รักแฝงร้าว ตอนที่ 1
คอนโดหรูหรากลางใจเมืองหลวงของประเทศไทย มองดูสูงตระหง่านโดดเด่นอยู่เบื้องหน้าของใครคนหนึ่งที่ยืนนิ่งกะพริบตาถี่สูดลมหายใจเข้าออกคล้ายมีความกังวลบางอย่าง
หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวในชุดสุภาพสำหรับวันทำงาน เสื้อชีฟองสีครีมแขนยาวคอปกติด กระดุมถึงคอ มีผ้าลูกไม้คาดตกแต่งด้านหน้าตลอดแนวกระดุม ฝังชายเสื้อไว้ในกางเกงผ้าฝ้ายขายาวสีดำสนิท มองดูว่าเป็นการแต่งตัวที่เรียบร้อยแต่ยังคงความเป็นสมัยใหม่ได้ลงตัว
แต่ใครจะรู้ล่ะ...ว่าการเลือกเสื้อผ้าสวมใส่ให้ดูมิดชิดของเธอนั้นมันมีเหตุผลอื่นที่ไม่อาจเปิดเผยต่อใครได้...
หญิงสาวยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาแล้วใช้มืออีกข้างถลกแขนเสื้อเพื่อดูนาฬิกา มันบอกเวลาเกือบจะหกโมงครึ่งแล้ว เธอ...กลับบ้านสาย นั่นทำให้คนที่กำลังคอยไม่สบอารมณ์นักเหมือนเช่นเคย ปกติเธอจะมีสารถีไปรับไปส่งแต่วันนี้เขาติดงานด่วน
เขาไปส่งถึงที่ทำงานเหมือนทุกๆ วัน และเธอขอเดินทางกลับเองเมื่อหมดเวลาทำงาน แต่เพราะความผิดพลาดบางอย่างทำให้ต้องกลับผิดเวลา เขามาถึงรังรักก่อนที่เธอจะออกจากบริษัทด้วยซ้ำ ชายหนุ่มโทรหาและจากน้ำเสียงได้ว่าเขากำลังไม่พอใจอย่างยิ่งที่ไม่เห็นเธออยู่ในคอนโด
อันที่จริงเธอควรกลับมาถึงตั้งแต่ห้าโมงครึ่งแล้ว หญิงสาวถอนหายใจหนักๆ อีกครั้งก่อนจะกำกระชับสายกระเป๋าถือที่สะพายแนบลำตัวแล้วตัดสินใจเดินเข้าลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องที่ตัวเองอาศัย การเผชิญหน้ากับเขา การมีเขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกลี้
มันคือ...ชะตากรรมของเธอตมิสา หงศิวัฒนะ...
“ไปไหนมา? ทำไมต้องให้โทรตาม...” กัณฑ์รพี พีระณรงค์ คนรักของเธอนั่นเองเอ่ยถามเสียงทุ้มลึก ใบหน้าเข้มของเขาดูดุดันขึ้นเมื่อหญิงสาวตรงหน้าทำให้อารมณ์ขุ่นมัวแม้ยามขึงโกรธไม่พอใจวงหน้าครามครันดุเถื่อนนั้นก็ยังคงความหล่อสะกดให้ใครหลายคนไม่อาจละสายตา
แม้แต่เธอ...ที่ตอนนี้หวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจอยู่เล็กน้อย แต่แล้วก็ผินหน้าหลบลี้เมื่อคิดว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักกับการจับจ้องสนองตอบทางสายตาในยามที่เขาเป็นแบบนี้
“หอมคิดว่าคุณยังไม่กลับก็เลยอยู่เคลียร์งานที่ค้างให้เสร็จนะค่ะ”
“อยู่คนเดียว? ...”
“ก็มีคนอื่นๆ ที่ยังทำงานไม่เสร็จอยู่ด้วย...หลายคนค่ะ คุณซีลหิวแล้วเหรอคะ” เธอเบี่ยงเบนประเด็นแต่ก็ยังไม่กล้ามองหน้าคมเข้มนั้นตรงๆ และยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตูโดยมีร่างใหญ่ของเขายืนกอดอกจ้องเขม็งอย่างจับผิด
“หิวสิ...วันนี้ยังไม่ได้กินเลย...” ชายหนุ่มตอบแสยะยิ้มสายตาคมยังจิกอยู่ที่เธอดวงตาไหววูบแพรวพราวเหมือนบางอย่างจะแทรกเข้าในอารมณ์บูดบึ้งนั้น ตีความนัยอย่างรู้กันว่าเขากำลัง ‘หิว’ อะไร
“เดี๋ยวหอมจะเข้าไปทำอะไรให้ทานนะคะ” ตมิสาพูดพลางเดินเลี่ยงอ้อมตัวเขาไปด้านหลังถอดรองเท้าวางไว้ในตู้ ชายหนุ่มไม่ได้รั้งแต่เอื้อมมือไปปิดประตูก่อนจะเดินตามหลังหญิงสาวซึ่งวางกระเป๋าไว้ที่โซฟาตัวยาวแล้วตรงดิ่งเข้าไปในครัวทันที “ตมิสา...” เขาเรียก สองเท้าน้อยหยุดชะงัก หัวใจปลาบหวิว มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบตามแขนและลำตัวจนรู้สึกถึงความเจ็บระบมจากรอยช้ำภายใต้ร่มผ้า
“กลัวเหรอ” เสียงของกัณฑ์รพีเข้ามาใกล้ทุกขณะ เจ้าของชื่อไม่ได้ตอบแต่คำถามนั่นแหละคือคำตอบสำหรับเขาแล้ว หัวไหล่เล็กมือห่อตัวอัตโนมัติเมื่อความอุ่นร้อนจากฝ่ามือใหญ่ทาบทับ เขาลงแรงบีบเบาๆ ก่อนจะดึงร่างเธอเข้ามาปะทะกับแผงอกล่ำสันของตัวเอง
“เธอทำให้ฉันไม่พอใจรู้หรือเปล่า ทำไมชอบขัดคำสั่ง ถ้าฉันไม่กลับมาก่อนก็ไม่มีทางรู้เลยใช่ไหมว่าเธอไม่ทำตามที่ฉันบอก”
“หอมทำงานนี่คะ หอมคิดว่า...อยู่ทำงานให้เสร็จดีกว่าเพราะถึงกลับเร็วคุณก็ไม่อยู่ หอม...ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว” เธอพูดกับเขาอย่างรู้ทางผ่อนคลายร่างกายไม่ให้เกร็งเครียดยามที่เขาละมือจากหัวไหล่มาสอดเข้าทางด้านหน้าตรงสะเอวแล้วรวบกอดเธอเอาไว้
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ ฉันเป็นห่วง...อีกห้านาทีถ้าเธอยังไม่กลับฉันคงบุกไปพังบริษัทของเธอซะแล้วลากเธอกลับมาขังไม่ให้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันเลยรู้ไหม” ชายหนุ่มพูดทีเล่นทีจริง แต่ตมิสารู้ว่าเขาจะทำจริงๆ นั่นแหละอย่างน้อยเขาก็จะทำมากกว่าครึ่ง ถ้าไม่พอใจขึ้นมา
“หอมขอโทษค่ะที่ทำให้เป็นห่วง”
“งานหนักมากเหรอถึงต้องอยู่ทำจนเลยเวลางานขนาดนี้” กัณฑ์รพียังถามต่อ เขาโยกตัวเองที่กำลังกอดเธออยู่เบาๆ ก้มใบหน้าลงสูดดมความหอมจากเรือนผมสลวยซึ่งถูกถักเป็นเปียวนรอบแล้วรวบเก็บไว้ด้านหลังปล่อยพวงผมที่เหลือเป็นหางม้าทิ้งตัวยาวถึงกลางแผ่นหลัง
“ก็นิดหน่อยค่ะ ปกติถ้าคุณไปรับไปส่งหอมก็กลับเร็วทุกวันอยู่แล้วบางทีก็เหลือค้างอยู่บ้างต้องไปทำต่อให้เสร็จตอนเช้าของอีกวัน แต่วันนี้...เอ่อ หอมตั้งใจทำให้เสร็จเลยพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องรีบ อีกอย่างมันก็ไม่สะสมจนเป็นดินพอกหางหมูด้วยไงคะ”
เสียงหวานอธิบายร่ายยาว บอกเหตุผลให้เขาฟัง ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วการที่เธอกลับบ้านไม่ตรงเวลาเมื่อเขาไม่อยู่มันเป็นเรื่องที่น่าขุ่นใจมาก
กัณฑ์รพีหวงเธอ ห่วง และหึงชนิดที่ใครก็คาดเดาไม่ถึง...
“บอกแล้วให้ลาออกซะ ฉันมีปัญญาเลี้ยงหรอกแค่เมียคนเดียว” เรื่องนี้ทั้งคู่เคยคุยกันหลายครั้งแล้ว แต่ตมิสาพยายามขอร้องบอกว่าอยากทำงานเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ไม่อยากให้ใครเอาไปนินทาว่าเธอคบกับเขาเพราะเขารวยและหวังจะเกาะกิน
“หอมยัง...”
“ช่างเถอะมานี่ดีกว่า...ฉันมีอะไรมาฝากด้วย” ชายหนุ่มตัดบท แล้วเบี่ยงร่างเล็กในอ้อมแขนให้หันตามเขาก่อนจะผละออกจากกันแล้วจูงมือเล็กๆ ของเธอเข้าไปในห้องนอน ตมิสาใจสั่น สถานที่นั้นมันบั่นทอนความรู้สึกของเธอจนฝังใจพอๆ กับรอยบอบช้ำที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกทั่วร่างกายไม่เคยหยุดหย่อน
“หลับตาสิ...” เขาสั่ง น้ำเสียงทุ้มพร่า เมื่อพาร่างของเธอเข้ามายืนอยู่ตรงกลางห้องนอนใหญ่โต มือเล็กสองข้างถูกรวบเข้าไว้ด้วยกันด้านหลัง หญิงสาวกำมือแน่นอย่างรู้ชะตากรรม เขาเริ่ม...อีกแล้ว...
“ฉันซื้อชุดนอนใหม่มาให้ รับรองเธอต้องชอบแน่ๆ” ดวงตากลมสีน้ำตาลปิดปรือลงตามคำสั่งเขา หูเธอยังได้ยินเสียงแผ่วๆ ของเขาพร้อมกับรู้สึกว่าชายเสื้อกำลังถูกดึงออกมาจากกางเกง หญิงสาวไม่ได้ขัดขืนเธอไม่อาจทำอย่างที่ใจตะโกนบอกได้ แม้จะหวาดหวั่นแต่ก็รู้และมั่นใจว่ากัณฑ์รพีรักเธอ นั่นแหละคือสิ่งบงการให้เธอทำทุกอย่างตามแต่เขาจะบัญชา
กระดุมเสื้อถูกปลดออกทีละเม็ด มือที่ไขว้หลังไม่ได้ถูกพันธนาการอะไรแต่เธอก็กำสอดประสานไว้อย่างนั้น ต่อด้วยกางเกงขายาวก็ถูกชายหนุ่มร่นถอดเป็นชิ้นต่อมา เมื่อจัดการกับเสื้อเสร็จร่างกายของเธอบัดนี้ถูกห่อหุ้มไว้เพียงบราเซียสีครีมอ่อนๆ กับแพนดี้เข้าชุดตัวจิ๋วเท่านั้น
สายตาคมจับจ้องอยู่กับผิวเนื้อขาวนวลราวน้ำนมบริสุทธิ์ ทว่า...มันกลับมีรอยช้ำเป็นเป็นจ้ำประปรายให้เห็นทั่วทั้งตัว บางรอยเป็นทางยาวแดงปื้นตามเรียวนิ้วที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เขาจับสองมือน้อยขึ้นมาพรมจูบ ร่างกายของเธอเย็นเฉียบรัศมีแห่งความหวาดกลัวแผ่ซ่านจนเขารู้สึกได้
ถ้าเป็นคนทั่วไปได้มาเห็นเช่นนี้ย่อมตกใจ สงสาร หรือไม่ก็เวทนาอยู่ไม่น้อย แต่หากเป็นเขาความรู้สึกเช่นนั้นมันถูกแทนที่ด้วยอารมณ์บางอย่างจนมิดจมเสียสิ้น
“เจ็บหรือเปล่า...รอยนี่เมื่อวานสินะฉันทำเธอเจ็บหรือเปล่า” ถามทั้งที่รู้คำตอบ พร้อมทั้งยกแขนข้างที่เป็นรอบแดงช้ำนูนยาวขึ้นมาประทับจูบ
ตมิสาสะดุ้งเฮือก เธอกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเผลอไผลเมื่อความอุ่นซ่านจากปลายลิ้นสากบรรจงเลียไล้ไปตามรอยแผลนั่น มันแสบและร้าวระบมนิดๆ เมื่อแรงกดจากปลายลิ้นเพิ่มน้ำหนักมากขึ้น
“ถอดนะ...จะได้ลองชุดใหม่”
“คุณซีลคะ...หอม...หอมยังเจ็บค่ะ...” เธอบอกคล้ายวอนขออยู่ในที สีหน้าซีดเผือดริมฝีปากสั่นระริก”
“แค่ลองชุด...สัญญา” กัณฑ์รพีก้มบอกริมกกหูขาว หญิงสาวกลืนน้ำลายเฮือกก่อนจะค่อยๆ พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เธอแน่ใจเหลือเกินว่าไม่อาจรองรับความปรารถนาของเขาไหวในเวลานี้ ด้วยเมื่อคืนวานเพิ่งจะผ่านเกมรักที่โหดหฤหรรษ์มาหมาดๆ ถ้าเป็นเช่นปกติทั่วไปก็คงไม่ถึงขั้นต้องมานั่งขอเว้นระยะเสพสังวาสกันทั้งๆ ที่อยู่ในภาวะข้าวใหม่ปลามันเช่นนี้หรอก
ตมิสาต้องจำเป็นต้องให้เวลากับร่างกายของตัวเองได้พักบ้าง เพราะเขาไม่ปกติ...เพราะสามีโดยพฤตินัยของเธอเขามีบทรักที่ผิดแผกแตกต่างจากคนโดยทั่วๆ ไป อาจทำความเข้าใจง่ายๆ ด้วยคำจำกัดความว่าเขาเป็นพวกที่ชอบใช้ความรุนแรงขณะร่วมรักหรือ ไม่แน่ใจว่าเขาจะเข้าข่ายคำว่า ‘ซาดิสม์’ หรือเปล่า
ชายหนุ่มเดินไปประกบหลังแล้วดันไหล่เบาๆ ให้เธอก้าวย่างไปด้านหน้าตรงเตียงนอนซึ่งทำจากไม้ ดัดตกแต่งเป็นรูปทรงสวยแปลกตายื่นยาวสูงขึ้นมาด้านบนคล้ายเป็นหลังคา พร้อมมีผ้าขาวบางเนื้อดีพาดแขวนดูเก๋ไก๋ ร่างเปลือยเปล่าของตมิสาหย่อนตัวนั่งตามแรงกดที่ไหล่ หญิงสาวไม่กล้าสบตาเขาด้วยเพราะเขินอายกับสภาพของตัวเอง แต่หากมันทำให้กัณฑ์รพีพอใจเธอก็ยินดี
“ซื้อมาก็ซักให้เลย ผ้ามันบางแห้งเร็ว...นั่งรอตรงนี้นะ...” เขาบอกขณะลูบไล้เนื้อผิวที่ต้นขาเบาๆ สายตาไม่ลืมลัดเลาะไปยังจุดกลางลำตัวสาวเจ้า
ตมิสายิ่งอายหน้าแดงก่ำเธอไม่รู้หรอกว่าการใช้ชีวิตคู่ของคนอื่นๆ จะเป็นเช่นนี้หรือไม่ที่พอเข้ามาถึงห้องเขาก็มักจัดแจงปอกเปลือกจนเหลือแต่เนื้อใน และทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยสภาพเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นทำงานบ้าน ทำกับข้าวหรือแม้แต่ตอนรับประทานอาหาร
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าจะทำใจให้ยอมรับได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เพิ่งจะตัดสินใจทดลองใช้ชีวิตคู่ในช่วงเวลาหกเดือนที่ผ่านมา เธอยังไม่ชิน ไม่เคยชิน และนึกอยากกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติบ้าง นั่นหมายถึงต้องทำทุกอย่างสวนทางกับความต้องการของคนรัก หรืออาจต้องจบความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่นี้
“ยกแขนหน่อย...” เสียงแผ่วทุ่มแต่สั่นพร่าเรียกสติที่หลุดลอยชั่วครู่ให้กลับมา ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตฉายแววสั่นระริกมองไปยังเจ้าของเสียงก่อนจะผลุบต่ำ เพราะเห็นบางอย่างที่เขาสื่อออกมาทางสายตาคมปลาบ
หญิงสาวทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ชุดนอนซีทรูสีดำบางหวิวเป็นสายเดี่ยวมีริบบิ้นผ้าสีเดียวกันเย็บคาดตรงหน้าอกที่ปกปิดไว้เพียงครึ่งเต้าอวบอัดถูกสวมใส่ให้กับเจ้าของร่างบาง ความยาวของมันคลุมเนินเนื้อและสะโพกปล่อยชายที่ผ่ากลางตลอดตั้งแต่ใต้ฐานอกลงมาทิ้งตัวพลิ้วไหวบนที่นอนสีขาวสะอาด
“ลุกขึ้นสิ...ยังมีอีกชิ้น...” กัณฑ์รพีแสยะยิ้มแพรวพราวพอใจกับอาภรณ์ที่ตัวเองคัดสรรอยู่บนเรือนร่างของเธอรวมไปถึงอีกชิ้นที่ว่าซึ่งอยู่ในมือที่ชูยื่นให้คนตรงหน้านิ้วมือกระดิกเร่งเธอให้ทำตามคำสั่ง หญิงสาวมองจีสตริงตัวจิ๋วที่ไม่มีเนื้อผ้าปกปิดเลยแม้แต่น้อย
ความพิเศษของมันก็คือเพชรเม็ดงามที่ประดับเป็นเส้นยาวอยู่ตรงขอบเอวด้านหลัง นอกเหนือจากนั้นเป็นผ้าสีดำเส้นเล็กคาดอยู่เพียงสามเส้นเท่านั้นไม่เว้นด้านหน้า
“...” แม้จะไม่ใช่ชุดแรก หรือครั้งแรกกับการต้องลองชุดวาบหวิวเช่นนี้ แต่ตมิสาก็อดหวั่นใจไม่ได้ว่าถ้าหากเธอสวมใส่มันแล้วเหตุการณ์ต่อจากนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร ชายหนุ่มจะหักห้ามตัวเองให้อยู่ในขอบเขตคำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนหน้าได้หรือเปล่า
นั่นเป็นสิ่งที่เธอกังวล เพราะรู้จักด้านมืดของกัณฑ์รพีดีว่าหากมันปะทุขึ้นแล้วชายหนุ่มแทบไม่มีสติยั้งใจตัวเองให้เป็นปกติได้เลย
ตมิสาปัดความหวาดหวั่นออกจากความรู้สึก ลุกขึ้นและรับเอาชั้นในตัวน้อยที่ราคาคงแพงลิ่วมาสวม มันไม่ได้ช่วยให้ร่างเปลือยของเธอมิดชิดอะไรเลย กัณฑ์รพีกอดอกยิ้มร้ายมองร่างงามในชุดหวิวที่ยืนก้มหน้าเอามือมากุมกอบไว้ตรงหน้าท้องขาวเนียนอย่างสำรวจ
สายตาแลไล่ตั้งแต่ใบหน้าขาวผ่องซึ่งยังก้มงุด ไล่ตามพวงผมลงมาถึงไหล่มน เนินอกอวบตูมที่ดันซีทรูจนผิวเนื้อตรงฐานโผล่พ้นรอยผ่ากลาง ยอดอกสีชมพูเข้มอวดโฉมอยู่ภายใต้อาภรณ์ที่ดำบางเบา เหล่านั้นทำให้เลือดหนุ่มในกายร้อนฉ่า เขาคิดผิดจริงๆ ให้ตมิสาใส่ชุดนี้ในวันที่เธอไม่พร้อม กระนั้นก็ยังไม่ยอมหยุดใช้สายตาตรวจทุกตารางเนื้อนวลที่ตัวเองถือสิทธิ์เป็นเจ้าของ กำมือน้อยๆ ของเธออยู่เหนือเนินสาวเกลี้ยงเกลาเพียงคืบ กัณฑ์รพีกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเดินหน้าเข้าหาสาวเจ้า ตมิสาแหงนมองเขาเม้มปากด้วยความประหม่า ร่างกายของเธอขาวพร้อมๆ กับคลื่นร้อนผ่าวบางอย่างที่ปะทะกันอยู่ภายใน อุ้งมือใหญ่ของเขาจับเคล้นตรงหัวไหล่เล็กจนหญิงสาวเผลอห่อเข้าหาตัวคล้ายตระหนกอยู่ในที
“ไม่เป็นไร...ชูว์...ฉันรู้...” เขาปลอบ แต่น้ำเสียงกลับสั่นพร่าบ่งบอกถึงสิ่งตรงกันข้าม ร่างเล็กถูกจับหมุนหันหลังให้เขา กัณฑ์รพีเคลื่อนมือลงมาตรงบั้นท้ายขาวเปลือยที่มีชุดซีทรูปกปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง
สายจีสตริงประดับเพชรเส้นกลางที่ฝังอยู่ในร่องสะโพกถูกดึงขึ้นจนร่างน้อยสะดุ้ง เพราะมันรั้งด้านหน้าให้ฝังลึกในร่องหลืบเร้นของเธอไปด้วยโดยปริยายกัณฑ์รพีหายใจหอบกระเส่าแม้อยู่ด้านหลังเขากลับจินตนาการมองเห็นส่วนลับที่ฉ่ำชื้นซึ่งกำลังกลืนกินเส้นใยผ้าที่เขาดึงทึ้ง
อืม...สัมผัสตรงส่วนนั้นมันตราตรึงมัดใจเขาเสมอ ตมิสาร่ายมนตร์ดำใส่เขาจนโงหัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว
“อ๊ะ!!!” ร่างกายสั่นเทาของหญิงสาวซึ่งยังไม่ทันตั้งตัวล้มคว่ำลงบนที่นอนทันทีจากแรงผลักของคนด้านหลัง ส่วนหน้าของเธอนาบแนบกับที่นอน แต่ท่อนล่างตั้งแต่ใต้เข่ายังคงเหยียบยันอยู่บนพื้นห้องเผยสะโพกขาวนวลเนียนท้าสายตาคมกริบที่จ้องมองอย่างหิวกระหาย
ก่อนที่ร่างใหญ่ในชุดกางเกงขายาวกับเสื้อเชิ้ตพับแขนถึงข้อศอกจะทอดกายนั่งข้างๆ อย่างใจเย็น ทั้งที่เลือดเนื้อของเขายามนี้มันร้อนรุ่มเดือดพล่านเต็มที