“ถึงฉันจะปากเสีย แต่ฉันไม่เคยเลี้ยงหมาเอาไว้ในปากก็แล้วกัน”
“นี่นาย...ว่าใครเลี้ยงหมาเอาไว้ในปากยะ!”
ไหล่กว้างทรงพลังของแมทธิวไหวน้อยๆ พลางผิวปากเป็นเพลงออกมาอย่างอารมณ์ดี
มัทนากำมือแน่นจนหูหิ้วของตะกร้าหวายในมือแทบหัก “ไอ้คนปากเสีย ไม่หล่อแล้วยังปากหมาอีก”
“ชู่ว์...อย่าอ้าปากกว้างสิครับ นั่นไง...เตือนแล้วไม่ฟัง หางไอ้ตูบโผล่ออกมาแล้ว”
มือเล็กรีบยกมือขึ้นปิดปาก มองเขาตาขุ่นเคืองอย่างโกรธจัด
“ไอ้...ไอ้...ไอ้คนมารยาททราม!”
“เฮ้ย...นึกว่ามีหมาแค่ตัวเดียวอยู่ในปาก ที่แท้ก็มีเป็นสิบ ว่าแล้วเชียวทำไมปากปีจอนัก” แมทธิวยั่วโมโหมัทนาได้ก็หัวเราะร่วนด้วยความชอบอกชอบใจ
“ไอ้บ้า! ไอ้ผู้ชายเฮงซวย”
หล่อนกระทืบเท้าเร่าๆ อย่างโกรธจัด
“หน้าตาก็ไม่หล่อ แบบนี้ไงถึงไม่มีผู้หญิงคนไหนชายตาแล”
แมทธิวหัวเราะร่วน พลางขยับเท้าเข้าไปหา ดวงตาคมกริบสีน้ำเงินเข้มจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตที่กรุ่นไปด้วยความโกรธ
“นี่...ถอยออกไปนะ” มัทนาใจคอไม่ดีเมื่ออยู่ใกล้กับแมทธิวมากเกินไป หล่อนคล้ายจะหายใจไม่ออกเสียทุกครั้ง ยามที่อยู่ใกล้กับผู้ชายปากร้ายคนนี้ สงสัยหล่อนจะเกลียดเขามากเกินไป
“รู้ได้ยังไงว่าฉันไม่มีผู้หญิงให้เอา”
“ไอ้คนบ้า”
“ฉันน่ะเอาผู้หญิงทุกคืน ไม่เคยขาด อยากลองถูกฉันเอาบ้างไหมล่ะ มัทนา”
ท้ายประโยคของแมทธิวแผ่วเบาและกระเส่าจนน่าตกใจ หล่อนเม้มปากแน่น รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ
“บ้า! ไอ้คนบ้า...ใครจะไปนอนให้นาย...ทำแบบนั้นกัน”
แล้วหล่อนก็ใช้มือข้างที่ว่างจากการหิ้วตะกร้าผลักอกกว้างนั่นเต็มแรง และก็ภาวนาให้ลิฟต์เปิดออกโดยเร็ว
“อ้าว จะไปรู้เหรอ นึกว่าคันมาก เลยไม่คิดจะเลือกดุ้นของผู้ชาย”
“ไอ้คนหยาบคาย!” หล่อนมองเขาเขม็ง มองราวกับจะเผาเขาให้มอดไหม้เป็นเถ้าธุลี
“นี่สาบานเลยนะ ฉันน่ะไม่เคยหยาบคายกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน นอกจากผู้หญิงที่วิ่งตามจับผู้ชายอย่างเธอ”
“ไอ้...”
ติ๊ง... เสียงประตูลิฟต์ร้อง ก่อนจะเปิดออก
ร่างสูงใหญ่ขยับเท้าเดินออกไป “อย่าคิดนะว่าฉันจะยอมรับเธอมาเป็นพี่สะใภ้...ไม่มีวันนั้นหรอก”
หล่อนรีบเดินตามร่างสูงใหญ่ของแมทธิวไปติดๆ ก่อนจะกระชากแขนทรงพลังแรงๆ เพื่อให้เขาหยุดเดิน จากนั้นก็รีบเดินอ้อมไปหยุดตรงหน้า และต่อสู้ด้วยวาจา
“วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้านี้ นายเตรียมตัวยกมือไหว้ฉันในฐานะพี่สะใภ้คนที่สองของนายได้เลย นายแมทธิว มาเลซาสโซ”
สันกรามกระด้างของผู้ชายตรงหน้าขบกันแน่น ดวงตาคมกริบของเขาลุกโชนมากขึ้น
“แล้วเราจะได้เห็นกัน”
ก่อนที่เขาจะหมุนตัวแล้วเดินหายเข้าไปในห้องทำงานของเมสัน หล่อนมองตามไปด้วยความเกลียดชัง
“ทำไมสวรรค์จะต้องโยนนายมาขวางหน้าฉันทุกทีนะ นายแมทธิวบ้า!”
หล่อนเค้นเสียงด่าทอเขาอย่างโมโห ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในห้องทำงานของเมสันเช่นกัน
“มาแล้วหรือนายแมท”
เมสันเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เมื่อเห็นน้องชายเปิดประตูห้องทำงานของเขาเข้ามา
“ครับ”
“แล้วทำไมหน้าบูดเป็นตูดเป็ดแบบนั้นล่ะ มีอะไรหรือเปล่า หรือว่าไม่อยากตรวจสุขภาพ”
“เปล่าครับ ก็แค่เบื่อเด็กประสาทน่ะครับ”
คิ้วเข้มของเมสันเลิกสูง แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกมา ประตูก็ถูกเคาะและเปิดเข้ามาอีกครั้ง พร้อมๆ กับมัทนาที่หิ้วตะกร้าใส่อาหารก้าวเข้ามา
“นี่ไงครับ”
แมทธิวพูดขึ้นเสียงเบื่อหน่าย
“เห็นหน้าทีไร ผมท้องผูกไปเป็นอาทิตย์ทุกที”
“นายก็พูดไปนั่น”
เมสันหัวเราะขบขัน ก่อนจะหันไปทักทายมัทนาอย่างเอ็นดู
“สวัสดีครับน้องมัท”
มัทนาฉีกยิ้มกว้าง นี่ถ้าปากฉีกไปถึงหูได้โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ปากของหล่อนก็คงเป็นเช่นนั้นแหละ ก็คนมันดีใจนี่ ตั้งสามวันแล้วที่ไม่ได้เห็นหน้าเมสัน
“สวัสดีค่ะพี่ไมค์”
หญิงสาวเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของเมสัน วางตะกร้าใส่เสบียงลงบนโต๊ะไม้ ก่อนจะรีบดึงแขนให้แมทธิวลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานของหนุ่มที่ตัวเองรัก และทรุดนั่งลงไปแทนที่
แมทธิวเบ้หน้าอย่างเบื่อหน่าย เขาเดินไปทรุดนั่งบนโซฟาริมหน้าต่างห้องแทน
“มัทคิดถึงพี่ไมค์จังเลยค่ะ”
เมสันระบายยิ้ม
“ขอบคุณครับ”
“เอ่อ...วันนี้มัทเตรียมแต่กับข้าวที่พี่ไมค์ชอบมาทั้งนั้นเลยนะคะ พี่ไมค์จะต้องกินให้หมดนะคะ”
หญิงสาวหยิบกล่องใส่อาหารมาเปิดอวดเมสัน
เมสันระบายยิ้มและกล่าวขอบคุณ
“ความจริงพี่ก็มีอาหารที่โรงพยาบาลกินนะ ไม่ต้องรบกวนน้องมัทก็ได้”
“รบกงรบกวนอะไรกันล่ะคะ มัทเต็มใจที่สุดเลยค่ะ”
“อะแฮ่ม”
แมทธิวที่นั่งอยู่ในห้องด้วยกระแอมเสียงดังอย่างหมั่นไส้ มัทนาหันไปค้อนใส่
“นี่นายยังไม่ออกไปอีกเหรอ จะนั่งอยู่เป็นก้างทำไมเนี่ย”
“แม่คุ้ณ...นี่มันห้องทำงานของพี่ไมค์ซึ่งเป็นพี่ชายของฉัน ในขณะที่เธอเป็นแค่เพียงผู้หญิงที่วิ่งตามตื๊อพี่ชายของฉันเท่านั้น แล้วแบบนี้ใครกันล่ะที่ควรจะออกไป”
มัทนามองคนพูดตาเขียวปัด “ไอ้คนบ้า...ฉันรังเกียจนายที่สุด รู้ไว้ด้วย”
“โธ่ๆ ๆ แล้วคิดว่าฉันพิศวาสเธอหรือไง”
แมทธิวยิ้มหยัน พลางตวัดตามองร่างของมัทนาอย่างดูแคลน
“ผิวก็กระดำกระด่าง นมก็ไม่มี แถมยังตัวเตี้ยอีกต่างหาก ใครจะไปสนใจเธอ แม้แต่ยามหน้าโรงพยาบาลยังต้องคิดก่อนเลยว่าจะยอมให้เธอขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”
“ไอ้คนปากเสีย!”
“พอ...หยุดกันทั้งคู่นั่นแหละ อย่าทะเลาะกันเลย” เมสันพยายามจะคลี่คลายสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด
“ก็น้องชายของพี่ไมค์น่ะสิคะ ปากเสียที่สุดเลย”
“ผมก็แค่พูดความจริงครับพี่ไมค์ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย จริงไหมครับ”
เมสันถอนหายใจออกมาแผ่วเบา พลางมองน้องชายอย่างขอความร่วมมือ
“พี่ขอล่ะนายแมท”
แมทธิวกัดฟันแน่น ขบกรามจนเป็นสันนูนเป่ง เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไม่อยากทะเลาะกับผู้หญิง”
“แล้วคิดว่าฉันอยากทะเลาะกับผู้ชายปากจัดอย่างนายหรือไงล่ะ ไปให้พ้นหน้าเลย”
ชายหนุ่มไหวไหล่น้อยๆ อย่างไม่แยแส ก่อนจะก้าวเดินหายออกไปจากบานประตู
เมสันถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะระบายยิ้มให้กับมัทนา “ว่าแต่ที่มาหาพี่นี่ เพราะเอาอาหารมาให้อย่างเดียวใช่ไหมครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ”
คิ้วเข้มของเมสันเลิกสูง
“ครับ?”
มัทนายิ้มอย่างมีเลศนัย
“มัทจะมาตรวจภายในด้วยน่ะค่ะ”
“ตรวจภายใน?”
“ใช่ค่ะ มัทอยากให้พี่ไมค์ตรวจภายในให้มัทน่ะค่ะ”
เมสันนิ่งเงียบไป ในขณะที่มัทนาเต็มไปด้วยความคาดหวังมากล้น
‘เสร็จมัทแน่ พี่ไมค์’