“นี่เป็นบ้านพักของนายอำเภอศรัณค่ะ เชิญน้องอิงเก็บข้าวของและพักผ่อนตามสบายเลยนะคะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกพี่ได้ตลอดเวลา เพราะบ้านพักของพี่อยู่ถัดจากบ้านนายไปไม่กี่ก้าวนี้เองค่ะ”
พรสุดาบอกกับอิงครัตขณะที่ไขประตูบ้านพักแล้วช่วยลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาไว้กลางห้องโถงพร้อมเอากุญแจสำรองไว้ให้ โดยเลือกที่จะไม่ช่วยย้ายข้าวของเข้าไปไว้ด้านในห้องนอน เพราะไม่แน่ใจว่านายอำเภอหนุ่มกับว่าที่คุณนายตกลงจะพักห้องเดียวกัน หรือว่าแยกห้องนอนกัน แต่ครั้งจะถามตรงๆ ก็เกรงว่าจะเสียมารยาท เลยเลือกที่จะไม่ถามดีกว่า
“ขอบคุณค่ะพี่พรสุดา”
อิงครัตขอบคุณด้วยเสียงหวาน พร้อมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างต้องการสร้างมิตร
“อันที่จริงเรียกพี่ว่าพี่พรเฉยๆ ก็ได้นะคะน้องอิง ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มเหมือนที่นายอำเภอเรียกก็ได้ค่ะ”
“ค่ะพี่พร”
สาวน้อยรับคำอย่างว่าง่าย ขณะที่มองเลขาสาวร่างอวบ ด้วยความรู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น แม้จะเพิ่งเจอกันแต่เธอก็กลับรู้สึกถูกชะตาราวกับรู้จักกันมานาน
“เมื่อวานพี่ได้ซื้ออาหารสด และอาหารแห้งตุนไว้ให้ในครัวแล้ว ยังไงน้องอิงลองดูเอาเองแล้วกันนะคะว่าจะทำเมนูอะไร แต่ถ้าน้องอิงเหนื่อยจากการเดินทาง หรือทำไม่ไหว หลังจากที่พี่ไปรับลูกกลับมาจากโรงเรียนจะมาช่วยทำก็แล้วกันนะคะ”
พรสุดาบอกอย่างคนมีน้ำใจ แต่กลับทำให้คนฟังต้องเลิกคิ้วขึ้นสูง
“พี่พรมีลูกแล้วเหรอคะ”
“ลูกสองแล้วค่ะ คนหนึ่งเรียนอยู่ปอหนึ่ง ส่วนอีกคนเรียนอยู่ปอสาม ชายล้วนค่ะ”
‘นายอำเภอใช้งานลูกน้องหนักเกินไปหรือเปล่าเนี่ย!’
สาวน้อยพึมพำถามตัวเอง เมื่อนึกถึงหน้าที่รับผิดชอบของเลขาหน้าห้อง ถึงเธอจะยังไม่เคยมีลูกแต่ก็เชื่อว่าภาระของแม่คนหนึ่งก็หนักหนามากแล้ว และนี่ยังจะต้องมาเคยดูแลเสื้อผ้า อาหาร ความสะอาดให้กับบ้านนายอำเภออีก แล้วแบบนี้เธอจะเอาเวลาที่ไหนพัก
“อิงขอบคุณพี่พรอีกครั้งนะคะ แต่เรื่องอาหารอิงจัดการเองได้ค่ะ หวังว่า…นายอำเภอเขาจะไม่เรื่องมากนะคะ”
สาวน้อยบอกด้วยความเกรงอกเกรงใจ แต่ประโยคหลังนี้เหมือนเธอจะพึมพำกับตัวเองมากกว่า ทว่าก็ดังพอที่อีกฝ่ายจะได้ยิน เลยช่วยตอบให้
“นายอำเภอทานง่าย อยู่ง่ายค่ะ ไม่ถือตัว ไม่เรื่องมาก บางวันต้องลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกล นายพกแค่น้ำพริกน้ำปลาก็เอาอยู่แล้วค่ะ”
สาวน้อยพยักหน้ารับทราบด้วยความรู้สึกทึ้งในตัวคู่หมั้นหนุ่มไม่น้อย ไม่น่าเชื่อว่าลูกผู้ดี ตระกูลใหญ่ แถมยังร่ำรวยมหาศาลจะมีชีวิตเรียบง่ายติดดินอยู่บนเส้นทางข้าราชการที่แสนจะลำบากในถิ่นธุรกันดารแบบนี้ได้ และนั่นก็ทำให้เธอรู้จักเขามากขึ้นในอีกด้านหนึ่ง
แต่ก็ยังมีอีกเรื่องที่เธออยากรู้เกี่ยวกับเขา ไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลย และเธอก็ไม่ลังเลที่จะถามเมื่อมีโอกาสอยู่กับเลขาของเขาตามลำพัง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ก็ตามที
“พี่พรคะ”
“ว่าไงคะน้องอิง”
“นายอำเภอเขามีคุณนายเล็ก คุณนายน้อยบ้างหรือเปล่าคะ”
พรสุดาขานรับด้วยเสียงหวาน แต่เมื่อได้ยินคำถามของอีกฝ่าย ก็แทบจะสำลักน้ำลายตัวเองด้วยความตกใจปนคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะยิงคำถามตรงประเด็น โดยไม่คิดจะอ้อมค้อมให้เสียเวลาแบบนี้
“น้องอิง…ทำไมน้องอิงถามแบบนั้นละคะ”
เห็นพรสุดาทำตาโตด้วยความตกใจ อิงครัตก็เข้าใจว่าคำถามของตัวเองไปจี้ใจดำอีกฝ่ายเข้า แต่กระนั้นก็ยิ้มเจื่อนส่งให้ก่อนจะเอ่ย
“เอ่อ…พอดีอิงเคยได้ยินมาว่า เมื่อถึงจุดที่ได้เป็นใหญ่เป็นโตในหน้าที่การงาน ก็มักจะมีคนมาประเคนสาวๆ สวยๆ ให้ดูแล อิงก็แค่อยากรู้ค่ะว่านายอำเภอศรัณเคยรับดูแลสาวๆ คนไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”
“คนที่หวังผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ของนายเท่านั้นแหละค่ะถึงจะมาประเคนสาวให้ แต่สำหรับนายอำเภอศรัทแล้วไม่มีเรื่องพวกนี้หรอก เพราะตั้งแต่ได้ร่วมงานกันมานายไม่เคยมีเรื่องชู้สาวหรือหาผลประโยชน์เข้าตัว มีแต่จะทุ่มเทและตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถจนกลายเป็นที่รักของชาวบ้านอำเภอผาตะวันเหมือนทุกวันนี้ยังไงละคะ”
“เท่าที่ฟังดู นายอำเภอศรัณเหมือนจะเป็นคนดีเลยนะคะ”
เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของคนบอกเล่า ที่ฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลา อิงครัตก็อดหมั่นไส้เจ้าของหัวข้อบทสนทนาไม่ได้
“ไม่ใช่แค่ดีอย่างเดียวนะค่ะ แต่ดีมากเลยต่างหาก และที่สำคัญหล่อวัวตายควายล้มด้วยค่ะ”
น้ำเสียงชื่นชมของเลขาสาวเต็มไปด้วยความหนักแน่นจริงใจ โดยเฉพาะประโยคท้าย ซึ่งอันนี้อิงครัตเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
“ขอบคุณที่ช่วยตอบคำถามของอิงนะคะ ข้อมูลที่พี่พรเล่ามาทำให้อิงได้รู้จักกับนายอำเภอเพิ่มมากขึ้น และอิงก็เชื่อค่ะว่านายอำเภอเป็นที่รักของทุกคนจริง”
อิงครัตกล่าวขอบคุณและบอกกับอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่ออกมาจากข้างในอย่างไม่คิดแสแสร้างแกล้งทำ ซึ่งพรสุดาก็พยักหน้า ก่อนจะเอ่ยถาม
“น้องอิงมีอะไรจะถามพี่อีกไหมคะ”
“ไม่มีแล้วค่ะ อิงรบกวนเวลาของพี่พรเท่านี้ก่อน พี่พรไปรับลูกเถอะค่ะ”
“แล้วน้องอิงแน่ใจนะคะว่าอาหารเย็นวันนี้จะไม่ให้พี่ช่วย”
“แน่ใจค่ะ ไว้อิงจัดการเอง ขอบคุณพี่พรมากนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ เชิญน้องอิงพักผ่อนตามสบายเลย” พรสุดาบอกกับสาวน้อย จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกจากประตูไป
อิงครัตรอกระทั่งร่างอวบของเลขาสาวพ้นประตูไป เธอจึงพ่นลมหายใจอย่างหนักหน่วงออกมา แล้วก็ทรุดนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องโถงด้วยความรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
เพราะถ้าสิ่งที่พรสุดาเล่าเป็นความจริงก็แสดงว่านายอำเภอไม่ได้แอบมีผู้หญิงซุกไว้ ฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องทำต่อไปคือการศึกษานิสัยใจคอของเขาต่อด้วยตัวเอง
…………………………………………………..