ลาวาอุ่น ๆ ทะลักออกมาอีกครั้งหนึ่ง
เสียงของเสี่ยเวทินที่เล็ดลอดออกมาแทบจะไม่เป็นภาษา
“ขอบคุณหนูมาก” เสี่ยเวทินโน้มเข้ามาหอมแก้มหญิงสาว แล้วรถก็เคลื่อนตัวไปอีกจนกระทั่งถึงบ้าน
รถจอดสนิท ลงจากรถทั้งสองคน
“เหนียวตัวจังค่ะคุณพ่อ หนูอยากอาบน้ำ”
“พ่ออาบด้วยได้ไหม”
“จัดไปสิคะ” หญิงสาวตอบอย่างนึกสนุก
นานแล้วสินะที่ห่างเหินกับเรื่องแบบนี้ ความเคร่งเครียดทั้งหมดเหมือนกองสุมรวมอยู่ในหัวใจของหญิงสาวตั้งแต่เกิดวิกฤติของบ้าน
เรื่องราวมากมายถาโถมเข้ามาในชีวิตเสียจนบางครั้งอยากจะปลีกตัวจากไป ทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลังเหมือนอย่างที่พวกลูกชายของบ้านนี้ทำ แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็เลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น
เวลานี้ จะทำอะไรตามใจความปรารถนาเบื้องลึกบ้าง ใครจะว่าอะไร เธอก็อยู่ในขั้นที่จะไม่เสียเวลาต้องไปนั่งแคร์
จูบเบา ๆ ของเสี่ยเวทิน ปลุกเร้าความปรารถนาที่ซ่อนเร้นอัดแน่นเต็มหัวใจของหญิงสาวให้ลุกโพลง
เมื่อออกจากรถ ยังไม่ทันจะขยับก้าวด้วยซ้ำ เสี่ยเวทินเดินอ้อมมากอดแล้วรุนร่างของพราวเดือนจนแผ่นหลังแนบกับตัวรถ
ไม่มีคำพูดใด ๆ อีกแล้ว
เขาประกบกลีบปากรูปกระจับของเธอ ความหิวกระหายในเชิงกามของเสี่ยเวทินสามารถปลุกเร้าความต้องการของพราวเดือนให้ลุกโชนตาม
ไหล่กลมมนถูกคลึง ขณะที่มือของเธอล้วงเข้าหาแกนกายของเขา เธอรูดซิบแล้วปล่อยให้มันออกมาข้างนอกอีกครั้ง
“อู้ คุณพ่อ ทำไมยังแข็งแรงอยู่งี้ล่ะคะ”
“พ่อต้องการหนูนี่”
“คุณวาทิตไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย”
“อย่าพูดถึงเขาเลย ตอนนี้เขาคงมีความสุขอยู่นะ”
“จริงค่ะคุณพ่อ เค้าไม่สนใจหนูเลย”
อารมณ์ของหญิงสาวร้อนแรงขึ้นมาอย่างประหลาด ไม่หรอก ความจริง เธอเองก็จัดได้ว่าเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยพลังรักไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่าใคร เพียงแต่ระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้
เพราะว่าภาระที่ถาโถมเข้ามา และทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ของเธอโดยตรง
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องนั้นมันกำลังจะผ่านไปด้วยดี ถึงตอนนี้ มันน่าจะถึงเวลาของเธอบ้างแล้ว ผู้ชายที่กำลังจูบเธออย่างเร่าร้อน และเธอสนองตอบให้กับเขา