“คุณไม่ควรดูถูกอาชีพตัวเอง ฉันก็เป็นแค่แม่ค้าขายผ้าออนไลน์จน ๆ เด็กมหา’ลัยปีสี่เรียนหนังสือยังไม่จบ คุณรวยกว่าฉัน เก่งกว่าฉันตั้งเยอะ”
“อืม... ปากไม่ดีหน่อย แต่จิตใจดี... ก็น่าให้ผู้ชายชอบอยู่” ในถ้อยคำชื่นชมสุดท้าย มืออีกข้างสะกิดแผ่นหลังบางเพื่อรั้งเข้าหา ร่างบางสะดุ้งเสียการทรงตัวจนริมฝีปากแตะกันเบา ๆ
หัวใจดวงน้อยวูบไหว แต่เธอก็มีสติมาพอยกมือขึ้นยันผู้ชายตัวโตไว้เพื่อผลักตัวเองออกห่าง พลันสะบัดหน้าไปอีกทาง
“คุณไม่ชอบผู้หญิงอย่างฉันไม่ใช่หรือไง”
“ถามจริง? ถ้าผมไม่ชอบ จะตามมาทำไม เสียเวลาทำมาหากินน่ะ” เขาว่าคนขี้น้อยใจให้หลุบตามองกลับมาครั้งหนึ่ง
ความรู้สึกเสียใจเหล่านั้นเพิ่งหายไปทั้งหมด ขณะที่คนอย่างนัชชาคงไม่ยอมใครง่าย ๆ
“ขอบคุณที่อุตส่าห์มาชอบคนอย่างฉันแล้วกัน ปล่อยได้ละ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนวงหน้าหล่อเหลาก่อนที่เขาจะมอบอิสรภาพให้เธอย่ามใจ อลันอาจเปิดประตูกลับบ้านไปดี ๆ หากเธอไม่แสดงท่าทีรำคาญปลายสายโทรศัพท์
พอร่างบางหันหลังให้แล้วล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋า ฝ่ามือหยาบจึงเข้าไปยื้อแย้ง อีกข้างคว้าหมับ! เข้าต้นคอและเส้นผมสีน้ำตาลเอาไว้ กระชากบังคับให้เธอต้องหันกลับมาหาเขา
“คะ... อื้ม!” เสียงประท้วงหายลงไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากหนาหยักได้รูปประกบปิดเรียวปากบางสนิทแน่น รสไวน์ขมเฝื่อนในปากถูกช่วงชิงไป โดยที่ยังกดต้นคอของเธอเอาไว้ไม่ให้หลุดรอดจากเงื้อมมือ
ในความต้องการอันมากล้นยากหักห้ามใจ เรียวปากหนาขบเม้มริมฝีปากล่างด้วยแรงดูดหนักหน่วง อย่างไม่รู้ว่าไปหิวโหยอะไรมาจากไหน
หญิงสาวที่มีเขาเป็นจูบแรกและจูบที่สองอ่อนระทวยกับแรงพิศวาสวาบหวาม คราวก่อนนั้นเขาช่างอ่อนโยนต่างจากคราวนี้ แต่เธอกลับชอบพอปากนุ่ม ๆ จุมพิตแสนดูดดื่มซึ่งกำลังจะทวีความรุนแรงขึ้นในอีกไม่ช้า
ดุดัน ตะกละตะกลาม ทว่าแฝงความหวานละมุนไว้ในทุกสัมผัส กระทั่งปลายลิ้นหนาแทรกเข้าโพรงปากหอมกลิ่นองุ่นที่หมักบ่มอย่างดี กระหวัดลิ้นเล็กไปเชยชม อุณหภูมิในร่างกายของเธอก็สูงขึ้นตาม เขาดูดน้ำลายจากปากเหมือนเครื่องสูบน้ำ ไม่ต่างจากว่าเป็นน้ำรสชาติหวาน เสียงครางในลำคอของหญิงสาวดังด้วยความพึงพอใจ
บางทีอลันอาจเก็บกดความรู้สึกที่มีไว้มากเกินไป ความห่างเหินเรือนร่างอิสตรีมานานปลุกสัญชาตญาณสัตว์ป่า มันทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าเธออาจแหลกเหลวคามือเขาก็ได้ เขาเป็นแค่คนเห็นแก่ตัว หึงหวงอย่างร้ายกาจ แม้ในมือที่กำโทรศัพท์ไว้แน่น
ถ้าจะกระทืบเด็กรอบนี้ หักมือมันทิ้งด้วยคงดี!
จุมพิตของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ แม้คนไม่ประสีประสาพยายามร้องขอความปรานีด้วยเสียงหอบหายใจหาอากาศอันน้อยนิด เขาเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างสั่นเทาในวงแขนอาจต้านทานไม่ไหว...
ริมฝีปากดื้อรั้นจึงผละออก มองดวงตาฉ่ำปรือของคนที่อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขน
“ฉัน... หายใจไม่ทัน...”
“ก็นึกว่าเชี่ยวชาญ เห็นชอบพูดเรื่องอย่างว่า ทำไมอ่อนหัดขนาดนี้” ต่อว่าด้วยสายตาเอ็นดู ขณะร่างสูงโน้มตัวลงตวัดข้อพับขาวเนียนขึ้นอุ้มเดินไปไว ๆ โยนโทรศัพท์ทิ้งลงตรงพื้นพรม ปล่อยให้มันสั่นต่อไปอย่างนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจเพราะมัวพะวงเรื่องอื่น
“อุ้มฉัน... ไปไหน?” เสียงหวานสั่น สองมือที่โอบรอบลำคอแกร่งเพราะอารมณ์ลุ่มหลงมัวเมาเลื่อนลงสะกิดตีเขาเบา ๆ เพื่อเตือนสติอีกคนที่ยอมปล่อยเธอลงแต่เป็นบนที่นอน!
“ส่งเข้านอน ไม่นานนะ... เด็กดี” เสียงเข้มขรึมบอกว่าเขาอดทนต่อไปอีกไม่ไหว แม้วงหน้าหวานเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยามผู้ชายตัวโตหยัดกายคร่อมทับไว้ยังลูบฝ่ามือไปตามเรียวขา ถอดรองเท้าส้นสูงออกให้
“คุณไม่ได้จะ... ทำมันฉันใช่ไหม?”
“ไม่... ที่รัก ที่นี่ไม่เหมาะ ผมแค่อยากฟังเสียงหวาน ๆ ก่อนที่ผมจะกลับบ้านนอน หนูปริมของผม”
สิ้นคำบอกว่าเขายังมีมารยาทอยู่มาก วงหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมาราวกับว่าเขาสามารถทำให้เธอกลายเป็นแมวเชื่อง ๆ อย่างง่ายดาย
ดวงตาของเธอจรดอยู่กับริมฝีปากหนาหยักได้รูปอมแดงชมพู พริ้มตาปิดลงเมื่อมันประกบปิดกลีบปากบางนุ่มด้วยจุมพิตหวานอีกครา
แคว่ก...! เสียงเสื้อสีดำขาดออกจากกันแยกเป็นสองชิ้น และเธอคงไม่มีวันได้ใส่เสื้อสีดำเปลือยไหล่ตัวนี้อีก
มือซุกซนควานหาเต้าอวบอัด บีบเคล้นมันอย่างแรงจนร่างบางสะดุ้ง เขาจึงผ่อนแรงลงเล็กน้อย ก่อนลากปลายลิ้นไล่ไปตามกรอบวงหน้าหวาน ฝังจูบลงเบา ๆ แสดงความเป็นเจ้าของอย่างหยาบคาย เมื่อมีบางคนว่าเขาเป็นหมา!
“คุณอลัน... ฉีกเสื้อฉัน... ทำไมเล่า?” เสียงหวานถามแต่กลับไม่ได้ปฏิเสธร่างหนาที่วาดขาเข้าหา ยกเข่าของเธอขึ้นสูงเสียจนสัมผัสได้ถึงไอ้หนอนน้อย! ที่ต้องการประกาศศักดาว่าไม่ได้เป็นเช่นคำดูถูก
มันเป็นอนาคอนด้าในลุ่มน้ำอเมซอนต่างหาก
“ฉัน... กลัว คุณอลัน... ไอ้นั่นมัน....” ปรามเสียงสั่น ขณะที่เขาเพียงหยัดยิ้มกับความไร้เดียงสาของหญิงสาว ตามเจตนาที่ตั้งใจพาความเปียกชุ่มแนบลงตรงกลางยีนสีซีด กดน้ำหนักลงให้รู้ถึงขนาดลำตัวของมัน แม้ว่าเขาจะต้องอดกลั้นไว้อย่างเต็มที่ไม่ให้ล่วงเกินเธอไปมากกว่านี้
“ไม่ได้เจนจัดเรื่องสัตว์ร้ายในลุ่มน้ำอเมซอนเหรอ? ผมจำได้อยู่นะ...”
“ฉัน... ไม่เคยทำเรื่องพวกนี้ คุณอย่าแกล้งฉัน... แค่จูบได้ไหม?” เธอพยายามยื่นข้อต่อรอง เพราะได้ยินมาจากเพื่อนว่ามันเจ็บ! ซึ่งเธอในตอนนี้คงไม่มีความกล้ามาพอเผชิญกับงูใหญ่ยักษ์ตามขนาดตัวของชายชาวยุโรป เธอต้องตายคาเตียงนี้อย่างแน่นอน
“ผมไม่แกล้ง... แค่จะส่งเข้านอนนะ คนดี... ไม่ต้องกลัวครับ” ปลอบพลางกดจูบลงอีกครั้งหนึ่งบนหน้าอกนวลเนียน ที่ผ่านสายตาชายมามากในค่ำคืนนี้ หากนาน ๆ ครั้งก็พอจะหยวน ๆ กันได้ ถึงเขาจะไม่ชอบใจเลย
บราเซียร์สีดำสนิทถูกปลดออกโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าเขาทำอะไรตอนไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความช่ำชองของคนที่ผ่านสมรภูมิมาโชกโชนคลำเบา ๆ ก็รู้ว่ามันเป็นตะขอหน้า ความยวบหยุ่นของหน้าอกอวบอัดคัพมหึมาดีดออกตามการบีบรัด ปรากฏสีชมพูหวานเบื้องหน้าสายตา เขาได้เชยชมมันมาครั้งหนึ่ง จนติดตรึงอยู่ในหัวสมองมาตั้งแต่วันนั้น ชายหนุ่มคงไม่รอช้าที่จะเข้าครอบครองยอดอกสีชมพูหวานอย่างหิวกระหาย
“อ๊ะ... คุณอลัน...!” ร่างบางแอ่นรับปากเปียกชุ่ม ลิ้นสากกระหวัดไปมาสะกิดยอดกายสาวอย่างไร้ความเกรงอกเกรงใจ พร้อมกับที่มือเล็กตะปบบ่าแกร่ง จิกปลายเท้าลงบนที่นอน ทั้งกลัวทั้งหวาดเสียวอยู่ประหลาด
“พอแล้วค่ะ... ปริมไม่เอาแล้ว... อื้อ...!” จากนั้นเธอก็ส่งเสียงน่าอายไม่หยุด มือไร้ประโยชน์ทั้งสองสั่นปรามตีร่างหนา ซึ่งเขากลับคว้าท่อนแขนเล็กอย่างดื้อดึง ไขว้กันไว้ใต้ร่างจนสะโพกงอนต้องแอ่นขึ้นด้วยกำมือเดียว
หญิงสาวรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษที่พร้อมจะเรียนบทสวาทจากผู้คุมเถื่อน หากเป็นคนอื่นมาทำเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงบ้าอย่างนัชชาคงสู้ขาดตัวขาดใจ
ไม่ใช่กับคุณอลัน... แค่นัยน์ตาคู่คมสีฟ้าครามสบมองมาเธอก็คอยแต่จะหยุดตามคำขอ
“ผมสัญญาว่าจะไม่ไปถึงขั้นนั้น แค่นิดเดียวนะ นิดเดียว...” น้ำเสียงหนักแน่นสร้างความมั่นใจให้เธอที่กัดปากตัวเองแรง ๆ ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเจอกับอะไร กระทั่งได้ยินเสียงปลดตะขอกางเกงยีนรัดรูป มือเทอะทะยัดเข้ามาในยีนตัวเล็ก สองขาเรียวก็หนีบเข้ากับสะโพกสอบ
“อลัน… เบา ๆ นะ… อ๊ะ!” เสียงหวานครางระเส่า ดวงตาหรี่เล็กลงจนเหยียดตรง เมื่อส่วนที่ไม่เคยให้ชายใดแตะต้องถูกล่วงล้ำ ด้วยปลายนิ้วร้อนเท่าไฟ แรงขยับเบา ๆ สร้างความเสียวซ่านเสียจนไม่สามารถกักเก็บอารมณ์ไว้ได้อีก
ใบหน้าสดสวยยุ่งเหยิงส่งเสียงออกมาไม่หยุด ต่อหน้าชายที่หยักยิ้มมองภาพอันแสนสวยงามราวต้องการเก็บมันไว้ในความทรงจำ เขาทำให้เธอรู้สึกอับอายด้วยการเคล้าคลึงมันเป็นวงกลมอย่างอ่อนโยนในจังหวะนำพาเรือนร่างรุ่มร้อนถึงจุดระเบิดได้ไม่ยาก
ตลอดยี่สิบเอ็ดปีที่ระวังตัวมาอย่างดีกลายเป็นศูนย์ อารมณ์บางอย่างที่เคยอยากรู้อยากเห็นพาให้สะโพกเกร็งจัดหยัดตามจังหวะที่เขาเป็นคนนำพา
อลันเคยเป็นเสือผู้หญิง... ทำเรื่องพรรค์นี้กับคู่นอนหลายคนจนรู้ว่าผู้หญิงชอบพอตรงไหน และต้องใช้แรงเท่าไร
กับสาวปากร้ายทว่าแสนไร้เดียงสา เขาใช้ความระมัดระวัง ผ่อนแรงลงมากแต่กดปุ่มติดร่างเย้ายวนให้ลุกร้อนเป็นไฟ ลูบขึ้นลงรัวแรงสลับสอดเข้าไปในช่องทางเล็ก ๆ แค่ปลายข้อนิ้ว ความเปียกชุ่มนองบอกว่าเธอพร้อมให้เขาไปไกลกว่า เขาก็จะไม่ทำมันตามคำพูดที่อยากกลืนน้ำลายตัวเองอยู่ไม่น้อย
เสียงของนัชชาไม่ต่างจากเสียงดนตรีอันไพเราะสำหรับเขา เส้นผมสีน้ำตาลเป็นลอนสยายกระจายอยู่บนหมอนปรกเม็ดเหงื่อพร่างพราวบนหน้าผากเนียน บางครั้งเขาก็ฝากฝังจุมพิตไว้อย่างเอาใจ
“คุณอลัน!” เธอเรียกชื่อเขาซ้ำไปซ้ำมา ในพันธนาการร้อนฉ่า แรงบีบของมือหนามากขึ้นจนรู้สึกเจ็บน้อย ๆ เธอกลับพึงพอใจอยากให้เขาจับกดทุกวันเสียอย่างนั้น และเธอคงจะกลายเป็นผู้หญิงเสพย์ติดเซ็กส์ได้ไม่ยาก
“ไม่ไหวแล้ว... อลัน อย่า... หยุด... อ๊า...!”
น่าอายที่สุดคือเสียงครางขอให้เขาจับจูงมืออย่างอ่อนโยน ปลายนิ้วชุ่มแฉะน้ำจากกายสาวโยกไปมาเร็วขึ้นจนเกิดเสียงของการเขย่าความเปียกปอนจนถึงจุดเกร็งจัด...
“อลัน...!” ปลายเสียงของเธอส่งเสียงหวีดร้องดัง ก่อนทิ้งกายเหนื่อยล้าเพราะแรงเสียวซ่านบนที่นอน หลังหยัดมันขึ้นคว้าดาวพร่างพราวบนฟ้ามาเชยชมสมใจ สองขาเกี่ยวสะโพกสอบแน่นพร้อมกันกับที่นิ้วซุกซนหยุดลงในช่องทางคับแคบที่บีบรัดถี่ ๆ
เป็นความสุขของเขาที่รู้ว่าเธอไปถึงฝั่งฝันอย่างสวยงาม มองมายังเขาด้วยแววตาหวานปรือ โยนลมหายใจหอบระทวยในพันธนาการของเขาโดยไม่มีวี่แววขัดขืน หรือต้องการอิสรภาพ
“หนูปริม... คนสวยของผม” ปากชมพลันกดจูบบนหน้าผากเนียน นัยน์ตาคู่สีฟ้าครามบอกว่าเขาปรารถนาจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับเธอแค่ไหน ยามสบมองดวงหน้าแดงก่ำ คงเป็นเขาที่ร้อนรุ่มกว่าทั้งกามารมณ์และแรงริษยา
“คืนนี้ผมจะนอนเป็นเพื่อน... จะได้แน่ใจว่าไม่มีใครมายุ่มย่าม รับโทรศัพท์ก็ห้าม”