“แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย ตบมือข้างเดียวมันดังที่ไหนกันล่ะ ถ้าฉันทำคนเดียว เซ็กซ์มันจะเกิดขึ้นหรือเปล่า ยังไงซะ ฉันก็ไม่ยอมรับผิดคนเดียวหรอก”
เจ้าชายอัฟฟานหรี่ตาแคบมองสตรีเจ้าเล่ห์ “เอาล่ะ ที่ฉันเดินทางมาหาเธอในวันนี้ ไม่ใช่เพื่อจะมาต่อว่าเกี่ยวกับเซ็กซ์สำส่อนของเธอ”
“ฉันไม่ได้สำส่อนสักหน่อย!”
เขาระบายยิ้มเหยียดหยาม ตวัดตามองหล่อนอย่างดูแคลน
“ถ้าการควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้าไม่เรียกว่าสำส่อน แล้วอะไรล่ะถึงจะเรียกว่าสำส่อนได้”
“นี่คุณ... คุณไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาฉันแบบนี้นะ”
“ห้ามจ้องหน้าเจ้าชายแบบนั้น ไม่งั้นเธอจะได้รับโทษ มาริสา”
มาฮัดรีบกางปีกปกห้องเจ้าชายอัฟฟานในทันที เมื่อเห็นหญิงสาวจ้องมองหน้าตาขุ่น
“ช่างเถอะมาฮัด”
เขาหันไปสั่งลูกน้องให้หยุด และหันมาจ้องหน้าหล่อนอีกครั้ง
“ฉันมีเรื่องจะตกลงกับเธอ มาริสา”
“ฉันไม่มีอารมณ์จะตกลงอะไรกับเจ้าชายบ้าเลือดแบบคุณหรอกค่ะ ออกไปจากบ้านของฉันได้แล้ว”
“ไม่ จนกว่าเราจะคุยกับรู้เรื่อง”
เขาคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้ เมื่อหล่อนจะเดินหนี ไอร้อนจากฝ่ามือใหญ่ทำให้ร่างกายของหล่อนสะท้านอย่างรุนแรง หล่อนหันมาหาเขา และมองเขาด้วยความตกใจ
ทำไมเขามีอิทธิพลกับหล่อนขนาดนี้นะ บ้าจัง!
“ปล่อยมือฉัน”
หล่อนเค้นเสียงบอก และตั้งท่าจะสะบัดแขน แต่เขาปล่อยออกเสียก่อน
“เชิญนั่ง แล้วคุยกัน”
“ฉันจะยืน”
“ห้ามยืนค้ำพระเศียรของเจ้าชาย” มาฮัดรีบแย้งทันที แต่เจ้าชายอัฟฟานยกมือบอกให้หยุด จากนั้นหนุ่มสูงศักดิ์ก็หันมาจ้องหน้าหล่อน
“เอาที่สะดวกสบายเถอะ”
หล่อนเชิดหน้าสูง ยกมือขึ้นกอดอก ด้วยท่าทางไม่เกรงกลัวแม้แต่นิดเดียว
“เธอพร้อมจะฟังเรื่องที่ฉันจะพูดหรือยัง มาริสา”
“พร้อม พูดมาสิ”
หล่อนเห็นริมฝีปากหยักสวยของเขาคลี่ออกจากกันเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะพูดออกมา
“ฉันไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ”
วินาทีแรกที่ได้ยินหล่อนชะงักค้าง แต่วินาทีต่อมากลับไม่อาจจะยืนนิ่งเฉยเอาไว้ได้
“นี่คุณมีสิทธิ์ปฏิเสธฉันด้วยเหรอคะ คุณเจ้าชายแดนเถื่อน”
“มาริสา ห้ามใช้วาจาหยาบคายกับเจ้าชายอัฟฟานเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นลิ้นของเธอจะมีปัญหาใหญ่” มาฮัดตะโกนบอกอย่างโมโห
“ช่างเถอะ มาฮัด ผู้หญิงคนนี้เป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่ได้รับการอบรมมารยาทมาก่อน ถือสาไปก็หนักเปล่าๆ”
นี่เขาหลอกด่าหล่อนอย่างนั้นเหรอ
“นี่คุณ... ด่าฉันว่าไม่มีมารยาทอย่างนั้นเหรอ ไอ้เจ้าชายบ้า”
“ฉันไม่ได้เอ่ยชื่อเธอสักหน่อย แต่ถ้าอยากรับก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ”
เขาพูดแล้วก็หัวเราะอย่างพึงพอใจ ในขณะที่หล่อนโกรธจนต้องกระทืบเท้าเลยทีเดียว
“เชิญกลับไปได้แล้ว ฉันจะขึ้นบ้าน”
“ไม่ จนกว่าเธอจะตอบตกลงกับสิ่งที่ฉันต้องการ”
เพราะหมั่นไส้ทำให้หล่อนทำหน้าย่นใส่ และปฏิเสธเสียงดังลั่น
“ฝันไปเถอะว่าฉันจะยกเลิกงานแต่งงาน ฉันจะแต่ง... จะต้องเป็นเมียคุณให้ได้เลย เจ้าชายที่รัก”
แล้วหล่อนก็แสร้งเดินเข้ามาหา มาฮัดรีบเอาตัวมาบังเอาไว้
“ถอยออกไป ห้ามเข้าใกล้องค์ชายเด็ดขาด”
หล่อนแกล้งหัวเราะ
“ตอนนี้เข้าใกล้ไม่ได้ แต่คืนวันแต่งงานของเรา... คงจะ...”
แล้วหล่อนก็ทำเป็นเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างมาประกบกัน แล้วหัวเราะคิกคัก
“ผู้หญิงประสาท”
เจ้าชายอัฟฟานสบถออกมา
“ประสาทแล้วไงคะ เพราะถึงยังไงก็ได้เป็นพระชายาอยู่ดี”
“นี่คุณมาริสา คุณจะไม่มีวันได้แต่งงานกับองค์ชาย เพราะที่องค์ชายเสด็จมาที่นี่ก็เพื่อจะเอาเงินมามอบให้กับคุณ รับไว้ซะ แล้วยกเลิกงานแต่งงาน”
“เงินน่ะใช้ฟาดหัวฉันไม่ได้หรอกค่ะ” หล่อนแกล้งทำเป็นไม่สนใจ
“เธอต้องการเท่าไหร่ มาริสา”
“ทั้งหมดของเจ้าชายไงเพคะ”
ยิ่งเห็นหน้าบูดๆ ของเขาแล้วหล่อนก็ยิ่งชอบใจ ยั่วขึ้นง่ายแบบนี้ จะแกล้งเสียให้เข็ด มีอย่างที่ไหนบุกรุกเข้ามาในบ้านของหล่อน แถมยังมาข่มขู่บ้าบออีก
“เธอ...”
“เพคะ องค์ชาย”
ใบหน้าทะเล้นของผู้หญิงตรงหน้าทำให้เจ้าชายอัฟฟานต้องลุกขึ้นยืนด้วยความฉุนเฉียว
“โทรบอกฉันได้ทุกเวลาว่าต้องการเงินเท่าไหร่ เพื่อแลกกับอิสรภาพของฉัน”
โธ่ พ่อเจ้าประคุณ คงกำลังขัดออกขัดใจมากเลยสินะ ถึงได้โกรธหน้าดำหน้าแดงแบบนี้
“ร้อยล้านมั้งคะ”
“มาริสา”
“เพคะ องค์ชาย”
ยิ่งเห็นเขาโกรธเกรี้ยวมากเท่าไหร่ หล่อนก็ยิ่งชอบใจ หัวเราะไม่หยุด
“โอเค ทิ้งเบอร์โทรเอาไว้ก็แล้วกันนะ ฉันคำนวณยอดเงินที่ต้องการได้เมื่อไหร่จะติดต่อไปเอง”
หล่อนหมุนตัวจะเดินหนี แต่เขาคว้าแขนเอาไว้ และกระชากเข้าหา
“อุ๊ย...”
หล่อนอุทานตกใจเมื่อร่างของหล่อนปะทะเข้ากับเรือนร่างกำยำของเจ้าชายอัฟฟาน
กลิ่นหอมแบบบุรุษพุ่งเข้ามากระแทกจมูกเต็มแรง และมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกร้อนรุ่มแปลกประหลาด หล่อนเผยอปาก จ้องหน้าเขาด้วยความตะลึง ก่อนจะรู้สึกตัวเมื่อถูกเขาผลักออกห่าง
“ก็ได้ แต่ฉันต้องการคำตอบไม่เกินวันศุกร์นี้”
“เอ่อ...”
หล่อนยังคงอึกอัก เพราะความหล่อเหลาของเขาทำให้หัวใจสาวเต้นแรง
“แต่จะบอกอะไรให้สักอย่างนะ มาริสา”
เขายิ้มเลือดเย็นให้กับหล่อน
“รับเงินจากฉันไปสักสี่ห้าล้าน ยังดีเสียกว่าตัดสินใจแต่งงานกับฉัน”
“เพราะ... เพราะอะไรคะ”
“เพราะว่าฉันเป็นเจ้าชายเถื่อนยังไงล่ะ”