bc

วิปลาสคลั่งรัก

book_age18+
271
ติดตาม
1K
อ่าน
หวาน
ชายจีบหญิง
ลึกลับ
อัจฉริยะ
ขี้แพ้
วิทยาลัย
มัธยมปลาย
สงคราม
surrender
addiction
like
intro-logo
คำนิยม

"สวยรู้อะไรไหม.." เขาถามข้างหู หลังจากใช้ร่างกายต้อนฉันจนจนมุมได้สำเร็จ อีกทั้งยังใช้แขนกักตัวฉันไว้ แววตาบอกความต้องการแบบไม่ปิดบังโดยเฉพาะคำพูดต่อมา "พอเห็นหน้าสวยแล้ว เราอยากเสียตัว" บ้าบอ..

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
00 เหตุผลที่ต้องปะทะ
-บทนำ- I am silly guy but I am not goofy guy เป็นคนตลกแต่ไม่ใช่ตัวตลก          สายลมแรงๆ ในช่วงกลางดึกคืนหนึ่ง พัดผ่านร่างของหญิงสาวซึ่งเอาแต่ยืนตัวสั่น จับจ้องสายตาไปยังร่างสูงของชายหนุ่มในสภาพของตัวตลก JOKER ราวกับต้องมนต์          ผู้ชายซึ่งมักปรากฏตัวในยามวิกาล เขามักจะปรากฏตัวต่อหน้าเหยื่อที่เป็นหญิงสาวเท่านั้น แน่นอนว่าการปรากฏตัวได้ถูกเขากำหนดไว้แล้ว          บ้างก็ว่าเขาคือชายโรคจิตแต่งกายประหลาด จิตใจวิปลาสที่คอยล่อลวงหญิงสาวไปทำเรื่องไม่ดี บ้างก็ว่าเขาคือซาตานในร่างจำแลงซึ่งมักลงมาหลอกล่อเหยื่อบริสุทธิ์ให้ทำสัญญาขายวิญญาณแลกกับความปรารถนา ก่อนที่เขาจะพรากทุกสิ่งไปจากชีวิตของเหยื่อ          แม้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้จะมีชื่อเสียงน่ากลัวและไม่น่าเข้าใกล้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นที่พูดถึงในวงกว้างและเป็นที่สนใจของใครหลายๆ คนที่หวังได้พบตัวตนของเขาสักครั้ง...          รองเท้าหนังสีดำปลายแหลมย่างเหยียบลงบนพื้นดินพร้อมด้วยเสียงฮัมเพลงที่มักได้ยินกันในโรงละครสัตว์ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายหากเปื้อนเปรอะด้วยรองพื้นสีขาวเหมือนสีชอล์กกับริมฝีปากซึ่งเหยียดยิ้มอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าเขาคือคนที่มีความสุขที่สุดบนโลกไม่น่าพิสมัยใบนี้           “Well Well~ ดูสิ ว่าฉันเจอใคร~” คำทักทายน้ำเสียงติดตลกอย่างไม่คิดอะไรเอ่ยขึ้นเมื่อชายตัวสูงหยุดเท้าลงบริเวณเบื้องหน้านักศึกษาหญิง ร่างเล็กตัวสั่นเทายิ่งกว่าเก่า เมื่อฝ่ามือเย็นเฉียบของชายเบื้องหน้าเอื้อมแตะลงบนแก้มเนียน ก่อนเกลี่ยปลายนิ้วลากไปตามโครงหน้าเรียวสวยจนกระทั่งหยุดลงบริเวณปลายคาง “คนสวยแห่งคณะบัญชี... พลอยเฌอ...” “อ๊ะ...” หญิงสาวหลุดเสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อปลายคางถูกบีบกระชาก บังคับขึ้นให้เงยสบสายตากับนัยน์ตาคมดุจดั่งปีศาจของชายแปลกหน้าแบบตรงๆ นั่นยิ่งทำให้เธอสั่นเทิ้มยิ่งขึ้นกว่าเก่า ถึงแม้จะมีนักศึกษาหลายคนต้องการพบตัวตนที่แท้จริงของ JOKER ก็ตาม แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่เธออย่างแน่นอนและการพบกันในเวลานี้ ก็กำลังทำให้เธอกลัวเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อที่เขาหมายตา “อยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เสียงหวานซึ่งเคยมั่นอกมั่นใจมากกว่านี้กำลังสั่น ไม่ต่างอะไรจากร่างกายตอนนี้เลยสักนิด ยิ่งเธอแสดงอาการหวาดกลัวมากเท่าไหร่ นั่นยิ่งทำให้คนที่เห็นแสยะยิ้มอย่างคนมีความสุขมากเท่านั้น และปลอบเธอด้วยน้ำเสียงขี้เล่นเดียวกับที่คนทั้งคู่พบกับกันครั้งแรก “Everything’s under Control~ OK? (ทุกอย่างเป็นปกติดี เข้าใจนะ?)” หญิงสาวเข้าใจความหมายที่โจ๊กเกอร์พูดแต่จากน้ำเสียงและท่าทางที่เขาแสดงออกนั้นมันดูตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง น้ำเสียงขี้เล่นแต่แฝงไว้ด้วยความโกรธแค้นบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ “Let’s play~ (มาเล่นกันเถอะ)” เสียงเชื้อเชิญของปีศาจดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อชายในชุดโจ๊กเกอร์โน้มใบหน้าลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กก่อนจรดริมฝีปากจุมพิตบนใบหูแสดงความปรารถนาของตัวเองให้เหยื่อในกำมือได้ทราบ  และนั่นคงเป็นวันที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังจะมีรายชื่อของนักศึกษาหญิง  ‘พลอยเฌอ’ จากคณะบัญชีปรากฏให้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย นับจากคืนนี้สิ้นสุดลง... -SUAY TALK-     @มหาวิทยาลัยเอกชน A  เวลา 16.40 น.          “นี่แกรู้ยัง ว่ายัยพลอยเญอ คนสวยคณะบัญชีลาออกไปแล้วนะ”          “เอ้า ทำไมอ่ะ?”           “เขาลือกันว่ายัยนั่นไปเจอกับ JOKER มาน่ะสิ ซวยชะมัดเลยเนอะว่าไหม?”           ข้อดีของการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนระดับชั้นแนวหน้าของเมือง คือการได้อยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้คนที่ชอบพูดเรื่องของชาวบ้านให้ได้ยิน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องข้องเกี่ยวกับสังคมดังกล่าวไปด้วย เพียงแค่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในมุมที่เหมาะสมเท่านั้น ก็สามารถรู้ข่าวสารของผู้คนในมหาวิทยาลัยได้ไม่ยาก           “นี่สวย เมื่อไหร่จะเลิกอ่านหนังสือน่าขนลุกนั่นสักทีอ่ะ” คำถามที่มักได้ยินประจำนับตั้งแต่เรียนอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ทำฉันลดคู่มือเรียกปีศาจในมือลง เหลือบมองเจ้าของคำถามอย่าง ‘ทิชา’ และเตรียมที่จะตอบ  “เออนั่นดิ อ่านอะไรแบบนี้อยู่ได้ ไม่กลัวเหรอ?” ‘เกรซ’ อาศัยจังหวะที่ทิชาพูด เสริมขึ้นมาอย่างเห็นด้วย “ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน น่าค้นหาจะตายไป” ทุกคนพร้อมใจกันเบะปากทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ ก่อนที่ทิชาจะว่าขึ้นเป็นหนที่สองกึ่งประชดประชัน           “เสพเรื่องพวกนี้มาก ระวังเถอะไอ้ที่อยู่ในหนังสือจะมาเอาตัวไป” คราวนี้ ‘ยะหยา’ หญิงสาวอีกคนพูด          “ถ้ามาจริงก็ดีสิ ฉันอยากเจอตัวเป็นๆ สักครั้งเหมือนกัน” ส่วนข้อเสียของการอยู่ท่ามกลางสังคมแบบนี้ ก็คงเป็นเรื่องที่ เราเองต้องตกเป็นเรื่องที่คนกลุ่มนั้นสอดรู้สอดเห็นไปด้วย “ให้ตายสิ นี่เธอติดเชื้อโรคจิตมาจากไอ้ติ๋มนั่นมาเหรอ... บอกแล้วใช่ไหมให้ย้ายออกจากหออาถรรพ์นั่นซะ” ทิชาเริ่มต่อว่าโดยอ้างอิงไปถึงใครอีกคนซึ่งถูกคนทั้งมหาวิทยาลัยประณามว่าเป็น ไอ้ ‘โรคจิต’ ที่ชอบแอบดูและถ้ำมองนักศึกษาหญิงทำกิจกรรมส่วนตัว “บ้านเธอก็รวยนี่ ซื้อคอนโดหรูๆ อยู่สักห้องคงไม่กระทบเงินในบัญชีหรอกมั้ง” นอกจากจะสอดรู้และช่างเม้าท์เรื่องคนอื่นแล้ว พวกเธอทั้งหมดยังเจ้ากี้เจ้าการเสมือนเป็นคนในครอบครัว ทางเดียวที่จะหนีจากเรื่องน่ารำคาญใจนี้ได้คือการพาตัวออกจากวงสนทนาไปซะ โดยทิ้งท้ายไว้อีกวันตามมารยาทว่า “กลับก่อนนะ เดี๋ยวเจ้าของหอจะบ่นเอา” ไม่ต้องรอเสียงตอบรับจากวงสนทนา ฉันรีบเก็บข้าวของของตัวเองลุกออกจากวงจรสวมหน้ากากทันที เหตุผลที่เรียกแบบนั้นก็เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้กลุ่มนี้รวมตัวกันได้คงเพราะหน้าตาอันเป็นที่พูดถึงของคนในมหาวิทยาลัยนั่นแหละ  พวกเราเรียนปีเดียวกันแต่ต่างสาขาวิชาที่เรียน ว่าคร่าวๆ ก็ ทิชาเรียนนิเทศฯ ยะหยาเรียนอักษร เกรซเรียนออกแบบดีไซน์ ส่วนฉันเรียนจิตวิทยา ซึ่งไลฟ์สไตล์ของพวกเธอที่วันพูดเรื่องคนอื่นและแข่งขันกันสวย ค่อนข้างขัดแย้งกับความชอบของฉันอย่างมาก สาเหตุที่ฉันต้องมาเรียนที่นี่ก็เพื่อมาเจอปีศาจที่คนทั้งเมืองกล่าวถึงอย่าง ‘คำราม’ และ ‘โต’  เท่านั้น ความหลงใหลในเรื่องสิ่งเร้นลับทำให้ฉันอยากลองมีโอกาสได้ยืนเคียงข้างปีศาจสักครั้งแม้ว่าตลอดเวลาเกือบ 3 ปีฉันจะไม่เคยได้ทำเลยสักครั้งก็ตาม แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแอบซ่อนอยู่  เพราะหอในซึ่งถูกสร้างไว้ภายในมหาวิทยาลัย (ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย) มีข่าวลือเรื่องผีผู้หญิงซึ่งในอดีตถูกคนร้ายฆ่าตาอยู่ภายในหอ จนวิญญาณไม่สามารถไปสู่สุขติได้และเกิดเป็นอาถรรพ์ ทำให้ทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถรื้อหอดังกล่าวออกได้ พอรู้แบบนั้น ฉันจึงไม่รอช้าที่จะพาตัวเองเข้าไปพักอยู่ที่หอดังกล่าวเพื่อพิสูจน์อาถรรพ์ที่ว่านั่นทันที ถึงไม่เคยเห็นด้วยตา แต่ก็ยังมีข่าวลือที่ช่วยให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งยามที่ได้ยินชื่อของ  ‘JOKER’ อยู่ดี ไม่มีใครบอกได้ว่า JOKER เป็นใครมาจากไหน บ้างก็พูดกันว่าเป็นผู้ชายโรคจิตที่ชอบล่อลวงหญิงหญิงสาวไปทำมิดีมิร้าย บ้างก็ลือกันว่าเขาคือร่างจำแลงของซาตานที่ขึ้นมาบนโลกเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้ทำสัญญาขายวิญญาณแลกกับปรารถนาที่เหยื่อต้องการ          และนี่แหละคือ 3 สิ่งที่ทำให้ฉันยังอยากอยู่ที่นี่ต่อไป... บรรยากาศรอบหอพักค่อนข้างวังเวง ล้อมรอบต้นไม้สูงใหญ่ราวกับอยู่ในป่า ฉันใช้เวลาเดินจากตัวมหาวิทยาลัยเดินไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง ที่หอแห่งนี้มีนักศึกษาบางจำพวกเท่านั้นที่อาศัยอยู่ ถ้าไม่กลัวเรื่องผีก็เป็นพวกหมกมุ่นกับเรื่องแปลกๆ ไม่ก็โลกส่วนตัวสูงทั้งนั้น ห้องพักหมายเลข 407 แกร๊ก... “สะ สวย!” ทันทีที่ฉันไขประตูห้องพักเข้าไป เสียงเข้มของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างลนลาน เขารีบใช้มือควานหาผ้าห่ม ดึงขึ้นปิดบังร่างกายท่อนล่างของตัวเองในสภาพเหงื่อไหลไคลย้อย ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าก่อนหน้าที่ฉันจะมาถึง เขากำลังทำอะไร เนื่องจากหอพักแห่งนี้เป็นหอรวม และมีห้องพักเพียงบางห้องเท่านั้นที่เปิดให้บริการเช่า ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากว่าภายในหนึ่งห้องจะมีนักศึกษาพักอยู่รวมกัน 2 คนไม่เพศเดียวกันก็ต่างเพศ ส่วนฉันนั้นพักอยู่ร่วมห้องกับ ‘เกอร์’ ชายหนุ่มท่าทางขี้ขลาดสวมแว่นตาหนาเตอะ เขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนมากจะอยู่ตัวคนเดียวเพราะเป็นรังเกียจของคนทั้งมหาวิทยาลัย ในตำแหน่งของ ‘โรคจิต’ และ ‘พวกถ้ำมอง’ วันๆ เขาหมกมุ่นเรื่องเซ็กซ์มากกว่าวิชาที่ต้องเรียนเสียอีก และใช่! เขานี่แหละคือไอ้ติ๋มที่ทิชาพูดถึง “นายเนี่ยไม่รอบคอบเลยนะ ถ้าคนที่เปิดเข้ามาไม่ใช่ฉันจะทำยังไง” “ระ เราขอโทษ” เขาเป็นพวกวิกลจริตก็จริง แต่ถ้าได้ลองคุยด้วยแล้ว เขาก็เป็นผู้ชายที่ติ๋มมากคนหนึ่งขัดกับความชอบของตัวตนเขาโดยสิ้นเชิง ถึงฉันกับเกอร์จะอาศัยอยู่ห้องพักเดียวกัน แต่ระหว่างเตียงนอนของเราก็มีข้าวของจำพวกชั้นวางหนังสือรวมไปถึงโต๊ะเครื่องเขียน สำหรับใช้สุมหัวทำการบ้านข้างกลางไว้บริเวณกลางห้อง เตียงของเกอร์ชิดกับผนังทางซ้าย ส่วนเตียงฉันชิดกับผนังทางขวา แม้ระยะห่างเตียงของเราจะมีข้าวของกั้นแบ่งอาณาเขตไว้ ถึงอย่างงั้นเราก็ยังมองเห็นทุกอิริยาบถของกันแลกันผ่านช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือ หรือจากมุมโต๊ะเครื่องเขียนอยู่ดี ฉันเดินแยกมาทางฝั่งที่นอนตัวเอง วางข้าวของที่สะพายไว้ลงกับเตียงโดยรู้สึกถึงสายตาโรคจิตของเกอร์ซึ่งจับจ้องอยู่ตลอดเวลา เพราะเราอยู่ด้วยกันแบบนี้มาปีกว่าแล้วฉันจึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรกับความชอบของเขา อีกอย่างเขาเองก็ไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจความชอบของฉันเช่นกัน “วันนี้ได้ไปทำเรื่องโรคจิตใส่เด็กปีหนึ่งมาหรือเปล่า?” ฉันถามและทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงโดยหันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย มองลอดช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือเพื่อดูท่าที “ปะ เปล่า เราไม่ได้ทำอะไร” เกอร์มักชอบแสดงท่าทีเกร็งๆ เวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิง รวมถึงต่อหน้าฉันเช่นกัน “ดีแล้ว ฉันรำคาญเวลาต้องฟังเรื่องของนาย…” “อะ อื้อ... เราเข้าใจ เราจะพยายาม” “อ๋อแล้วก็...” เสียงของฉันเงียบลงในช่วงหนึ่งของประโยค และหรี่ตามองสายตาลับๆ ล่อๆ ของอีกฝ่ายที่แอบลอบมองเป็นพักๆ ก่อนจงใจขยับขาอย่างช้าๆ ในท่าไขว่ห้าง จนดึงดูดสายตาของรูมเมทซึ่งอยู่อีกฝากของห้องให้หันมอง “วันหลังรอให้ฉันกลับมาก่อน แล้วค่อยทำเรื่องงี่เง่าแบบนั้นในผ้าห่มเข้าใจไหม?” “อะ...อื้อ... เข้าใจแล้ว เข้าใจ...อะ” ฉันส่ายหน้าเมื่อน้ำเสียงของอีกฝ่ายทำให้รู้ว่าเขาได้เริ่มทำเรื่องทุเรศทุรังใต้ผ้าห่มอีกครั้งโดยมีร่างกายฉันเป็นที่พึ่ง มือข้างถนัดเอื้อมหยิบโทรศัพท์ต่อเข้ากับเฮดโฟนและสวมมันเพื่อให้เสียงเพลงดังกลบเสียงอื้อในลำคอของผู้ชายร่วมห้อง ขณะมือเปิดหนังสือที่ชอบขึ้นอ่านเพื่อละความสนใจใจจากสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังทำ ซึ่งฉันไม่คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่คือเรื่องอุบาทว์แต่คิดว่ามันคือการช่วยรักษาและเยียวยามากกว่า จากที่พูดคุยกับเกอร์มา ทำให้รู้ว่า เขาเป็นผู้ชายที่มีความต้องการทางเพศสูงหรือโรคสไตเรียซิส[1] (Satyraiasis) และเขาสามารถปลดปล่อยความต้องการของตัวเองได้ทุกที่ ไม่ว่าจะภายในห้อง ห้องน้ำ ในมหาวิทยาลัยหรือแม้แต่ร้านขายของ ทางรักษาคนวิกลจริตอย่างเขา คือการชวนเขาซึ่งน่าจะมีแค่ฉันคนเดียวนั่นแหละที่คุยด้วย หรืออีกวิธีก็คือช่วยให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยความสุขของตัวเอง ก่อนที่ความต้องการของเขาจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอย่างที่แล้วมา...           กระนั้นแล้ว ฉันก็ไม่ได้ช่วยรักษาเขาถึงขนาดใช้ร่างกายเข้าแลกแบบเนื้อแนบเนื้อหรอกนะ พูดให้ถูกก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นเพียงนัก(พยายาม)บำบัด กับคนไข้ทางจิตก็เท่านั้น เมื่อใดที่เขาบรรลุความต้องการของตัวจนเสร็จสิ้น เราทั้งคู่ก็จะกลายเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่ต้องใช้ห้องห้องนี้ร่วมกันเท่านั้น           เขาใช้ชีวิตของเขา ส่วนฉันก็ใช้ชีวิตของฉันไม่เกี่ยวข้องกันอีก ไม่มีแม้แต่เสียงพูดคุย มีเพียงความเงียบราวกับว่าเราอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง...           ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ฉันมักหาข้ออ้างพาตัวเองออกจากหอตอนดึก ไปร้านสะดวกซื้อหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อซื้อของอะไรสักอย่างและกลับเข้ามาในเวลา 4 ทุ่มนิดๆ ที่เรียกว่าเป็นข้ออ้างนั่นก็เพราะที่ทำไปทั้งหมดก็แค่อยากเจอสิ่งที่คนทั่วไปไม่ต้องการที่จะพบเท่านั้น           ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณที่ใครๆ ล่ำลือหรือแม้แต่ชายปริศนาซึ่งถูกเรียกว่า JOKER ต่อให้สิ่งที่ทำยิงยาวมาเป็นระยะเวลาปีกว่าจะไม่ช่วยให้ฉันได้พบในสิ่งที่ต้องการเลยก็ตาม เรื่องการพบเห็นวิญญาณอาจเพราะโชคไม่เข้าข้าง แต่การที่ไม่เคยพบกับ JOKER นั่นคงเป็นเพราะฉันคงไม่ใช่เหยื่อที่เขาหมายตา จากที่เคยรับรู้เรื่องของชายปริศนาคนนี้ เขามักจะปรากฏตัวต่อหน้านักศึกษาหญิงที่ตกเป็นเหยื่อ อาจเป็นใครก็ได้ไม่เจาะจงรายบุคคล ซึ่งทุกคนบอกกันว่าใครที่ได้เจอกับ JOKER ล้วนแล้วแต่มีอันเป็นไป จำต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยทุกราย ยกตัวอย่างเช่นอดีตสมาชิกในกลุ่มสังคมใส่หน้ากาก ‘พลอยเฌอ’ ทุกคนจึงตั้งกฎว่าหากใครที่ได้พบเขาเข้า ให้รีบหนีไปซะ อย่าหลงพูดคุยหรือเชื่อคำพูดล่อลวง มิเช่นนั้นจะพบเจอกับเรื่องแย่ๆ หลายคนบอกว่าฉันโชคดีที่เดินเข้าออกตอนกลางคืนและไม่พบเขา แต่ฉันว่ามันค่อนข้างเป็นเรื่องน่าเบื่อ ความรู้สึกก็ประมานว่าเรากำลังเล่นเกมซ่อนแอบ ฉันทำหน้าที่หา ส่วนชายปริศนาทำหน้าที่ซ่อน ไม่ว่าพยายามหาตัวเขามากเท่าไหร่ ก็ไม่เจอ ยิ่งนานวันไปเกมที่เล่นก็ชักจะหมดความสนุก คืนนี้ก็คงเป็นอีกคืนที่ฉันคิดว่าเกมซ่อนหาไม่ได้สนุกอย่างคิดที่คิด ทว่า ดูเหมือนฉันจะคิดผิด! อีกเพียงไม่ถึง 5 ก้าวฉันก็จะสามารถพาตัวเองเข้าหอพักได้สำเร็จ แต่แล้วสิ่งที่ทำให้เท้าสองข้างหยุดลงโดยชะงักมันดันเป็นเสียงฮัมเพลงของละครสัตว์ ขณะที่ลมเอื่อยๆ ในยามค่ำคืนจะเริ่มกระโชกแรกพลอยให้ปลายผมยาวพัดปลิวไปตามแรงจนต้องใช้มือเกี่ยวเส้นผมที่ปรกหน้าลงและมองไปยังต้นเสียงด้วยความสงสัย ท่ามกลางแสงสว่างอันน้อยนิด ปรากฏร่างสูงในชุดสูทสีทึบ จังหวะนั้นเสียงฮัมเพลงก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ในทุกจังหวะฝีเท้าที่ชายคนดังกล่าวก้าวเข้ามาหา ใบหน้าของเขาขาวเหมือนสีชอล์คตามอย่างที่ใครๆ พูดไว้ ริมฝีปากสีแดงสดลากยาวไปจนถึงใบหูสองข้างราวกับว่าเขากำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลา นัยน์ตาถูกแต้มด้วยสีดำจนคล้ายกับลึกโบ๋ลงไปจนเห็นเพียงแววตาซึ่งสะท้อนกับแสงไฟ และเขากำลังปรบมือดังแปะๆ ตามจังหวะก้าวเดิน ด้วยมือหนึ่งที่สวมถุงมือแต่อีกมือเป็นมือเปล่า “เอ๊ะโอ่~” เสียงเข้มออกแนวทะเล้นดังขึ้น ฟังแล้วรู้สึกตลกขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะนั่นฟังดูไม่ต่างอะไรไปจากรายการเด็กที่เคยดูสมัยเด็กเลยสักนิด แม้จะคิดแบบนั้นแต่ฉันก็ยังยิ้มมุมปากด้วยความดีใจ ที่คืนนี้มีโอกาสได้ถูกบุคคลปริศนาที่ใครๆ ต่างกลัวบุกเข้าทักทายแบบนี้ “ทายสิว่าคืนนี้ฉันเจอใคร~” เขาเอ่ยขึ้นเมื่อรองเท้างุ้มปลายแหลมหยุดลงตรงหน้า จนพอเห็นหน้าคร่าตาอีกฝ่ายชัดขึ้นพร้อมๆ กับหัวใจที่เริ่มเต้นรัวผิดจังหวะในยามที่ถูกนัยน์ตาคู่คมจับจ้องมา “คิดว่าฉันเป็นใครล่ะ?” และในเวลาแบบนี้ฉันก็มีเพียงแค่คำถามเดียวเท่านั้นที่อยากเอ่ยถามเขากลับไปเป็นคำถามแรกเพื่อลดอาการตื่นเต้น “แล้วนายล่ะเป็นใคร...” “...” “JOKER หรือเทเลทับบี้?”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

Bad love Mafai รักร้ายนายมาเฟีย

read
13.2K
bc

อ้อนรักหนุ่มบริหาร R18+

read
23.2K
bc

ฮูหยินแม่ทัพมากวาสนา

read
9.7K
bc

My virgin guy! ภารกิจอันตรายท้าชนหัวใจนายเวอร์จิ้น

read
5.0K
bc

หวานใจยัยขี้อ่อย

read
7.9K
bc

พันธนาการร้ายซ่อนรัก

read
2.2K
bc

JUST A TOY จะร้ายหรือจะรัก

read
3.1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook