หลายวันต่อมาทุกๆ หลังเลิกเรียนและฝึกต่อสู้เสร็จไดม่อนก็มักจะเดินมาที่สวนหลังบ้านอยู่เป็นประจำโดยมีโรสมายืนรอเขาตลอดเพราะเธอและเขาเรียนคนละโรงเรียนทั้งสองจึงใช้เวลานี้มาอยู่ด้วยกันทุกวันโดยพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ขัดอะไร ทั้งสองมักจะยืนคุยกันผ่านกำแพงแบบนี้เป็นประจำบางวันโรสก็ทายาให้เขา บางวันก็เอาขนมที่เธอทำกับแม่มาให้เขาชิมเรียกได้ว่าทั้งสองนั้นเข้ากันได้ดีทั้งๆ ที่พึ่งรู้จักกัน แต่ละวันไดม่อนและโรสมักจะยืนคุยกันอย่างมีความสุขเกือบชั่วโมงจนมืดถึงต่างคนต่างแยกกันเดินเข้าบ้านตัวเอง
“พ่อครับ”
ไดม่อนเรียกดินแดนผู้เป็นพ่อขณะที่กำลังนั่งกินข้าวเย็นด้วยกันอยู่
“ว่าไงลูก”
ดินแดนขานตอบลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนโดนเมย์ก็หันไปมองลูกชายตัวเองด้วยความอยากรู้
“พ่อทำประตูตรงกำแพงหลังบ้านให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ แล้วขอชิงช้าไปไว้ที่สวนหลังบ้านด้วยได้มั้ยครับ”
ทั้งดินแดนและเมย์ต่างมองหน้าไดม่อนทันทีเมื่อได้ยินคำขอของลูกชาย
“พ่อขอเหตุผลได้มั้ยครับ ว่าทำไมลูกถึงอยากให้ทำประตูตรงกำแพงหลังบ้านกับเอาชิงช้าไปลงไว้ที่สวน หืม”
ดินแดนเอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ผมอยากให้โรสได้เข้ามานั่งคุยกับผมครับ พ่อกับแม่ก็รู้ว่าทุกเย็นผมกับโรสเราจะไปยืนคุยกันผ่านกำแพง ผมขออนุญาตพ่อกับแม่ของโรสแล้วว่าถ้าผมทำประตูเพื่อให้โรสได้เข้ามานั่งคุยกับผมท่านจะอนุญาตรึเปล่า”
“แล้วพ่อกับแม่หนูโรสอนุญาตมั้ยลูก”
เมย์เอ่ยถามลูกชายทันทีด้วยความอยากรู้
“อนุญาตครับ ท่านชมผมด้วยนะครับว่าผมเป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่จะทำอะไรก็มาขออนุญาตผู้ใหญ่ก่อน ผมเลยมาขอพ่อกับแม่ด้วยไงครับ”
ไดม่อนตอบกลับแม่ด้วยรอยยิ้มจนดินแดนและเมย์ต่างก็ยิ้มอย่างภูมิใจกับนิสัยลูกชายตัวเอง
“ถ้าพ่อกับแม่หนูโรสอนุญาตแล้ว พ่อก็จะทำให้ครับ เพิ่มโต๊ะนั่งด้วยดีมั้ยเผื่อวันหยุดลูกกับหนูโรสจะได้นั่งทำการบ้านด้วยกัน”
“ดีเลยครับพ่อ ขอบคุณนะครับ”
ไดม่อนลุกออกจากเก้าอี้ไปกอดพ่อตัวเองด้วยความดีใจ
“กอดแต่พ่อแบบนี้แม่น้อยใจนะคะ”
เมย์แกล้งทำเสียงน้อยใจใสไดม่อนทันทีเมื่อเห็นลูกชายตัวเองไปกอดพ่อของเขา
“อย่าน้อยใจสิครับ ผมกำลังจะไปกอดแม่อยู่นี่ไงครับ ขอบคุณนะครับพ่อกับแม่ที่เข้าใจผม”
ไดม่อนเดินไปกอดผู้เป็นแม่แล้วพูดขอบคุณท่านทั้งสองด้วยรอยยิ้ม
“ไดม่อนครับ แม่ขอถามอะไรตรงๆ ได้มั้ยครับ”
เมย์ผละกอดออกแล้วเอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ครับแม่”
ไดม่อนขานตอบแม่แล้วรอฟังคำถามจากท่าน
“ลูกคิดกับหนูโรสเกินเพื่อนใช่มั้ยลูก”
“ใช่ครับแม่ ผมชอบโรส ชอบตั้งแต่แรกเจอแต่ผมรู้ว่ามันยังเร็วไปถ้าผมจะใช้คำว่าชอบแบบแฟนเพราะผมกับโรสยังเด็ก ถ้าถึงวัยที่สมควรผมจะขอโรสเป็นแฟนครับแม่”
ไดม่อนตอบกลับแม่ทันทีอย่างไม่ลังเลทำเอาดินแดนและเมย์ต่างก็ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อลูกชายตัวเองกล้าตอบพวกเขาโดยไม่ปิดบัง แถมความคิดของไดม่อนก็โตเกินวัยจนพวกเขาทั้งสองหายห่วงเลยทีเดียว
“ดีมากลูก พ่อดีใจแล้วก็ภูมิใจในตัวลูกมากนะที่ลูกคิดได้แบบนี้ ถ้าลูกมั่นใจว่าชอบหนูโรสแล้วก็อย่าลังเลกับผู้หญิงคนอื่นเข้าใจมั้ยลูก”
“เข้าใจครับพ่อ ผมไม่มีวันลังเลกับผู้หญิงคนอื่นแน่นอนครับ”
ไดม่อนตอบกลับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เมื่อคุยกันเสร็จสามคนพ่อแม่ลูกก็นั่งกินข้าวต่อจากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอนห้องของตัวเอง ผ่านไปหนึ่งปีตอนนี้ไดม่อนก็อายุสิบสามปีแล้วเขาและโรสก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่างแถมยังสนิทกันมากขึ้นจนครอบครัวของโรสไว้ใจเขาให้เข้าออกบ้านเธอได้ตลอดเช่นเดียวกันกับโรสที่สามารถเข้าออกบ้านของไดม่อนได้ตลอดเวลาเหมือนกัน ดินแดนและเมย์ต่างก็เอ็นดูโรสมากเพราะเธอเป็นเด็กที่มีนิสัยเรียบร้อย พูดเพราะ เพราะไม่เคยเห็นเธอพูดคำหยาบกับไดม่อนเลยสักครั้งทั้งๆ ที่สนิทกันมากขนาดนี้
“โอ้ย! ทำไมวันนี้ทายาให้แรงจังโรส”
ไดม่อนร้องเจ็บทันทีเมื่อโดนนิ้วเรียวกดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง ขณะที่กำลังนั่งให้โรสทายาให้หลังจากฝึกเสร็จ
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ระวังตัว ทำไมพักหลังๆ ชอบหน้าบวมมาตลอดเลย ฝึกยังไงยิ่งฝึกเหมือนยิ่งได้แผลมา ตั้งใจให้ตัวเองเจ็บรึเปล่าเนี่ย”
โรสบ่นให้ไดม่อนขณะทายาให้เขาเพราะพักหลังๆ รู้สึกว่าไดม่อนจะหน้าบวมมาหาเธอบ่อยจนเธอคิดว่าเขาตั้งใจรึเปล่า ซึ่งมันก็เป็นแบบที่โรสคิดจริงๆ เพราะไดม่อนตั้งใจให้หน้าตัวเองมีแผลเพื่อที่จะให้เธอทายาให้โดยคนที่ทำให้ไดม่อนหน้าบวมทุกครั้งก็คืออคินเพราะลูกน้องไม่กล้าทำเขาสักคน เหตุผลที่เขายอมเจ็บตัวเพราะเวลาที่โรสทายาให้เขาจะเป็นช่วงที่เธอนั้นชอบโน้มหน้ามาใกล้เขามากที่สุดมันทำให้ไดม่อนรู้สึกดีไม่น้อยเวลาได้มองหน้าเธอใกล้ๆ
“ใครจะตั้งใจให้ตัวเองเจ็บตัว ก็ช่วงนี้ม่อนสู้กับไอ้คินแล้วฝีมือไอ้คินก็เก่งกว่าม่อน ม่อนก็เจ็บตัวสิ โอ๊ย! โรสเบาๆ หน่อย ม่อนเจ็บนะ”
ไดม่อนร้องเจ็บทันทีเมื่อโดนโรสกดนิ้วลงที่แผลของเขา
“พูดแถไปเรื่อย คิดว่าโรสไม่รู้รึไงว่าฝีมือการต่อสู้ของม่อนกับอคินนั้นไม่ได้ต่างกันเลย อย่าเจ็บตัวแบบนี้ได้มั้ย โรสไม่ชอบให้หน้าม่อนมีแผลเลย”
ไดม่อนชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงและแววตาของเธอซึมลง มือหนาจึงรีบจับมือที่กำลังทายาให้เขามากุมไว้หลวมๆ ทันที
“ขอโทษครับ ต่อไปนี้ม่อนจะระวังตัวไม่ให้หน้ามีแผลอีกแล้ว”
ไดม่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“สัญญาแล้วนะ ห้ามตั้งใจทำให้ตัวเองเจ็บตัวอีกนะม่อน”
โรสพูดขึ้นแล้วยื่นมืออีกข้างชูนิ้วก้อยขึ้นเพื่อทำสัญญากับไดม่อน
“สัญญาครับ”
ไดม่อนตอบกลับด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นมือไปเกี่ยวก้อยทำสัญญากับเธอทันที ทางด้านโรสเมื่อเห็นไดม่อนสัญญากับเธอแล้วก็ยิ้มกว้างขึ้น
“ปล่อยมือได้แล้วมั้ง เนียนเลยนะม่อน”
โรสพูดขึ้นทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขานั้นจับมือเธออยู่ ทำเอาเธอใจเต้นแรงทุกครั้งเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับเขาแบบนี้
“กำลังเพลินเลย”
ไดม่อนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มกวนๆ ใส่โรส แล้วปล่อยมือเธอ
“เพลินอะไรม่อน”
โรสแว๊ดเสียงใส่ไดม่อนแก้เขิน แก้มขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
“โรส”
“หืม”
โรสหันไปสบตาไดม่อนทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกจริงจังของเขา
“รู้ใช่มั้ยว่าม่อนคิดกับโรสเกินเพื่อนแล้ว ความจริงม่อนอยากให้เราโตกว่านี้แล้วม่อนจะสารภาพรักกับโรสแต่ม่อนกลัวโรสไปชอบคนอื่นก่อน ม่อนรู้ว่าเรายังเด็กม่อนไม่ได้จะขอโรสเป็นแฟนตอนนี้แต่ม่อนแค่อยากบอกความรู้สึกของม่อนให้โรสได้รู้ไว้”
ไดม่อนพูดความในใจออกมาจนหมดทำเอาโรสนั่งอึ้งทันทีเพราะไม่คิดว่าเขาจะสารภาพรักกับเธอแบบนี้
“โรส”
ไดม่อนเรียกชื่อโรสเสียงเบาเมื่อเห็นเธอเอาแต่มองหน้าเขาแบบอึ้งๆ จนโรสได้สติกระพริบตามองเขาอีกรอบ
“ระ…โรสรู้สึกแบบเดียวกันกับม่อนรึเปล่า ไม่ต้องคิดมากนะไม่ว่าโรสจะตอบยังไงม่อนก็ยังจะเหมือนเดิมกับโรสทุกอย่าง”
โรสยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขาเพราะไดม่อนมักจะพูดให้เธอคลายความกังวลได้ทุกครั้ง
“โรสขอตอบพรุ่งนี้ได้มั้ย พรุ่งนี้เป็นวันเกิดม่อนนิ”
โรสตอบไดม่อนด้วยรอยยิ้ม
“อือ ได้อยู่แล้ว ม่อนจะรอคำตอบพรุ่งนี้นะ แล้วมีของขวัญวันเกิดให้ม่อนด้วยมั้ย”
“มีอยู่แล้ว วันเกิดม่อนทั้งทีของขวัญชิ้นนี้โรสเตรียมให้ม่อนมานานเลยนะจะบอกให้”
ไดม่อนยิ้มกว้างทันทีเมื่อรู้ว่าเธอเตรียมของขวัญวันเกิดให้เขาแล้ว
“อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ จัง”
“ใจร้อนนะเรานิ โรสกลับบ้านก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้นะม่อน บ๊ายบาย”
พูดจบโรสก็ถือกระเป๋ายาเดินกลับบ้านทันที ส่วนไดม่อนก็ได้แต่นั่งมองเธอเดินกลับบ้านด้วยรอยยิ้มจากนั้นก็ลุกเดินกลับเข้าบ้านตัวเองทันที
วันต่อมาหลังจากเลิกเรียนทุกคนในบ้านของไดม่อนก็ต่างกำลังชุลมุนวุ่นวายเพราะต้องเตรียมจัดงานวันเกิดให้ไดม่อนหลังจากทุกอย่างเรียบร้อยสามครอบครัวก็มารวมตัวกันเพื่อฉลองวันเกิดด้วยรอยยิ้มยกเว้นเจ้าของวันเกิดอย่างไดม่อนที่ใบหน้าซึมลงชะเง้อมองหาคนที่เขารอจนทุกคนต่างก็รู้สึกเป็นห่วงไดม่อนกันทุกคน
“ไปตามพี่โรสดีมั้ยพี่ม่อน ที่บ้านพี่โรสมีปัญหารึเปล่า ปกติพี่โรสไม่เคยเบี้ยวนัดพี่เลยนะ”
รามินพูดเสนอทันทีเมื่อไดม่อนไม่ยอมเป่าเค้กเพราะรอโรสอยู่
“จริงด้วย งั้นเดี๋ยวผมมานะครับ ผมไปตามโรสก่อน”
พูดจบไดม่อนก็วิ่งไปทันทีจนอคินและรามินรีบวิ่งตามไดม่อนไปด้วยเพราะรู้สึกแปลกๆ ที่โรสนั้นไม่มาสักที
“กร ตามไปดูเด็กๆ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ช่วยทัน”
ดินแดนสั่งกรลูกน้องคนสนิททันทีเพราะเขามีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
“ครับนาย”
กรรับคำสั่งจากดินแดนแล้วรีบวิ่งตามคุณหนูของตัวเองไปทันที ทางด้านไดม่อนก็วิ่งเปิดประตูที่สวนหลังบ้านเพื่อเข้าไปในบ้านของโรสโดยมีอคินและรามินวิ่งตามาติดๆ ตาคมมองรอบๆ บ้านด้วยความสงสัยเพราะบ้านยังเปิดไฟไว้แต่ก็เหมือนไม่มีคน ไดม่อนจึงเดินอ้อมไปทางหน้าบ้านขายาวหยุดชะงักนิ่งแววตาสั่นรัวน้ำตาคลอเบ้าทันทีเมื่อเห็นโรสกำลังจับมือกับผู้ชายรุ่นราวเดียวกันกับเขาวิ่งขึ้นรถแท๊กซี่ไป
“โรสสส”
เมื่อตั้งสติได้ไดม่อนก็ตะโดนเรียกโรสแล้ววิ่งตามรถเธอไปแต่ก็ไม่ทันเพราะรถแท็กซี่นั้นออกไปไกลแล้ว
“ทำไมโรส ฮึก ทำไมทำกับม่อนแบบนี้”
ไดม่อนคุกเข่าลงกลางถนนน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักขึ้นรถไปกับผู้ชายคนอื่นไปต่อหน้าต่อตาในวันสำคัญของเขา
“ไอ้ม่อน/พี่ม่อน”
ทั้งอคินและรามินก็ได้แต่นั่งลงตบบ่าไดม่อนเบาๆ เพราะพวกเขาก็ช็อคเหมือนกันที่เห็นการกระทำของโรส ร้องไห้สักพักไดม่อนก็ลุกขึ้นแล้วเดินกลับบ้านด้วยใบหน้าซึมทำเอาผู้ใหญ่ในบ้านถึงกับตกใจเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของไดม่อน
“แม่ครับ ผมเป่าเค้กแล้วขอขึ้นไปนอนเลยได้มั้ยครับ ผมอยากอยู่คนเดียว”
ไดม่อนพูดกับเมย์ผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเศร้า
“ให้แม่นอนด้วยมั้ยลูก”
เมย์เอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากอยู่คนเดียว”
เมย์พยักหน้าให้ลูกชายแล้วยื่นเค้กให้เขาเป่า เมื่อเป่าเค้กเสร็จแล้วไดม่อนก็ขึ้นห้องตัวเองทันทีทำเอาทุกคนต่างเป็นห่วงไดม่อนไม่น้อยแต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้เลยปล่อยให้เขาได้อยู่คนเดียวไปก่อน สามครอบครัวนั่งคุยเรื่องไดม่อนสักพักก็แยกย้ายกกันกลับบ้านเพราะงานเลี้ยงกล่อยจนทุกคนไม่อยากกินเลี้ยงกันแล้ว
เช้าวันต่อมาเนื่องจากเป็นวันเสาร์ไดม่อนจึงไม่ได้ไปเรียน เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเดินลงมาตรงไปยังสนามฝึกเพราะอยากหาที่ระบายอารมณ์
“ม่อน”
ขณะที่ไดม่อนกำลังจะเดินเข้าสนามฝึกก็ต้องหยุดชะงักเพราะได้ยินเสียงเสียงเรียกของโรส
“มาทำไม”