“แม่คะทำไมมันเร็วแบบนี้ล่ะ” ฉันเอ่ยถามผู้เป็นแม่อย่างไม่เข้าใจทั้งที่ตัวเองเป็นเจ้าสาวแท้ ๆ แต่กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“อะไรอีกล่ะลูก”
“แม่คะ!”
“ช้าหรือเร็วยังไงก็ต้องแต่งกันอยู่ดีไม่ใช่แหรอ”
“ใช่ค่ะ ข้อนี้หนูทราบดีแต่ช่วยบอกเหตุผลหน่อยได้ไหม”
“ไม่มีอะไรนอกจากอยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาก็เท่านั้นเอง”
“ไม่ใช่หรอก แม่โกหกไม่เก่งรู้ตัวหรือเปล่า”
“อย่าจับผิดให้มาก ฉันเลี้ยงให้แกโตเป็นผู้ใหญ่นะไม่ใช่โคนัน” พูดตัดบทอย่างไม่จริงจังมากนักแล้วเดินหนีไปเลยค่ะ มันต้องมีอะไรมากกว่านี้ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น
ติ๊ง!
[อีกครึ่งชั่วโมงไปรับ] เป็นพี่เดย์ค่ะที่แช็ตมา
จากอู่มาบ้านฉันระยะทางไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกล และภายในระยะเวลาที่เขากำหนดฉันต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยไม่อย่างนั้นโดนด่าแน่
“เดย์มากี่โมง”
“กำลังมาค่ะ”
“วันนี้ต้องเลือกชุดให้ได้นะ”
“รู้แล้วค่ะ”
ราวยี่สิบนาทีพี่เดย์ก็มาถึงและยังยกมือไหว้แม่ฉันอย่างมีมารยาทอีกด้วย ท่าทีของเขาตอนนี้ไม่เหมือนผู้ชายปากร้ายเวลาที่อยู่กับฉันสองคนเลยสักนิด
“สวัสดีครับน้าเหมียว”
“เลือกชุดสวยชุดหล่อทั้งสองคนเลยนะลูก ที่เหลือแม่จัดการเอง”
“ครับ” ตบปากรับคำกันสองคน เอาที่ผู้ใหญ่สบายใจแล้วกัน
ที่ฉันยอมแต่งงานกับพี่เดย์ไม่ใช่ว่าใจง่ายชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้อะไรหรอกนะ แต่งได้ก็เลิกได้อีกอย่างฉันเองก็ไม่มีใคร พี่เดย์เขาก็ไม่มีใครเช่นกัน ทนใช้ชีวิตร่วมกันไปสักพักหนึ่งคงไม่เป็นอะไร อีกอย่างถึงไม่แต่งกับพี่เดย์ฉันก็ต้องแต่งกับคนอื่นอยู่ดี
“เป็นไรเงียบเชียว”
“ไม่ดีเหรอคะ พี่จะได้ไม่หนวกหูไง”
“เป็นวันนั้นของเดือนหรือไงอารมณ์แปรปรวนฉิบหาย”
“อือ!” ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเขาค่ะ ทั้งปวดท้องไหนจะปวดหัวอีก เพลียไปหมดเลยอยากนอนมากกว่าไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น
เมื่อเห็นฉันเงียบไปพี่เดย์ก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกจนกระทั่งถึงร้าน
“สวัสดีค่ะ เชิญด้านนี้ค่ะลูกค้า” ด้านในเต็มไปด้วยชุดสีขาวครีมสวยละลานตาเต็มไปหมด แต่นั่นมันก็ยังไม่ถูกใจฉันค่ะ
“มีสีอื่นอีกไหมคะ”
“คุณลูกค้าสนใจสีอะไรคะ หรือตรีมงานไว้แบบไหน”
“สีดำค่ะ” ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ใครเป็นคนกำหนดว่าชุดแต่งงานจะต้องเป็นสีขาวครีมเท่านั้น ก็ฉันเป็นผู้หญิงที่ชอบสีดำนี่ งานแต่งตัวเองทั้งทีก็อยากได้แบบที่ใจต้องการบ้าง
“ขอโทษนะคะ ทางร้านเรามีแต่สีกรมเข้มน่ะค่ะแต่ถ้าคุณลูกค้าอยากได้สีดำเดี๋ยวทางเราจะรีบตัดให้ใหม่เลยเพราะยังไม่เคยมีเจ้าสาวคนไหนอยากได้สีนี้มาก่อน”
“ค่ะ ไม่ต้องแบ๊วมากนะคะ เรียบ ๆ ก็พอฉันยังไงก็ได้”
“กระโปรงบานเป็นชั้น ๆ เหมือนกลีบกุหลาบได้ไหมคะ”
“ค่ะ แบบนั้นก็ได้”
“รบกวนรอสักครู่นะคะ ทางเราจะรีบออกแบบแล้วเอามาให้ดูก่อนว่าโอเคหรือเปล่า”
“ค่ะ”
“สีดำจริงดิ” คล้อยหลังพนักงานพี่เดย์ก็เอ่ยถามขึ้นทันที
“อืม พี่ว่าหนูแปลกไหม”
“มาก! กูเห็นผู้หญิงเขาชอบสีชมพูกันทั้งนั้น”
“แต่ไม่ใช่หนู”
“กูต้องใส่สีดำตามสินะ”
“พี่ชอบสีอะไรแบบไหนล่ะคะ เชิญเลือกได้เลย” ฉันว่าพลางผายมือไปทางชุดสทมากมายที่แขวนอยู่
“กูชอบสีแดง ... เอางี้ไหมมึงก็ให้เขาลงรายละเอียดบนชุดเอาสีแดงตัดไปด้วย มันจะได้กลายเป็นโทนดำแดงไง”
“เอาแบบนั้นก็ได้” ตกลงกันเสร็จ ไม่นานพี่พนักงานก็ถือแบบอย่างการวาดชุดมาให้ดูค่ะ
“แบบนี้ได้ไหมคะ คุณลูกค้าพอใจหรือเปล่า”
“ตรงนี้คือกลีบกุหลาบใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ”
“ช่วยเติมสีแดงลงไปด้วยนะคะ โทนดำแดงแบบเรียบง่ายก็พอไม่ต้องหวือหวามาก แล้วก็ทำเป็นเกาะอกค่ะไม่เอาแขนลายลูกไม้แบบนี้”
“เกาะอกนะคะ ตัดลวดลายด้วยสีแดงที่เหลือแก้ตรงไหนเพิ่มไหมคะ”
“ไม่ค่ะ แค่นี้ก็พอ ชุดเจ้าบ่าวก็ด้วยนะคะ ดำแดงเช่นกัน”
“รับทราบค่ะทางเราจะรีบทำให้เร็วที่สุด ไม่เกินสามวันน่าจะทันค่ะ”
“ค่ะ” ไม่ต้องมากพิธีค่ะ เลือกของชำร่วย วัดสัดส่วนอะไรทุกอย่างเสร็จก็จบแล้วสำหรับภารกิจวันนี้
“ไปร้านนะ วันนี้กูนัดลูกค้าไว้”
“ค่ะ”
“มึงดูเหนื่อย ๆ เนอะ”
“ปวดท้อง”
“...”
“หมดรอบเดือนแล้วจะเถียงกับพี่ใหม่นะ”
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกกระทั่งถึงร้าน
“ทำไมคนเยอะล่ะคะ” ฉันถามอย่างแปลกใจเพราะวันนี้รถจอดเยอะมากอย่างกับจะมาปาร์ตี้กันงั้นแหละ มีแต่วัยรุ่นทั้งนั้นเลย
“กูนัดมาเองแหละ มึงเข้าไปรอในห้องนะ”
“ค่ะ”
ลงจากรถยังไม่ทันก้าวไปไหนอยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฉัน
“แฟนพี่เดย์เหรอคะ” เธอไม่ได้ถามฉันหรอกแต่หันไปถามคนข้าง ๆ ฉันต่างหาก
“ไม่ใช่”
“อ๋อ ค่อยโล่งใจหน่อยนึกว่าพี่มีเจ้าของแล้วซะอีก” ฉันไม่ได้สนใจที่จะฟังต่อก่อนจะเดินเลี่ยงพวกเขาเข้ามาด้านในร้าน
“พี่ ๆ สวัสดีค่ะ” ยกมือไหว้ทุกคนตามมารยาท เหมือนวันนี้จะอยู่กันครบนะคะรวมถึงพี่จีมินก็ด้วย
“แล้วไอ้เดย์ล่ะน้องเพลง” พี่กราฟเอ่ย
“อยู่ข้างนอกค่ะ เดี๋ยวคงเข้ามาเองแหละ”
“มาก็ดีแล้ว ช่วยพี่เขียนบิลหน่อยสิ”
“ได้ค่ะ”
“ใครอะพี่ ไม่แนะนำหน่อยเหรอ” ใครบางคนพูดขึ้นก่อนจะหันไปกระเซ้าเย้าแหย่กับพี่แจ็ค
“อยากรู้มึงก็ไปถามไอ้เดย์เองละกัน”
“คงไม่ใช่เด็กพี่เดย์ใช่ปะ เพราะรายนั้นเขารักฝังใจมานานแล้ว” ประโยคเชิงหยอกล้อดังขึ้น ชักอยากรู้แล้วสิว่าเขาฝังใจอะไร
“เสือก!”
“โธ่พี่ ผมแค่ล้อเล่นเอง” พี่เดย์ค่ะหน้ายุ่งมาเชียว
“เข้าไปข้างในได้แล้วจะยืนอีกนานไหม” ประโยคนี้เขาหันมาพูดกับฉัน
“ไม่เห็นเหรอว่าช่วยพี่จีมินอยู่” ฉันเถียงกลับไปบ้าง
“เห็น แต่ไม่ใช่หน้าที่มึงครับ ไหนบอกว่าปวดท้องไง”
“ปวดท้องไม่ได้ปวดมือนี่”
“ไม่เถียงกูสักวันได้ไหม หรืออยู่เงียบ ๆ เหมือนเมื่อกี้ก็ได้”
“...”
“จิ๊! มานี่” ไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกลากเข้ามาในห้องแล้ว
“อะไรของพี่เนี่ย”
“นอนพักซะ เป็นไรขึ้นมาแม่ก็หาว่ากูดูแลมึงไม่ดีอีก”
“โอ้ย! หนูแค่เป็นเมนไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย”
“มึงยังอยากใส่อยู่ไหมชุดเจ้าสาวสีดำน่ะ”
“ทำไม? พี่จะเส้นเลือดในสมองแตกตายก่อนเหรอคะ”
เพียะ!
“ปากเสียเดี๋ยวกูตบปากแตก” ฝ่ามือหนาฟาดลงบริเวณริมฝีปากฉันไม่แรงมากนัก
“ก็นึกว่าเป็นวัยทองซะอีกเห็นอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ”
“เฮ้อ... ผู้หญิงเป็นเมนทำไมเอาใจยากแบบนี้วะ”
“อะไร”
“อะไรกูไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย”
“ได้ยินอยู่แว่ว ๆ จะไม่พูดได้ไง”
“มึงนอนเหอะ กูอยู่ห้องตรงข้ามนะจะสักให้ลูกค้า”
“พี่เป็นช่างสักด้วยเหรอ”
“เออ อยากลองไหมล่ะแต่สำหรับมึงเข็มคงจะใหญ่หน่อย”
“คะ?”
“อยากลองไหม...” สายตาเจ้าเล่ห์ฉายแววออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เขาจะเบนสายตาต่ำลง
“อะ ไอ้พี่เดย์!! ไอ้โรคจิต”
“ฮ่า ๆ กูเปล่านะมึงคิดเองเออเองอยู่คนเดียว” เขาหัวเราะออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
ฉันไม่ได้คิดไปเองนะคะนอกจากจะปากร้ายแล้วยังหื่นกามอีกด้วยมั้ง ให้ตายเถอะนี่ฉันกำลังใช้ชีวิตอยู่กับใครเนี่ย