“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย มีแขกมารอพบเจ้า” “แขก?” ซิ่นฮวามองมารดาอย่างฉงนแล้วย้ายสายตามองไปยังบิดาที่มีสีหน้าเรียบนิ่ง นางพยักหน้ารับเดินไปพร้อมกับจื่อเหยี่ยน หญิงรับใช้รุ่นใหญ่ซึ่งเป็นมารดาของกันอี๋ และเหตุที่นางซุกซนเกินกว่าหญิงรับใช้ทั่วไปจะรับมือไหว มารดาจึงต้องให้ จื่อเหยี่ยนมาคอยดูแลซิ่นฮวาด้วยตนเอง แม้นางซุกซนและเอาแต่ใจ แต่นางก็เป็นคนรู้กาลเทศะอย่างดียิ่ง นางเดินกลับมาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มออก เป็นอาภรณ์สีชมพูงดงามดุจดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำ มีจื่อเหยี่ยนช่วยแต่งทรงผมให้นาง “แขกที่ท่านแม่พูดถึงเป็นผู้ใดกัน” “ไม่ทราบเจ้าค่ะ” “น้าจื่อเหยี่ยนพูดกับข้าธรรมดามิได้หรือ? ที่นี่ก็ไม่มีใครเสียหน่อย” หญิงสาวเบ้ปาก “อย่างไรน้าจื่อเหยี่ยนก็เป็นมารดาของกันอี๋ ข้านับถือเขาเป็นสหาย” จื่อเหยี่ยนหัวเราะน้อยๆ นางรู้ว่าท่านหญิงน้อยของนางมิใคร่ชอบแต่งกายมากด้วยเครื่องประดับ จึงปักป