อารมณ์ที่เก็บกดมานาน
ระหว่างทางขับรถกลับบ้าน เสี่ยเวทินคว้ามือของพราวเดือนมากุม หญิงสาวที่ยังขับรถอยู่ไม่ชักมือกลับ มือของเสี่ยเวทินกลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
อาจเป็นเพราะ ระยะเวลาที่ผ่านมา ถ้าหากจะนับตั้งแต่วาทิตหอบเสื้อผ้าออกจากบ้าน เธอกับเสี่ยเวทินค่อนข้างใกล้ชิดกัน ต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ แต่ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
ตั้งแต่เธอเคยใช้มือช่วยให้เขาเสร็จสม นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ยังไม่มีครั้งต่อมา
พราวเดือนแทบจะลืมไปแล้วละว่าเธอรู้สึกเสียใจอย่างไรกับเรื่องของวาทิต เขาไม่เคยมีบทบาทอะไรเลย นับตั้งแต่ธุรกิจของครอบครัวเริ่มมีปัญหา หนำซ้ำยังมาทำนิสัยแบบนี้อีก เธอจึงไม่เหลือศรัทธาใด ๆ
ต่างจากเสี่ยเวทินอย่างสิ้นเชิง
ไม่แปลกอะไร ถ้าหากเธอจะมีใจกับเสี่ยเวทิน ผู้ยังมีสถานะเป็นพ่อผัวของเธอ มันช่วยไม่ได้จริง ๆ
“หนู จะว่าอะไรพ่อไหม ถ้าพ่อจะ...”
“อะไรคะคุณพ่อ”
“พ่อจะหื่นกับหนู”
พราวเดือนถึงกับหัวเราะออกมา พอจะอ่านออกว่าเสี่ยเวทินกำลังรู้สึกอย่างไร ยิ่งระยะหลังร่างกายของเขาเข้าที่เข้าทาง แข็งแรงออกขนาดนี้ มีหรือจะไม่มีอารมณ์ทางเพศ มันคือสัญลักษณ์ของผู้ชายผู้พร้อมจะบุกฝ่าพันกับปัญหาอุปสรรค
“ไม่ว่าหรอกค่ะ”
“จริงอ่ะ จริง ๆ นะ”
“ค่า”
พราวเดือนลากเสียงน่ารัก เมื่อได้รับอนุญาตแบบนี้แล้ว เสี่ยเวทินก็ดึงมือของหญิงสาวเลื่อนมาที่หน้าขาของตัวเอง
แกนกายของเขากำลังตื่นตัว
พราวเดือนหน้าแดง อารมณ์หวั่นไหวปั่นป่วนเช่นเดียวกัน เพราะรู้ดีว่าแกนกายของพ่อผัวอลังการแค่ไหน
หัวใจเต้นรัวผิดจังหวะ เช่นเดียวกับลมหายใจ
เสี่ยเวทินรูดซิบกางเกงออก แล้วปล่อยให้ความใหญ่โตออกมาสูดอากาศภายนอก เวลานี้ไม่เหลือคำพูดใด ๆ ระหว่างกัน นอกจากเสียงลมหายใจ
พราวเดือนใช้มือข้างที่เหลือจากพวงมาลัย ชักแท่งเนื้อของเสี่ยเวทิน สายตายังสนใจอยู่กับการจราจรบนถนนก็จริง แต่หัวใจเต้นรัว ความรู้สึกปั่นป่วนไปหมด
น้ำเสียงของเสี่ยเวทินเวลานี้ หลุดออกมาอย่างเหลืออด
“ซู้ดดดด”
พราวเดือนยังไม่เคยเห็นผู้ชายที่ไหนจะมีอารมณ์หื่นกระหายเหมือนอย่างที่พ่อผัวของเธอกำลังเป็นอยู่
ไม่ใช่ไม่ดี
ความหื่นบ่งบอกถึงพลังชีวิตที่ยังมีเหลือล้น เพียงไม่นานนัก เสี่ยเวทินก็ซอยแท่งกับเรียวมือนุ่มของพราวเดือน มันเป็นอารมณ์ปรารถนาที่เร่าร้อนคุโชนชนิดที่พราวเดือนไม่เคยเห็นใครเป็นแบบนี้มาก่อน แม้แต่วาทิตผู้เป็นสามี