"งามหน้าไหม"
"พ่อต้องการสิ่งนี้ไม่ใช่เหรอคะ" ที่ถูกพ่อตบเจ็บจนหน้าชา แต่เธอก็ไม่แสดงอาการให้เห็นเลย
"ด้อยค่าตัวเอง มีไหมศักดิ์ศรี" พิทักษ์เป็นคนหวงหน้าตาตัวเองมาก ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาจะไม่พูดแบบนี้กับลูกสาวเลย แต่โชคดีคนที่อยู่ด้วยตอนนี้คือหลานชายซึ่งรู้กันดีอยู่แล้ว
"ศักดิ์ศรีน่ะหรือคะ.. มันไม่มีตั้งแต่ถูกผู้ชายที่พ่อหามาให้ปฏิเสธคนแล้วคนเล่า พ่อไม่นึกถึงความรู้สึกของม่านเลยเหรอคะ"
"ถ้าพ่อไม่นึกถึงความรู้สึกของเรา แล้วพ่อจะทำแบบนี้ไปทำไม"
"ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ ถ้าพ่อนึกถึงความรู้สึกของลูกสักนิด พ่อจะไม่ทำแบบนี้ เพราะพ่อนึกถึงแต่ความรู้สึกและหน้าตาของตัวเอง!"
"ไม่นะครับคุณอา" มหานครรีบเข้าไปห้าม เพราะเห็นว่าคุณอาสะบัดมือกำลังจะทำร้ายร่างกายลูกสาวอีก
"แกดูน้องของแกนะ ไม่รักดี รู้ถึงไหนอายถึงนั่น"
"เดี๋ยวผมจะคุยกับน้องเอง"
"โธ่เว้ย! ถ้าฉันมีลูกสาวอีกสักคนสาบานได้เลยว่า.." พิทักษ์หยุดคำพูดของตัวเองไว้ได้ทัน
"หึ! ดีแล้วล่ะค่ะที่ไม่มีใครเกิดมารับกรรมเหมือนม่าน"
"ฟังมันพูดนะ จะไม่ให้ฉันตีสั่งสอนได้ยังไง!"
"ตามพี่มาดีกว่า" มหานครจูงแขนน้องออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์ของทั้งสอง ยิ่งพูดคุยกันไปก็มีแต่จะทะเลาะ
วันต่อมา..
ม่านฟ้าก็ยังคงทำงานปกติ แต่จะเรียกว่าปกติก็ไม่ใช่ เพราะพิทักษ์สั่งให้คนจับตามองดูลูกสาวตลอดเวลา
"ของที่ให้สั่งเข้ามาเพิ่มได้หรือยัง"
"ทางร้านบอกว่าขอเวลา 2-3 วันค่ะ"
"ได้ แต่ถ้านานกว่านี้สั่งจากที่อื่นได้เลย เพราะของเราต้องรีบใช้"
"ค่ะ"
ขณะที่คุยกับพนักงานอยู่ม่านฟ้าก็เหลือบตามองไปดู ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพ่อให้คนจับตามอง และมันก็เป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบเอามากๆ
"ไปไหนแล้ว" คลาดสายตาแป๊บเดียวคนของพิทักษ์ก็มองหาเธอไม่เห็น
แกร็ก! ขึ้นมาถึงชั้นบนม่านฟ้าก็เปิดประตูพรวดพราดเข้าไปในห้องทำงานของพ่อแบบไม่ส่งสัญญาณบอกก่อน
"ม่านเป็นนักโทษของพ่อตั้งแต่เมื่อไรคะ"
"ออกไปก่อน" พิทักษ์สั่งให้คนที่กำลังคุยงานด้วยกันอยู่ให้ออกไปก่อน "พรุ่งนี้พ่อนัดคุยกับพ่อเลี้ยงอิทธิพล เรื่องของเรากับลูกชายคนเล็กท่าน" เพราะแบบนี้แหละพิทักษ์จึงให้คนติดตามตัวลูกสาว กลัวว่าวันนัดลูกจะเหลวไหลอีก
"เอาที่พ่อสบายใจเลยค่ะ" เธอคิดว่าถึงเวลานัดค่อยเล่นงานพ่อแล้วกัน ท่านจะได้ไม่ต้องคิดหาคู่ให้กับเธออีก
ม่านฟ้ากลับลงมาทำงานเหมือนเดิม เธอพยายามลืมเรื่องในห้องเก็บของคืนนั้น และหวังว่าผู้ชายคนนั้นจะลืมมันไปแล้วนะ
"?" แต่มันไม่เป็นแบบที่เธอคิดไว้เลย แล้วเขามาทำอะไรที่โรงแรมนี้อีก
"นั่นไงคะคุณม่านลงมาแล้ว"
"ขอบคุณครับ" กวินขอบคุณพนักงานที่เขาถามเมื่อสักครู่แล้วรีบเดินมาหาม่านฟ้า
แต่ม่านฟ้าทำเป็นจำเขาไม่ได้กำลังจะเดินสวนไป
"สวัสดีครับคุณม่านฟ้า"
"......" เธอยอมหยุดแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมอง
"ผมชื่อกวิน หวังว่าคุณคงจะจำผมได้"
"ขอโทษนะคะ แต่ละวันฉันเจอคนมากมาย ฉันจำคุณไม่ได้หรอกค่ะ"
"ผมไม่เชื่อ ผมอยากจะมาคุยเรื่องของเรา"
"อะไรคือเรื่องของเรา ฉันยังไม่รู้จักคุณเลย" ม่านฟ้าพูดแค่นี้ก็รีบเดินจากไป
ทำไมเธอถึงไม่เหมือนคนในคืนนั้น หรือว่าเธอมีสองบุคลิก เขาไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ เขาต้องรู้ความจริงให้ได้ หรือว่าเธอมีความจำเป็นอะไรที่ต้องทำแบบนี้
เย็นวันต่อมาและเป็นวันที่พิทักษ์นัดคุยกับพ่อเลี้ยงอิทธิพล
"พ่อเลี้ยงมาแล้ว" พิทักษ์ให้ลูกสาวมานั่งรอ เพื่อให้พ่อเลี้ยงเห็นว่าตัวเองและลูกสาวเต็มใจที่จะดองกับครอบครัวท่าน "สวัสดีครับพ่อเลี้ยง ม่านฟ้าสวัสดีพ่อเลี้ยงสิลูก"
ม่านฟ้ายอมยกมือไหว้สวัสดีท่าน
พอรับไหว้เสร็จพ่อเลี้ยงอิทธิพลก็นั่งลงเก้าอี้ตัวที่เตรียมไว้ให้
"แล้วด็อกเตอร์ล่ะครับพ่อเลี้ยง"
"เรื่องนี้แหละที่ผมอยากมาคุยกับคุณพิทักษ์"
"ได้เลยครับ เชิญพ่อเลี้ยงพูดมาได้เลยครับ"
"คือว่าลูกชายผมมันไม่รักดี.."
"หึหึ" ทีแรกคิดว่าจะทำให้ฝ่ายนั้นขายหน้าบ้าง แต่ไม่คิดเลยเธอจะโดนเทอีกแล้ว ถ้าคนนี้ปฏิเสธก็เป็นคนที่สามแล้วสินะ เพราะตั้งแต่พี่ชายคนโต พี่ชายคนรอง ยังมาน้องชายคนเล็กของบ้านนี้อีก
"เมื่อกี้พ่อเลี้ยงว่าอะไรนะครับ"
"ลูกชายผมมันไปกับผู้หญิงแล้วครับ" ตอนนี้ดอกเตอร์พันไมล์ได้พาวันศุกร์กลับต่างจังหวัดบ้านเกิดของเธอ ถ้าจะไม่พูดให้ฝ่ายนี้รับรู้ก็กลัวจะเสียเพื่อน
อีกหลายวันต่อมา..มีลูกค้าติดต่อมาว่าจะจัดงานในโรงแรม ม่านฟ้าเป็นคนรับหน้าที่ดูแลเรื่องนี้
ตั้งแต่วันนั้นเธอเต็มที่กับงานมาโดยตลอด อยากให้พ่อเห็นว่าถึงแม้จะไม่มีสามีที่มีฐานะคอยค้ำชู เธอก็สามารถยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้
จนถึงเวลาใกล้เริ่มงาน.. งานเลี้ยงนี้มีแต่คนที่มีหน้ามีตาในจังหวัดมาร่วมงานกันทั้งนั้น
หวังว่าเขาคงไม่มางานนี้ด้วยนะ ทำไมเราต้องคอยระแวงอีตาบ้านั่นด้วย เพราะบางวันม่านฟ้าก็เห็นว่าเขาคนนั้นมาทานข้าวเที่ยงที่นี่ งานการไม่ทำหรือไง โรงงานอิทธิพลค้าไม้ก็อยู่ตั้งไกลจากโรงแรม
หญิงสาวช่วยพนักงานดูแลความเรียบร้อยจนแขกที่มาร่วมงานทยอยกันเข้ามา
คิดไว้แล้วว่าท่านต้องมาเพราะงานใหญ่ขนาดนี้..ม่านฟ้าเห็นพ่อเลี้ยงอิทธิพลเดินมาก็รีบหลบเข้าไปในงานก่อน แต่ทำไมเธอต้องหลบด้วยนี่มันเป็นโรงแรมของเธอยังไงก็ต้องเจอกัน
พอหลบเข้ามาแล้วแอบมองออกไปก็เห็นว่าพ่อเลี้ยงอิทธิพลยืนคุยกับคุณหมอท่านหนึ่งอยู่..เพียงไม่นานท่านก็จูงมือคุณหมอท่านนั้นเข้าไปคุยกับพ่อ หวังว่าคงไม่ใช่คนต่อไปนะ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงน่าสมเพชมาก
ม่านฟ้ามองซ้ายมองขวากำลังจะรีบเดินออกจากงาน แต่จังหวะนั้นก็เห็นพ่อกวักมือเรียก ถ้าจะไม่เข้าไปก็กลัวว่ามันจะเป็นการหักหน้าพ่อเกินไป
"คนนี้คือคุณหมอคีตะคนที่พ่อเลี้ยงอยากแนะนำให้ลูกรู้จัก"
"สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีครับ" แต่จังหวะนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาควงแขนคุณหมอท่านนี้ไว้ เหมือนกับแสดงความเป็นเจ้าของ
"พี่หมอมาแล้วหรือคะ เข้าไปในงานกันเถอะค่ะ" ผู้หญิงคนนี้ชื่อนุ่น
ม่านฟ้ากรอกตามองไปดูพ่อเล็กน้อย แล้วก็หันหลังให้
"ม่านฟ้าฟังพ่อก่อนสิ"
"พอเถอะค่ะพ่อ ม่านบอกความจริงพ่อก็ได้ พ่อจะได้หยุดเรื่องนี้สักที"
"บอกความจริงอะไร"
จังหวะที่ม่านฟ้ากำลังจะพูด สายตาเธอมองไปเห็นผู้ชายคนที่ในหลายวันผ่านมาเธอไม่อยากเห็นหน้าเขาเลย แต่ทำไมวันนี้เธอถึงดีใจที่เขามาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ด้วย
"ม่านมีผัวแล้วค่ะพ่อ"