Chapter 6 - แยกย้าย
วันสอบสุดท้าย...
ทุกคนในห้องต่างเข้ามาล่ำลาธันย์ ส่วนฉันได้แต่ยืนมองเงียบ ๆ เพราะความรู้สึกมันนอยด์จนบอกไม่ถูก หรือเพราะว่าบางทีนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ที่เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้
“ครีม สอบเสร็จอย่าเพิ่งกลับบ้านนะ รอกูแป๊บ”
“ไหนว่าแม่นายจะให้คนเอารถมารับไปกรุงเทพเลยไง”
“บอกให้รอก็รอ”
ดูมัน นอกจากไม่ตอบคำถามฉัน ธันย์ยังหันมาทำเสียงดุใส่ฉันอีก
“เออแค่นี้ก็ต้องดุ...งั้นไปรอที่เดิมนะ” ที่เดิมของฉันกับธันย์คือ ม้าหินอ่อนใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ตรงใกล้สนามกีฬา ปกติถ้ามันไปซ้อมบอลมันก็ให้ฉันรออยู่ตรงนั้นเสมอ รอมันแบบนี้มาตลอดหลายปีจนจะกลายเป็นที่ประจำเราสองคนไปซะแล้ว
พอมานึก ๆ ไป บางทีถ้าไม่ติดว่าเราสองคนคือเพื่อนกัน คงอื่นก็คงคิดว่าเราสองคนก็เหมือนแฟนกัน
แต่ทว่า…ไม่ใช่
“เออเดี๋ยวกูเสร็จธุระรีบตามไป”
ธันย์ดูรีบร้อน เหมือนจะมีใครสักคนเรียกมันไป เพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันเห็นธันย์เอาแต่แชตไลน์กับใครสักคน
…
ผ่านไปร่วมชั่วโมง
เป็นฉันที่นั่งรอมันมาจนเมื่อย นักเรียนคนอื่นเริ่มทยอยกลับจนบางตา ทีเห็นจะมีอยู่ก็เหลือแต่พวกรุ่นพี่ม.6 ที่ยังอยู่ถ่ายรูปร่ำลากันเพราะต้องแยกย้ายเรียนต่อมหาวิทยาลัย
“ไอ้ธันย์บ้าให้รอนานไปแล้วนะ ต้องให้โทรตามจนได้สินะ” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้น ตั้งใจจะด่ามันแบบเต็มสปีดเพราะเริ่มจะโมโห
“ครีม”
เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง เรียกฉันให้หันกลับไปมอง ตอนแรกหลงดีใจนึกว่าธันย์ ทว่าพอหันมากลับไม่ใช่
“อ้าว …ว่าไงทรอส”
ฉันลุกขึ้นยืนเล็กน้อย แปลกใจที่คนเดินมาหาไม่ใช่ธันย์ทั้งที่เป็นคนนัดฉันให้มารอ แต่กลับกลายเป็นทรอสที่เรียนอยู่ห้องหนึ่ง วิทย์-คณิต
“ทำไมครีมยังไม่กลับอีกล่ะ พวกมอ. ห้ากลับกันจนเกือบหมดแล้ว หรือเธอรอไอ้ธันย์อยู่งั้นเหรอ”
“อื้อ…ดูดิป่านนี้มันยังไม่มาเลย ดูแป๊บเดียวของมันร่วมชั่วโมง น่าโมโหที่สุด”
“ว่าแต่ครีมกับธันย์ เธอสองคนคงเป็นแฟนกันสินะ เห็นไปไหนด้วยกันบ่อย ๆ นี่ก็คงรอมัน”
“เปล่าไม่ใช่แฟน...เอาอะไรมาเป็นแฟน ฉันกับมันโตมาด้วยกันเถอะ”
ใช่เพราะฉันกับธันย์ไม่ใช่แฟนกันจริง ๆ การที่พูดแบบนี้คงไม่ผิด
“ค่อยโล่งหน่อย” คนตรงหน้ายิ้มเหมือนดีใจ ในขณะที่ฉันขมวดคิ้วเป็นปมเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องถอนหายใจโล่งอกแล้วทำหน้าดีใจขนาดนั้น
“โล่ง…โล่งอะไร?”
“โล่งดิ เพราะถ้าเธอเป็นแฟนกับมัน เราคงเสียใจน่าดู”
“หา…” อย่าบอกนะว่านี่คือการสารภาพรัก ฉันผู้ซึ่งไม่เคยเจอผู้ชายสารภาพรักมาก่อนในชีวิต สกิลเรื่องของความรักเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้
“คือ เราชอบเธอนะครีม”
“เอ่อ ดะ เดี๋ยว”
“คือปีหน้าเราสองคนก็จะจบมอ. หกแล้ว เราอยากใช้ช่วงปีสุดท้ายไปพร้อมเธอ”
“เรา…ยัง เอ่อ” ไงดีล่ะให้ตอบว่าอะไร ฉันไม่เคยเตรียมใจเรื่องนี้เลย จริงอยู่ที่ทรอสหล่อ เรียนเก่ง สาว ๆ กรี๊ด แต่…ฉันไม่เคยคิดเรื่องอะไรแบบนี้กับเขาเลยแม้แต่น้อย
“ครีม!” เสียงเข้มของธันย์ที่ดังขึ้นด้านหลังทำเอาฉันสะดุ้งโหยง
“ไอ้บ้าธันย์ทำไมมาช้านัก” ฉันรีบหันไปบ่นธันย์เพื่อกลบเกลื่อนอาการที่กำลังโดนสารภาพรักแบบซึ่งหน้า
“คุยไรกัน!” ธันย์ทำเสียงดุ ไม่พอมันยังเอาแขนวางบนบ่าของฉันอีก สายตาที่มันจ้องมองทรอสเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ทำอย่างกับว่าถ้าท้าต่อยกันได้คงต่อยกันไปนานแล้ว
“คุยอะไรนะเหรอ ก็ไม่มีอะไรมาก กูเพิ่งสารภาพรักกับครีม นี่ก็รอครีมตอบรับอยู่ มึงเสือกเดินมาก่อน”
ทรอสพูดออกมาหน้าตาเฉย ในขณะที่ฉันทำสีหน้าบอกไม่ถูก
“คือ มันไม่ชะ…”
“ส่วนมึงก็เพิ่งไปสารภาพกับลูกนัทห้องกูมาไม่ใช่เหรอ เห็นลูกนัทบอกกูว่า มึงนัดไปหาที่ห้องสมุดเพราะมึงอยากสารภาพรักกับมัน”
ฉันพูดไม่ทันจบประโยค ทรอสก็พูดแทรกขึ้นมา
แถมประโยคที่ทรอสพูด เหมือนยืนยันได้ว่าที่ธันย์มาหาฉันช้าเพราะอะไร…คงจะเพราะแบบนี้เองสินะ เหมือนหูอื้อตัวชาไปแล้วยังไงไม่รู้ จริงอยู่ที่เราสองคนเป็นเพื่อนกัน แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลบๆที่หัวใจ
“กูไม่ได้นัดลูกนัท แต่ไปเจอมาจริง”
“เห็นไหม มึงก็ยอมรับอยู่นี่ว่าไปหามัน”
“ที่นายมาช้าเพราะแบบนี้เหรอธันย์” ฉันที่เสียเวลารอธันย์มาตั้งนาน อดไม่ได้ที่จะหันไปมองมันแบบผิดหวัง ดูเอาเถอะขนาดเราจะได้เจอกันวันสุดท้าย แต่ที่ไหนได้กลับต้องนั่งรอมันตั้งนาน เพื่อรอให้มันไปสารภาพกับสาวมา
“ไม่ใช่แบบนั้นเว้ยครีม”
“ช่างเถอะ...งั้นก็ดีใจกับนายด้วยแล้วกันเรื่องลูกนัท” ฉันเงียบไปอึดใจก่อนจะหันไปยิ้มให้กับอีกคน
“ฉันตกลงจะคบกับนาย…ทรอส”
“ครีม!” ธันย์ทำสีหน้าตกใจ แต่ก็นั่นแหละ แล้วไงมันก็เพิ่งไปสารภาพกับสาวมาเหมือนกัน
งั้นก็วิน-วิน ไปเลยสิ เพื่อนกันมีแฟนพร้อมกันคงจะดี
“ทรอสเราสองคนมาจบมอ. หกไปพร้อม ๆ กันนะ”
ไม่รู้อะไรที่ทำให้ฉันพูดประชดธันย์ไปแบบนั้น และดูเหมือนว่าจะมีทรอสที่มีสีหน้าดีใจอยู่คนเดียว ในขณะที่ทั้งฉันและธันย์มีสีหน้าแย่มาก
เราสามคนยืนเงียบไปพักใหญ่ด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ก่อนที่รถเก๋งของแม่ธันย์จะเข้ามารับ ฉันเลยขอแยกกับทรอสไปก่อน เพื่อไปสวัสดีป้าพรที่เป็นแม่ของธันย์
ระหว่างที่ธันย์จะขึ้นรถ มันหันกลับมามองฉันที่ทำหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้
“ครีม...”
“หืม...ว่า....”
“กู…กูว่ากูไม่อยากเป็นเพื่อนกับมึงแล้ววะ คือกู…”
“พอธันย์ไม่ต้องพูด ตลกว่ะ เพราะนายจะมีแฟนอย่างลูกนัท แล้วนายก็ดันมาบอกไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันแล้ว เออดี...ต่อไปก็ไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกัน”
ฉันหมุนตัวเดินออกมา เพราะก่อนหน้านี้ยกมือไหว้ป้าพรเพื่อลาแกไปแล้ว
“เดี๋ยวดิครีม...” ธันย์จับแขนฉัน ในขณะที่ฉันรู้สึกเหมือนขอบตามันร้อนผ่าวจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
“ฉันไม่อยากฟัง...”
…
และนั่น…คือเรื่องราวตอนมอ.ห้า ที่เราไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยจนวันนี้
มันหายไปจากไอจี เฟซบุ๊ก รวมไปถึงเปลี่ยนโทรศัพท์ ราวกับว่ามันกับฉันหลุดวงจรของความเป็นเพื่อนไปเลย…
???