“ม่อนขอโทษ”
ขณะที่โรสกำลังจะพยายามผละกอดและพูดขึ้นก็ต้องชะงักนิ่งเมื่อได้ยินคำขอโทษที่น้ำเสียงสื่อถึงความเจ็บปวดออกมา ทางด้านไดม่อนก็กอดเธอไว้แบบนั้นพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษอย่างรู้สึกผิดแววตาสั่นรัวน้ำตาคลอเบ้า
“คุณขอโทษฉันทำไมคะ หรือในอดีตคุณทำอะไรผิดต่อฉันไว้หรอถึงได้มาขอโทษฉัน”
โรสดันไหล่ไดม่อนให้ผละกอดออกเบาๆ แล้วถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เพราะคนตรงหน้านั้นน้ำตาคลอจนเธอดุที่เขากอดเธอไม่ลงเลยทีเดียว ทางด้านไดม่อนเมื่อได้ยินคำถามของโรสก็พยักตอบเธอโดยไม่พูดอะไร
“อย่าร้องนะคะคุณไดม่อน คุณจะทำให้ฉันร้องตามนะ เรื่องอดีตไม่ว่าคุณจะทำอะไรผิดต่อฉันลืมไปเถอะนะคะ ฉันไม่ได้โกรธอะไรคุณ”
โรสพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพราะเธอกลัวตัวเองจะร้องตามเขา เป็นครั้งแรกของเธอเลยด้วยซ้ำที่มาเห็นผู้ชายอกสามศอกมานั่งร้องไห้ต่อหน้าทำเอาเธอถึงกับทำตัวไม่ถูก
“ถ้าโรสจำได้โรสจะให้อภัยม่อนจริงๆ หรอ”
ไดม่อนพูดขึ้นเสียงสั่นเพราะในใจเขาตอนนี้ได้แต่โทษตัวเองที่ไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอในวันนั้น
“ฉันก็ตอบคุณไม่ได้หรอกค่ะว่าถ้าจำได้จะให้อภัยคุณรึเปล่า แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้รู้สึกโกรธหรือเกลียดคุณเลยแม้แต่น้อย เอาเป็นว่าถ้าเมื่อก่อนเราสนิทกันจริงตอนนี้ฉันก็จะเปิดใจทำความรู้จักกับคุณใหม่แต่ขอร้องห้ามกอดฉันสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้อีก ฉันอุตส่าห์ระวังตัวไม่ให้ใครแตะเนื้อต้องตัวง่ายๆ แต่เจอคุณแค่ครั้งเดียวคุณกลับดึงฉันไปกอดตั้งสองครั้ง”
ไดม่อนปรับสีหน้ามายิ้มทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ
“แสดงว่าตอนนี้โรสยังไม่มีแฟนใช่มั้ย”
ไดม่อนถามโรสขึ้นทันทีด้วยความอยากรู้
“ไม่มีค่ะ”
โรสตอบไดม่อนไปตามตรง
“แล้วเคยแฟนมีรึเปล่า”
“นี่คุณถามเฉยๆ ก็ได้จะโน้มหน้าเข้ามาใกล้ทำไม”
โรสรีบเอนหลังหลบแล้วใช้มือดันอกเขาไว้ทันทีเมื่อไดม่อนโน้มหน้ามาใกล้เธอ แก้มขาวเนียนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเพราะรู้สึกเขินเมื่อเขาโน้มหน้ามาใกล้ตัวเอง เป็นครั้งแรกของเธอเลยก็ว่าได้ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายแบบนี้ ปกติเธอจะเว้นระยะห่างผู้ชายทุกคนแต่กับไดม่อนเธอกลับเผลอตัวให้เขาเข้าใกล้โดยไม่คิดจะถอยออก พอตั้งสติได้เธอจึงได้แต่เอนตัวหลบเขาเท่านั้น ไดม่อนกระตุกยิ้มทันทีเมื่อเห็นเธอกำลังเขินเขา
“ก็ม่อนอยากฟังคำตอบใกล้ๆ”
ไดม่อนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มจนโรสได้แต่เบิกตากว้างมองการกระทำของเขาเพราะเขาไม่ยอมถอยออกแถมยังโน้มหน้ามาใกล้กว่าเดิมจนตอนนี้โรสเอนหลังจนไปชิดโซฟาแล้วจึงได้แต่เอียงหน้าหลบเขาด้วยความเขิน
“เมื่อก่อนคุณเป็นคนชอบฉวยโอกาสฉันแบบนี้หรอคะ”
“ม่อนฉวยโอกาสตรงไหน”
ไดม่อนถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นมาอารมณ์ดีขึ้นไม่เศร้าเหมือนตอนแรกเพราะเขากำลังมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้เธอ ได้พูดหยอกล้อเธอ
“ก็ตอนนี้คุณกำลังโน้มหน้ามาใกล้ฉันจนแทบจะจูบกันแล้ว อุ๊บ!”
โรสรีบเอามือปิดปากตัวเองด้วยความตกใจเมื่อเผลอพูดเรื่องจูบออกไป ทำเอาไดม่อนกระตุกยิ้มชอบใจเมื่อเห็นอาการตกใจของเธอ
“ตอนแรกม่อนว่าจะแค่โน้มหน้ามาใกล้ แต่พอโรสพูดแบบนี้ม่อนก็อยากจูบโรสเลย รู้มั้ยว่าปากอมชมพูของโรสมันทำให้ม่อนอยากจูบมานานแล้วนะ จุ๊บ”
เมื่อไดม่อนพูดจบก็ก้มจูบมือโรสที่เธอเอาปิดปากตัวเองไว้ ทำเอาโรสถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้
“อื้ออ คนบ้า คุณมาจูบมือฉันทำไม ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายที่คุณคิดอยากทำอะไรก็ทำได้นะ ออกไปเลยฉันจะไปทำงานแล้ว”
โรสพูดโวยวายใส่ไดม่อนทันทีแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่ก็โดนไดม่อนจับแขนไว้ก่อน
“ปล่อยฉันคุณไดม่อน”
ไดม่อนตกใจทันทีเมื่อได้ยินเสียงดุของโรส เพราะดูท่าเธอคงจะโกรธเขาแล้ว
“ม่อนขอโทษ โรสอย่าโกรธม่อนเลยนะ ม่อนแค่เผลอทำตามหัวใจตัวเองแค่นั้นเอง”
โรสชะงักนิ่งทันทีเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของเขา
“คุณไม่ได้สนิทกับฉันแบบเพื่อนหรอคะ”
โรสเอ่ยถามไดม่อนไปตรงๆ ทันทีด้วยความอยากรู้
“ตอนอายุสิบสามปีเราสนิทกันแบบเพื่อนแต่ม่อนเคยสารภาพกับโรสไปแล้วว่าไม่ได้คิดกับโรสแค่เพื่อน ตอนนั้นเรายังเด็กม่อนเลยบอกโรสว่าเมื่อเราโตขึ้นม่อนจะขอโรสเป็นแฟน ตอนนี้เราโตแล้วนะโรส เรามาเป็นฟะ…”
“หยุดก่อนค่ะคุณไดม่อน ห้ามขอฉันเป็นแฟนตอนนี้เด็ดขาดนะคะ”
โรสรีบพูดขัดไดม่อนทันทีเมื่อรู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา
“ทำไมล่ะโรส”
ไดม่อนคิ้วขมวดถามโรสทันทีเมื่อเธอไม่ให้เขาขอเธอเป็นแฟน
“ฉันจำเรื่องราวตอนเด็กไม่ได้ ไม่รู้ว่าฉันกับคุณเราอยู่ด้วยกันแล้วเป็นยังไง ฉันพึ่งเจอคุณวันนี้วันแรกแล้วคุณมาขอฉันเป็นแฟนเลยฉันทำตัวไม่ถูก เอาตรงๆ นะคะ ตอนนี้ฉันยังไม่ได้รู้สึกรักคุณ ถ้าคุณมาขอฉันเป็นแฟนตอนนี้ฉันก็ปฏิเสธคุณอยู่ดี”
โรสตอบไดม่อนไปตามตรง คำตอบของเธอทำเอาไดม่อนยิ้มกว้างขึ้นทันทีไม่ได้รู้สึกโกรธเธอเลยแม้แต่น้อย แถมยังรู้สึกดีซะอีกที่เธอกล้าพูดกับเขาตรงๆ
“คุณไม่โกรธฉันหรอคะที่ฉันไม่ให้คุณขอฉันเป็นแฟน”
โรสเอ่ยถามไดม่อนต่อทันทีเมื่อเห็นเขายิ้มให้เธอหลังจากเธอพูดจบแล้ว
“ไม่โกรธครับ หลังจากนี้ไปไม่ว่าโรสจะทำอะไรม่อนก็ไม่โกรธโรสเด็ดขาด ต่อให้โรสปฏิเสธไม่รับรักม่อนเป็นร้อยรอบม่อนก็ไม่มีทางโกรธโรส”
ไดม่อนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ถึงปากหนาจะส่งยิ้มให้เธอแต่แววตากลับดูเศร้าเพราะกำลังคิดถึงเรื่องในอดีตที่เขาเคยโกรธเธอแบบไม่มีเหตุผล
“หยุดมองฉันด้วยแววตาเศร้าแบบนี้ได้แล้วคุณไดม่อน ลืมความผิดพลาดในอดีตแล้วมาอยู่ที่ปัจจุบันเถอะนะคะ”
ไดม่อนพยักหน้าให้โรสแล้วส่งยิ้มให้เธอทันที ต่อให้เธอเสียความทรงจำไปแต่นิสัยที่อ่อนโยนของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลย โรสยังเป็นคนอ่อนโยน ใจเย็นและพูดเพราะเหมือนเดิม
“ครับ ม่อนจะอยู่กับปัจจุบัน โรสจำเรื่องของเราตอนนั้นไม่ได้ไม่เป็นไรเดี๋ยวม่อนจะสร้างความทรงจำของเราขึ้นมาใหม่”
ไดม่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนโรสรู้สึกใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดและแววตาที่เธอมองเขาที่มองเธอไม่วางตา
“คุณเรียนที่นี่หรอคะ”
โรสเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีเมื่อมองเห็นเขาใส่เสื้อช้อปของมหาลัย
“ครับ ม่อนเรียนวิศวะช่างกล”
ไดม่อนตอบกลับโรสด้วยรอยยิ้มสีหน้าดูผ่อนคลายมากขึ้นเพราะตั้งใจจะสานสัมพันธ์กับเธอใหม่
“เรียนหนักมั้ยคะ วิศวะคงจะเรียนฟิสิกส์เคมีด้วยฉันลองอ่านหนังสือฟิสิกส์ในห้องสมุดแล้วแล้วไม่เข้าใจเลย”
โรสยังถามไดม่อนต่อด้วยความอยากรู้ใบหน้าหวานสื่อออกมาชัดเจนว่าเธอสนใจเรื่องเรียนมาก
“โรสชอบงานถ่ายรูป งานตัดต่อวิดีโอทำไมถึงไปอ่านหนังสือฟิสิกส์ล่ะ”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบถ่ายรูป ชอบงานตัดต่อวิดีโอ หรือว่าฉันเคยบอกคุณตอนเด็กๆ หรอคะ”
โรสเอ่ยถามไดม่อนทันทีด้วยความตกใจ จนไดม่อนได้แต่อมยิ้มกับท่าทางตกใจของเธอ
“เรื่องของโรสม่อนรู้ทุกอย่างนั่นล่ะ บอกแล้วว่าเราสนิทกันมากจนไม่มีอะไรปิดบังกันเลยสักเรื่อง อีกอย่างม่อนรู้ด้วยนะว่าโรสมีแผลเป็นที่ต้นขาข้างขวาเพราะวิ่งเล่นจนโดนกิ่งไม้เกี่ยวเป็นแผลใหญ่ ม่อนยังได้ทำแผลให้โรสอยู่เลย”
โรสเบิกตากว้างตกใจทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของไดม่อน เธอไม่ได้ตกใจที่ไดม่อนรู้ว่าเธอมีแผลเป็นที่ต้นขาข้างขวาแต่ตกใจที่เขานั้นเคยมาทำแผลให้ต่างหากเพราะตำแหน่งแผลของเธออยู่ใกล้กับจุดสงวนเธอมาก
“นะ…นี่คุณ คะ…เคยทำแผลตรงนั้นให้ฉันจริงๆ หรอคะ”
โรสเอ่ยถามไดม่อนด้วยน้ำเสียงกุกๆ กักๆ ทำตัวไม่ถูก จนไดม่อนกระตุกยิ้มชอบใจกับใบหน้าตกใจของเธอ
“ไม่ได้ทำให้แค่ครั้งเดียวนะ ม่อนทำให้ทุกวันจนแผลหายเลยล่ะ ตอนนี้แผลเป็นยังไงบ้างม่อนขอดูหน่อยสิ”
“จะบ้าหรอคุณ คุณจะมาให้ฉันเปิดกระโปรงโชว์แผลให้คุณดูได้ไง แผลฉันมันใกล้…อืออ พอเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ทำไมตอนนั้นฉันถึงยอมให้คุณทำแผลให้เนี่ย”
โรสถึงกับพูดอะไรไม่ถูกจนไดม่อนได้แต่หัวเราะออกมา ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปีที่เขาได้หัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกที่ดีมากแบบนี้
“ไม่ต้องคิดมากหรอกโรส ถึงแผลมันจะอยู่ใกล้ตรงนั้นของโรสแต่ม่อนไม่เห็นหรอกนะ เพราะตอนทำแผลให้โรสใส่กางเกงขาสั้นแถมตอนเปิดกางเกงให้เห็นแผลโรสก็เอาผ้าคลุมไว้อีกตลอด ม่อนก็เห็นแค่ขาอ่อนขาวๆ ของโรสแค่นั้นเอง โอ๊ย! มือหนักเหมือนเดิมเลยนะโรส”
ไดม่อนร้องเจ็บเมื่อโดนโรสตีเข้าที่แขนเขาอย่างแรง แต่เขาก็ยังหัวเราะออกมาโดยไม่ได้โกรธอะไรเธอเลยสักนิด
“คนบ้า ไม่คุยด้วยแล้ว คุณไปเรียนเลยฉันจะไปทำงานต่อแล้ว”
พูดจบโรสก็เดินไปยังห้องของเจ้าหน้าที่ห้องสมุดทันทีทำเอาไดม่อนได้แต่ยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้พูดหยอกล้อเธออีกครั้ง
“ขอบคุณนะครับที่ยังมีชีวิตอยู่ จากนี้ไปม่อนจะไม่มีวันยอมให้โรสหายไปไหนอีกแล้วนะ”
ไดม่อนพูดพึมพัมคนเดียวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขณะที่มองไปยังห้องที่เธอเดินเข้าไปจากนั้นก็เดินออกจากห้องสมุดไปเรียนทันที ทางด้านโรสที่หลังจากเดินเข้ามาในห้องเจ้าหน้าที่แล้วก็ยืนพิงประตูมือเล็กยื่นมากุมหน้าอกตัวเองไว้ทันที
“ทำไมถึงใจเต้นแรงแบบนี้ หรือเค้าจะเป็นคนที่เรารอกัน”
โรสพูดพึมพัมเบาๆ เพราะเธอไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงกับผู้ชายคนไหนมาก่อนขนาดเบสที่เรียนวิศวะโยธามาตามจีบเธอตั้งแต่เจอเธอครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว เธอยังไม่รู้สึกอะไรแถมยังปฏิเสธเบสตลอดแต่เขาก็ยังพยายามมาจีบเธอที่ห้องสมุดทุกวันจนบางวันเธอต้องพยายามทำตัวให้ไม่ว่างเพราะไม่อยากคุยกับเบส โรสยืนกุมหน้าอกตัวเองสักพักก็ตัดสินใจเดินออกจากห้องเมื่อไม่เห็นเขาแล้วจึงไปทำงานของตัวเองต่อ