“ก็ได้ค่ะ แต่คุณมิรินต้องสัญญานะคะว่าห้ามเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด”
“ฉันสัญญา...” มิรินอมยิ้มพึงพอใจ เพราะอย่างรู้เหลือเกินว่าผู้หญิงที่ชื่อขวัญตาคนนั้นเป็นใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับฟีนิกซ์
“คุณขวัญตาเคยเป็นภรรยาของคุณฟิกซ์ค่ะ”
“ภรรยา?”
“ชูว์ เบาๆ สิคะ”
“โอเค ฉันจะเบาๆ งั้นเธอเข้าไปเล่าให้ฉันฟังในห้องดีกว่า จะได้ไม่มีใครผ่านมาได้ยิน”
แล้วมิรินที่อยากรู้มากมายก็คว้าข้อมือของมะเฟืองให้หายเข้าไปในห้องพักที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว พอประตูปิดสนิทลง หล่อนก็รีบถามต่อทันที
“เล่าต่อเถอะ ฉันอยากรู้แล้ว”
มะเฟืองพยักหน้ารับ ก่อนจะเล่าต่อไป
“คุณขวัญตาเคยเป็นภรรยาของคุณฟิกซ์น่ะค่ะ สองคนนี้รักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่อเมริกา ก่อนที่คุณฟิกซ์จะบินตามคุณโรเจอร์มาอยู่ที่ไร่ชาแห่งนี้ค่ะ”
ภรรยา?
งั้นก็แสดงว่าฟีนิกซ์มีคนที่รักอยู่แล้ว ในขณะที่หล่อนกำลังจะเป็นได้แค่นางบำเรอที่ใช้ร่างกายจ่ายชำระหนี้สินเท่านั้น
ทำไมถึงรู้สึกเจ็บแปลบๆ ในอกนักนะ มิรินถามตัวเองพร้อมกับสูดลมเข้าปอดแรงๆ สองสามครั้ง ก่อนจะฝืนใจถามต่อ
“แล้วตอนนี้คุณขวัญตาเมียของนายนั่นไปไหนแล้วล่ะ”
“หย่ากันแล้วค่ะ”
“หย่า?”
“ใช่ค่ะ หย่ากันได้สามปีแล้วค่ะ”
มิรินหยุดฟังเงียบๆ ก่อนจะถามต่อ
“แล้ว... พวกเขาหย่ากันทำไมเหรอจ๊ะ หรือว่าหมดรักกันแล้ว”
“สำหรับคุณขวัญตาหนูไม่รู้ใจหรอกค่ะ แต่สำหรับคุณฟิกซ์เธอไม่มีทางหมดรักภรรยาหรอกค่ะ แต่ที่ต้องหย่าก็เพราะมันเป็นความต้องการของคุณขวัญตา เมื่อเธอเลือกจะไป คุณฟิกซ์ก็ยินดีให้อิสรภาพค่ะ”
“พระเอกจริงๆ”
มิรินฟังแล้วก็อดประชดประชันออกมาไม่ได้
“ใช่ค่ะ คุณฟิกซ์ใจเธอหล่อกว่าหน้าตาอีกนะคะ”
คนฟังอย่างมิรินหัวเราะกร๊ากออกมา
“เธอก็เอาแต่ชมเจ้านายตัวเองนั่นแหละ ฉันไม่เห็นว่าหมอนั่นจะใจหล่อสักนิด ใจร้ายใจดำสิไม่ว่า ฉันขอผ่อนใช้หนี้ก็ยังไม่ยอม จะให้นอนด้วยแทน ฉันนี่โชคร้ายชะมัด”
“โชคดีต่างหากค่ะ ได้นอนกับคุณฟิกซ์”
“โชคดี? โชคเลือดสิไม่ว่า มีอย่างที่ไหนต้องมานอนร่วมเตียงเดียวกันกับผู้ชายแปลกหน้าที่พึ่งเจอกันได้ไม่กี่ชั่วโมง นี่ถ้ามีทางเลือกอื่นนะ ฉันคงไม่ยอมทำลายศักดิ์ ศรีของตัวเองแบบนี้หรอก” มิรินพูดแล้วก็หน้าเศร้า พาตัวเองไปทรุดนั่งลงบนขอบเตียงอย่างสิ้นหวัง
มะเฟืองมองอย่างสงสารรีบปลอบใจ
“อย่าคิดมากสิคะ มีผู้หญิงอีกมากมายอยากมาอยู่ตรงที่ที่คุณมิรินยืนอยู่ตอนนี้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ในขณะที่คุณมิรินแค่เดินเข้ามาพร้อมกับจดหมายจากคุณย่ากลับได้ในสิ่งที่พวกเธอเฝ้ารอกันมาไม่รู้กี่ปี”
“ฉันควรภาคภูมิใจใช่ไหมเนี่ยที่จะเสียตัวน่ะ”
“ใช่ค่ะ คุณฟิกซ์ทั้งหล่อ ทั้งเซ็กซี่ ทั้ง...”
“หยุดพูดเถอะ ฉันจะอาเจียน”
“เดี๋ยวคุณมิรินจะไม่พูดแบบนี้ค่ะ”
คำพูดของมะเฟืองทำให้มิรินแก้มแดงก่ำ “เธอนี่เด็กกว่าฉันกี่ปีนี่ ทำไมแก่แดดจังเลย”
“หนูพึ่งอยู่มอสามค่ะ แล้วคุณมิรินเท่าไหร่คะ”
“ฉันสิบเก้าแล้วล่ะ”
“ว้าว ไม่น่าเชื่อนะคะ นี่ถ้าไม่บอกอายุหนูคิดว่าคุณมิรินยี่สิบสองยี่สิบสามแล้ว”
“หน้าฉันคงแก่เกินวัยใช่ไหมเนี่ย”
มิรินฝืนหัวเราะ
“ไม่ใช่นะคะ แต่คุณมิรินดูเป็นสาวเกินวัยต่างหากล่ะ”
มะเฟืองรีบอธิบาย พร้อมกับจ้องหน้าอกของมิรินด้วยความอิจฉา
“หนูอยากมีหน้าอกใหญ่ๆ แบบคุณมิรินจัง”
“พูดอะไรของเธอเนี่ย ไม่เอาแล้ว ฉันขอตัวพักผ่อนก่อน เธอมีอะไรก็ไปทำเถอะ”
มิรินขัดเขินอับอายจนต้องตัดบทหนี
“ค่ะ แล้วพรุ่งนี้หนูจะมาคุยด้วยใหม่นะคะ”
“พรุ่งนี้วันจันทร์เธอต้องไปโรงเรียนไม่ใช่เหรอ มะเฟือง” มิรินพูดขึ้นอย่างรู้ทัน
“ก็ตอนเย็นๆ ยังไงล่ะคะ”
มะเฟืองยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบเดินออกไป
มิรินถอนใจยาวๆ กับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในชีวิตของตัวเอง
“นี่เรา... กำลังจะต้องนอนกับผู้ชายแปลกหน้า เพื่อจ่ายแทนหนี้สินจริงๆ เหรอเนี่ย”
ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้มันจะเกิดขึ้นในชีวิตของหล่อนได้ และที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างก็คือ ความต้องการนี้เป็นของคุณย่าของหล่อนเอง
“คุณฟิกซ์จะทำจริงๆ เหรอครับ”
ลุงน้อยที่ยืนอยู่ข้างหลังของฟีนิกซ์อดที่จะเอ่ยถามด้วยความเคลือบแคลงใจไม่ได้
“แล้วมันแปลกตรงไหนล่ะลุงน้อย หากผมจะนอนกับผู้หญิงสักคนหนึ่งหลังจากที่หย่าขาดจากขวัญตามานานกว่าสามปีแล้วน่ะ”
“ถ้าในแบบปกติคงไม่แปลกหรอกครับคุณฟิกซ์ แต่นี่... คุณฟิกซ์จะนอนกับผู้หญิงที่ถือจดหมายเข้ามาหา ทำไมคุณฟิกซ์ไม่เช็คประวัติของเธอหน่อยล่ะครับ บางทีเธออาจจะเป็นนางนกต่อก็ได้นะครับ”
ฟีนิกซ์หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคู่สนทนาคนสนิท
“ลุงน้อยคิดว่าผมจะเลอะเลือนจนไม่ทำแบบนั้นหรือ”
“งั้นก็แสดงว่า...”
ลุงน้อยพูดได้แค่นั้นฟีนิกซ์ก็สวนออกมา
“ครับ ผมเพื่อนที่เป็นนักสืบจัดการเรื่องนี้แล้วครับ คงไม่เกินมะรืนนี้ข้อมูลของเธอจะกระจ่างกับผมทั้งหมด”
“งั้นคุณฟิกซ์ก็ยังไม่ควรที่จะ...”
ลุงน้อยหมายถึงยังไม่ควรจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ซึ่งแน่นอนว่าฟีนิกซ์เข้าใจความหมายดี
“ผมก็ตั้งใจแบบนั้นล่ะครับ”
“แต่คุณฟิกซ์ให้เธอเข้าไปนอนในห้องด้วยนี่ครับ ผมว่ามันจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ใกล้กันมากๆ มันจะ...”
“ผมโตแล้วนะลุงน้อย ผมไม่ใช่วัยรุ่นที่ออร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกครับ ผมควบคุมตัวเองได้ และที่ผมเอาเธอเข้าไปนอนในห้องด้วย ก็เพราะว่าผมไม่ไว้ใจเธอยังไงล่ะครับ”
“ไม่ไว้ใจเหรอครับ”
“ครับ ยิ่งไม่ไว้ใจก็ยิ่งต้องเก็บเอาไว้ข้างตัว เอาเป็นว่าลุงน้อยสบายใจเถอะครับ เรื่องของผมไม่มีอะไรต้องให้เป็นกังวลหรอกครับ”
แม้ฟีนิกซ์ยืนยันเช่นนั้นแต่เพราะความจงรักภักดีมากมายทำให้ลุงน้อยยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี
“แต่คุณมิรินเธอสวยมากนะครับ ผมเกรงว่า...”
“ถ้าลุงน้อยจำขวัญตาได้ เธอสวยกว่านี้อีกนะครับ ดังนั้นไม่ต้องเป็นกังวล ภูมิต้านทานความสวยของผมยังทำงานดีครับ”
“แต่...”
“ลุงน้อยไปพักผ่อนเถอะครับ มืดค่ำแล้ว ผมก็จะไปพักเหมือนกัน เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
“เดี๋ยวก่อนสิครับคุณฟิกซ์...”
ลุงน้อยพยายามเรียกฟีนิกซ์ แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะเดินหายเข้าไปในบ้านแทน ชายวัยกลางคนจึงทำได้แค่ถอนใจออกมาเป็นความเป็นกังวลเท่านั้น
“ขออย่าให้คุณมิรินเป็นสิบแปดมงกุฎเลย”
“ยกมือท่วมหัวทำไมล่ะลุงน้อย มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย”
มะเฟืองที่กำลังจะเดินกลับไปยังเรือนพักเห็นเข้าพอดีจึงอดที่จะหยุดทักทายตามประสาเด็กทะเล้นไม่ได้
“มันเรื่องของข้าน่ะ เอ็งไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนไม่ใช่เหรอ”
“แหม บอกหน่อยก็ได้ แต่ถ้าให้ฉันเดา ลุงน้อยจะต้องกำลังคิดถึงเรื่องของคุณมิรินกับคุณฟิกซ์ที่คืนนี้กำลังจะ...”
มะเฟืองแสดงท่าทางประกอบคำพูด และก็หัวเราะขบขัน จนลุงน้อยต้องรีบปราม
“เป็นเด็กเป็นเล็กทำตัวแก่แดดไปได้ ไปนอนได้แล้ว”
“ลุงน้อยก็ทำเป็นหน้าบูดบึ้งไปได้ ฉันก็แค่แหย่เล่นเท่านั้นเองแหละ ว่าแต่ทำไมลุงน้อยจะต้องทำหน้าตาเป็นกังวลแบบนั้นด้วยล่ะจ๊ะ”
คนถูกถามระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ก็จะไม่ให้กังวลได้ยังไงกันวะ ในเมื่อจู่ๆ ก็มีผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้บุกมาที่ไร่ และมาเป็นเมียของคุณฟิกซ์”
“ก็มันเป็นคำสั่งเสียของผู้ใหญ่ฝั่งของคุณมิรินนี่ เธอก็ต้องทำตามสิ”
“แต่มันทะแม่งๆ นะนังมะเฟือง ข้าล่ะกลัวจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรือว่าพวกไม่หวังดีเหลือเกิน”
“ไม่หรอก คุณมิรินเธอสวยขนาดนั้น พูดจาก็ดี แถมยิ้มก็ยังหวาน ไม่มีทางเป็นสิบแปดมงกุฎไปได้แน่ๆ และที่สำคัญ ถึงจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎจริงๆ เธอก็ไม่มีหลอกลวงอะไรคุณฟิกซ์ได้หรอก มีแต่คุณฟิกซ์ต่างหากที่จะได้เต็มๆ จริงไหมจ๊ะลุงน้อย” พูดจบมะเฟืองก็หัวเราะขบขันอย่างแก่แดด ลุงน้อยจึงเอามะเหงกใส่หัวให้ไปสองที จนเด็กสาวต้องกุมศีรษะด้วยความระบม
“ลุงน้อยน่ะ ฉันเจ็บนะ”
“จะได้เลิกแก่แดดยังไงล่ะ”
“ฉันแก่แดดตรงไหนกัน ฉันก็แค่พูดความจริงต่างหาก นี่ลุงน้อยไม่คิดเหรอว่า ถ้าคุณมิรินเธอไม่ใช่สิบแปดมงกุฎ แล้วเธอเป็นคนดี บางทีเธออาจจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของคุณฟิกซ์ให้ดีขึ้นจากเดิมก็ได้นะ หัวใจที่คุณขวัญตาเธอขยี้เอาไว้น่ะ”
ลุงน้อยเงียบอย่างใช้ความคิดเพราะคำพูดของมะเฟืองมันเป็นความจริงทุกประการ
ถ้ามิรินไม่ใช่สิบแปดมงกุฎ ก็อาจจะเป็นนางฟ้าเลยทีเดียว ที่จะมาช่วยรักษาแผลใจให้กับฟีนิกซ์
“อย่าพึ่งสรุปเลย รอดูกันก่อนว่าแท้จริงแล้ว คุณมิรินเธอเป็นอย่างที่กำลังแสดงออกมาหรือเปล่า”
“ใช่แน่ๆ ฉันเชื่อ”
“แต่ข้ายังไม่เชื่อ จนกว่าจะเห็นหลักฐาน”
“หลักฐานอะไรน่ะลุงน้อย ลุงน้อย...”
มะเฟืองตะโกนเรียก แต่ลุงน้อยเดินหายไปแล้ว หล่อนจึงทำได้แค่เดินหน้าง้อง้ำตามประสาเด็กและรีบเดินกลับเรือนไปเท่านั้น