ตอนที่ 10
ญาดามินทร์รีบยกมือขึ้นป้ายหยาดน้ำตาที่อาบแก้มนวลทิ้งอย่างรวดเร็วเมื่อหูของหล่อนได้ยินเสียงใบไม้ถูกเหยียบย่ำอยู่เบื้องหลัง และก็ยังไม่ทันจะได้หันไปมองเลยว่าใครกันที่มาเยือน สุ่มเสียงที่เต็มไปด้วยความอริก็ดังขึ้นเสียก่อน
“นึกว่านางไม้เสียอีก ที่แท้ก็นางมารนี่เอง”
คนถูกกล่าวหายืนนิ่ง กลีบปากอิ่มสีแดงสดเม้มเข้าหากันแน่น และตั้งใจจะเดินหนี แต่คนที่อยู่ข้างหลังก็กระโจนทีเดียวมาขวางหน้าหล่อนเอาไว้เสียก่อน
“ฉันจะกลับเข้าบ้านค่ะ”
เจอรัลด์แค่นยิ้มเหยียดหยาม มองสตรีตรงหน้าด้วยความสายตาเป็นอริ
“ยังอ่อยเหยื่อไม่ได้เลยสักคนจะรีบไปไหนกันล่ะ”
“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด และที่สำคัญ... ฉันไม่อยากจะเข้าใจด้วย”
ญาดามินทร์ตัดสินใจผลักแผงอกกว้างของผู้ชายตรงหน้า จากนั้นก็ก้าวยาวๆ หนี แต่ยังไม่ทันจะก้าวครบสองก้าวเลย ข้อมือของหล่อนก็ถูกกระตุกแรงๆ จนร่างของหล่อนเซถลามาปะทะกับแผงอกกว้าง หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก เจอรัลด์แสยะยิ้มรู้ทัน
“ท่าทางตกใจน่ะพอรับไว้ แต่ไอ้สีหน้าที่ทำเหมือนไม่เคยต้องมือผู้ชายมาก่อนน่ะมันเกินทน นี่จะบอกอะไรให้นะ อยู่ต่อหน้าฉันอย่าพยายามเสแสร้งเลย เพราะฉันเป็นคนที่มีเซนส์พิเศษ จับโกหกของผู้หญิงได้อย่างแม่นยำนักล่ะ”
หญิงสาวกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงไปในอก ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเจอรัลด์ถึงได้แสดงท่าทางรังเกียจรังงอนหล่อนถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่หล่อนกับเขาก็เจอหน้ากันแบบนับครั้งได้เลย
“คุณจะคิดยังไงก็ตามใจคุณเถอะค่ะ ฉันไม่มีข้อแก้ตัว”
“แน่นอนอยู่แล้วผู้หญิงที่จ้องจะงาบผู้ชายของพี่สาวอย่างเธอน่ะจะมีอะไรมาแก้ตัวได้ อย่าคิดนะว่าท่าทางหงิมๆ ติ๋มๆ ของเธอจะทำให้ฉันสงสาร เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้”
“โอ๊ย...”
ญาดามินทร์ร้องอุทานออกมาเมื่อร่างของหล่อนถูกคนใจร้ายผลักแรงๆ จนเสียหลักล้มลงกระแทกกับพื้นเต็มแรง หัวเข่าขาวสะอาดมีเลือดไหลซิบออกมา
“คนใจร้าย ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณไปฟังใครพูดมา แต่ฉันไม่เคยคิดจะแย่งผู้ชายของใคร ไม่ว่าจะเป็นของพี่อินหรือของพี่ญะญ๋า จำเอาไว้ด้วย”
หยาดน้ำตาไหลทะลักลงมาอาบแก้ม ก่อนที่ร่างอรชรจะผุดลุกขึ้นยืนและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
เจอรัลด์มองตามไปจนลับตา รู้สึกผิดไม่น้อยที่ตัวเองกระทำรุนแรงกับเจ้าหล่อน แต่หล่อนมันแพศยาเองนี่ คิดจะแย่งได้แม้กระทั่งผู้ชายของมินรญา ไม่รู้ว่าหัวใจของหล่อนทำด้วยอะไรกันถึงได้ร้ายกาจแบบนี้
‘อินรู้ว่าคุณหวังดีกับน้องญะญ๋ามาก ดังนั้นอินเลยอยากจะมาเตือนให้คุณระวัง เอ่อ... ความจริงอินก็ไม่อยากจะพูดนะคะ แต่ทนไม่ได้จริงๆ’
‘มีอะไรก็รีบพูดมา ผมเวลาของผมไม่ได้มีไว้เพื่อคุณ’
‘คืออย่างนี้ค่ะ ญาดา... คือน้องสาวของอินน่ะค่ะ คือเธอแอบ... แอบชอบพี่ดีเลียนน่ะค่ะ และนี่อินก็แอบได้ยินญาดาคุยกับคนสนิทของตัวเองว่าจะทำทุกอย่างเพื่อแย่งชิงพี่ดีเลียนมาเป็นของตัวเอง’
‘แล้วคุณมาบอกผมทำไม นั่นมันน้องสาวแท้ๆ ของคุณไม่ใช่หรือ’
‘คืออิน... อินคิดว่ามันไม่ถูกต้องน่ะค่ะ ถึงแม้ญาดาจะเป็นน้อง แต่ถ้าทำเรื่องไม่ถูกต้องแบบนี้ อินเองก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน’
นี่คือคำสนทนาของเขากับอินทุอรเมื่อปีก่อน เขายังจำได้ดี ยังจำได้ติดสมองเลยทีเดียว ผู้หญิงหน้าตาสะสวย กิริยาท่าทางดูอ่อนหวานอย่างญาดามินทร์ แท้จริงแล้วข้างในซ่อนยาพิษเอาไว้มากมาย ยาพิษที่พร้อมจะทำลายล้างทุกคนที่ขัดขวางความต้องการของตัวเอง แพศยาชัดๆ เจอรัลด์คิดอย่างเหยียดหยาม พยายามจะไม่คิดถึงเจ้าหล่อน แต่พอเห็นหน้าญาดามินทร์ทีไร ทั้งสมองทั้งร่างกายปั่นป่วนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุเสียทุกที ชายหนุ่มถอนใจออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในตัวตึกเพราะนาฬิกาข้อมือของเขาบอกว่าถึงเวลาอาหารค่ำแล้ว
โต๊ะอาหารยาวเหยียดในห้องอาหารสุดหรูไม่เคยทำให้มินรญารู้สึกอึดอัดแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้งแต่ตอนนี้หล่อนอยากจะหายตัวหนีไปจากสถานการณ์ตรงนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด ความคิดนี้ทำให้มินรญาตัดสินใจที่จะวางผ้าเช็ดปากลงบนโต๊ะอาหารตั้งท่าจะลุกขึ้นยืน แต่เสียงของมารดาก็หยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างของหล่อนเอาไว้เสียก่อน
“จะไปไหนเหรอญะญ๋า พึ่งทานไปนิดเดียวเอง”
สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่หล่อน แต่ไม่มีสายตาของใครชวนให้ใจของหล่อนสะท้านได้เท่ากับสายตาไร้ความรู้สึกของดีเลียนเลยสักคนเดียว
“ญะญ๋าอิ่มแล้วค่ะ”
“น้องญะญ๋าคงอึดอัดที่วันนี้คุณพ่อให้อินมาทานข้าวร่วมโต๊ะอาหารด้วย” อินทุอรแกล้งบีบน้ำตา
มินรญาตวัดตามองด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเค้นเสียงโต้ตอบออกไป “ญะญ๋าว่าพี่อินไม่จำเป็นต้องแสดงบทนางฟ้าแล้วล่ะมั้งคะ เพราะทุกคนที่นี่ต่างเชื่อกันหมดแล้วว่าพี่อินคือนางฟ้าในขณะที่ญะญ๋าเป็นนางมาร”
“ญะญ๋า...” อะเดลดุบุตรสาวของตัวเอง
“คุณพ่อคะ คุณแม่คะ ญะญ๋าขอตัวนะคะ” พูดจบมินรญาก็ลุกขึ้นและก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องอาหารอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดที่จะเหลียวหลังกลับมามองซ้ำอีกเลย เจอรัลด์จะขยับตามไปแต่ดีเลียนขวางเอาไว้เสียก่อน
“นายจะไปไหนเจอรัลด์”
“ผมก็จะไปตามญะญ๋านะสิครับ”
“นายไม่ต้อง ญะญ๋าคือว่าที่เจ้าสาวของพี่ ดังนั้นคนที่สมควรจะไปก็คือพี่ ไม่ใช่นาย”
แล้วดีเลียนก็เอ่ยขอโทษอะเดลกับนับดาว จากนั้นก็ก้าวยาวๆ ตามร่างของมินรญาไปทันที เจอรัลด์มองตามไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นก็กลับมาก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารตรงหน้าของตัวเองต่อไปเงียบๆ
ในขณะอินทุอรมองตามไปด้วยความคลั่งแค้น เมื่อเห็นดีเลียนเปลี่ยนไปจากเดิมมากมายนัก เมื่อก่อนดีเลียนไม่เคยตามมินรญาแบบนี้ มีแต่จะวิ่งหนีไปเสียให้พ้นๆ แต่นี่ แค่นังนั่นไม่กินข้าวและเดินหนีไป ดีเลียนก็นั่งไม่ติดต้องลุกตามออกไป หรือว่าแผนการของหล่อนมันยังไม่แนบเนียนพอนะ
“ผมว่างานแต่งระหว่างสองตระกูลเราคงใกล้เข้ามาทุกทีแล้วล่ะคุณนับดาว” อะเดลระบายยิ้มพึงพอใจออกมา
“ฉันว่าไม่อาจจะไม่ง่ายอย่างที่เราคิดนะคะ คุณพี่อย่าลืมนะคะว่าพ่อดีเลียนไม่ยินยอมพร้อมใจกับงานแต่งในครั้งนี้เลย และก็โมโหมากที่มินรญาไม่ยอมเลือกคนอื่นแต่ดันมาเลือกเขา” นับดาวยังไม่คลายกังวล
“ผมเข้าใจว่าในสัญญาระหว่างสองตระกูลของเราไม่ได้ระบุว่าจะต้องเป็นบุตรชายคนโตที่ต้องแต่งงานกับลูกสาวของเรา แต่การตัดสินใจของญะญ๋าก็ถือว่าเป็นที่สุด”
“ก็เพราะว่าเป็นที่สุดยังไงล่ะคะ งานแต่งถึงได้เลื่อนมาเกือบสองปีเต็มๆ แบบนี้ และวันนี้สิ่งที่เราจะพูดกับพ่อดีเลียน ไม่รู้ว่าพ่อดีเลียนจะว่ายังไงบ้าง”
“พี่ดีเลียนจะต้องตกลงครับ” คำพูดของคนที่นั่งฟังเงียบๆ อย่างเจอรัลด์ทำให้สองสามีภรรยาต้องหันหน้ามาจ้องมอง
“พ่อเจอรัลด์รู้ได้ยังไงล่ะ”
คนถูกถามระบายยิ้มบางๆ ออกมา “ผมเป็นน้องของพี่ดีเลียน ทำไมผมจะมองไม่ออกว่าพี่ชายของตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เชื่อผมเถอะครับว่างานแต่งงานของสองตระกูลเราจะต้องถูกจัดขึ้นในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน”
ทั้งนับดาวและอะเดลระบายยิ้มออกมาด้วยความโล่งอกทั้งคู่ ตรงกันข้ามกับอินทุอรที่ตอนนี้นั่งกำช้อนในมือแทบหัก แต่งงานเหรอ? แต่งงาน... ไม่มีทางเสียล่ะ หล่อนจะทำทุกอย่าง ทำทุกทางให้ได้ดีเลียนมาเป็นของตัวเอง เขาจะต้องเป็นของหล่อน รวมถึงสมบัติทั้งหมดของเขาด้วย อินทุอรคิดอย่างหมายมาด ความชั่วร้ายในใจของหล่อนกลั่นแผนการออกมาได้อย่างแยบยลนัก หล่อนไม่มีทางยอมให้นังมินรญามันได้ดีไปกว่าหล่อน หลังจากที่มันแย่งตำแหน่งลูกรักของอะเดลจากหล่อนไปแล้ว หล่อนก็ไม่คิดจะเสียอะไรให้กับมันอีก รวมถึงจะแย่งทุกอย่างที่มันได้ไปกลับมาเป็นของตัวหล่อนเองอีกด้วย หญิงสาวหัวเราะสะใจอยู่ภายในอก สะใจที่อีกไม่นานศัตรูของหล่อนจะต้องย่อยยับคามือ