ปากร้าย
ร่างสองร่างนอนกอดก่ายกันบนเตียงนอนภายในโรงแรมชื่อดัง หลังจากทั้งคู่เสร็จภารกิจร่วมกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เมื่อจบไปหนึ่งรอบพักหายเหนื่อยรอบที่สองก็ถูกบรรเลงขึ้นในเวลาต่อมา หรือจะเรียกว่าตั้งแต่เที่ยงวันยันตะวันตกดินก็ยังได้
ร่างกำยำเปลือยเปล่าขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ควานหาผ้าเช็ดตัวที่สลัดทิ้งมาพันเอวสอบ เตรียมจะลุกขึ้นยืน แต่หญิงสาวที่นอนอยู่ก็คว้ามือไว้ทัน และยังสวมกอดเอวสอบเกยคางบนลาดไหล่กว้างเสียด้วยซ้ำ
"คุณจะไม่ค้างกับฟาเหรอคะ" แม้จะรู้คำตอบว่าจะออกมาเช่นไร ทว่าฟาริสายังเอ่ยถามออกไปอย่างคนสิ้นปัญญา
"ไม่มีความจำเป็นที่ฉันต้องค้างกับเธอ ลืมไปแล้วเหรอว่า..."
"ฉันกับเธอเป็นอะไรกัน เธอมันก็แค่ผู้หญิงอย่างว่าแค่นั้น" ฟาริสาขันอาสาเอ่ยต่อประโยคให้ชายหนุ่มผู้ไร้หัวใจอย่าง ปรานต์ พริยกร
ผู้บริหารเจ้าของโรงแรมที่เขาให้เธอซุกหัวนอนทุกคืน รวมไปถึงตึกพริยกรที่เปิดให้บริษัทต่างๆ เข้ามาเช่าเป็นสำนักงาน ไหนจะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย และยังเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเป็นที่จับตามองในแวดวงสังคมธุรกิจ สาวน้อยสาวใหญ่วิ่งหัวชนกันหัวแทบแตก อยากถวายร่างกายให้เชยชม
ปรานต์หันกลับมาหาคนที่พูดต่อประโยคให้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีคำไหนตกหล่นไปแม้แต่คำเดียว จับคางหญิงสาวพลิกไปพลิกมา จนฟาริสาต้องสะบัดมือนั้นออกจากคางตัวเอง
"จำได้ขึ้นใจขนาดนี้ ยังกล้าชวนฉันนอนค้างอีกหรือไง"
"ก็เผื่อฟลุคไงคะ"
"ไม่มีวันซะล่ะ ที่ฉันมาหาเธอก็แค่มาระบายน้ำเชื้อออกเท่านั้น อย่าคิดว่าฉันพิศวาสเธอขึ้นมาล่ะ เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่รู้สึกอะไรกับเธออยู่ดี นี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วนะ ถอดใจตอนนี้ยังทันนะฟาริสา" หญิงสาวยิ้มเย้ยหยัน ควานหาผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันรอบกายบ้าง ขยับลงจากเตียงยืนประจันหน้ากัน
"ฟายังมีเวลาอีกตั้งสามเดือนไม่ใช่เหรอคะ ที่จะทำให้คุณเปลี่ยนใจมาชอบฟา" คนฟังหัวเราะร่วนแกมเยาะเย้ยอยู่ในคราเดียวกัน เชยคางมนให้เงยขึ้นสบตากัน
"ดูปากฉันนะ ไม่มีวันนั้นเกิดขึ้นแน่นอน ฟาริสา" เจ้าของชื่อยิ้มเย้ย ประคองใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่จิตใจร้ายกาจดั่งซาตาน
"ดูปากฟานะคะ สักวันฟาจะทำให้คุณปรานต์คลานเข่าเข้ามาหาฟาให้ได้" ปรานต์จับมือฟาริสาออกจากใบหน้าของตัว พร้อมกับปรบมือให้หญิงสาวเสียด้วยซ้ำ
"เอาเป็นว่าฉันเป็นกำลังใจให้เธอก็แล้วกันนะ เชิญเธอนอนฝันต่อตามสบาย ฉันไม่กวนล่ะ" ผละตัวเดินไปยังห้องน้ำ หากไม่ได้ยินเสียงพูดของฟาริสาดังขึ้นมาเสียก่อน
"ถ้าอยากให้ฟาออกไปจากชีวิตคุณ ก็จ่ายมายี่สิบล้าน แล้วฟาจะไป" ร่างสูงหันขวับกลับมามองเจ้าของคำพูดเห็นแก่ได้ตาขวาง
"เธอมันคือผู้หญิงหน้าเงิน หิวเงิน ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเจอใครหิวเงินเท่าเธอมาก่อนเลย ให้ตายสิ"
"ใช่! ฟาหิวเงิน ฟาอยากได้เงิน และฟาก็อยากได้คุณด้วย" ปรานต์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา รู้สึกรังเกียจผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาครามครัน ไม่เคยพบพานผู้หญิงคนไหนพูดจาน่ารังเกียจขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ
"นับวันฉันยิ่งรู้สึกว่าเธอเหมือนตัวแร้งเข้าไปทุกที คอยแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อฉัน ล้านหนึ่งโอนตอนนี้แล้วออกไปจากชีวิตฉันซะ ก่อนที่เธอจะไม่ได้อะไรเลยสักบาท" ฟาริสาเดินยิ้มเข้ามาใกล้คนที่บอกว่าเธอเหมือนแร้งกา ยกมือขึ้นกอดอกมองผู้ชายปากร้ายตรงหน้า
"ทำไมอิสรภาพของคุณมันถึงได้มีค่าน้อยขนาดนี้ล่ะคะคุณปรานต์ ตัวคุณมีค่าแค่ล้านเดียวเท่านั้นเหรอ"
"ค่าตัวเธอต่างหากที่มีค่าแค่ล้านเดียว จำไม่ได้เหรอ ว่าฉันซื้อเธอมาแค่ล้านเดียว เพื่อแลกกับเธอต้องมาเป็นอีตัวบนเตียง คอยรองรับอารมณ์ของฉันถึงหกเดือน นี่ไม่รู้ว่าพอครบหกเดือนแล้ว สภาพเธอจะทรุดโทรมขนาดไหนนะ เพราะว่าฉันมันเป็นพวกอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะเวลาเล่นของเล่นที่ไม่ค่อยอยากได้ มันก็เลยไม่ออมมือหรือทะนุถนอมสักเท่าไหร่ " รั้งใบหน้าเข้าใกล้ประจูบบดขยี้ลงไปแรงๆ ก่อนจะผละออก พร้อมกับรอยยิ้มของผู้ชนะ ยักคิ้วกวนประสาทให้หนึ่งที
“เตรียมชุดให้ด้วย ออกมาจะได้ใส่เลย” เดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดี
ผิดกับฟาริสาที่ยืนกำมือแน่น มองประตูห้องน้ำที่ปิดใส่หน้าด้วยความเจ็บใจ เธอไม่ได้โทษปรานต์หรอกที่แสดงกิริยาแบบนั้นใส่เธอ เธอโทษตัวเองต่างหากที่อยากเล่นกับไฟ แล้วเป็นไง ไฟมันร้อนเผาไหม้จนเธอแทบไหม้เกรียมเชียวล่ะ