หมอประจำตำหนักตรวจดูอาการของนางอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเป็นกังวล ใบหน้าของหมอชราแสดงออกมาถึงความจนปัญญาอย่างชัดเจน
"กราบทูลพระชายา กระหม่อมคงต้องกล่าวว่า พิษที่พระองค์ทรงได้รับ ถือว่าเป็นพิษร้ายแรง ที่กระหม่อมไร้ความสามารถในการรักษาจริงๆ "
ใบหน้าของเฉินเป่าหลิงพลันขาวซีดขึ้นมาทันใด นางกระแอมไอออกมาก่อนที่จะเข้าใจถึงความหมายในคำพูดนั้น นางไม่ได้โวยวายหรือแสดงอาการฟูมฟายใดๆ ออกมาให้เห็น นางเพียงแค่ถอนหายใจออกมาพร้อมกับจ้องมองไปยังเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย
หมอจางถึงกับเกิดความไม่เข้าใจในการแสดงออกของสตรีเบื้องหน้าไปชั่วขณะ นี่นางจะต้องพบเจอกับเรื่องราวเลวร้ายมากเพียงใด ถึงได้ทำให้การแสดงออกของนางเฉยชาได้ถึงเพียงนี้
"ท่านหมอข้ามีเวลาเหลืออีกเท่าใด" และคำถามประโยคแรกของนางหลังจากที่รู้ว่าตนเองไร้ซึ่งหนทางรักษา ก็ยังคงสงบนิ่ง ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าขาวซีดนั้น
"คงไม่พ้นสองชั่วยามนี้พ่ะย่ะค่ะ"
"ขอบใจท่านหมอจางมาก"
"ไท่จื่อเฟยหากพระองค์มีเรื่องอันใดที่จะต้องทำ ก็ให้รีบทำเถิด กระหม่อมช่วยพระองค์ได้เพียงเท่านี้จริงๆ "
หลังจากที่หมอจางได้จากไป เขาก็รีบตรงดิ่งไปที่ตำหนักใหญ่ เพื่อที่จะรายงานเรื่องราวเหล่านี้ให้กับผู้เป็นใหญ่ของตำหนักได้รับทราบ
เฉินเป่าหลิงค่อยๆ หยัดกายของตนเองขึ้นด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของนางเหม่อลอย เมื่อจ้องไปยังภาพเบื้องหน้า ดวงตากลมโตนั้นค่อยๆ กวาดมองไปทั่วทั้งตำหนัก โดยไม่มีผู้ใดทราบว่านางกำลังคิดสิ่งใดอยู่
"เป็นข้าเองที่โง่งม คิดว่าที่เขากลับมาทำดีด้วย ก็เพราะยังมีใจ แต่แท้ที่จริงแล้วบุรุษผู้นั้น ได้วางแผนการเอาไว้หมดแล้ว เห็นหรือไม่เสี่ยวหง ว่าเหตุใดข้าถึงได้ไม่ต้องการบอกเรื่องที่ข้ากำลังตั้งครรภ์ให้กับบุรุษผู้นั้นได้ทราบ เพราะข้าไม่มั่นใจว่า เขาจะต้องการเด็กผู้นี้เช่นไรเล่า และในที่สุดเรื่องที่ข้าได้หวาดกลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ "
"แต่ทารกในครรภ์ของพระชายาคือเลือดเนื้อเชื้อไขขององค์ไท่จื่อไม่ใช่หรือ เหตุใดเรื่องราวถึงได้กลายเป็นเช่นนี้"
"เสี่ยวหงเจ้าอย่าได้กล่าวสิ่งใดอีกเลย เวลาของข้าเหลือน้อยเต็มที พาข้าไปชะง่อนผานั้นที"
"พระชายา!!! "
เสียงของเสี่ยวหงในขณะที่กล่าวออกมาสั่นเครือ เวลาของพระชายาช่างเหลือน้อยเหลือเกิน แม้แต่เวลาจะกล่าวร่ำลากับญาติมิตรสหายก็ไม่สามารถทำได้ การไปยังหน้าผาแห่งนั้นคงเป็นเพียงเรื่องเดียวที่พระชายาทรงต้องการในเวลานี้
ทุกครั้งที่เฉินเป่าหลิงได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นจากบนชะง่อนผานั้น ก็มักจะทำให้นางรู้สึกจิตใจสงบและพร้อมที่จะต่อสู้กับเรื่องราวในวันต่อไป นางจึงมักจะเดินทางไปยังที่แห่งนั้น เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจเกิดขึ้น และครั้งนี้มันคงจะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับนางแล้ว ที่จะไปยังที่แห่งนั้น
"ก่อนจะไป เจ้าช่วยนำกระดาษและพู่กันมาให้ข้าได้ สะสางในสิ่งที่ค้างคาใจนี้เสียเถิด"
เสี่ยวหงจากไปพร้อมน้ำตา เพื่อที่จะนำสิ่งที่เจ้านายร้องขอมาด้วยใจอันเจ็บปวด นางไม่เคยคาดคิดว่าชะตาชีวิตของผู้เป็นนายจะจบลงเช่นนี้จริงๆ
เมื่อสิ่งที่ต้องการวางลงตรงหน้า เฉินเป่าหลิงจึงไม่รอช้า ที่จะเขียนความปรารถนาสิ่งสุดท้ายของตนเองลงไปบนกระดาษ ด้วยมืออันสั่นเทา เพราะความเจ็บปวดจากพิษที่ได้รับ
ข้าเฉินเป่าหลิง ขอใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายนี้ เพื่อตัดขาดความรักความผูกพันที่เคยมีมาทั้งหมดระหว่างกันให้จบสิ้นไปเสียที ข้าจะไม่โกรธเคืองอันใด ในสิ่งที่พระองค์ได้ทำลงไป ขอแต่เพียงต่อจากนี้ ขอให้วาสนาของพวกเราสิ้นสุดลง อย่าได้พบเจอกันอีกเลยทุกภพชาติ...
เพียงแค่เฉินเป่าหลิงเขียนประโยคนั้นจบ ก็ได้กระอักเลือดออกมา เลือดของนางตกลงไปบนกระดาษกระจัดกระจาย นางได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นให้กับชีวิตของตนเอง
"ไปกันเถิดเสี่ยวหง สมบัติที่อยู่ในกล่องนั้น ข้าขอมอบให้กับเจ้าไปตั้งต้นชีวิตใหม่เสีย อย่าได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ ณ ที่โหดร้ายแห่งนี้อีกเลย ข้าขอให้เจ้าได้พบเจอกับเรื่องราวดีๆ อย่าได้พบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายเช่นข้า" เฉินเป่าหลิงบีบมือของเสี่ยวหงเอาไว้แน่น พร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนไปให้กับนาง ซึ่งเมื่อเสี่ยวหงได้ยินถ้อยคำประโยคนั้นนางก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ
"พระชายาท่านหมอจาง อาจจะตรวจพระอาการของพระชายาผิดก็เป็นได้ ไม่แน่ว่ามันอาจจะมีหนทางในการรักษาอยู่"
"เสี่ยวหงท่านหมอจางคือผู้ใด เจ้าก็รู้ถึงฝีมือในการรักษาของเขาดี ชายชราผู้นั้นใช่ว่าจะมีผู้ใดสามารถซื้อตัวเขาเอาไว้โดยง่าย เขาหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตนเอง ในเมื่อเขากล่าวมาเช่นนั้น ข้าเชื่อว่าทั่วทั้งใต้หล้านี้ คงไม่มีผู้ใดสามารถรักษาอาการของข้าได้จริงๆ ดิ้นรนไปก็รังแต่จะเสียเวลาเปล่า เจ้าทำใจยอมรับมันเถิด"
แต่กว่าที่หมอจางจะได้เข้าไปรายงานอาการของเฉินเป่าหลิงให้กับองค์รัชทายาทหลี่หย่วนเจ๋อได้รับทราบ ก็ล่วงเข้าไปเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว เพราะในตอนนั้นองค์รัชทายาทยังไม่กลับมาจากในวังหลวง
เมื่อหลี่หย่วนเจ๋อกลับมาก็ได้พบเข้ากับใบหน้าของชายชรา ที่ดูมีความกังวลใจหัวใจของเขาก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเข้า
"เกิดเรื่องอันใดขึ้น"
"เฮ้อ!!! ไหนเจ้าบอกว่า มันเป็นเพียงฉากที่ถูกจัดขึ้นเท่านั้น แล้วเหตุใดนางหนูนั่น ถึงได้รับพิษที่ร้ายแรงโดยไร้ซึ่งหนทางรักษาเช่นนั้นได้ สงสารก็แต่ทารกในครรภ์ ที่ไม่รู้เรื่องราวในครั้งนี้ด้วย แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลงตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลืมตาออกมา" น้ำเสียงแหบแห้งของท่านหมอจางกล่าวออกมาอย่างไม่มีช่องว่างให้องค์รัชทายาทหลี่หย่วนเจ๋อ ได้พูดแทรกแม้นแต่เพียงประโยคเดียว แต่หลังจากที่เขาฟังจนจบประโยค ความรู้สึกชาไปทั่วร่างกาย ก็ได้ก่อตัวขึ้น เขาซวนเซไปหลายก้าว จนแทบจะพยุงตัวเองเอาไว้ไม่ไหว พร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าของหมอชรา อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
"ตาแก่ เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอันใด ต้องพิษที่ไร้หนทางรักษาอันใด นี่ท่านแก่จนเลอะเลือนไปแล้วหรือ ถึงได้พูดเรื่องที่น่ากลัวเช่นนี้ออกมาได้"
เมื่อหมอจางได้เห็นสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อคำพูดของตนเอง และยังความตกตะลึง ของชายหนุ่มตรงหน้า เขาก็ให้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น
ถึงแม้นว่าเขาจะมาอาศัยอยู่กับบุรุษสูงศักดิ์ผู้นี้ได้ไม่นาน แต่ก็พอจะรู้ว่าความโปรดปรานที่หลี่หย่วนเจ๋อมีให้กับชายารองอย่างหลิวซีอิ๋งนั้นเป็นเรื่องจอมปลอม แต่ในตอนนี้ เขาได้รับรู้แล้วว่าสตรีที่บุรุษสูงศักดิ์ผู้นี้หลงรักนั้นคือผู้ใด แต่ไม่ใช่ว่าในตอนนี้ทุกอย่างมันจะสายไปแล้วเช่นนั้นหรือ แม้แต่หมอเทวดาเช่นเขา ยังไร้สามารถ แล้วยังจะมีผู้ใดที่สามารถ ยื้อชีวิตของนางเอาไว้ได้อีก
"เจ้าหนุ่มนางมีเวลาเหลืออีกไม่ถึงสองชั่วยามแล้ว เจ้าก็รีบไปหานางเถิด แผนการอันใดในตอนนี้ ก็ให้วางมันลงเสียเถิด"
"ท่านหมายความเช่นไรอันใดคือเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 ชั่วยาม"
แต่แทนที่หมอจางจะตอบคำถามนั้นขององค์รัชทายาทหลี่หย่วนเจ๋อ เขากลับเดินไปตบบ่าของบุรุษสูงศักดิ์ผู้นั้นอย่างปลอบประโลมพร้อมกับเดินจากไป
เมื่อหลี่หย่วนเจ๋อเห็นเช่นนั้น จึงไม่รอช้ารีบพุ่งทะยานออกไปทางตำหนักหลันฮวา ด้วยใจที่เจ็บปวด ก้าวแต่ละก้าวของเขาเหมือนกับมีหนามแหลมทิ่มแทงอยู่ที่ฝ่าเท้า
"หลิงหลิง เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ยานั้นเป็นเพียงยาที่ทำให้เจ้าอ่อนแรงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น แล้วเหตุใดมันถึงได้กลายเป็นพิษที่ไร้ซึ่งหนทางรักษาได้" หลี่หย่วนเจ๋อ ยังจำภาพในตอนที่เขายื่นยาถ้วยนั้นให้กับนางได้เป็นอย่างดี
เขารู้ว่าในวันนี้หลิวซีอิ๋ง จะวางยาพิษถ้วยนั้นให้กับนาง แต่ดีที่เขาสืบรู้ก่อน ถึงได้สลับยาพิษเหล่านั้นเป็นเพียงยาที่ทำให้นางรู้สึกอ่อนแรงเพียงเท่านั้น แล้วเหตุใดทุกอย่างถึงได้ไม่เป็นไปอย่างที่เขาคิด นี่เขาลงมือฆ่านางกับลูกด้วยมือตนเองเช่นนั้นหรือ ไม่จริง!!!
"นางอยู่ที่ใด? "
ประตูตำหนักหลันฮวา ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงตะโกนเสียงดังไปทั่วทั้งห้อง เขาใช้สายตาสำรวจไปทั่ว ห้องกว้างนั้น แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของสตรีที่เขากำลังเฝ้าถวิลหา มีแต่เพียงเสียงร่ำไห้ของข้ารับใช้ที่ดังระงมอยู่ทั่วทั้งตำหนัก
เมื่อข้ารับใช้เหล่านั้น เห็นว่าเป็นผู้ใดที่เปิดประตูเข้ามาพวกเขาก็ได้แต่ ใช้สายตาที่ไม่พอใจจ้องมองกลับไป เพราะบุรุษผู้นี้ ที่ทำให้เจ้านายของพวกเขา ต้องมีชะตากรรมที่อาภัพเช่นนี้ จึงทำให้พวกเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจนกลับไป ไร้ซึ่งท่าทีหวาดกลัวใดๆ ให้เห็น
"พระชายาเสด็จไปที่หน้าผาท้ายตำหนักเพคะ พระชายาไม่ต้องการให้ผู้ใดตามไป หากเป็นไปได้พระองค์อย่าเสด็จไปที่นั่นจะดีกว่า เพราะพระชายาคงไม่ต้องการเห็นพระพักตร์ของพระองค์ในตอนนี้"
เพียงแค่หลี่หย่วนเจ๋อ ได้ยินประโยคที่กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจนั้นของข้ารับใช้ เขาก็รีบหันกายจากไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้สนใจถึงคำกล่าวเมื่อสักครู่ที่ตำหนิตนเองเลยแม้แต่น้อย
เพราะความสนใจของเขาทั้งหมดในตอนนี้อยู่ที่นางหมดแล้ว