขา
“ครับ”
ไดม่อนตอบกลับโรสสั้นๆ แล้วโน้มหน้าลงไปใกล้กำแพงในตำแหน่งหน้าของเค้กเพื่อให้เธอทายาให้เขาได้ถนัดเพราะเขานั้นตัวสูงจึงต้องโน้มตัวลงไปใกล้เธอ ทางด้านโรสเมื่อเห็นไดม่อนโน้มหน้ามาแล้วก็บีบยาใส่มือแล้วทาให้ไดม่อนอย่างเบามือเพราะกลัวเขาเจ็บ จนไดม่อนที่มองการกระทำของเธอถึงกับนิ่งยิ่งเห็นใบหน้าสวยใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้หัวใจเขาเต้นแรง
“ต่อไปฝึกต่อสู้ก็ระวังหน่อยนะ อย่าให้หน้าบวมมาแบบนี้อีกล่ะ ใจหายใจคว่ำหมดเลย”
โรสบ่นให้ไดม่อนทันทีเมื่อทายาให้เขาเสร็จ
“โรส”
“หืมม”
โรสเงยหน้ามองไดม่อนทันทีเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อตัวเอง
“ถ้าม่อนหน้าบวมแบบนี้โรสมาทายาให้ม่อนตลอดได้มั้ย”
ไดม่อนเอ่ยถามโรสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ได้อยู่แล้ว แต่ม่อนต้องพยายามมีแผลให้น้อยที่สุดนะตกลงมั้ย”
คำตอบของโรสทำเอาไดม่อนยิ้มกว้างเพราะเธอนั้นตอบตกลงโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“ขอบคุณครับ ใกล้มืดแล้วโรสเข้าบ้านเถอะ พรุ่งนี้ม่อนฝึกเสร็จประมาณเกือบหกโมงโรสมาเจอม่อนตรงนี้ได้มั้ย พ่อกับแม่จะว่าอะไรรึเปล่า”
ไดม่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ได้สิ พ่อกับแม่โรสใจดีมากเลยนะ ตอนที่โรสเจอม่อนตอนแรกแล้วไปเล่าให้พ่อกับแม่ฟังพ่อกับแม่ยังอยากเจอม่อนอยู่เลย สงสัยดีใจที่ลูกสาวมีเพื่อนใหม่แล้ว อิอิ เพราะม่อนเป็นเพื่อนคนแรกของโรสเลยเพราะโรสพึ่งย้ายมาจากต่างจังหวัด”
“ดีจัง งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ”
ไดม่อนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“อือ บ๊ายบายนะม่อน”
โรสโบกมือลาไดม่อนด้วยรอยยิ้มแล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที ส่วนไดม่อนก็เดินเข้าบ้านตัวเองไปอย่างอารมณ์ดี