ทางฝากฝั่งของร่างฟ้าขวัญ
ศรันย์เองก็ได้ดูข่าวทางโทรทัศน์เช่นเดียวกัน และตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเขายังไม่อยากจะเชื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังสถาบันตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต แต่เนื่องจากตั้งแต่ฟ้าขวัญวิ่งกระเจิงออกไปจากร้านกาแฟตอนที่มีเรื่อง เขาก็ยังไม่เห็นเธอกลับมาอีกเลย
"ผมเป็นเพื่อนกับผู้เสียชีวิตครับ เผื่อจะได้ช่วยติดต่อญาติด้วยอีกที" ศรันย์ขอลางานแล้วมาแจ้งติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่สถาบันดังกล่าว
"เชิญทางนี้ครับ" เจ้าหน้าที่พาเขาไปที่ห้องเก็บร่าง
"เจ๊ฟ้าขวัญ!" ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดร่างให้ดูศรันย์ถึงกับเข่าอ่อน น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินแบบไม่อายเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ข้างๆ
"เขาคือเพื่อนของผมจริงๆครับ ยังไงผมจะติดต่อญาติมารับร่างนะครับ ว่าแต่เขาทำไมถึงตกลงไปได้ครับ" ศรันย์บอกและหันไปถามเจ้าหน้าที่
"เท่าที่กู้ภัยแจ้งมา น่าจะเป็นการจงใจคิดสั้นนะครับแล้วเหตุเกิดตอนกลางคืนด้วยคงไม่มีใครช่วยทัน เพราะคนที่เจอร่างเป็นชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นตอนรุ่งขึ้นอีกวันแล้ว" เจ้าหน้าที่เแจ้ง
"เจ๊ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงยอมตายเพื่อคนแบบนั้น ผมคือคนที่รอเจ๊อยู่ทำไมไม่เคยมองมาเลย"ศรันย์เผยความในใจกับร่างไร้วิญญาณของฟ้าขวัญ
ศรันย์แอบรักฟ้าขวัญสาวรุ่นพี่มานานแล้วแต่ด้วยความขี้เล่นชอบว่าชอบแซวฟ้าขวัญเลยมองข้ามและมองเขาเป็นเหมือนเพื่อนหรือน้องเท่านั้นเอง
ศรันย์เป็นธุระจัดการติดต่อแม่และญาติของฟ้าขวัญที่อยู่ต่างจังหวัดและดำเนินการเรื่องงานศพของเธอทั้งหมด
"แม่ยังทำใจไม่ได้ขอเก็บฟ้าไว้แบบนี้ก่อนนะรัน ขอบใจมากที่ช่วยเป็นธุระให้ทุกอย่าง" ธิดาแม่ของฟ้าขวัญหันมาพูดกับศรันย์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
....................................................................................................................................
"เราต้องหาทางกลับไปที่บ้านของเราให้ได้ ชื่อพรรับฟ้าหรือเธอน่ะ เธอก็สวยดีนะ หุ่นก็ดี แต่ฉันอยากกลับไปร่างของฉันที่ของฉันมากกว่า"
ฟ้าขวัญพูดกับตัวเองตอนส่องกระจกในห้องน้ำ มองหน้าและบิดตัวไปมาซ้ายขวาเหมือนสำรวจตัวเอง เธอครุ่นคิดตลอดว่าจะทำอย่างไรดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเธอ
"ฟ้าลูก พ่อกับแม่มาเยี่ยมแล้วลูก" นภาเดินเข้ามาที่ห้องร้องเรียกหาลูกสาวเมื่อไม่เจอที่เตียงคนไข้
ฟ้าขวัญรีบวิ่งออกมาดูว่าใครเรียกเธอ
"ว๊า พวกคุณเองหรือ" ฟ้าขวัญรีบออกมาดูเพราะคิดว่าคนรู้จักของเธอมาเรียกเพราะเธอก็มีชื่อเล่นว่าฟ้า
"แน๊ะลูก พูดอะไรกันจ๊ะถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่แล้วจะใครจ๊ะ" นภาหันไปยิ้มขำกับนพดลสามี
"หนูชื่อเล่นชื่อฟ้า ชื่อเหมือนเราเลยแฮะ?" ฟ้าขวัญในร่างพรรับฟ้าถามแบบงงๆ
"ก็ใช่นะสิจ๊ะ" นภาก็รู้สึกแปลกในคำถาม ทำคิ้วขมวด
"เอออนี่วันนี้คุณหมออนุญาตให้หนูกลับบ้านได้แล้วนะ ได้กลับบ้านเราเสียทีลูก" นพดลดีใจ
ขณะนั้นพยาบาลก็เข้ามาวัดความดันและคุณหมอก็เดินเข้ามาตรวจอาการอีกครั้ง
"ไม่มีอะไรที่น่าเป็นกชห่วงแล้วนะครับ คุณพรรับฟ้าถือว่าเป็นเคสปาฏิหาริย์มากๆเลยนะครับ พวกคุณโชคดีมากๆ" คุณหมอกล่าวหลังจากตรวจร่างกายพรรับฟ้าเสร็จ
"คงเป็นผลบุญที่เราได้พยายามทำให้ตลอดระยะเวลา 1 ปีนี้ค่ะ" นภาปลื้มใจที่บุญที่เธอสร้างและอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรของพรรับฟ้ามาโดยตลอดสัมฤทธิ์ผลแล้วจริงๆ
เดี๋ยวแม่ช่วยเก็บของหนูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิลูก" นภาพูดพร้อมหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาให้เธอ
"ค่ะ" ฟ้าขวัญจำใจทำตามแบบคาใจ
............................................................................................................................
เมื่อถึงบ้านพรรับฟ้าเดินตามนภาเข้าไปเธอมองซ้ายมองขวารอบๆบ้านและมองเหล่าบรรดาแม่บ้านคนรับใช้ที่คอยยืนต้อนรับเธอ
"พรรับฟ้าเธอรวยขนาดนี้เลยหรือนี่" เธอพึมพำคนเดียว
"กลับมาแล้วทูนหัวของป้า" ป้าพริ้งหัวหน้าแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของบ้านเข้ามาจับไม้จับมือเธอเอาไปแนบแก้มด้วยความดีใจ
ป้าพริ้งเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กตามใจเธอเป็นที่หนึ่ง แต่ฟ้าขวัญไม่ชินจึงดึงมือกลับอัตโนมัติ
"เอ่ออ" ป้าพริ้งตะลึงที่พรรับฟ้าดึงมือกลับ
"ยังคงไม่ชินนะพริ้งเพิ่งฟื้น" นภาบอกแม่บ้านพริ้งอย่างใจเย็น
"ยังไงก็ฝากทุกคนดูแลลูกฟ้าด้วยนะ อาจจะยังจำอะไรไม่ค่อยได้ให้เวลาหน่อย" นพดลออกตัวให้ลูกสาวเพราะเขาเองก็คิดว่าอาการแปลกของลูกสาวน่าจะเกิดจากการที่หลับไปนานย่อมมีอาการหลงลืมเป็นธรรมดา
"ป้าจัดที่นอนให้เรียบร้อยแล้วนะคะ ทุกอย่างของคุณฟ้าอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ อยากได้อะไรบอกป้าเลยนะคะ" ป้าพริ้งเอาอกเอาใจ
หลังจากที่ได้รู้จักคนในบ้านบางส่วนแล้วเธอก็ขึ้นไปยังห้องนอน ภายในจัดโอ่อ่าในแบบฉบับของลูกคุณหนู
"ยัยนี่น่าจะเอาแต่ใจน่าดูมีแต่คนเอาใจ" ฟ้าขวัญพูดกับตัวเอง
"เฮ้อเอายังไงเนี่ยฉันต้องอยู่ร่างนี้นานแค่ไหนนะ" ฟ้าขวัญหงายหลังทิ้งตัวลงที่นอนเอามือก่ายหน้าผาก
"ก่อนอื่นฉันต้องเรียนรู้ในการเป็นเธอก่อนพรรับฟ้า"
เธอพยายามที่จะเรียนรู้ในการอยู่ในร่างกายนี้ด้วยมีความหวังว่าสักวันเธอจะยังสามารถกลับไปยังที่ที่ตัวเองจากมาได้
ฟ้าขวัญในร่างพรรับฟ้าเดินสำรวจภายในห้องนอนเปิดดูเสื้อผ้าในตู้แสดงถึงไลฟ์สไตล์ของพรรับฟ้า
"โห เปรี้ยวไม่หยอกเลยนะนี่" เธออุทานด้วยความตื่นตามเมื่อเห็นเสื้อผ้าแต่ละชุดของพรรับฟ้าราวกับนางแบบซุปเปอร์โมเดล
"ว้าว กระเป๋าแบรนด์เนม แต่ละใบแพงกว่าเงินเดือนฉันอีก ซื้อลงได้ยังไงเนี่ย" ของแต่ละชิ้นของพรรับฟ้าไม่มีชิ้นไหนที่ไม่มียี่ห้อดังเลย
เธอพยายามเลือกชุดที่สามารถใส่ได้สบายตาที่สุดแล้วจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้า
"คุณพ่อคุณแม่คะเดี๋ยวฟ้ามานะคะอยากจะออกไปข้างนอกหน่อย" ฟ้าขวัญในร่างพรรับฟ้าพูดกับนภาและนพดล
"จะออกไปไหนลูกเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล พักก่อนลูก" นภาร้องห้าม
"แป๊บเดียวค่ะคุณแม่ฟ้าไปไม่นานสัญญา" พูดเสร็จเธอก็เดินลิ่วๆไปยังประตู
"เดี๋ยวก่อนสิลูกหนูจะไปยังไง" นภาดึงแขนลูกสาว
"แท็กซี่ค่ะ" เธอตอบหน้าตาเฉย
"แท็กซี่หรือหนูไม่เคยนั่งแท็กซี่นะลูก เดี๋ยวแม่ให้ลุงพรคนขับรถไปส่งฟ้าอยากไปที่ไหนลุงพรจะพาไปลูก" นภาบอก
"เอ่ออ" เธออึกอัก
"อย่าทำให้แม่เป็นห่วงสิลูก"
"ก็...ก็ได้ค่ะ" เธอจำใจทำตาม
แล้วเธอก็รับเดินออกไปโดยบอกจุดหมายให้คนขับรถมุ่งตรงไปคือบ้านของเธอเอง
"บ้านใครครับคุณฟ้า" ลุงพรไม่คุ้นเคยการมาที่นี่จึงถาม
"ลุงพรไปจอดรอตรงโน้นก่อนนะคะ เดี๋ยวฟ้าไปหาเพื่อนสักครู่เดียว" เธอชี้นิ้วบอกที่จอดรถให้ลุงพร
"ครับๆ"
ฟ้าขวัญเดินไปแอบมองที่มุมกำแพงเธอเห็นศรันย์อยู่ในชุดสีดำกำลังเดินไปที่หน้าบ้านของเธอแล้วไขกุญแจประตู แม่ของฟ้าขวัญได้ฝากให้ศรันย์เก็บกุญแจบ้านไว้เพราะรู้ว่ามีแมวและไหนจะข้าวของๆฟ้าขวัญอีก จึงได้ฝากให้ศรันย์ช่วยดูแลให้ก่อน
"ไงบิงซู พ่อมาแล้วหิวไหม"
"แม่แกไม่อยู่แล้ว เดี๋ยวพ่อจะเอาแกไปอยู่ด้วยนะ" ศรันย์พูดพร้อมอุ้มแมวเปอร์เซียแสนรักของฟ้าขวัญมาอุ้มเล่นหน้าบ้านและเทอาหารให้
"บิงซูฉันอยากกอดแกจังเลยเป็นยังไงบ้างเนี่ย" พอได้ยินชื่อเรียกบิงซูฟ้าขวัญก็คิดถึงทันที
"เจ๊จะรู้ไหมเนี่ยว่าฉันกับบิงซูคิดถึงเจ๊แค่ไหน" ศรันย์พูดกับแมว
"รัน ขอบใจแกมากนะที่ช่วยดูแลบ้านกับบิงซูให้ฉัน" ฟ้าขวัญไม่กล้าออกมาเจอศรันย์
"แล้วตอนนี้ตัวฉันอยู่ไหนนะ" ฟ้าขวัญหมายถึงร่างของเธอ
"แกร๊บบบ!
ขณะที่เธอแอบมองอยู่นั้นดันเดินเหยียบกองใบไม้แห้งเสียงดังจนศรันย์หันมามอง
"เขาว่ากันว่าคนตายไปแล้ว7วันจะกลับมาบ้าน เจ๊เปล่าวะ" ศรันย์เริ่มขนลุก
ศรันย์อุ้มบิงซูพร้อมถาดอาหารแมวแล้วไขปิดประตูบ้านเดินกลับบ้านตัวเองทันที
ฟ้าขวัญทำอะไรไม่ได้นอกจากแอบดูแล้วก็คอตกกลับบ้านของพรรับฟ้าไป
...........................................................................................................