“เธอพักห้องนี้ก็แล้วกัน ห้องของฉันอยู่ตรงข้าม ถ้าเหงาๆ ก็เคาะเรียกได้นะ”
เขาแกล้งแหย่ ก่อนจะหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นแววตาวาววับของหญิงสาว แววตาแบบนี้มันแบบเดียวกับเจ้าเหมียวที่เพิ่งข่วนเขาเมื่อกี้
“ฝันไปเถอะ ชิ”
ไลลาย่นจมูกใส่คนหลงตัวเองอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ห้อง แล้วอุ้มเจ้าเหมียวพาไปยังระเบียง ลมทะเลเย็นๆ พัดมา ทำให้รู้สึกสดชื่น เธอวางนินิวบนเก้าอี้ เดินไปเกาะราวระเบียงมองดูทิวทัศน์อย่างชอบใจ เกาะแห่งนี้สวยจริง ท้องทะเลสีฟ้าคราม ตัดกับหาดทรายขาวเนียนละเอียด ชวนให้อยากลงไปเล่นน้ำ และนอนตากแดดบ่มผิวให้สีแทนสวย แต่ความคิดนี้ต้องสะดุดลงเมื่อคนตัวโตเดินมายืนข้างๆ
“ชอบใช่ไหม ที่นี่เป็นที่โปรดของแม่ฉันเลยนะ เราจะมาพักผ่อนที่นี่ทุกๆ สามเดือน เรียกได้ว่าเป็นบ้านหลังที่สองของครอบครัว”
ราฟาเอลเล่าเรื่องครอบครัวของเขาให้เธอฟัง สีหน้าของเขานิ่งสงบดวงตาหม่นแสงลงเล็กน้อย
“พอแม่กับพ่อฉันตาย ฉันแทบไม่ได้มาที่นี่อีกเลย พี่ริคไม่ยอมมาที่นี่อีก ทุกๆ แห่งมีภาพความทรงจำของพ่อแม่อยู่ ตรงนี้แม่ชอบมานั่งมองฉันกับพี่ชายเล่นน้ำกัน ตรงนั้นพ่อจะตั้งเตาปิ้งย่างอาหารทะเล รอให้ลูกๆ มากินหลังจากเล่นสนุกจนเหนื่อย”
เขาชี้มือไปยังเก้าอี้ที่เขาเพิ่งลุกมาเมื่อครู่ ลานกว้างด้านหน้าบ้านคล้ายมีเงาของบิดา กำลังง่วนอยู่หน้าเตาปิ้งย่าง ภาพความทรงจำเหล่านั้นสลายไป เมื่อหลุดจากมโนนึก
“คุณโชคดี...”
ไลลาบอกเขา อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นสูงไม่เข้าใจว่าตัวเองโชคดียังไง หญิงสาวยิ้มเศร้าๆ เอ่ยว่า
“คุณโชคดี ที่ยังมีความทรงจำในช่วงเวลาที่ดีกับแม่ แต่ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่เห็นหน้าแม่ ท่านจากไปตั้งแต่ฉันคลอดออกมา ฉันโตขึ้นมาโดยมีแค่พ่อกับพี่ชาย”
เรื่องราวของไลลา ราฟาเอลพอจะรู้มาบ้างว่าหญิงสาวมีเพียงพ่อและพี่ชาย นั่นไม่ใช้สิ่งที่ทำให้เขาเห็นใจเธอได้หรอก ความผิดของอังเดรร้ายแรงเกินกว่าจะให้อภัย และหญิงสาวต้องร่วมชดใช้แทนพี่ชาย
“เก็บข้าวของ แล้วลงไปทำอาหารด้วยนะ ฉันหิวแล้ว หวังว่าคงทำเป็น”
ราฟาเอลบอก แล้วเดินออกมา ปล่อยให้ไลลามองตามหลัง ไม่เข้าใจอารมณ์ขึ้นลงของเขา
“ตาบ้า อุตส่าห์ดึงดราม่า ดันไม่อินกับเรา”
หญิงสาวบ่นเบาๆ คิดจะเล่าเรื่องตัวเองให้เขาเห็นใจ แต่อีกฝ่ายกลับเดินหนีเสียอย่างนั้น จะดราม่าต่อก็ใช่ที่ ไลลาจึงหันไปจัดการกับข้าวของในกระเป๋า นินิวนอนมองเจ้านายอยู่บนเตียง หลังจากเข้าห้องมามันดูสงบลง ไม่หวาดกลัวเหมือนคราวแรก คงกำลังปรับตัวกับสถานที่ใหม่ เธอหยิบอาหารมาเทใส่ถ้วยและเทน้ำไว้ให้มัน ก่อนจะปิดประตูให้มันอยู่ในห้อง แล้วเดินลงมาหาห้องครัว สำรวจอาหารแห้งและสดที่มี ก่อนจะลงมือทำอาหารให้ราฟาเอลและตัวเธอรับประทาน
“ฉันทำอาหารเสร็จแล้วค่ะ คุณจะกินที่นี่หรือในห้องครัว” ไลลาเดินมาบอกเจ้าของบ้าน
“ในครัวก็ได้ เก็บล้างง่าย”
ราฟาเอลบอก เขาเดินตามหญิงสาวมายังครัว ไลลาผายมือไปยังอาหารบนโต๊ะ
“ฉันไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไร เลยทำไว้หลายอย่างหน่อย มีสปาเกตตี แซลมอนอบ ซุปหอย แล้วก็ขนมหวานเป็นลูกพีชกระป๋อง” หญิงสาวแนะนำเมนูอาหารบนโต๊ะ
“ท่าทางน่าอร่อย”
ราฟาเอลมองอาหารอย่างพอใจ เขานั่งลงจัดการกับอาหารบนโต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย พลางให้คะแนนในใจว่าผ่าน สิบเต็มสิบไม่หักสักคะแนน ยากมากที่หญิงสาวสวยจะมีฝีมือทำอาหารได้ยอดเยี่ยมแบบนี้ ไลลามีครบทุกสิ่ง คุณปู่ช่างหาสาวตรงสเป็กที่เขาเรียกร้องมาได้จริง
“เป็นยังไงบ้างคะ” ไลลาเอ่ยถาม หลังจากเขายกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“ก็ใช้ได้ ต่อไปนี้เธอต้องทำอาหารให้ฉันกินทุกวัน เข้าใจไหม”
ราฟาเอลไม่เอ่ยชมมากกว่านี้ แถมยังใช้เธอทำหน้าที่แม่ครัวอีก ทำเอาไลลาหน้ามุ่ย
“นี่คุณจะใช้ฉันทำงานทุกอย่างด้วยใช่ไหม”
“หรือเธอจะไม่ทำก็ได้นะ แต่เธอต้องมาทำหน้าที่บนเตียงแทน”
ราฟาเอลยิ้มกรุ้มกริ่ม มองหญิงสาวด้วยสายตาวาววาม ขนแขนของหญิงสาวลุกชันทันที รีบส่ายหน้าเร็วๆ
“ไม่ ฉันจะทำงานบ้านเอง ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน”
“หนักเอา เบาไม่สู้หรือไง งานบนเตียงสบายนะ นอนเฉยๆ ร้องครางสักนิด ฉันก็พอใจแล้ว”
วาจาแสนร้ายกาจของเขา ทำให้คนฟังอยากปล่อยนินิวมาข่วนหน้าของเขาสักที คนอะไรพูดเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉย ไลลาได้แต่อดทนไม่ตอบโต้คืน
“ล้างจานให้เรียบร้อย แล้วไปช่วยทำแผลให้ฉันด้วย มันเริ่มแสบๆ ไม่รู้แมวเธอมีเชื้อบ้าอยู่ไหม”
เขาลุกขึ้น พลางหางานใหม่ให้เธอทำ
“นินิวฉีดวัคซีนครบทุกเข็ม ถ้าจะมีเชื้อบ้า มันก็เชื้อในตัวคุณนั่นแหละ” ไลลาอดปากไว้ไม่ไหว ตอกกลับไป
“อืม... สงสัยจะจริง เชื้อบ้าในตัวฉันคงมีจริง แต่รู้ไหมว่าเป็นเชื้อชนิดไหน”
ราฟาเอลไม่สะท้านกับคำด่าสักนิด เขาเดินมาหยุดด้านหลังเก้าอี้ที่หญิงสาวนั่งอยู่ ยิ้มให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะจับคางมนแล้วก้มลงไปประกบปิดปากของคนปากดี บดขยี้ริมฝีปากช่างเหน็บนั้นด้วยจุมพิตดุดัน ไม่ปล่อยให้หญิงสาวดิ้นรนขัดขืนสำเร็จ เขาจูบจนพอใจถึงได้ยอมปล่อย
“รู้แล้วใช่ไหม ว่าเชื้อบ้าในตัวฉันคืออะไร” เขายิ้มหัน ก่อนจะเดินหนี
“คนบ้า เชื้อบ้ากามนะสิ ฉันเกลียด เกลียดๆๆๆ”
ไลลาเอาหลังมือเช็ดปากตัวเอง พร่ำแต่คำว่าเกลียด เธอเกลียดผู้ชายคนนี้จนไม่รู้ว่าจะเกลียดใครได้มากเท่านี้ไหม เธอจะต้องไปให้พ้นจากคนป่าเถื่อนแสนร้ายกาจคนนี้ให้ได้ในสักวัน
หลังจากจัดการล้างจานชามแล้ว ไลลาก็ไปหาราฟาเอล เขานั่งรออยู่หน้าบ้านพร้อมกล่องอุปกรณ์ทำแผล พอเห็นหญิงสาวเดินมาเขาก็ชี้มือไปยังกล่องอุปกรณ์
“นั่นยา รีบทำสิ”
ไลลาถอนหายใจแรง จำต้องนั่งลงหยิบสำลีมาชุบน้ำยาล้างแผลให้เขา มือน้อยจับมือหนาที่ทั้งสากและใหญ่กว่ามาวางบนมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็ใช้สำลีบรรจงล้างคราบเลือดบนแผลของเขาอย่างตั้งใจ รอยเล็บของเจ้านินิวไม่ได้เข้าลึกมาก ถากผิวเป็นริ้วเล็กสี่รอย เลือดออกซิบๆ แค่นั้นเอง แต่คนโดนข่วนทำท่าเหมือนเจ็บนักหนา
“เบาๆหน่อยสิ มันแสบนะ ซี๊ดดด โอ๊ยยย”
ราฟาเอลสูดปากเสียงดังน่าเกลียด ไลลาเห็นอาการสำออยของเขาแล้วหมั่นไส้ขึ้นมา จากที่คิดจะทายาแดงให้ จึงเปลี่ยนมาใช้ยาทิงเจอร์ไอโอดีนแทน ได้ผลคนโดนยาแสบจนร้องดังกว่าเดิม ชักมือหนีแทบไม่ทัน