บทนำ
บทนำ
ยามโฉ่ว (01.00 - 02.59 น.) ผู้คนมากมายในเมืองหลวงต่างยังพากันหลับไหล แต่จวนแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวงบ่าวรับใช้กำลังโกลาหลแตกตื่น
“ไฟไหม้!”
“ไฟไหม้!”
“เรือนนอนขององค์หญิงแปดไฟไหม้ “
เสียงบ่าวรับใช้ตะโกนระงม เปลวไฟแดงฉ่าลุกโชติช่วง ไฟกำลังไหม้เรือนนอนขององค์หญิงแปด องค์หญิงบรรณาการที่ถูกส่งมาจากแคว้นเว่ย พระองค์เพิ่งเดินทางมาถึงแคว้นจ้าวเพื่อมาแต่งงานกับองค์รัชทายาท
บ่าวรับใช้ชายหญิงต่างพากันช่วยคนละไม่ละมือ บางคนถือถังไม้ บางคนหายน้ำวิ่งมา หวังจะดับเปลวไฟที่กำลังไหม้อยู่ในตอนนี้ ทุกคนต่างหวาดกลัว หากองค์หญิงสิ้นพระชนม์ไปทั้งแบบนี้ บ่าวทั้งจวนมีหวังได้ถูกสั่งประหารชีวิตตามองค์หญิงไปเป็นแน่
“ดับตรงไหน”
“ไฟลามไปแล้ว ใครก็ได้เอาน้ำมาเพิ่มที”
ยิ่งสาดน้ำเข้าไปมากเท่าใด เปลวไฟก็ไม่มีทีท่าจะหมดลง
เสียงกู่เจิงแววออกมาจากภายในเรือนนอนขององค์หญิงแปดท่ามกลางเปลวเพลิง
เสียงหวานขับร้องตามทำนองเพลง
“การได้พบท่าน”
“คือความทรงจำที่งดงามที่สุดในชีวิตของข้า”
“เงาสะท้อนที่ได้เห็นยามมองลงลึกไปในแววตาท่าน”“คือข้าเอง”
“หากสุดท้ายเราสองต้องพลัดพรากกัน”
“ข้าขอลืมเลือนเสียดีกว่า”
ห้วงทำนองนั้นไพเราะจับจิต หากเป็นเวลาอื่นคงยืนฟังองค์หญิงแปดขับร้องซึมซับอารมณ์ไปตามบทเพลง
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาฟังดนตรี บ่าวรับใช้รีบเร่งมือช่วยกันดับไฟ
ไม่ช้าเสียงกู่เจิ่งเงียบสงบลงพร้อมกับเปลวไฟ เหลือทิ้งไว้เพียงกลุ่มควันจางๆ และเถาถ่าน
บ่าวรับใช้หลายคนวิ่งเข้าไปภายในเรือน เพื่อช่วยกันค้นหาองค์หญิงแปด ขอให้พระนางยังรอดชีวิต แม้สภาพเรือนนอนที่เหลือเพียงตอตะโก ทุกคนก็ยังหวังว่าพระนางจะยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดก็ตามขอให้ได้หาจนพบ เพื่อที่จะได้รายงานองค์รัชทายาทได้
เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดพวกเขาที่ดูแลพระนางไม่ดี ไฟไหม้มันคืออุบัติเหตุไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
แสงจันทร์สว่างไสวแต่ยังมีจุดที่มืดมิด ภายใต้เงามืดนั้นมีร่างคนผู้หนึ่งยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
กวนเสี่ยวถง ยืนมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เดิมนางเป็นบุตรีของเสนาบดีของแคว้นเว่ย แต่นางเป็นเพียงบุตรีเกิดจากฮูหยินรอง มารดาของนางคลอดนางก็เสียชีวิตทันที กวนเสี่ยวถงเติบโตมาท่ามกลางพี่น้องมากมาย แต่ไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญกับนางแม่แต่บิดา
เมื่ออายุครบ 16 หนาว นางถูกรับเลือกให้เป็นบุตรบุญธรรมองฮองเต้แคว้นเว่ย แต่ไม่มีผู้ใดยินดีกับนางแม้แต่คนเดียว แคว้นเว่ยแพ้สงคราม แคว้นจ้าวจึงสั่งให้ส่งองค์หญิงเพื่อมาแต่งงานกับองค์รัชทายาทของแคว้นจ้าวเพื่อเป็นองค์ประกัน แล้วองค์หญิงพระองค์ใดจะอยากทิ้งชีวิตสุขสบายมาอยู่ต่างแคว้นกันเหล่า บุตรสาวขุนนางจึงถูกเฟ้นเลือกให้เป็นองค์หญิง แต่ไม่ว่าจะเรียกบุตรสาวตระกูลใดเข้าเฝ้า ขุนนางต่างก็ไม่ยินยอมให้บุตรตนเองมาต่างแค้วน นางจึงเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ถูกเลือก บิดาของนางอยู่ๆก็นึกได้ว่ามีบุตรีรีบเสนอนางให้รับพระราชทานยศองค์หญิง จับนางยัดขึ้นเกี้ยวแดง
กวนเสี่ยวถงเดินทางมาในฐานะองค์องค์หญิงบรรณาการ มาพักอาศัยอยู่ที่จวนแห่งนี้ แม้ฐานะจะเป็นถึงองค์หญิง แต่แล้วอย่างไร แคว้นที่แพ้สงครามไม่ต่างอะไรกับทาส นางจึงถูกละเลยจากบ่าวในจวน
‘ไม่ว่าอยู่ที่ใดข้าก็ไม่เคยมีความสำคัญ’
ไฟที่ไหม้หาใช่อุบัติเหตุ นางเป็นคนจุดมันขึ้นมาจากพลังจากปราณของนางเอง พลังที่กวนเสี่ยวถงแอบซ้อนมิให้ผู้ใดล่วงรู้
‘จากนี้ไปข้าจะยืนหยันอยู่เพื่อตัวข้าเอง‘
กวนเสี่ยวถงก้าวถอยหลังลึกเข้าไปในเงามืด ไม่ช้าร่างบางก็เล้นหายไปพร้อมกับความมืดมิดยามราตรี