ดวงตาคมกริบรียาวดุจตาของพญานกอินทรีเต็มไปด้วยความเลือดเย็น จนคนถูกมองอย่างหล่อนสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่กระนั้นก็พยายามซ่อนเร้นความหวาดหวั่นเอาไว้ให้ลึกที่สุด
“ฉันชอบค่ะ คนเถื่อนๆ เซ็กซ์น่าจะดุเด็ดเผ็ดมันส์ดี”
“มาริสา!”
มาฮัดโมโห แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“เอาเป็นว่าฉันจะลองคิดทบทวนดูนะคะ แล้วจะส่งข่าวไปบอก”
หล่อนพูดจบก็หมุนตัวเดินหนีขึ้นบ้าน และครั้งนี้แขนของหล่อนไม่ถูกคว้าเอาไว้อีกแล้ว
เจ้าชายอัฟฟานมองสตรีที่เดินฮัมเพลงขึ้นบันไดไม้ไปอย่างอารมณ์ดีด้วยความโมโห เขากัดฟันแน่น ดวงตาลุกเป็นไฟ
“เราเกลียดผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน”
“ถ้านางไม่ยอมล่ะพ่ะย่ะค่ะ”
กรามแกร่งของเจ้าชายอัฟฟานขบกันแน่นจนแทบแหลกละเอียด
“นางก็จะต้องตกนรกขุมที่ลึกที่สุดยังไงล่ะ มาฮัด”
เจ้าชายผู้สูงศักดิ์เค้นเสียงเดือดดาลออกมา ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่หน้ารั้ว
มาฮัดรีบวิ่งตามไป และเปิดประตูรถให้
“เชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย”
อัฟฟานจับบานประตูรถเอาไว้ ก่อนจะหันกลับมามองบ้านหลังเล็กด้วยสายตาดุดัน แต่กระนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก นอกจากก้าวหายเข้าไปในรถ
มาฮัดปิดประตูรถให้อย่างสุภาพก่อนจะรีบขึ้นรถตามติดไป
“กระหม่อมไม่เข้าใจว่าทำไมนางจะต้องบอกว่าจำกระหม่อมไม่ได้ด้วย”
เจ้าชายอัฟฟานเบ้ปากอย่างรังเกียจ “ผู้หญิงเจ้ามารยาก็มักจะปฏิเสธเรื่องเน่าๆ ของตัวเองทั้งนั้นแหละ มาฮัด”
“กระหม่อม...”
“ไม่ต้องพูดแล้ว กลับโรงแรมเถอะ”
“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย”
รถหรูที่ทั้งคันทำด้วยวัสดุที่กันกระสุนวิ่งออกไปจากบ้านไม้หลังกะทัดรัดในที่สุด
อาริตาก้าวออกมาจากห้องนอน หลังจากที่รู้ว่ารถของเจ้าชายเถื่อนพระองค์นั้นขับออกไปแล้ว
หล่อนยืนเกาะขอบระเบียง และยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจเป็นที่สุด
“ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าบ่าวของพี่แมรี่จะหล่อขนาดนี้ หล่อราวกับไม่ใช่คนจริงๆ”
หล่อนพึมพำอย่างตื่นเต้นไม่หาย ขณะนึกถึงคำพูดของคนพวกนั้น
“แล้วนี่เราจะทำยังไงดี ยกเลิกงานแต่งตามที่เจ้าชายบ้านั่นต้องการดีกว่า เรื่องจะได้จบๆ ไป แล้วเราก็จะไม่ต้องปลอมเป็นพี่แมรี่ด้วยไงล่ะ”
รอยยิ้มดีใจผุดบนใบหน้าหวานมากมาย แต่ไม่นานมันก็จางลงไป เมื่อมองเห็นเบอร์โทรของดาริกาโชว์อยู่ที่หน้าจอของโทรศัพท์มือถือ
“สาธุ ขอให้น้าดา กับน้าศักดิ์เห็นด้วยกับความคิดนี้ด้วยเถอะ”
หล่อนยกมือขึ้นท่วมหัว ก่อนจะกดรับสายเรียกเข้าจากดาริกา
“น้าดามีอะไรกับริต้าเหรอคะ”
“ขัดเนื้อขัดตัวไปถึงไหนแล้วล่ะริต้า” นี่คือประโยคแรกจากดาริกาเลยทีเดียว
“ยังไม่ได้ทำเลยน้าดา”
“จะบ้าหรือไง จะถึงวันแต่งงานอยู่แล้วนะ ยายริต้า เดี๋ยวผิวกระดำกระด่าง เจ้าชายก็ไล่ออกจากห้องหอไม่ทันหรอก”
“เอ่อ...”
แม้จะรู้ดีว่าไม่ควรพูดคุยทางโทรศัพท์ แต่อาริตาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“น้าดาคะ ริต้ามีเรื่องจะบอก”
“อะไรอีกล่ะ แต่ถ้าจะบอกว่าไม่แต่งงานน่ะ ฉันไม่รับฟังหรอกนะ”
“เอ่อ... คือ...”
หญิงสาวพยายามหาวิธีเรียบเรียงคำพูดที่จะทำให้ดาริกาเข้าใจได้ง่ายที่สุด
“คือเมื่อกี้เจ้าชายอัฟฟานเดินทางมาที่บ้านของเราค่ะ”
แทนที่ดาริกาจะเชื่อกลับหัวเราะร่วนทำเป็นเรื่องขบขันซะอย่างนั้น
“แกจะบ้าหรือไง เจ้าชายอัฟฟานจะมาทำไมกัน ในเมื่ออีกไม่นานก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว”
“แต่ริต้าไม่ได้โกหกนะน้าดา เจ้าชายนั่นมาจริงๆ”
“แกอย่ามาหลอกน้าหน่อยเลย แกคิดเหรอว่าถ้าเจ้าชายมาจริงๆ แล้วจะไม่มีขบวนเสด็จมาต้อนรับน่ะ ฉันว่าแกคงนอนฝันไปมากกว่า”
“ริต้าไม่ได้ฝันนะน้าดา”
“ถ้าไม่ได้ฝัน งั้นก็คงถูกสิบแปดมงกุฎหลอกแล้วล่ะ”
“ถูกหลอกเหรอคะ?”
“ก็ใช่น่ะสิ มันคงเห็นว่าแกอยู่บ้านคนเดียว เลยจะเข้าไปขโมยของล่ะมั้ง”
“แต่สองคนนั้นไม่ได้ขโมยอะไรเลยนะคะ แถมยังบอกกับริต้าว่าให้ล้มเลิกงานแต่งงานซะด้วยนะคะ”
“ถ้าไม่ได้ถูกหลอก แกก็เจอคนบ้าเข้านั่นแหละริต้า”
“คนบ้า...? คนบ้าอะไรคะ มาทีละสองคนเลย”
“ก็คงหลุดออกมาจากโรงพยาบาลศรีธัญญาพร้อมกันล่ะมั้ง”
จากที่เคยเชื่อสนิทใจ แต่ตอนนี้ชักจะลังเลขึ้นมาเสียแล้ว เพราะคำพูดของดาริกานั่นแหละ
“แต่สองคนนั้นไม่เหมือนคนบ้าเลยนะคะ พูดรู้เรื่องกว่าริต้าอีก”
“โอ๊ย... นี่ยายริต้า จะมีคนบ้าที่ไหนมันมาร้องบอกคนอื่นว่าตัวเองบ้ากันล่ะ แกน่ะมันโง่ ถูกคนบ้าหลอกยังไม่รู้ตัวอีก”
“แต่ริต้าว่า..”
“นี่อย่าไปเล่าให้ใครฟังเชียวนะ เดี๋ยวคนอื่นจะหัวเราะเยาะ หาว่าแกบ้ากว่าคนบ้าอีก ริต้า”
น้าสะใภ้ของหล่อนหัวเราะร่วนขบขัน และบอกให้รู้ว่าไม่เชื่อคำพูดของหล่อนจริงๆ
“แต่น้าดาคะ ริต้าว่า... เราควรจะยกเลิก...”
“หุบปากไปเลยริต้า ถ้าไม่อยากให้น้าศักดิ์ของแกฆ่าตัวตายอีก”
“แต่ว่า...”
“ที่ฉันโทรหานี่ ก็แค่จะบอกแกว่าฉันจองคอร์สขัดผิวเอาไว้ให้แกแล้ว ที่ร้านนังศรีปากซอยน่ะ ให้แกไปใช้บริการมันได้เลย นังศรีมันทำอะไร ทำดี อ้อ แล้วแวกซ์ตรงนั้นเสียด้วยนะ เพราะผู้ชายอาหรับไม่ชอบขนของผู้หญิง”
น้าสะใภ้ของหล่อนพูดเป็นตุเป็นตะ ในขณะที่หล่อนกำลังมึนงง
“อ้อ อีกเรื่องหนึ่ง ไม่ต้องมาเยี่ยมน้าศักดิ์หรอกนะ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่บ้านนั่นแหละ คนที่ใกล้จะได้เป็นเจ้าสาวเขาไม่ให้ออกจากบ้านไกลๆ เดี๋ยวจะเป็นแบบยายแมรี่”
แล้วดาริกาก็วางสายไปในทันที หลังจากพูดจบ ไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้โต้ตอบเลยแม้แต่น้อย
“น้าดา... น้าดาคะ...” หล่อนร้องเรียกไปตามสาย “โธ่ ตัดสายไปแล้ว”
“แล้วนี่ตกลง สองคนนั้นเป็นคนบ้าหรอกเหรอ”
หญิงสาวยกมือขึ้นเกาศีรษะหลายครั้ง ความสับสน ความมึนงง ทำให้หล่อนต้องทรุดตัวลงนั่งกับพื้น และขบคิดต่อไปเงียบๆ