**อารัมภบท**
ใบหน้าสวยหวานริมฝีปากอวบอิ่มเรียกได้ว่าตุ๊กตามีชีวิตเลยก็ยังได้ เธอมีชื่อว่าแพรวา นักศึกษาแพทย์ ปี 2 กำลังนั่งอ่านหนังสือรอเพื่อนๆ อีกสองคนของเธอที่ไปซื้อของอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ๆ เธอชอบมานั่งอ่านหนังสือเป็นประจำ
"แพรวา อ่ะนี่ ชาไทยที่แพรสั่ง" ม่อนไหมเพื่อนสาวคนสนิทของเธอยื่นชาไทยให้เธอเมื่อไปซื้อเครื่องดื่มมา
"ขอบใจนะ" ใบหน้าหวานเงยขึ้นจากหนังสือหันไปรับชาไทยและคลี่ยิ้มหวานส่งไปให้เพื่อนสนิททว่าม่อนไหมกับชะงักนิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าหวาน
เธอแอบชอบแพรวามาตั้งแต่ปีหนึ่ง เธอเป็นสาวห้าวชอบปกป้องเพื่อนๆ ในกลุ่มโดยเฉพาะแพรวาเธอมักจะกันท่าผู้ชายออกห่างจากเพื่อนสาวคนนี้มากที่สุด
"แล้วนี่ฟ้าใสไปไหนอ่ะ ทำไมมาคนเดียว?" เธอมองหาเพื่อนอีกคนทว่าไม่เห็นเดินมาพร้อมกันกับม่อนไหม
"อ๋อ เห็นบอกว่าหิวข้าวก็เลยไปต่อคิวซื้อข้าวมันไก่" ม่อนไหมพูดจบก็นั่งลงข้างๆ เธอแล้วก็เอียงคอนั่งมองดูแพรวาอ่านหนังสือด้วยความตั้งใจจนเผยอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
ปึก!
"แหม มองดูไปอมยิ้มไปเชียวนะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันฉันจะคิดว่าแกชอบยัยแพรวาแล้วนะ" ฟ้าใสเอ่ยแซวยิ้มๆ อย่างไม่จริงจังทว่าม่อนไหมกลับเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด
"เฮ้อ เอาที่แกสบายใจเถอะ" ม่อนไหมเก็บอาการก่อนจะไขสือหันมาหยิบขนมขบเคี้ยวกินแก้เขิน
"โหวพวกแกดูนั่นดิ ได้ยินว่ามีนักศึกษาปีสี่มาใหม่สามคน อร๊าย หล่อมาก พี่ดีเทลนักศึกษาแพทย์เหมือนพวกเราเลย ส่วนคนนั้นอ่ะหล่อๆ แบดบอยๆ หน้าดุๆ เย็นชาๆ อ่ะ พี่ไฟนอล แก! พี่เขาหล่อมาก ฉันอยากได้ ฮือ พี่ฟ้าครามก็ดีแบดพอๆ กัน แต่ดูทรงแล้วไม่น่าจะมาคบกับพี่ดีเทลได้ รายนั้นเด็กเนิร์ดเกิ๊น" ฟ้าใสสาธยายถึงความหล่อของหนุ่มรุ่นพี่ด้วยแววตาคลั่งไคล้สุดๆ หล่อแบดบอยมากพ่อ!
"ก็เฉยๆ อ่ะ หล่อตรงไหน" ม่อนไหมเอ่ยแม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆ กับสายตาของฟ้าครามที่มองเธอเพียงนิดแล้วก็เดินผ่านไป แววตาของเขามันแปลกๆ แต่เธอไม่คิดมากเท่าสายตาของผู้ชายที่ชื่อไฟนอลหรอกเพราะเขามองแพรวาราวกับหมาป่าจ้องมองเหยื่อ
"ฉันว่าแกไปวัดค่าสายตาของตัวเองใหม่เถอะ หล่อวัวตายมากแม่" ฟ้าใสยังไม่หยุดชื่นชมก่อนจะชักชวนแพรวาให้เงยหน้าขึ้นมามองสามหนุ่มที่เดินเข้าไปในคณะทว่าเธอกลับไม่สนใจ
สิ่งที่เธอสนใจที่สุดคือการเรียน เธออยากตั้งใจให้สมกับที่เธอตั้งใจเรียนจนได้ทุนเข้ามาเรียนในมหาลัยนี้จนจบ มหาลัยที่มีแต่ลูกคนมีตังค์ทั้งนั้น เธอและเพื่อนๆ นี่แหละก็ไม่ต่างกันบ้านไม่ได้มีฐานะอะไรมากมายแต่ก็แค่พอมีพอใช้
วันนี้ไปเที่ยวกันมั้ย ไม่ได้ดื่มนานแล้วเหมือนกัน" ฟ้าใสเอ่ยทว่าเธอกลับส่ายหัวปฏิเสธเพราะเธอไม่ชอบไปในที่ที่มีแต่เสียงดนตรี เธอเลือกที่จะอ่านหนังสืออยู่ในห้องดีกว่า
"มึงสนใจเด็กหน้าตุ๊กตาคนนั้นเหรอวะ?" ฟ้าครามเอ่ยทว่าดวงตากลับจ้องมองไปที่กลุ่มผู้หญิงสามคนนั่งอยู่ใต้ต้นไม้แต่คนที่เขามองกลับไปผู้หญิงหน้าหวานแต่กิริยาราวกับผู้ชายซึ่งมันท้าทายสำหรับเขามาก อยากได้...
ที่ผ่านมากินแต่ผู้หญิงหุ่นเอ็กซ์ขี้ยั่วแต่งตัวเซ็กซี่ ลองเปลี่ยนแนวมาเป็นสาวห้าวคงน่าสนุกดี
"หึ หน้าตาน่ารักโครตน่ารังแก" ไฟนอลเอ่ยแต่ไม่ได้ละสายตาออกจากเธอเลยแม้แต่น้อยเขาอยากได้ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ในครอบครองเธอบอบบางราวกับตุ๊กตา
"ได้ยินมาว่าผู้ชายต่อแถวจีบไม่ซ้ำหน้าแต่แม่งเล่นตัวชิบหายแล้วที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นกันท่าผู้ชายทุกคนเพราะอยากเก็บไว้กินเอง หึๆ" ฟ้าครามเอ่ยมองผู้หญิงที่เขาสนใจและคิดไม่ซื่อกับเพื่อนสาวคนสนิทของตัวเอง
ถ้าโดนเพื่อนเขาแย่งคงเจ็บไม่น้อยเลย
"มึงจะให้กูจีบเด็กนั่นน่ะเหรอ หึ กูไม่เสียเวลาหรอก เล่นตัวแบนนี้โครตท้าทาย" เขาจะลองเข้าหาเธอตามวิธีของเขาเสียก่อน อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะหอมหวานขนาดไหน
"นี่พวกมึงสุมหัวกันทำเลวอีกแล้วว่างั้น?" ดีเทลเดินเข้ามานั่งกับเพื่อนสนิทแล้วเอ่ยอย่างรู้ทัน
"หุบปากไปเถอะมึงอ่ะ ไปคุยกับเมียมึงนู้น ไม่ใช่ว่าอยู่ฝรั่งเศสเขาได้ผัวใหม่ไปแล้วมั้ง" ฟ้าครามเอ่ย
หลังจากแยกกันกับเพื่อนเธอก็กลับมาที่ห้องพักที่เธอทำการเช่าไว้ ในตอนที่เข้ามาเรียนกรุงเทพ เดิมที่บ้านเกิดเธออยู่เชียงรายและแม่เธอทำงานที่ไร่องุ่น โชคดีที่ภรรยาเจ้าของไร่รับเข้าทำงานและเมตตาเอ็นดูเธอจึงให้ที่พักเธอและแม่ ตั้งแต่พ่อเธอตายเพราะพิษสุราเรื้อรังและคิดการพนันเอาบ้านเธอไปจำนองจนเธอไม่มีที่อยู่จึงได้ความเมตตาจากเจ้าของไร่องุ่นรับเธอและแม่มาทำงานด้วยเธอจึงมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯเพื่อที่จะได้มีงานมีเงินในอนาคตและพาแม่ไปอยู่ด้วยกัน
Rrrr Rrrr Rrrr
"จ้า แม่" เสียงหวานเอ่ยด้วยรอยยิ้มเมื่อรู้ว่าปลายสายคือแม่ของเธอโทรเข้ามา ความเหนื่อยจากการเรียนเธอหายเป็นปลิดทิ้ง
[ยะหยั๋งอยู่ลูก] เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
"หนูเพิ่งกลับมาจากมหาลัยค่ะ แม่ทำอะไรอยู่เหรอคะ?" เธอเอ่ยถามเพราะเธอพูดคำเมืองไม่ได้แม่เธอแต่งงานกับพ่อเธอที่เป็นคนกรุงเทพเธอจึงพูดคำเมืองได้นิดหน่อย
[สะบายดีก่อ เป๋นห่วงเน่อ]
"คิดถึงแม่จังเลยค่ะ ไว้วันหยุดหนูจะไปเยี่ยมนะคะ" เธอเอ่ยเสียงหวานใส่ปลายสายใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มหวานเมื่อได้คุยกับมารดา
[กิ๋นข้างกับหยัง]
"ก่อนจะเข้ามาหนูทานข้าวกับเพื่อนมาแล้วค่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะหนูทานข้าวอร่อยมาก แล้วแม่หล่ะคะ"
[กิ๋นแล้ว]
มารดาพูดมาแบบนี้เธอก็หายห่วงเพราะรู้ดีว่าอยู่ที่นั่นมารดาเป็นเหมือนที่รักของคนในไร่เพราะมารดาเธอจิตใจดีเป็นที่รักของใครหลายคนไม่เว้นแม้แต่นายหญิงของไร่ บางครั้งเธอก็ไม่อยากกลับไร่เพราะเธอเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธเจ้าของไร่ยังไงดีเพราะท่านทาบทามเธอให้เป็นลูกสะใภ้อยู่บ่อยครั้ง