งานแต่งงานของทั้งสองคนถูกจัดขึ้นที่บ้านของฝ่ายหญิงโดยมีแขกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หลังจากแต่งงานกวินก็พาเส้นด้ายไปอยู่ที่บ้านของตนเองแต่แยกห้องนอน
เขาทำราวกับว่าเธอคืออากาศธาตุ ไร้ตัวตน ทั้งที่เธอก็พยายามเป็นภรรยาที่ดี ดูแลบ้าน ดูแลสามีแต่ความดีไม่เคยเข้าตาคนตัวโต
ชายหนุ่มใจแข็งและใจร้ายกับหญิงสาวไม่น้อย ทำให้บางครั้งหญิงสาวต้องหนีเข้าไปร้องไห้อยู่ในห้องน้ำพร้อมกับปลอบตัวเองว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น เธอต้องอดทนสักวันเขาจะเห็นเธออยู่ในสายตาเอง
เส้นด้ายเรียนจบทางด้านกราฟิกดีไซน์ ชอบในการวาดรูปจึงยึดอาชีพวาดรูปให้กับนักเขียนหรือไม่ก็สำนักพิมพ์
รูปของเธอเป็นที่ชื่นชอบของนักเขียนหลายคนทำให้เธอกลายเป็นนักวาดคิวทอง มีคนจองคิวให้วาดรูปยาวไปเป็นปี
เพราะยึดอาชีพวาดรูปทำให้เธอไม่ต้องออกไปทำงานไกล ไม่ต้องฝ่ารถติด อยู่ในบ้านก็ทำงานได้แต่คนมักจะเข้าใจว่าเธออยู่บ้านเฉยๆ เกาะสามีกิน อันที่จริงรายได้ต่อเดือนของเธอมากกว่าคนทำงานประจำไม่รู้กี่เท่า
สองสามีภรรยาใช้ชีวิตคู่แบบนี้มาเกือบหนึ่งปีจนมาถึงจุดที่ทำให้เกิดรอยร้าว มีอยู่วันหนึ่งแม่บ้านลาป่วยทำให้เส้นด้ายต้องเข้าไปทำความสะอาดห้องของกวิน ปกติเขาสั่งห้ามไม่ให้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวายในห้องนอน ช่างเป็นภรรยาที่อาภัพนัก
“นี่มันอะไรสวยจัง” หญิงสาวเอื้อมมือไปจับโมเดลบ้านที่วางอยู่บนชั้นวางแล้วยกลงมาดูด้วยความชื่นชอบ แต่จับไม่ถนัดมือทำให้โมเดลแสนสวยตกลงบนพื้น บางส่วนแตกหักเป็นจังหวะที่กวินเดินเข้ามาเห็นพอดี
“ทำอะไรของเธอ ใครใช้ให้เข้ามาในห้องนี้”
ชายหนุ่มโกรธจนหน้าดำหน้าแดง มองโมเดลที่อดีตคนรักเคยมอบให้ด้วยความเสียใจ มือสากจับโมเดลขึ้นมาอย่างทะนุถนอม
“ด้ายขอโทษค่ะ ด้ายเข้ามาทำความสะอาด เห็นมันสวยดีเลยเอามาดูค่ะ” เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เมื่อเห็นว่าบนโมเดลมีชื่อเมษาอดีตคนรักของสามีแปะอยู่ รู้แล้วทำไมกวินถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ออกไปได้แล้ว ของพังหมด วันหลังไม่ต้องยุ่ง”
“ด้ายไม่ได้ตั้งใจนะคะพี่วิน ด้ายขอโทษ”
“ออกไป ไม่เข้าใจเหรอ บอกให้ออกไป”
หญิงสาวกระวีกระวาดวิ่งออกจากห้องนอนของสามี แล้วหายเข้าไปในห้องนอนของตนเองด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่งงานกันมาตั้งนานเมื่อไรกวินจะเห็นความดีของเธอบ้างก็ไม่รู้
ตกเย็นหญิงสาวจัดการเรื่องข้าวปลาอาหารเรียบร้อย กำลังนั่งรอสามีลงมากินข้าวด้วยกันแต่เธอกลับต้องแปลกใจเมื่อเห็นเขาแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอก
“พี่วินจะออกไปไหนเหรอคะ ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันเหรอ”
เธอถามก่อนจะปรายตามองเขาตั้งแต่หัวจดเท้า กวินเป็นผู้ชายอายุสามสิบต้นๆ ที่มีความหล่อเหมือนเด็กหนุ่ม ไม่เหมือนเธออายุเพิ่งจะยี่สิบสามแต่ดูแก่ไม่น้อย สมแล้วที่สาวใช้ของบ้านสามีนินทาลับหลังบอกว่าเธอไม่เหมาะสมกับกวิน
“ไม่หิว พี่จะออกไปข้างนอก ไปกินข้างนอกเลย” น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบจนคนฟังใจแป้ว
“พี่วินจะออกไปไหนคะ มันมืดแล้ว” ถึงจะน้อยใจอย่างไรแต่เธอก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ดี
“อย่าถามมาก ไม่ใช่เรื่องของเธอ” คนปากไม่ดีหันมาจ้องหน้าภรรยาก่อนตอบด้วยถ้อยคำไม่รักษาน้ำใจ ใบหน้าของเขาไร้รอยยิ้ม
“แต่ด้ายเป็นเมียพี่วิน ทำไมจะไม่มีสิทธิ์รู้”
หญิงสาวถามเสียงขุ่น ความอดทนเริ่มลดลงเมื่อได้รับความเย็นชาจากชายหนุ่ม เธอเป็นคนใจเย็นแต่อย่าให้โกรธ
“ก็แค่เมียในนามจำเอาไว้” กวินกระซิบบอกภรรยาด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึก หาได้สนใจใบหน้าซีดเซียวของเธอ
จากนั้นก็ก้าวเท้าฉับๆ เดินออกจากบ้านแล้วขับรถไปที่สถานบันเทิงของเพื่อนในกลุ่ม เขาแค่ไปดื่มไม่มีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้องเพราะยังจำได้ขึ้นใจว่าตนเองมีเมียแล้ว
ชายหนุ่มใช้ชีวิตแบบนี้จนกระทั่งคืนหนึ่งที่กลับบ้านมาด้วยสภาพคล้ายคนเมา แล้วต่อว่าหญิงสาวอย่างไม่รักษาน้ำใจและปากร้ายกว่าเดิมมาก
ด้วยความรักทำให้เส้นด้ายเลือกที่จะทน แต่ความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด โดนดุโดนว่าหลายครั้งใครจะทนไหว
“พี่วิน วันนี้ด้ายขอคุยด้วยหน่อยค่ะ” หญิงสาวเดินไปดักหน้า หลังจากเห็นสามีเดินออกมาจากห้องนอน
เธอนั่งคิดนอนคิดมาหลายวันแล้ว ในเมื่ออยู่ด้วยกันไม่มีความสุขก็ควรแยกย้ายต่างคนต่างไป
“มีเรื่องอะไร คืนนี้ฉันนัดเพื่อนเอาไว้” ชายหนุ่มมองนาฬิกาข้อมือ ต่อให้ทำงานเหนื่อยขนาดไหนแต่เขาก็ยังขยันที่จะออกไปพบปะเพื่อนฝูง ดื่มเหล้าย้อมใจแทบทุกคืนหาได้สนใจในตัวภรรยา ผู้หญิงที่เขาจำเป็นต้องแต่งงานด้วยเพื่อตอบแทนบุญคุณ
“เราหย่ากันเถอะค่ะ” เธอสูดหายใจเข้าปอดก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความเสียใจที่ต้องพูดคำนี้
“ว่าไงนะ”
“ด้ายต้องการหย่า”
“หย่า! เธอกล้าขอหย่าเหรอเส้นด้าย”
“ค่ะ ด้ายไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว”
“ไม่หย่า ฝันไปเถอะ” กวินจับหมับไปที่แขนของเส้นด้ายแล้วบีบอย่างแรงทำให้หญิงสาวหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ
ชายหนุ่มยิ้มร้ายไม่มีทางยอมทำตามที่เธอต้องการแน่นอน เพราะตอนนี้ชีวิตรักของเขาพังไปแล้ว อดีตแฟนกำลังจะแต่งงานกับนักธุรกิจชาวต่างชาติ เส้นด้ายต้องรับผิดชอบ
“ด้ายเจ็บ ปล่อยแขนด้ายนะพี่วิน” เธอดิ้นให้เขาปล่อย แขนเจ็บยังไม่เท่าหัวใจเจ็บเมื่อเห็นสายตากวิน
“อย่ามาสำออย คนอย่างเธอเจ็บไม่เป็นหรอก”
ชายหนุ่มตะคอกเสียงดังก่อนสะบัดมือออกจากแขนภรรยาที่กำลังร้องไห้ด้วยความเสียใจ จากนั้นก็ก้าวเท้าออกจากบ้านไปอย่างหัวเสีย
เส้นด้ายกล้าดีอย่างไรถึงมาขอหย่า หึไม่มีทาง เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอไปเสวยสุขแล้วปล่อยให้ตัวเองทนทุกข์อยู่คนเดียว
หญิงสาวร้องไห้จนเหนื่อยจึงตัดสินใจกลับเข้าไปในห้องของตนเองพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน อย่างไรเสียเธอก็จะหย่า พอแล้วชีวิตคู่ที่รักเขาอยู่ฝ่ายเดียวมันทรมานเกินไป
เธอหลับไปได้สักพักใหญ่ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของคนตัวโตที่มีกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง
“อื้อ อย่ามายุ่งนะคนจะนอน” เส้นด้ายปัดมือที่กำลังแตะต้องตัวราวกับละเมอ กวินสัมผัสเนื้อตัวภรรยาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ความร้อนในกายทำให้เขาอยากจะปลดปล่อย วันนี้เขาจะใช้สิทธิ์ความเป็นสามีกับเนื้อตัวเธอ
“ตื่นมาให้ความสุขผัวก่อนสิแล้วค่อยนอน” กระซิบบอกเสียงพร่า มือไม้เริ่มเลื้อยไปตามเนื้อตัวคนกึ่งหลับกึ่งตื่นด้วยความชอบใจ ว่าไปเส้นด้ายก็ตัวนิ่มไม่น้อยแถมยังเต็มไม้เต็มมืออีกต่างหาก
“พี่วิน! อื้อ เดี๋ยวก่อน หยุด! พี่จะทำอะไร” คนหลับสะดุ้งตื่น ตกใจไม่น้อยที่เห็นสามีกำลังคร่อมอยู่เหนือตัว
ตกใจยิ่งกว่าเมื่อก้มมองมือของเขากำลังเคล้นคลึงหน้าอกอวบที่ไร้บราเซียร์ห่อหุ้ม ปกติเวลานอนเธอจะไม่ใส่ชั้นในทั้งชิ้นบนและชิ้นล่างเพื่อความสบายตัว
“ก็ทำเรื่องที่ผัวเมียต้องทำกันไง” กวินจูบที่แก้มนวลก่อนจะกระซิบบอกในขณะที่มือกำลังเลื้อยลงไปยังใจกลางความเป็นหญิงด้วยความช่ำชอง นานแล้วที่เขาไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่า
หญิงสาวถึงกับครางฮือในลำคอใจหนึ่งอยากต่อต้านแต่ใจหนึ่งก็อยากยินยอม ความรู้สึกสับสนตีกันไปหมด ตอนนี้ร่างกายของเธอเหมือนจะชอบที่โดนมือร้อนสัมผัส เธอไม่เคยมีแฟนแม้แต่จูบก็ไร้ประสบการณ์ ดูแต่ในซีรีส์อ่านแต่ในนิยายเท่านั้น
“อ่าส์ อื้อ พี่วินหยุด อื้อ พี่วินไม่” แม้จะบอกว่าไม่แต่ขาทั้งสองข้างกลับอ้ากว้าง เปิดทางให้นิ้วร้ายกรีดไปตามร่องสาวได้อย่างถนัดถนี่
“อย่าปฏิเสธเลย พี่รู้เธอต้องการ” น้ำเสียงของเขาอันตรายต่อหัวใจคนฟังไม่น้อย กวินมองคนใต้ร่างด้วยสายตาดุดันราวกับเสือรอกินเหยื่อมานานแสนนาน
ความเมา ความโกรธ ความโมโหทำให้เขาขาดสติและเลือกจะลงโทษคนที่กล้าขอหย่าด้วยเรื่องบนเตียง เขาอยากรู้เหลือเกินถ้ากลายเป็นผัวเมียกันอย่างสมบูรณ์แบบเธอจะกล้าพูดคำนั้นอีกไหม
“ด้ายไม่เอา พี่วินหยุด อื้อ...”
“เธออยากได้ ไม่งั้นจะแฉะขนาดนี้เหรอ”
“...อื้อ พี่วิน...”