มัทนาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพร้อมตรวจภายในเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้ามาภายในห้องตรวจที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสะอาดสะอ้านดูแพงสมกับเป็นโรงพยาบาลเอกชนอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
หญิงสาวก้มลงมองดูตัวเองที่สวมผ้าถุงพร้อมตรวจด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะนี่คือประสบการณ์ครั้งแรกของหล่อนเลยทีเดียว แม้หล่อนจะไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยหรือขี้อายสักเท่าไหร่ แต่การที่จะต้องมาขึ้นขาหยั่ง แหวกขาออก แล้วให้คุณหมอหนุ่มตรวจภายใน มันก็เป็นเรื่องที่น่าอายไม่น้อย แม้ผู้ชายคนนั้นจะเป็นผู้ชายที่ตัวเองแอบรัก และหมายมั่นปั้นมือว่าจะคว้ามาครอบครองก็ตาม
เสียงถอนหายใจแผ่วเบาดังผ่านกลีบปากอิ่มสีแดงระเรื่อออกมา ก่อนที่หญิงสาวจะต่อสายหาใครบางคน
“โดนัท แกแน่ใจนะว่าฉันควรทำอย่างนี้จริงๆ”
“นี่ๆ ๆ หล่อน ตบปากสองทีเลยนะ บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วให้เรียกนัตตี้ เดี๋ยวเลิกคบเลยนี่”
ดลกร หนุ่มหน้าสวยที่มีจิตใจเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่จำความได้โวยวายไม่พอใจใส่เพื่อนสนิท
“เออๆ นัตตี้ก็นัตตี้...แล้วนี่แกคิดว่าฉันควรจะทำจริงๆ เหรอ ฉันอาย”
“จะมาองมาอายอะไรตอนนี้ ท่องไว้สิยะ ผัว...ผัว...ต้องได้คุณหมอหนุ่มสุดหล่อเป็นผัว...”
“นี่แก...ฉันไม่ใช่ชะนีนะที่จะร้องผัวๆ ๆ ๆ น่ะ” มัทนาต่อว่าเพื่อนอย่างไม่พอใจ
“แหม ก็แซวเล่นน่ะ แกก็อย่าป๊อดนักเลย มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็แค่กางๆ ขาให้คุณหมอสุดหล่อตรวจไปเถอะ” ดลกรพูดขึ้นอย่างเบื่อหน่ายในความใจเสาะของชะนีสาวเพื่อนรัก
“แต่ว่าฉัน...เขินนี่นา”
“ก็แกอยากได้เขาเป็นผัวจนตัวสั่นไม่ใช่เหรอ กางๆ ขาไปเถอะ เชื่อฉันสิ ตอนนี้โดนนิ้วไปก่อน หลังจากนี้ก็ค่อยโดนของจริง” แล้วดลกรก็หัวเราะชั่วร้ายดังลั่น “ฉันว่าจะต้องใหญ่แน่ๆ แกเตรียมตัวฉีกเลย นังมัท”
“อีตุ๊ดบ้า ดูพูดเข้า แกไปส่องผู้ชายต่อเถอะ ฉันไม่ปรึกษาอะไรแกแล้ว”
“แหมๆ ๆ นังนี่ทำเป็นงอน ฉันก็แค่พูดตามความจริงนี่นา ด้านได้อาย อดฉันเคยบอกแกแล้วไง”
มัทนาถอนหายใจยาวเหยียด
“อย่าถอยนะยะ แกต้องสู้ นี่แกอยากให้ฉันไปถือป้ายไฟเชียร์แกที่หน้าห้องตรวจไหมนังมัท”
“ไม่ต้องย่ะ แกมาก็ยิ่งทำให้ฉันปวดหัว แค่นี้นะ ฉันจะขึ้นไปนอนบนขาหยั่งแล้ว”
“เออๆ ไปเถอะ เฮ้ย...เดี๋ยวๆ” ดลกรเรียกเสียงดังมาตามสาย
“อะไรอีกล่ะนังนัตตี้”
“แก...ล้างมาดีหรือยัง”
“ล้างอะไรอะ”
“ก็...ไอ้นั่นแกไง เดี๋ยวมันส่งกลิ่นทักทายคุณหมอสุดหล่อนะ”
หน้าของมัทนาร้อนจัด “นังเพื่อนบ้า แกรีบๆ ไปป้อผู้ชายต่อเลยไป แค่นี้นะ”
แม้จะรีบกดตัดสาย แต่กระนั้นมัทนาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของนังกะเทยเพื่อนยากดังมาตามสายจนวินาทีสุดท้าย
“นังเพื่อนบ้า...ไม่ให้กำลังใจแล้วยังมาบั่นทอนมันลงอีก”
หญิงสาวก้มหน้าลงมองกึ่งกลางลำตัวของตนเองอย่างวิตกกังวล แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร นางพยาบาลหน้าตาสะสวยก็เดินเข้ามาหาเสียก่อน
“เปลี่ยนผ้าถุงเรียบร้อยแล้วนะคะ”
“เปลี่ยนเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“งั้นก็ขึ้นไปนอนรอคุณหมอบนเตียงเลยค่ะ”
มัทนาทำตามอย่างว่าง่าย สมงสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะจนคล้ายกับว่าตอนเกิดลืมพกมันติดตัวมาด้วย
“ยกขาวางบนที่วางเลยนะคะ”
หล่อนทำตามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก นางพยาบาลคงเห็นจึงพูดขึ้นให้กำลังใจ
“ครั้งแรกใช่ไหมคะ”
“เอ่อ ใช่ค่ะ”
“ไม่ต้องกลัวนะคะ มันไม่มีอะไรน่าอายหรอกค่ะ มันเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ”
หล่อนไม่รู้จะตอบอะไรออกไปเพราะอายจนจิตหลุดไปแล้ว
“ขยับก้นลงมาอีกนิดนะคะ”
หล่อนทำตามแต่เหมือนยังไม่พอดี เพราะวินาทีถัดมานางพยาบาลก็ยื่นมือเข้ามาช่วย
“โอเคค่ะ อ้าขาค้างไว้แบบนี้นะคะ”
“เอ่อ ไม่มีผ้าม่านมาปิดหน้าสักนิดเหรอคะ”
นางพยาบาลส่ายหน้าเล็กน้อย พร้อมกับอมยิ้ม
“ไม่มีหรอกค่ะ”
“เอ่อ ถ้าจะขอผ้าขนหนูสักผืนมาปิดหน้าให้หน่อยได้ไหม คือแบบ...หนูอายน่ะค่ะ อายมากๆ”
“ไม่ต้องอายนะคะ คุณหมอเห็นมาเยอะแล้วค่ะ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ”
นางพยาบาลยังปลอบใจเช่นเดิม แต่แม่คุณจะรู้ไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมชาติสำหรับหล่อน
“เอ่อ...หนูขอนะคะ ไม่งั้นหนูคงไม่กล้าตรวจ”
เพราะคงเห็นหล่อนไม่ไหวจริงๆ นางพยาบาลจึงตอบรับ “ก็ได้จ้ะ งั้นรอสักครู่นะคะ”
นางพยาบาลเดินหายออกไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวสะอาด
มัทนาระบายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ พร้อมกับตะโกนในอกอย่างลิงโลด
‘รอดแล้ว รอดแล้ว’
“ใช้ได้ไหมคะ”
“ได้เลยค่ะคุณพยาบาล ขอบคุณมากนะคะ” หล่อนรับผ้าขนหนูมาจากมือของนางพยาบาล “ว่าแต่พี่ไมค์...เอ่อ คุณหมอเมสันจะลงมาตรวจแล้วใช่ไหมคะ”
“ความจริงลงมาแล้วนะคะ แต่เผอิญว่ามีคนไข้เก่ามาขอคำปรึกษาน่ะค่ะ คุณหมอเลยเลทนิดนึง”
“ไม่เป็นไรค่ะ มัทรอได้ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวพยาบาลไปตามคุณหมอให้นะคะ”
“เอ่อ ค่ะ...”
หล่อนกัดฟันตอบออกไป ทั้งๆ ที่ความรู้สึกในตอนนี้อยู่ห่างจากคำว่าพร้อมมากมายนัก
นางพยาบาลยิ้มหวานให้ ก่อนจะเดินออกไป
มือเล็กของหล่อนเย็นเฉียบ หน้าตาแดงก่ำ เมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ไม่น่าเลยเรา ไม่น่าเออออห่อหมกไปกับแผนการของนังนัตตี้เลย ดูสิ...อายจนจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย
หญิงสาวเต็มไปด้วยความวิตกกังวล และเมื่อมีเสียงประตูห้องเปิดออก หล่อนก็รีบตวัดผ้าขนหนูคลุมหน้าของตัวเองทันที
‘พี่ไมค์คงมาแล้ว...’
ทำไมตอนนี้ถึงไม่ได้รู้สึกดีใจเลยนะ ทั้งอับอาย ทั้งขายหน้า และอยากจะลุกหนีไปให้พ้นๆ