สองวันแล้วที่บุปผาสวรรค์มาอยู่ในคฤหาสน์หลังโอ่อ่า ที่น่าแปลกคือเธอรู้สึกกังวล แต่ก็สามารถผล็อยหลับไปได้อย่างง่ายดายจนน่าเหลือเชื่อ มันเหมือนกับว่าในบ้านหลังใหญ่นี้มีเวทมนตร์ประหลาด เพราะเพียงหัวถึงหมอนก็นอนหลับสนิทและไม่ฝันอะไรเลย หนำซ้ำตั้งแต่แยกกับหลานชายก็ยังไม่ได้รับสิทธิ์ให้พบปะกันอีก เธอทำได้เพียงคอยถามข่าวคราวจากคนรับใช้ที่เดินผ่านไปมา พอรู้ว่าหลานชายสบายดี ไม่เจ็บไข้ แถมยังกินอิ่มนอนหลับสบายจึงพลอยหายใจหายคอได้โล่งขึ้น
และเขาคนนั้นอันตรธานหายไปเช่นกัน เธอไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน แต่ที่รู้ๆ คือ เขาไม่ได้อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ เพราะว่าเขาไม่เคยก้าวเข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของห้องที่เธออยู่เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ดูเหมือนบุปผาสวรรค์จะโล่งอกได้ไม่นานนัก เพราะกลางดึกของคืนที่สาม ได้ยินเสียงกุกกักเล็ดลอดเข้ามาในห้อง พอลืมตาขึ้น แสงสว่างจากโคมไฟด้านนอกบวกกับแสงจันทร์สีเหลืองที่ทาบทอเข้ามาภายในห้องทำให้เธอเห็นบุรุษหนุ่มร่างสูง เวลานี้เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็ค ปล่อยชายเสื้อบางส่วนหลุดลุ่ยออกมาจากเข็มขัด หนำซ้ำกระดุมสามเม็ดบนยังถูกปลดออกมาเผยให้เห็นแผ่นอกเรียบตึงที่มีขนสีเข้มขึ้นพอประปราย
ทันทีที่เขาเยื้องย่างเข้ามาใกล้เตียง หญิงสาวรีบกระถดตัวลุกขึ้นแล้วถอยไปอยู่อีกฟากหนึ่ง ในความมืดสลัว ดวงตากลมโตคู่นั้นไม่ได้ละไปจากเจ้าของรูปร่างกำยำแม้แต่วินาทีเดียว พอเห็นเขาถอดเสื้อผ้ากองไว้กับพื้นก็รีบเบือนหน้าหนี
“คุณจะทำอะไร?”
“ฉันไม่ชอบใส่เสื้อผ้าเวลานอน” ไคล์ตอบแล้วสอดกายเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน
“คุณจะนอนในสภาพนี้เนี่ยนะ”
“ใช่”
เขาครางรับก่อนจะปิดตาลง ทำเอาบุปผาสวรรค์พูดไม่ออก เธออยากรู้จริงๆ ว่าเขาเอาความมั่นใจและอวดดีมาจากไหนถึงได้ก้าวขึ้นเตียงมานอนใกล้ๆ เธอโดยไม่สวมเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว ตอนนี้จึงไม่รู้จะทำยังไง นอกจากเดินลงจากเตียงช้าๆ ทว่าเพียงปลายเท้าเหยียบพื้นก็ต้องตัวแข็งทื่อ เพราะถูกคนล้มตัวนอนเมื่อครู่ฉุดรั้งเอาไว้
“จะไปไหน?”
“ฉันจะไปนอนที่อื่น”
“อยากให้เด็กนั่นออกไปนอนนอกบ้านหรือไง”
“ทำไมคุณต้องเอาชีวิตลูกของคุณมาขู่ฉันด้วย คุณไม่รักลูกแท้ๆ ของตัวเองบ้างเลยหรือไง”
“ฉันไม่เคยรักใคร” ไคล์บอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย “และไม่คิดจะรักใครด้วย”
“นั่นลูกนะ ลูกคือสายสัมพันธ์พิเศษ คนเป็นพ่อเป็นลูกกัน ไม่พูดจาร้ายกาจข่มขู่ว่าจะฆ่าจะแกงลูกหรอก”
“ไม่รู้สิ เพราะตั้งแต่เกิดมา พ่อของฉันก็พร้อมจะเอาชีวิตฉันอยู่ตลอดเวลา” สิ่งที่เขาพูดออกมานั่นคือเรื่องจริง ไม่เคยมีสักครั้งเลยที่เขาจะสัมผัสได้ถึงสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ในเมื่อเติบโตมาในสภาพแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่จะมีนิสัยและก็ใช้ชีวิตในรูปแบบที่พร้อมจะตายและฆ่าคนอื่นให้ตายได้ทุกเมื่อ
คำตอบของเขาทำเอาบุปผาสวรรค์ได้แต่มองอย่างเห็นใจ แต่ความเห็นใจหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้เธอยังคงจ้องเจ้าของฝ่ามือแข็งแรงที่เหนี่ยวรั้งตัวเองไว้ตาไม่วาง
“ปล่อย!”
“นอนด้วยกันเถอะ”
“ฉันไม่เคยนอนกับคนแปลกหน้า”
“เธอไม่คิดหรือว่าเราสองคนคุ้นเคยกันมากพอแล้ว”
“เราไม่ได้สนิทกันขนาดนอนร่วมเตียงกันได้หรอกนะ”
บอกเพียงเท่านั้นก็งัดแงะอุ้งมือแข็งแรงให้หลุดออกจากเรียวแขน
พอเป็นอิสระจึงเดินเร็วๆ ออกห่าง แต่พอจะเปิดประตูห้องกลับต้องหันมามองคนที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงตาขวาง เพราะตอนนี้เธอไม่สามารถเปิดประตูได้ หนำซ้ำยังต้องอยู่ร่วมกับผู้ชายที่ไม่ใส่เสื้อผ้าอีก
“ขอโทษที ถ้าฉันไม่สั่งประตูมันก็จะเปิดไม่ได้”
“เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะไปนอนที่อื่น”
“ไม่มีห้องไหนที่เธอจะนอนได้หรอก อีกอย่างนี่มันก็ดึกมากแล้ว อย่าพยายามรบกวนคนอื่นเลยน่า”
บุปผาสวรรค์ทำหน้าฮึดฮัดขัดใจเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเดินปังๆ ไปทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าทุกๆ อากัปกิริยาของเธอมีใครอีกคนคอยจ้องมองอยู่ ทว่าถึงแม้จะพยายามบอกตัวเองไม่ให้สนใจเขา
แต่พอต้องข่มตาหลับจริงๆ กลับไม่สามารถทำใจให้หลับสนิทได้ เอาแต่คอยเหลือบมองคนบนเตียงอยู่เป็นระยะ กระทั่งมั่นใจว่าเขาหลับไปแล้วถึงได้ค่อยๆ ผ่อนคลายอารมณ์แล้วหลับตาตาม
แต่หญิงสาวคงไม่รู้ว่า หลังจากนั้นเพียงหนึ่งชั่วโมง เรือนร่างที่ขดตัวราวกับทารกน้อยในครรภ์มารดาก็ถูกอุ้มกลับไปนอนบนเตียง แถมยังได้ใช้ผ้าห่มผืนเดียวกับบุรุษหนุ่มผู้สง่างามในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา สติปัญญา หรือแม้กระทั่งทรัพย์สมบัติและอำนาจมืดที่มีมากมายจนล้นเหลือนั่นอีก ถ้าหากว่าเป็นผู้หญิงคนอื่น ไม่ว่าจะในสเปนหรือแม้แต่เมืองอื่นๆ คงยินดีเป็นอย่างมากถ้าหากมีสักครั้งที่พวกเธอได้นอนร่วมเตียงกับผู้ชายที่ชื่อ ไคล์ แซกเคอร์มันน์
มาเฟียหนุ่มอย่างไคล์รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย โดยเฉพาะกับการได้เห็นใบหน้าเย้ายวนในระยะกระชั้นชิดเช่นนี้
ใบหน้าเรียวรูปไข่ เส้นผมสีดำสนิทยาวปกคลุมแผ่นหลัง คิ้วเล็กๆ ที่เรียงเส้นเป็นระเบียบอยู่เหนือดวงตากลมโต สองแก้มอวบอิ่มดูมีน้ำมีนวล กับปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อ ไหนจะเรือนร่างที่มีส่วนสัดเหมาะมือนั่นอีก ไม่ว่าจะมองมุมไหนผู้หญิงคนนี้ก็น่าปรารถนามากเหลือเกิน โดยเฉพาะการนอนใกล้ๆ แล้วมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากผิวกายของเธอก็ยิ่งทำเอาเขารู้สึกลำคอแห้งผาก นี่คงเป็นครั้งแรกที่ไคล์รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งก้าวสู่ขุมนรกอย่างแท้จริง
ดังนั้นแทนที่จะนอนมองหญิงสาวให้ตัวเองรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ชายหนุ่มกลับลุกจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่ หลังจากนั้นก็ก้าวออกจากห้อง เลือกวิสกี้เพื่อดับความร้อนระอุในเรือนร่าง
กระดกได้เพียงครั้งเดียว ใครบางคนพลันโผล่หน้ามาเหมือนรู้ดีว่าเขาต้องการเพื่อนดื่ม
“สักแก้วไหม?”
“ไม่เกรงใจนะครับ” วอนโดเดินเร็วๆ มารับเครื่องดื่มที่ผู้เป็นนายรินให้ พอเทลงคอแล้วก็เหลือบตามองอย่างสังเกต
“นอนไม่หลับแบบนี้ เป็นเพราะเพื่อนร่วมเตียงใช่ไหม”
“นายก็รู้ว่าฉันไม่เคยนอนเตียงเดียวกับผู้หญิงคนไหนเกินหนึ่งชั่วโมง”
“แล้วสำหรับคนนี้ล่ะครับ”
“ไม่รู้สิ”