ตอนที่ 7
นี่ มายาวัลย์เพื่อนรัก นั้นไม่เห็นโทร.มาเลยช่วงนี้ เพราะว่าหล่อนยังนั่ง และทรุดตัวเองนิ่งอยู่ในเก้าอี้ลายเถา ของโลหะลวดลายสลักอ่อนช้อยจากฝีมือช่างฝรั่งเศส มือทั้งสองเลื่อนสอดประสานกัน ดวงตาเรียวคู่คมมองจ้องไปยังเบื้องหน้า
คุณปรุงพิมพ์แต่งกายด้วยชุดกระโปรงลายจุดดำเหลือง นางเป็นแม่ของโสมแสดก้าวเข้ามา เมื่อความมืด แผ่ขยายเข้ามาบนผืนฟ้ากำมะหยี่สีนิลที่คลุมรายรอบสถานที่ มีหมู่ดาวพรายแสงระยิบระยับดุจเกล็ดเงินเกล็ดทองโปรยปรายกลางท้องฟ้า โสมแสดยังไม่ขยับร่างของหล่อนจากตรงนั้น ครั้นพอหล่อนขยับกายจะเข้าในบ้านโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
ลุงของหล่อน เขาโทร.มาอีกทำไมล่ะ
“ธุระอะไรอีกหรือคะ โทร.มาหาหนู เวลานี้”
ปลายสายที่หล่อนได้ยิน ค่อนข้างร้อนรนหงุดหงิด ไม่เข้าใจ ทำไมคุณอัยศูรย์ถึงเห็นหล่อนเป็นที่พึ่ง
เขาไม่สามารถแก้ปัญหาของตัวเองได้หล่อนจำต้องนิ่งในเมื่อลุงของหล่อน นั้นเรียนผูก เขาควรจะเรียนแก้
“ลุงกำลังเดือดร้อนจริงๆ รู้ไหม ผู้หญิงคนนั้น เรียกเอาเงินจากลุงสามสิบล้าน”
“โสมเป็นคนนอกกับปัญหาในครอบครัวของลุง ที่ลุงทำมันขึ้นมา จะโทษอะไรล่ะคะ เพราะความมักง่ายของคุณลุงเอง ที่ชอบไข่แล้วทิ้ง”
หล่อนยังแดกดัน ประชดเขาอีกครั้ง
“ลุงรู้แล้วน่า เธอไม่ต้องมาตำหนิว่ากล่าวลุงอย่างนั้นหรอก คนเรา เมื่อรู้ว่าอะไรมันพลาดไปแล้ว ยากที่จะเรียกกลับคืนมาได้”
“ฮึ ดีนะคะที่ลุงอัยเพิ่งมาฉลาดเอาตอนนี้จะให้โสมช่วยอะไรล่ะคะ”
แม้คำพูดโสมแสดจะหยิกกัดเจ็บหน่อยก็ตาม หากแต่ ลึกๆแล้วเขาคิดว่าหล่อนช่วยเขาได้อัยศูรย์คาดการ อย่างนั้น เพราะโสมแสดจะต้องใจอ่อนลง
เมื่อเขาช่วงชิงคำพูดเอ่ยขึ้น
“เธอช่วยเข้าไปคุยกับผู้หญิงของลุงเสียหน่อยสิ เธอเป็นผู้หญิงด้วยกัน คงพอจะเข้าใจมากกว่าลุง นะยัยโสม ถือว่าลุงขอร้อง”
นายอัยศูรย์ ยิ้มออกมา เมื่อหลานสาวตอบ
“ตกลงค่ะนัดสถานที่มาต่อไปโสมจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องของลุงอีกแล้ว”
หล่อนตอบด้วยเสียงสะบัดอย่างไม่พอใจแต่ก็รับคำ
“เอาเถอะ ครั้งเดียวก็ได้จะไม่มาพึ่งแกแล้วโสมแสด ถ้าแกใจดำกับลุงขนาดนี้”
“ใจดำหรือคะ” หล่อนย้อนเสียงกลับไปบ้าง เพราะหล่อนนั้นช่วยคุณอัยศูรย์หลายครั้งแล้ว
“อย่ามาว่าโสมนะคะปัญหาเกิดจากลุงเองจะให้โสมมารับรู้ทำไมคะ มันดีงามเสียเมื่อไหร่ เรื่องคาวๆฉาวทั้งนั้น”
จบเพียงเท่านี้ไม่อยากต่อว่าล่วงเกินลุงมากไปกว่านั้น
จากนั้นเมื่อร่างระหงของบุตรสาวก้าวลงมา พบคุณปรุงพิมพ์ หลังจากก่อนนั้นได้เข้าไปตรวจดูในห้องครัว และความสะอาด ของพื้นหินอ่อนในตัวบ้าน
“แกจะออกไปข้างนอก อีกหรือยังไงโสมค่ำแล้วนะลูก แม่ไม่เข้าใจเลย นี่เพิ่งกลับมาถึงบ้านแท้ๆแกก็ขยันนักหนาที่จะออกไป นัดกับเพื่อนไว้หรือไง”
สีหน้าคุณปรุงพิมพ์ไม่พอใจนัก เพราะเป็นห่วง
ร่างระหงเอี้ยวตัวมาตอบ
“เปล่าค่ะ โสมไปธุระเรื่องลุง”
คำว่า ลุง ทำให้คุณปรุงพิมพ์ขมวดคิ้วเอ่ย
“ลุงของ แกนะหรือ”
โสมแสดมีลุงอยู่แค่คนเดียว คือ พี่ชายสามีของคุณปรุงพิมพ์ สามีของนางเอ่ยถึงชื่อของน้องชายสามี
คุณปรุงพิมพ์ไม่ค่อยชื่นชมสักเท่าไหร่ พอจะทราบกิตติศัพท์ มากรักทำตัวเป็นเพลบอย เสื่อมเสีย ไม่ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือสักนิด คุณปรุงพิมพ์ขอถอยห่างจากเรื่องนี้ เอ่ยถามลูกสาวคนเดียว
“อ้าวแล้วนี่หนูกำลังจะทำอะไรอีกล่ะโสมแสด เข้าไปยุ่งกับคุณอัยศูรย์ แม่ไม่ค่อยสบายใจเลย เรื่องอะไร ฮึ หนูจะต้องไปรับปากลุงของหนูถึงเพียงนั้น”
ไม่รู้จะตอบมารดายังไง จึงเอ่ย
“คงเห็นว่าโสม ช่วยได้ค่ะ ถึงมาไหว้วานหนู”
ฟังบุตรสาว ปรุงพิมพ์เสริมพูดขึ้นมา
“ใช่ ก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะซี ลุงของแก ใครจะยอมช่วยเหลือล่ะพวกญาติๆเขาก็เอือมระอากันหมดคนนามสกุลเดียวกันแท้ ก็พากันเบือนหน้าหนีไปหมด นี่ลูกเก่งนี่ ที่เสนอตัวเข้าไปช่วยเขา”
คุณปรุงพิมพ์ประชดใส่บุตรสาว
รับปากลุงแล้ว ก็จะทำให้เสร็จต่อไป หล่อนจะไม่ไปข้องยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกไม่ต้องมาให้หลานสาวอย่างหล่อน มารับรู้ช่วยเหลือ มองลึกๆในใจ ลุงของหล่อน เป็นคนขี้ขลาด
“หนูขอตัวก่อนนะคะแม่ ออกจากบ้านแล้ว โสมอาจจะเลย ไปธุระต่อที่อื่น จะกลับดึก เพราะรับปากเขาแล้วนี่ค่ะ หนูต้องทำตาม”
“ย่ะแกมันเก่งเหลือเกิน ที่เสนอหน้าเข้าไปช่วยเหลือเขาทุกอย่าง ลุงของแกเขาเหมือนคนปัญญาอ่อน สมองก็มีแต่ไม่รู้จักคิดจักแก้ปัญหา”
โสมแสดรู้ว่า แม่ด่าลุงออกมา เพราะความไม่พอใจ มารดาไม่ใคร่ชื่นชมคุณอัยศูรย์อยู่แล้ว
“หนูเรียนให้คุณแม่ได้ทราบแล้วนี่คะ ว่าไม่ต้องห่วงหนู”
คุณปรุงพิมพ์พยักหน้าเข้าใจพร้อมกับนางกระแทกลมหายใจออกมา อย่างไม่พอใจนัก
เมื่อเสียงเครื่องยนต์แผดดังก้องแล่นออกไปจากในตัวบ้าน สู่ถนนเบื้องนอก ราตรีกาลกำลังโรยหนาและปกคลุมด้วยสีนิลอาบไปทั่วถนนซอกซอย คุณปรุงพิมพ์เบือนใบหน้าไปทางอื่น ก่อนก้าวจากห้องโถงเพื่อขึ้นไปยังข้างบนบ้าน
ทางด้านจักรพาทย์ นั้นกำลังจะ กลับบ้าน เพราะเลิกงานแล้ว ห่วงเพื่อน จึงได้ชวนเขาออกไปด้วยกัน และคงคายอมตกลงด้วย ที่จะออกไปข้างนอก
“แกจะหมกมุ่นอยู่กับบ้าน ทำไมวะ เมียก็ไม่มี ออกไปทำอะไรคึกคักสนุกสนานตามประสาหนุ่มโสดสิโว้ย นายจะรู้สึกดีขึ้น บอกตามตรงนะ ไอ้คง ฉันอยากจะเห็นเพื่อนอย่างแกอารมณ์ดี มากกว่าจะเศร้าสร้อย เหมือนคนซังกะตายว่ะไอ้เสือ”
และเมื่อเขาได้ขอตัวเพื่อกลับเข้าถึงบ้านพัก ซึ่งใช้เวลาได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
เตรียมตัวจะเข้านอนด้วยซ้ำเลยเปลี่ยนใจตามเพื่อนรักที่ต้องการให้เขาออกไปร่วมสนุกสนานด้วยนักหนา เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่พร้อมที่จะออกจากบ้าน ท่องราตรีอย่างที่เพื่อนชวน กลับมาเป็นโสดแล้ว ถ้าวาดหวัง ในเรื่องที่ มีรักครั้งใหม่ และเขาต้องเฟ้นหา เวลานี้มี หล่อนอยู่ในใจของเขา เมื่อนึกถึงหล่อน อีกครั้งชื่อโสมแสด หล่อนเป็น ผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขเมื่อพบเจอ
ช่วงเวลาสามทุ่ม ท่ามกลางฟากฟ้าราตรีของกรุงเทพมหานครช่างดูครึกครื้น และมีชีวิตชีวา เนื่องจากเขานั้นไม่ได้ใช้ชีวิตสนุกสนานนี้ในแบบนี้มานานแล้ว