แอชเชอร์กำลังจะก้าวออกจากห้องนอน แต่พอมองไปเห็นเธอยิ้มกอดจดหมายอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอยิ้มมากที่สุดตั้งแต่พบกัน เขาถึงกับชะงักยืนมองเธอด้วยดวงตาทอประกาย เขาอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มไปกับเธอด้วย หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างน่าประหลาด เขารู้สึกอบอุ่นข้างใน เขาเดินไปหาเธอพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ฉันไม่ได้ล้อเล่นจริง ๆ ตอนที่บอกให้เธอไปชอปปิ้งกับมากาเร็ต”
อิซาเบลล่าหันไปมองเขาแล้วหันหลังให้เขาทันที
เขาดูหล่อขนาดนี้ได้ยังไง! เธอคิดกับตัวเอง เธอส่ายหัวและรวบรวมความคิดของเธอก่อนจะหันกลับมามองเขาอีกครั้ง “ฉันมีชุดที่จะใส่ในโอกาสนั้นแล้วค่ะ” เธอตอบอย่างใจเย็น “มันเป็นงานแค่คืนเดียว การซื้อใหม่มันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ”
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ แอชเชอร์ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
“เบลล่า เธอนึกออกไหมว่าใครจะไปที่นั่นบ้าง” แอชเชอร์ถามเธออย่างใจเย็นขณะนั่งลงที่โซฟา “ผู้อุปถัมภ์พิพิธภัณฑ์นั้น ล้วนเป็นคนที่มาจากสังคมชนชั้นสูง เธอจะได้มีโอกาสพบกับพวกเขา บางทีพวกเขาอาจจะมาเป็นลูกค้าของเธอในอนาคต ฉันแน่ใจว่าจดหมายแจ้งให้เธอทราบเกี่ยวกับการแต่งกาย”
“ใช่ และฉันมีชุดสำหรับงานนี้อยู่แล้ว” เธอตอบ เธอมองเขาด้วยความสงสัย “ทำไม หรือว่าคุณกังวล? ฉันแต่งชุดที่ฉันมีแล้วไม่ได้เหรอ? ถ้าพวกเขาจะไม่ชอบฉัน ฉันก็ไม่สามารถไปบังคับใครได้ และฉันต้องเก็บเงินฉันไม่อยากซื้ออะไรที่มันสิ้นเปลือง”
แอชเชอร์มองเธอด้วยความโกรธ ซึ่งไม่ทำให้เธอแปลกใจเพราะปกติเขาก็โกรธเธออยู่แล้ว
“เบลล่าเธอแต่งงานกับฉัน และฉันรวยมาก”
“แต่คุณเคยด่าฉันว่าฉันหน้าเงิน หลายปีที่แล้วฉันยังจำได้ คุณด่าฉันว่าฉันโทรมาขอเงินคุณแล้วคุณยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันโทรมาอีก จำคำพูดของคุณได้หรือเปล่า?”
แอชเชอร์พูดไม่ออก เขาจำได้ดีว่าเขาตะโกนด่าเธอไปหลายคำ เขาผิดเองที่ไปด่าเธอไว้มากมาย ตอนนี้มันคงฝังอยู่ในหัวของเธอ เขาดูแลภรรยาเขาไม่ได้ ในขณะที่เขาให้เงินรีเบคก้าไปชอปปิ้งเกือบทุกวัน
‘บัดซบ!’ ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ เขามองดูชุดที่เธอใส่ตอนนี้มันไม่ใช่ของแบรนด์เนมชื่อดัง แต่มันก็ดูดีเมื่อมาอยู่บนร่างกายของเธอ ความเรียบง่ายของเธอไม่ได้ทำให้รัศมีของเธอลดน้อยลงเลย เธอใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอดแล้วตอนนี้เขาจะมาบอกให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเอง ภรรยาเขาต้องประหยัดเก็บเงิน เขาอยากรู้ว่าเธอเก็บได้มากแค่ไหนแล้วตอนนี้ มันคงเทียบกับที่เขาโอนให้รีเบคก้าไปช็อปแค่วันเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ
แอชเชอร์หลับตาพยายามตั้งสติระงับอารมณ์ที่กำลังตีกันวุ่นวายไปหมด ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขามองเธอที่กำลังขะมักเขม้นทำงานด้วยความตั้งใจ
“แล้วเธอโอเคกับมันไหม?” เขาถาม “เธอจะปล่อยให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับเธอเหรอ? บอกฉันทีเบลล่าทำไมเธอไม่สู้กับพวกที่แต่งเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายเธอ? ที่พนักงานพวกนั้นในแผนกของเธอรุมรังแกเธอ ทำไมเธอถึงไม่สู้กลับ”
“เพราะนั่นเป็นแค่คำพูด” เธอตอบอย่างตรงไปตรงมา “พวกมันทำร้ายร่างกายฉันไม่ได้ ฉันเจ็บปวดกับคำพูดที่พวกเขาพูดกัน แต่มันไม่ฆ่าฉันหรอก”
“เธอคิดว่าจะทนได้นานขนาดนั้นเลยเหรอ?”
อิซาเบลล่ามองดูเขาอย่างโกรธจัด แต่จู่ ๆ ความทรงจำก็กลับมาหาเธอ ดวงตาของเธออ่อนแสงลง
“ใช่ เพราะนั่นคือสิ่งที่ฉันสัญญากับมัมของฉันไว้” เธอตอบเสียงเบา กำมือแน่นความทรงจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับมัมของเธอกลับมาอีกครั้ง เธอยังคงฝันร้ายถึงตอนนี้เธอไม่สามารถลืมมันได้จริง ๆ ก่อนจะปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างโกรธเคือง “มัมฉันตายเพราะฉัน มีเด็กชายคนหนึ่งในชั้นเรียนว่ายน้ำรังแกฉันตอนฉันอายุสิบขวบ ฉันเบื่อที่เขาคอยพูดตอแยฉัน เขาพูดไม่ดีใส่ตลอดฉัน ดังนั้นฉันจึงตอบโต้ รู้ไหมว่าเขาทำอะไร? เขาผลักฉันลงไปในสระน้ำด้านที่ลึกที่สุด!”
สีหน้าของเธอดูเจ็บปวดก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า
“ตอนนั้นฉันเพิ่งเริ่มหัดเรียน ฉันว่ายน้ำยังไม่เป็น มัมของฉันกระโดดลงไปช่วยฉันทันที มัมว่ายน้ำเป็นแต่เพราะความกังวลหลักของเธอคือฉัน เธอมีอาการหัวใจวายขณะอยู่ในน้ำ ที่คุณกำลังถามฉันว่าทำไมฉันถึงไม่สู้กลับ” อิซาเบลล่าเล่าต่อว่า “เด็กคนนั้นและครอบครัวของเขา พวกเขาจากไปทันที พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับมัมของฉัน”
เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของแอชเชอร์เปลี่ยนไปหลังจากได้ยิน เขาดูตกใจและเสียใจ แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจเลยสักนิด
“ออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว ฉันอยากอยู่คนเดียว” เธอพูดออกมาอย่างไม่สนใจกับท่าทีของเขา ก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องของเธอ พร้อมกับปิดประตูใส่เขา
……
แอชเชอร์เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานในเช้าวันจันทร์ เสียงประตูห้องทำงานของเขาเปิดออก ในขณะที่เขาครุ่นคิดถึงช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เขาเลือกไปนอนที่เพนต์เฮาส์ของตัวเองหลังจากฉลองวาเลนไทน์กับรีเบคก้าแล้ว เธอขอร้องให้เขาอยู่ต่อให้นานขึ้น แต่จิตใจของเขาล่องลอยไปอยู่ที่อื่น และทางเดียวที่เขาจะมั่นใจได้คือต้องรีบจากไป
“นายหญิงเพิ่งมาถึงค่ะ” แคลร์รายงานกับแอชเชอร์ “ฉันพาเธอไปที่ห้องประชุมและบอกเธอให้เตรียมทุกอย่างตามที่ท่านสั่งแล้วค่ะ”
“แคลร์คุณคิดยังไงกับเบลล่า” จู่ ๆ แอชเชอร์ก็ถามขึ้นมา
แคลร์มองเขาด้วยความประหลาดใจแต่ก็รีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ฉันยังบอกไม่ได้จริงๆ ค่ะท่าน” เธอตอบตรงไปตรงมา
“แต่เท่าที่เห็นและได้ยินมา ฉันคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก เธอไม่เคยปล่อยให้คำพูดหรือการกระทำเหล่านั้นขัดขวางเป้าหมายของเธอได้ เธอเป็นคนที่ตั้งใจและมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากค่ะ”
แอชเชอร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มขณะที่เขายืนขึ้น
“ขอบคุณ” เขาพูดอย่างมีความหมาย “เจอกันที่ห้องประชุมครับ”
เขาออกจากห้องทำงานแล้วไปที่ห้องประชุมตรงข้ามห้องส่วนตัวของเขา
เขาเห็นอิซาเบลล่าวางเอกสารแบบไว้ที่ปลายโต๊ะข้างหนึ่ง ขณะที่เธอวางแล็ปท็อปไว้ที่โต๊ะหนึ่งด้านข้างเพื่อเชื่อมต่อกับโปรเจ็กเตอร์ เธอดูสดใสขึ้นเหมือนเธอได้พักผ่อนเต็มที่ แต่มีบางอย่างในออร่าของเธอ ทำให้เขานึกถึงเรื่องที่เธอเปิดเผยให้เขาฟังเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา