ปะทะครั้งที่8.1

1474 คำ
‘ฉันชื่อ เพียงฟ้า ยินดีที่รู้จักค่ะ’ อย่าว่าแต่คนอื่นๆในโต๊ะจะนิ่งต่อคำแนะนำตัวของนักศึกษาหญิงแปลกหน้าคนนี้เลย ฉันเองก็นิ่ง ไม่ใช่เพราะตกใจแต่แปลกใจมากกว่า “ถ้าเรารู้จักกันแล้ว ฉันขอคุยอะไรด้วยเป็นการส่วนตัวได้ไหมคะ?” “ก็เอาสิ” “ทางนี้ค่ะ” เธอผายมือเชื้อเชิญยิ้มๆ ส่วนฉันก็ลุกหอบข้าวของของตัวเองไปยังจุดที่เธอต้องการอย่างว่าง่าย ‘เพียงฟ้า’ ไม่ได้พาฉันไปไหนไกล เราแค่ย้ายมานั่งคุยกันสองต่อสองบริเวณโต๊ะม้าหินถัดจากจุดศูนย์รวมแก๊งสวมหน้ากากประมาน 3-4 โต๊ะเท่านั้น แน่นอนว่าเราทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตาอยากรู้อยากเห็นของพวกเธอตลอดเวลา “ต้องขอโทษที่รบกวนเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนนะคะ...” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าถึงเวลาสมควร “ไม่ต้องสนใจ มีอะไรก็พูดเถอะ” “คุณคงคุ้นหน้าฉันใช่ไหมคะ?” เธอถามราวกับรู้ว่าฉันคิดอะไร “ก็นิดหน่อย เราเคยเจอกันเหรอ?” “เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้า “แต่ที่คุณเจอบ่อย น่าจะเป็นพี่สาวของฉันมากกว่า” “พี่สาว?” “ค่ะ พี่พลอยเฌอยังไงล่ะคะ” พอได้คำตอบ ฉันก็เริ่มเข้าใจถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนเห็นหน้าเธอครั้งแรกขึ้นมา “แล้วเธอมีธุระอะไรกับฉัน? ฉันไม่ได้สนิทกับพลอยเฌอหรอกนะ กับ 3 คนนั้นก็เหมือนกัน” ฉันเหลือบมองไปยังแก๊งสวมหน้ากากที่เอาแต่จ้องมาทางเราตาไม่กะพริบ นั่นทำให้คนฟังหัวเราะออกมา “ค่ะ ฉันรู้ ที่ฉันต้องการมาพบคุณก็เพราะเรื่องของ JOKER น่ะค่ะ” สายตาเหลือบมองกลับมายังใบหน้าสวยของเพียงฟ้าทันที “พี่สาวฉันเกือบถูกข่มขืน คนร้ายมันได้ถ่ายภาพของพี่สาวฉันไว้ ถึงจะรอดมาได้แต่ก็ถูกแบล็กเมล์อยู่ดี...” “...” เกือบถูกข่มขืนงั้นเหรอ “ทั้งหมดนี่คือสาเหตุที่ทำให้พี่พลอยเฌอลาออกจากมหาวิทยาลัย” “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?” “เกี่ยวสิคะ” เธอบอกเสียงหนักแน่น “คุณเองก็เคยเจอกับ JOKER ตัวเป็นๆ ไม่ใช่เหรอ? แถมคุณก็ยังปลอดภัยเป็นปกติดี..” “ใครบอกเธอ?” “คุณพี่ตี๋ค่ะ” พี่ตี๋งั้นเหรอ? “ฉันมาพบเขาตามที่อยู่ที่เขาทิ้งไว้ค่ะ...” ว่าแล้วเธอก็ก้มเปิดกระเป๋าสะพายที่ติดตัวมา หยิบเอกสารแผ่นหนึ่ง ซึ่งปริ้นเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับของชมรมลี้ลับมหาวิทยาลัยฉันส่งมาให้ “ชมรมลี้ลับต้องการเปิดโปงหน้ากากของ JOKER คุณเองคงทราบเหมือนกันใช่ไหม?” “...” ฉันไม่ได้ตอบ เพราะกำลังอ่านรายละเอียดประกาศจับ JOKER ที่ทางชมรมลี้ลับลงไว้อย่างละเอียด นั่นจึงทำให้อีกฝ่ายเอ่ยขึ้น “ถ้าหากว่า JOKER ไม่ใช่ภูตผี ปีศาจหรือซาตานอย่างที่ใครว่าไว้ ฉันก็อยากให้เขารับผลกรรมที่ทำกับพี่สาวฉันไว้ เหตุผลที่คนอื่นๆ ทยอยกับลาออกหลังได้พบกับ JOKER ฉันคิดว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุเดียวกัน” “สรุปแล้วเธอมาเพื่ออยากให้ฉันช่วยตามจับ JOKER ถูกไหม?” “ไม่เชิงค่ะ ฉันแค่อยากให้คุยให้ความร่วมมือ แค่บอกว่าคุณเคยพบ JOKER ที่ไหน หรือแค่บอกว่า...” “...” “ฉันสามารถตามจับตัวเขาที่ไหนได้ก็พอ...” สิ่งที่เพียงฟ้าพูดนั้น บอกเลยว่าฉันเชื่อทุกคำ โดยเฉพาะกับสิ่งที่ JOKER กระทำกับผู้เสียหายตลอดระยะเวลาที่เกิดข่าวลือ ยิ่งตอนนี้ฉันพอเดาได้ว่าเบื้องหลังหน้ากากเปื้อนเมคอัพหนานั่นคือใครด้วยแล้วแรงจูงใจกับเหตุผลที่ได้ฟังยิ่งมีน้ำหนัก ฉันไม่ปฏิเสธว่า JOKER คือคนร้ายที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการตัว... “เอาไว้ฉันจะบอกอีกที” “ขอบคุณนะคะ...” คนฟังดูดีใจที่ได้รับคำตอบเช่นนั้น เธอรีบจัดแจงเขียนเบอร์ติดต่อของตัวเองใส่เศษกระดาษแล้วส่งมาให้ทันที “นี่เบอร์โทรฉันค่ะ...หากคุณมีอะไรติดต่อได้ทันทีเลยนะคะ” “อืม” ฉันไม่ได้ต้องการปกป้องคนร้ายแต่อยากให้เขารู้ตัวมากกว่านี้ว่าตัวเองกำลังทำผิด ไม่ว่าจะเกอร์หรือ JOKER ตอนนี้ฉันถือว่าเขาคือผู้ป่วยของฉัน ต่อให้ยังได้ระบุในวิชาชีพโดยตรงแต่ก็ถือว่ามันคือส่วนหนึ่งของอาชีพในอนาคตอยู่ดี จรรยาบรรณที่ดีของนักบำบัดต้องไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยรู้สึกเดียวดาย ติดค้างอยู่กับความไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดขึ้นอะไรกับตัวเอง อย่างน้อยการทำให้เขาฉุกคิดได้ก่อนถูกจับเข้าตะรางว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิดสักนิดก็ยังดี... โชคดีที่เพียงฟ้าไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมาก เมื่อคุยจบฉันจึงถือโอกาสขอตัวลุกจากมาโดยอ้างว่ามีเอกสารต้องเอาไปส่งอาจารย์ เพราะไม่อยากกลับไปยังแก๊งสวมหน้ากากเพื่อให้พวกเธอรัวคำถามใส่ ฉันจึงตัดสินใจพาตัวเองไปยังห้องพีกอาจารย์ก่อนวิชาแรกจะเริ่ม เวลาต่อมา... ภายในห้องพักอาจารย์ที่ตอนนี้มีแต่ความเงียบ เนื่องจากอาจารย์กำลังตรวจดูเอกสารที่ฉันนำมาส่งโดยละเอียด ถ้าหากว่ารายงานทั้งหมดนี้ผ่าน คะแนนวิชาสรีระจิตวิทยาภาคนี้ผลจะเป็น A อาจารย์ท่านนี้ชื่อว่า อาจารย์พงษ์ศักดิ์ เป็นอาจารย์คนเดียวกับที่วันก่อนไล่ฉันออกจากคลาสเพราะถูกหัวเราะเยาะนั่นแหละ “อืม...คุณอรวรา รายงานฉบับนี้ผมถือว่ามันโอเคเลยล่ะ” หลังจากเงียบไปสักระยะอาจารย์พงษ์ศักดิ์ก็เอ่ยขึ้น พลางวางเอกสารในมือลงกับโต๊ะ “แต่ผมว่ามันยังไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากให้นักศึกษานำเสนอ” “อาจารย์หมายความคะ?” “สิ่งที่ผมสอนไป กับการวิเคราะห์ในเอกสารนี้ มันเหมือนว่าคุณลงงานจริงมาแล้ว มันดูไม่สมกับงานของนักศึกษาที่ยังไม่มีทักษะต่อสถานที่จริง พูดง่ายๆ ก็คือมันเหมือนคุณให้คนที่เคยผ่านงานนี้มาแล้วทำให้...” “...” “ผมไม่ให้รายงานชิ้นนี้ผ่าน คุณต้องทำมาส่งผมใหม่” “แต่รายงานนี้หนูทำเองคนเดียวตลอดเทอมนะคะ ถ้าทำใหม่หนูคงทำให้สมบูรณ์ได้ไม่ทันก่อนปิดภาคหรอกค่ะ” “แล้วคุณจะทำยังไงล่ะคุณอรวรา?” อาจารย์พงษ์ศักดิ์ถามขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาลุกขึ้นจากที่นั่งเดินอ้อมมานั่งตรงขอบโต๊ะและมองหน้าฉันใกล้ๆ “ถ้าคุณไม่ทำมาให้ผมใหม่ เทอมนี้ผมต้องให้ F คุณนะ” “...” นี่น่ะ เป็นเหตุที่งี่เง่าและไร้สาระที่สุดที่ฉันเคยได้จากอาจารย์ผู้สอนมาเลยรู้ไหม “แต่ผมมีข้อเสนอให้คุณนะ…” ฉันสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อจู่ๆ ชายวัยกลางคนผู้มีตำแหน่งเป็นอาจารย์เกลี่ยปลายนิ้วไปตามหลังมือฉันซึ่งวางไว้บนโต๊ะ พานให้ต้องช้อนตามองสีหน้าและความคิดอีกฝ่ายแทบจะในทันที “มันไม่ยากเกินความสามารถของผู้หญิงสวยๆ อย่างคุณหรอก คุณสนใจไหมล่ะ?” ปากเขาน่ะพูดและปลายนิ้วเริ่มเกลี่ยสูงขึ้นไปตามแขนอย่างถือดี “ถ้าคุณตกลง เทอมนี้วิชาของผม คุณจะได้ A ทั้งหมด อยากได้หรือเปล่าเกียรตินิยมตอนจบน่ะ” ฉันไม่ได้พูดอะไร กำลังแบกความรู้สึกสะอิดสะเอียดและความรู้สึกขยะแขยงไว้ในอกจนแทบอาเจียน “ถ้าคุณสนใจ โทรหาผมคืนนี้ แล้วผมจะบอกคุณอีกทีว่าต้องทำอะไรบ้าง...” คงเห็นว่าฉันไม่หนีล่ะมั้ง เขาถึงเอาใหญ่ ถึงขั้นโน้มกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงเชิญชวนชวนสำรอก ไม่ใช่แค่นั้นแต่เขายังละปลายนิ้วออกไป แล้วหยิบนามบัตรของตัวเองยัดใส่มือฉันราวกับว่าเป็นการทำสัญญาระหว่างเรา ทว่าตอนนั้นเอง กึก! ตึง!! ประตูห้องพักอาจารย์กลับถูกระแทกออกอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง นั่นเลยทำให้อาจารย์หัวงูผละตัวออกห่างอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งหันมองไปยังต้นเสียงและต่อว่า “นะ นักศึกษาคุณทำอะไรของคุณน่ะ ไม่เห็นหรือไงว่าผมกำลังคุยธุระอยู่!?” “ผะ ผมขอโทษครับ…” ภาพของนักศึกษาชายที่ปรากฏอยู่บริเวณประตู ทำฉันหลุดยิ้มอย่างนึกตลกหลังจากที่เมื่อครู่รู้สึกขยะแขยงจนแทบทนไม่ไหว “พะ...พอดีผมไม่ได้ใส่แว่นก็เลยมองไม่ค่อยเห็น เลยนึกว่าที่นี่เป็น…” ฉันตลกท่าทางกระงกกระเงินและสีหน้าที่ดูตกใจสุดๆ ยามถูกต่อว่า โดยเฉพาะกับคำแก้ตัวขุ่นๆ ที่ไม่ว่าจะฟังมุมไหนก็ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้นแต่ก็สมเป็นเขาที่สุด “ส้วมโสโครก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม