“ใครคิวแรกวะ” ผมเอ่ยถามไอ้แจ็คที่กำลังเตรียมอุปกรณ์สักอยู่
“ปูเป้”
“งั้นมึงสักแล้วกัน”
“กูถามจริง ๆ มึงจะหนีอีกนานไหม”
“กูไม่ได้หนี แต่กูไม่อยากยุ่งด้วย”
“แล้วไง? เขามาในฐานะลูกค้าเว้ย”
“นั่นแหละ กูยกให้มึง”
“เออ”
ปูเป้เป็นน้องสาวของปูเปรี้ยวอดีตคนรักผมนั่นแหละ บอกตามตรงยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอ ครั้งก่อนที่มาส่งข้าวก็ส่งสายตาพิฆาตให้ยัยบ้องแบ๊วไปทีนึงละหวังว่าจะไม่ระรานผมไปมากกว่านี้หรอกนะ
“สวัสดีค่ะพี่เดย์ วันนี้ว่าที่เจ้าสาวพี่ไม่มาด้วยเหรอคะ”
“มาค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ”
“...”
สองสาวตรงหน้าฟาดฟันกันทางสายตาอย่างไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว กับเพลงเธอก็กวนประสาทไปตามประสานั่นแหละ แต่ใครอีกคนผมไม่รู้เหมือนกันว่าเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ รู้สึกว่าระยะหลังมานี้เธอจะวุ่นวายกับผมมากเกินไปแล้ว
“ไม่รอในห้องล่ะ”
“เปิดรถให้หน่อย หนูลืมมือถือไว้ในนั้น”
“เก็บไว้ด้วยเลย” พลางยื่นกุญแจรถให้
“ค่ะ” เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการเธอก็เดินหายไปเลยครับ
“น่ารักดีนะคะ”
“จะเอาลายไหน” ผมเลี่ยงที่จะสนทนากับผู้หญิงตรงหน้า ถึงยังไงก็ไม่ควรให้ยุ่งวุ่นวายกับเพลงมากนัก
“ผีเสื้อค่ะ ตรงเนินอก”
“สักกับไอ้แจ็คแล้วกันกูไม่ว่าง” พูดจบผมก็ออกมาจากห้องนั่นทันที
“พี่เปรี้ยวจะกลับมาแล้วนะคะ”
“ช่างหัวเขาสิ” ตอบไปอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ตอนไปไม่เห็นบอก ตอนกลับเสือกอยากให้รับรู้
ผมไม่สนใจหรอกนะว่ากลับมาหรือไม่มาถึงยังไงเธอก็ไม่มีผลอะไรกับความรู้สึกของผมอีกแล้ว
“อ้าว ไหนว่าสักให้ลูกค้าไงคะ”
“ขี้เกียจ”
“แบบนี้ก็ได้เหรอ” เธอว่ายิ้ม ๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบางอย่างลงในสมุดเล่มเล็ก
“อยากสักไหมเดี๋ยวกูสักให้”
“ไม่เอาด้วยหรอกเจ็บจะตายห่า”
“แป๊บเดียวเหมือนมดกัด”
“มดตัวใหญ่ใช่ไหมล่ะคะ”
“ไม่ใช่ ... ทั้งรัง ฮ่า ๆ”
“ไม่! เรื่องอะไรจะยอมให้ผิวสวย ๆ เปรอะเปื้อนกันเล่า”
“เปื้อนอะไรมึง เขาเรียกว่าศิลปะ”
“ขอโทษที หนูเข้าไม่ถึงจริง ๆ”
“ไปกินข้าวกัน”
“ห๊ะ? เพิ่งเก้าโมงกว่าเองนะคะ”
“ปกติเจ็ดโมงกูก็กินข้าวเช้าแล้วครับคุณผู้หญิง แสดงว่ามึงไม่กินข้าวเช้าแน่ ๆ เลย”
“ก็มันไม่หิวนี่”
“ไม่หิวก็ต้องกิน แล้วก็ต้องไปกับกูด้วย”
“เอาหนูไปเป็นไม้กันหมาอีกละ”
“แสนรู้นะมึงอะ”
“ผู้หญิงของพี่นี่เยอะจริง ๆ” บ่นไปเก็บของไปนึกว่าผมไม่ได้ยินมั้ง
“กูโสดเหอะ”
“จ้า...พ่อคนหล่อ... หล่อมาก” กระแนะกระแหนอีกแล้วครับ
(โป๊ก)!
“ลามปามนะมึงอะ”
“เจ็บนะพี่เดย์เขกมาได้” พลางลูบหัวตัวเองปอย ๆ สมน้ำหน้าครั[ “แล้ววันนี้พี่ไม่ทำรถหรือไง”
“วันนี้เวรไอ้กราฟกับไอ้แจ็ค”
“พี่แจ็คสักให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”
“มึงมองไปรอบร้านซิว่ามันมีรถสักคันหรือยัง”
“...”
“ไปกันได้แล้วเดี๋ยวกูต้องกลับมาสักให้ลูกค้าตอนสิบโมงเช้าอีก”
ไม่ได้ไปไหนไกลเลยก็ร้านอาหารตามสั่งใกล้ ๆ นั่นแหละ
“ป้าครับข้าวผัดกุ้งสองจาน”
“หนูไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะกินข้าวผัด”
“ท้องว่างอยู่ใครเขาให้มึงกินเผ็ดแต่เช้าวะ”
“แน่ะ! จำได้ด้วยแฮะ ใส่ใจเก่งนะเนี่ย” เป็นคำชมที่ฟังแล้วหาความจริงใจไม่เจอเลยนอกจากท่าทางทะเล้นที่เห็นอยู่ตอนนี้
“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ใช่แฟนแต่ขอทำแทนได้ไหม” ลองหยอดหน่อยเผื่อคล้อยตาม
“ไม่ได้! พี่ห้ามสร้างความคุ้นชินให้หนูเป็นอันขาดไม่อย่างนั้นต่อไปวันข้างหน้าหนูต้องแย่แน่ ๆ” ดักทางเก่งซะด้วย
“แย่ยังไง”
“ช่างเถอะ”
“อย่าเอานิยายมาเป็นขีดจำกัดในการใช้ชีวิตให้มากนักเลย ในความเป็นจริงมึงอาจจะกำลังหลงรักกูอยู่ก็ได้”
“หลงตัวเอง” เบะปากมองบนไปทีครับ น่าแกล้งจริง ๆ
“หนูไปร้านสะดวกซื้อตรงนั้นก่อนนะ พี่จะเอาอะไรไหม”
“กาแฟแก้วหนึ่ง”
“ค่ะ”
“แล้วมึงจะไปซื้ออะไร”
“ของสำคัญสำหรับผู้หญิงค่ะ”
“อะไร?”
“ถุงยาง”
“vยู่กับกูไม่ต้องใช้หรอก”
“ทะลึ่งละ” ถลึงตาใส่ผมก่อนจะเดินข้ามถนนไป
“เป็นเอามากนั่งยิ้มคนเดียว” ไอ้กราฟครับ
“ใครยิ้ม”
“มึงไง ของขาดเหรอ”
“กวนส้นตีน กูเปล่าสักหน่อย”
“อย่า ๆ กูเห็นอยู่ว่ามึงยิ้ม” มันพูดออกมาอย่างจับผิดก่อนจะมองตามผมไป “อ๋อ! นั่นสินะรอยยิ้มของมึง”
“เพ้อเจ้อ จะแดกไหมข้าวอะ”
“โหดกลบเกลื่อนซะด้วย”
“บอกแตงโมดีไหมว่าวันก่อนใครมาหามึง”
“ไอ้เดย์ ไอ้เพื่อนทรพี”
“ฮ่า ๆ”
“บอกไปก็เท่านั้นแหละ จบกันไปแล้วกูไม่คิดอะไรหรอก แต่มันก็แปลกเหมือนกันนะ เวลามีแฟนใหม่ทำไมคนเก่าต้องกลับมาด้วยวะ”
“...”