bc

วุ่นรักมนตรา คำสาปบุปผา NC20

book_age18+
2.5K
ติดตาม
20.1K
อ่าน
เดินทางข้ามเวลา
องค์หญิง
กษัตริย์
ดราม่า
ชายจีบหญิง
เบาสมอง
เย็นชา
ancient
seductive
multiple times a day
like
intro-logo
คำนิยม

​ฝูจื่อหรงก้มหน้าวูบลงมาบดริมฝีปากกับโจวเจ้าเว่ยเบาๆ แต่เจ้าเว่ยต้องการมากกว่านั้น หญิงสาวแลบลิ้นออกมารอรับ นางเป็นฝ่ายสอดความอ่อนนุ่มเข้าไปภายในปากของเขาแทน แม้มือจะยังไม่มีแรงมากนักแต่การยึดเหนี่ยวใบหน้าเขาไว้กลับไม่เป็นปัญหา หญิงสาวบดริมฝีปากสามีอย่างเร่าร้อน

"ถอดเสื้อผ้าให้ข้า จื่อหรงถอดให้ข้ามันร้อนเหลือเกิน" เจ้าเว่ยปากสั่นร้อนรนเพราะทนกับความรู้สึกเสียวซ่านที่รบกวนจนรู้สึกทรมานในทุกสัมผัสของเขา พรางนึกขัดใจตนเองที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งเสื้อผ้าของตนเองยังไม่มีปัญญาถอด

"เจ้าเว่ยของข้าอย่าได้รีบร้อน เราจะค่อยๆสัมผัสและมีความสุขด้วยกัน" ฝูจื่อหรงจุมพิตปากบาง พลางถอดอาภรณ์ของนางอย่างทะนุถนอม

"พี่เต้ข้าไม่เข้าใจ เจ้าหลีกเลี่ยงข้ามาตลอดเหตุใดถึงยอมโดยง่าย หากข้ามีแรงมากกว่านี้คงได้ปลุกปล้ำเจ้าไปหลายครั้งแล้ว" เจ้าเว่ยกล่าวพลางพยามยามใช้มือคว้ามังกรตัวใหญ่ไว้ในมือจนสำเร็จ อารมณ์ความต้องการเพิ่มทวีขึ้นโดยที่เจ้าเว่ยไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอกำความใหญ่แน่นแล้วลูบไล้ช้าๆ มันร้อนไปทั่วทั้งฝ่ามือ ภายใจร่างกายและจิตใจของเจ้าเว่ยสั่นระริกด้วยความร้อนและไฟปรารถนา

ในที่สุดฝูจื่อหรงก็ถอดอาภรณ์ออกจากร่างบางได้สำเร็จ เจ้าเว่ยดูเหมือนจะมีแรงขึ้นมาเล็กน้อย นางยังกำมังกรยักษ์แน่นไม่ยอมปล่อย นางเลียริมฝีปากเมื่อมองร่างมันจนฝูจื่อหรงรู้สึกลำคอแห้งผาก รู้สึกอยากกดศีรษะของคนตัวเล็กลงแล้วยัดมังกรเข้าไปในโพรงปากให้นางได้สมปรารถนาเสียเดี่ยวนี้

"ปล่อยมันก่อนเจ้าเว่ย เจ้าต้องไปอาบน้ำ" เขากระซิบเสียงแหบพร่า พยายามแกะมือเล็กที่กอบกำมังกรของเขาอยู่ เจ้าเว่ยต้องปล่อยอย่างอดเสียดาย ใบหน้าของนางฟ้องความต้องการออกมาจนฝูจื่อหรงนึกขัน

แนะนำตัวละคร เรื่องย่อ

โจวเจ้าเว่ย องค์หญิงแห่งแคว้นเหลียง ทายาทของเผ่าบุปผาขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามล่มเมือง คนของเผ่าบุปผาเป็นเผ่าที่ถือกำเนิดมาจากเทพเซียนรูปโฉมงดงามแต่ต้องคำสาปเรื่องของความรัก หากพวกเขามีความรักจะไม่สมหวังและตายอย่างอนาถด้วยความรักนั้น

ฝูจื่อหรง

ฮ่องเต้แคว้นชินที่มีเบื้องหลังการครองอำนาจโดยการสนับสนุนของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น รูปโฉมงดงามจนทำให้แข้งขาสตรีอ่อนระทวย

เรื่องสตรีสำหรับเขาเป็นเพียงเพื่อมีไว้สนับสนุนบัลลังก์ให้มั่นคงเท่านั้น

คนทั่วราชสำนักรู้ดีว่าเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น กระทั่งวันหนึ่งเขาต้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับองค์หญิงผู้ลึกลับผู้หนึ่ง ที่เข้ามาพังทะลายกำแพงหัวใจที่เขาตั้งเอาไว้ และ นางผู้นั้นยังทำท่าคล้ายกับว่าไม่อาจอยู่กับเขาได้อีก

สตรีผู้หนึ่งซึ่งมีความลับบางประการซ่อนอยู่

โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายฝาแฝดขององค์หญิงโจวเจ้าเว่ยโจวเจ้าเว่ยองค์หญิงผู้สามารถเดินทางข้ามมิติได้โดยใช้ขลุ่ยเพรียกบุปผาซึ่งเป็นขลุ่ยวิเศษในการเดินทางข้ามมิติ

โจวเจ้าเว่ยเป็นสตรีของเผ่าบุปผาอันลี้ลับ ต้องคำสาปที่ไม่สามารถมีความรักได้ หากนางมีความรักจำเป็นต้องเจ็บปวดจนถึงแก่ความตาย

เพราะเหตุนี้โจวเจ้าเว่ย และ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีแก้คำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และ พวกเขาไม่อาจเปิดเผยความลับนี้ให้ ฝูจื่อหรงล่วงรู้ได้

(เรื่องนี้เป็นนิยายภาคต่อของต้องมนต์บุปผาค่ะ)

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
การออกเดินทาง
หลิวซือซือในวัยกลางคนได้ยินเสียงขลุ่ยเพรียกบุบผาดังแว่วขึ้นมา จึงรีบวิ่งมายังห้องนอนของบุตรสาวเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบเพียงความว่างเปล่าอยู่ภายใน ตอนนี้การเดินทางไปแคว้นเหลียงของโจวเจ้าเว่ยไม่อาจควบคุมได้เช่นแต่ก่อน ทุกครั้งที่ต้องกลับไปลูกสาวของเธอจะคล้ายคนไม่ได้สติเดินไปหยิบขลุ่ยเพรียกบุบผามาเป่าเองได้ไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่าหลิวซือซือจะเก็บขลุ่ยไว้ในเซฟลับอย่างปลอดภัย แต่มันต้องอันตธานหายมาอยู่ในมือของเจ้าเว่ยเองทุกครั้ง เมื่อยากจะป้องกันจึงได้แต่ปล่อยให้โชคชะตานำพา แม้จะเป็นห่วงแต่ก็ยังวางใจที่ทุกครั้งที่ลูกสาวกลับไป เจี๋ยหลุนก็ต้องมีอันกลับไปกลับน้องสาวทุกครั้ง ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม "พี่ฮั่นคะ ลูกไปแล้วนะคะ" หลิวซือซือโทรศัพท์ไปบอกสามีทันใด "อืม ลูกอาจไปไม่นาน ไม่ต้องกังวลนะอาซือ เดี๋ยวพี่รีบกลับ" โจวเจ๋อฮั่นปลอบใจภรรยาก่อนวางสาย โจวเจ้าเว่ยและโจเจี๋ยหลุนมีอายุใกล้ครบยี่สิบปี ด้วยความเป็นอัจฉริยะทำให้เจี๋ยหลุนเรียนจบปริญญาเอกตั้งแต่อายุเพียงสิบเจ็ดปี ดูเหมือนฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายของโจวเจ๋อฮั่นหมายมั่นจะยกบรรลังก์ให้เจี๋ยหลุนทุกครั้งที่หลานกลับไป ส่วนเจ้าเว่ยกำลังเรียนมหาวิทยาลัย แต่เพราะช่วงหลังมานี้ ขลุ่ยเพรียกบุบผานำทั้งสองคนกลับไปแคว้นเหลียงบ่อยครั้ง ทำให้เขาตัดสินใจให้เจ้าเว่ยเรียนอยู่ที่บ้านแทน แคว้นเหลียง โจวเจ้าเว่ยเปิดกระเป๋าเก็บขลุ่ยเพรียกบุบผาไว้ภายใน แล้วรูดซิบเก็บอย่างเรียบร้อย หญิงสาวมองไปยังพี่ชายแล้วหัวเราะเสียงดัง โจวเจี๋ยหลุนเดินขึ้นมาจากบ่อน้ำแล้วถอดเสื้อเชิตสีขาวสะอาดออกจากตัว เขาบิดเสื้อแล้วสะบัดแรงๆหลายครั้งก่อนพับอย่างเรียบร้อย "เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลยเจี๋ยหลุน" น้องสาวยังหัวเราะไม่หยุด "บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่" พี่ชายส่ายหน้าให้กับอาการไม่เชื่อฟังของน้องสาวตัวน้อย "เกิดห่างกันไม่กี่นาทีจะเรียกพี่ทำไม อีกอย่างทำแบบนี้จะได้คอยกันสาวๆพวกนั้นไม่ให้เข้าใกล้เจี๋ยหลุนงัย เห็นแล้วรำคาญลูกกะตาชะมัด" เจ้าเว่ยเดินเข้าไปเกาะแขนพี่ชายอย่างเอาใจ เธอยีผมยาวของพี่ชายแล้วช่วยเซตให้เข้าที่ "พอแล้ว" เจี๋ยหลุนปัดมือน้องสาวตัวดีออก เขาไม่ชอบให้ใครแตะต้องตัวยกเว้นเจ้าเว่ยที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของร่างกายเขาอีกคน ห้ามยังไงก็ไม่เคยเชื่อฟัง "ว่าแต่ว่าทำไมเรามาโผล่ที่นี่หล่ะ" เจ้าเว่ยมองไปรอบๆ บริเวณ แถวนี้ดูไม่คุ้นตา "นั้นสิ ปกติเราไม่โผล่ที่วัง ก็ต้องไปโผล่ที่จวนนี่นา" เจี๋ยหลุ่นจับมือน้องสาวแน่น มองรอบข้างอย่างระวัง เขาลากน้องสาวให้เดินตาม แล้วอุ้มเธอกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่ง เมื่อมาอยู่บนที่สูงเจี๋ยหลุนมองเห็นรอบบริเวณได้ชัดเจนขึ้น "กล้องส่องทางไกล" เจ้าเว่ยทำหน้างงงวย เจี๋ยหลุนจึงมองไปยังกระเป๋าเป้ของเธอ "เอามาใส่ตั้งแต่เมื่อไหร่" น้องสาวควานหากล้องส่องทางไกลในกระเป๋าแล้วหยิบให้พี่ชาย "เผื่อเอาไว้ คิดว่าอาจได้ใช้" เจี๋ยหลุนผู้รอบคอบตอบพลางมองผ่านกล้องไปมา ที่นี่อยู่ใกล้สำนักคุนหลุน เป็นโรงเรียนของเหล่าองค์ชายจากแคว้นต่างๆ เจี๋ยหลุนยื่นกล้องให้เจ้าเว่ย และอธิบาย ต่อ "หากพี่ไม่ผลุบๆโผล่ๆ ไปมาระหว่างสองโลกกับเจ้าเว่ยก็คงได้เรียนที่นี่เหมือนกัน" เจ้าเว่ยหยิบกล้องขึ้นมาส่องไปยังตำแหน่งที่เจี๋ยหลุนชี้ เธอเห็นป้ายสำนักคุณหลุนบนหุบเขาชัดเจน "แล้วเราจะกลับแคว้นเหลียงยังไงล่ะ ขลุ่ยนี่ตอนนี้เป่ามั่วซั่วตามใจไม่ได้ด้วยสิ เจ้าอารมณ์จริงๆ" เจ้าเว่ยบ่นอุบอิบ ตอนนี้เธอไม่สามารถบังคับขลุ่ยเพรียกบุบผาได้ดังเดิม ถ้ามันไม่อยากพาเธอกลับ ต่อให้เป่าจนหมดลมขลุ่ยเพรียกบุบผาก็ไม่มีเสียงแม้แต่นิด "พี่พอรู้ทาง เคยมากับท่านอาอี้เหวินอยู่สองสามครั้ง พอจะจำทางได้" เขากล่าวพลางพาน้องสาวกระโดดลงจากต้นไม้ "โอเคตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้ากันดีกว่า" เจ้าเว่ยดึงชุดโบราณแบบผู้ชายออกมาจากกระเป๋าสองชุด หญิงสาวสวมทับเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่เธอสวมอยู่อย่างรวดเร็ว เจี๋ยหลุนรับชุดจากน้องสาวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะเขาต้องมาที่นี่บ่อยครั้งทำให้เจี๋ยหลุนต้องไว้ผมยาวอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งสองคนต่างช่วยกันเกล้าผมให้กันและกัน พลางหัวเราะสนุกสนาน เจี๋ยหลุนที่เงียบขรึมจะร่าเริงเสมอเมื่ออยู่กับน้องสาวที่เขารัก เขาเดินนำหน้าน้องสาวไปในทิศที่มั่นใจว่าจะเป็นทางกลับแคว้นเหลียง เจ้าเว่ยรีบกระโจนไปจับแขนพี่ชายอย่างว่องไว เจี๋ยหลุนรู้สึกว่ามีสายตาใครบางคนจ้องมองมายังเขาและน้องสาว เขาจึงรีบเร่งฝีเท้ากระโดดออกจากบริเวณนั้นโดดทันที ฝูจื่อหรงกระโดดลงจากต้นไม้ที่กำบังตัว เขาได้ยินบทสนทนาที่น่าแปลกประหลาดของชายหญิงเมื่อสักครู่ ทั้งการแต่งกายและน้ำเสียงดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนแถวนี้ แน่นอนว่าลักษณะการอำพรางตัวทำให้ทั้งสองคนอาจเป็นสายลับจากแคว้นใดแคว้นหนึ่ง แต่ท่าทางสูงศักดิ์ของทั้งคู่ทำให้เขาครุ่นคิดว่าทั้งสองคนย่อมไม่ใช่สายลับธรรมดาแน่นอน สตรีผู้นั้นก็ดูบอบบางเกินกว่าจะเป็นสายลับได้ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องไม่ประมาท หากเขาเห็นสองคนนี้เข้ามาในแคว้นชินแล้วล่ะก็ เห็นทีจะต้องจับมาสวบสวนอย่างจริงจัง ฝูจื่อหรงเดินตรงไปยังลำธารเพื่อล้างหน้าล้างตาอย่างที่เขาต้องการตั้งแต่แรก ทันใดนั้นเขาก็เหยียบเข้ากับบางสิ่งบนพื้น ฝูจื่อหรงก้มลงเก็บสิ่งของประหลาดลักษณะเหมือนหมีตัวเล็ก เขาเผลอกดลงไปตรงตรงกลางอย่างไม่ตั้งใจ "โจวเจ้าเว่ย เธอเยี่ยมมาก เธอเยี่ยมมาก" ฝูจื่อหรงดวงตาเบิกโพลง เจ้าสิ่งประหลาดนี้สามารถพูดได้เช่นนั้นหรือ เขาเพ่งมองมันในมืออย่างสนใจ สิ่งนี้น่าจะเป็นของสตรีผู้นั้น "ฝ่าบาท ฝ่าบาท" เสียงของทหารแคว้นชินทำให้ฝูจื่อหรงรีบเก็บหมีตัวเล็กไว้ในแขนเสื้อทันใด

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
8.9K
bc

ไฟรักซาตาน

read
51.6K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
8.3K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
10.4K
bc

ยังเก็บดวงใจไว้ให้เธอNC25+++

read
9.0K
bc

Warning baby เมียห้ามเลิกรัก

read
3.1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook