ตอนที่ 6 เจ้าช่างดื้อดึง

1111 คำ
เวลาเรียนของสำนักศึกษาอยู่ระหว่างต้นยามซื่อ (09.00 – 10.59 น.) จนถึงปลายยามเซิน (15.00 – 16.59 น.) โดยแบ่งเวลาพักเพื่อผ่อนคลายเป็นระยะ อย่างไรเสียหนุ่มสาวเหล่านี้ล้วนเป็นถึงบุตรขุนนาง ให้มาตรากตรำร่ำเรียนอย่างเข้มงวดเกินไปประเดี๋ยวจะมีปัญหาตามมาอีก หลังจากเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จแล้วยังมีเวลาเหลืออีกเล็กน้อยกว่าจะถึงช่วงเข้านอน ส่วนมากจึงจับกลุ่มพูดคุยสานสัมพันธ์กันในช่วงนั้น กลางยามซวี (19.00 – 20.59 น.) ผู้ดูแลหอพักเดินตรวจห้องนอนเพื่อมิให้เกิดเรื่องงามหน้าขึ้น จากนั้นเวรยามหน้าหอจะปฏิบัติตามกฏข้อห้ามไม่ให้ใครเข้าออกจนกว่าเช้าวันใหม่หรือกลางยามเหม่า (05.00 – 06.59 น.) แต่ถ้ามีเหตุฉุกเฉินย่อมได้รับการยกเว้น ในส่วนที่พักฟื้นของคนป่วยกลับต่างออกไป ลูกหลานคนมีเงินย่อมไม่ยอมลดตัวลงมานอนพักห้องเล็กๆ เท่ารูหนูของสำนักศึกษา ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงเงียบสงบไร้ผู้คนสัญจรไปมา ทั้งชั้นจึงมีเพียงร่างบางของโจวถิงถิงกำลังนอนหลับสนิทจากฤทธิ์ยาอยู่เพียงลำพัง เงาดำสายหนึ่งปรากฏที่ข้างเตียงนอน ดวงตาคมทอประกายในความมืด ไม่ว่าเมื่อไหร่สตรีตรงหน้ามักได้รับบาดเจ็บหรือหาเรื่องใส่ตัวอยู่เสมอ กระนั้นกลับมุ่งมั่นเก็บเงียบไม่ปริปากขอความช่วยเหลือจากใคร ยอมอดทนจนร่างกายตนเต็มไปด้วยแผล ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นางจะรับรู้ว่ายังมีคนคอยเป็นห่วง “เจ้าช่างดื้อดึง ไม่คิดขอความช่วยเหลือจากผู้ใด เหมือนในวันแรกที่เราพบกัน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแผ่วเบาราวกับสายลมพัด มือหนาเอื้อมไปปัดปรอยผมที่กระเซอะกระเซิงไปทัดไว้ข้างใบหู เขานั่งลงข้างเตียงไม่ไปไหนจนเกือบย่ำรุ่งจึงเร้นกายหายไป “…อือ” ยามขยับร่างกายแม้เพียงนิดความปวดร้าวก็แล่นเข้ามาทักทายจนถิงถิงต้องส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ ไม่คิดเลยว่าการบาดเจ็บภายในจะลำบากขนาดนี้ “ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ล้างหน้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ” ร่างเล็กๆ ของเด็กวัยไม่เกินปักปิ่นกำลังยกอ่างน้ำใบเล็กเข้ามา “เจ้าคือ…” นางเป็นบุตรนอกสมรส อย่าว่าแต่สาวใช้เลย ขนาดแม่นมจางยังเกือบไม่ได้มาดูแลพวกนางสองพี่น้อง “บ่าวรับหน้าที่มาดูแลคุณหนูเจ้าค่ะ” นี่เป็นหนึ่งในข้อยกเว้นของสำนักศึกษา หากได้รับบาดเจ็บจะสามารถเรียกข้ารับใช้มาดูแลได้ 1 คน ถิงถิงพยักหน้ารับ ในใจคาดเดาไปว่าอาจเป็นคนของคุณหนูเหริน เพราะอย่างไรเสียนางก็ช่วยอีกฝ่ายเอาไว้ การมีสาวใช้เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับหญิงสาวไม่น้อย เด็กคนนี้มือเท้าคล่องแคล่ว หยิบจับเพียงครู่ก็เช็ดตัว เปลี่ยนอาภรณ์ พร้อมป้อนอาหารให้คนป่วยเสร็จเรียบร้อย นับว่าได้รับการสอนสั่งมาอย่างดีทีเดียว “บ่าวไม่สามารถอยู่ปรนนิบัติคุณหนูได้ตลอดเวลาเนื่องจากกฏในสำนักศึกษา เช่นนั้นไว้พบกันอีกครั้งช่วงเย็นนะเจ้าคะ” ที่แห่งนี้คนนอกถูกจำกัดสิทธิ์มากมายเพื่อไม่ให้มีผู้บุกรุกลักลอบเข้ามาได้ จึงไม่แปลกหากจะให้สาวใช้คอยดูแลคนไข้แค่ช่วงเช้าเย็นที่ต้องใช้งานจริงๆ “เท่านี้ก็พอแล้วล่ะ ขอบใจเจ้ามาก” ริมฝีปากได้รูประบายยิ้มให้ “เจ้าค่ะ เช่นนั้นบ่าวขอตัวก่อน” เอ่ยจบเด็กสาวก็ถอยหลังแล้วเดินออกจากห้องไป คนงามนอนมองเพดานสักพักเพื่อเรียบเรียงความคิดให้เข้าที่ หลังจากฝันครั้งนั้นก็เกิดเรื่องวุ่นวายจนแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่โดยรวมแล้วนี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าเรื่องราวในหนังสือเล่มนั้นเป็นความจริง ไม่ใช่ความฝันเฟื่องหรือเพ้อเจ้อไปเองของนาง เพียงแต่… “แล้วทำไมนางเอกถึงไม่สนใจพระเอกเลยล่ะ” เป็นปัญหาใหญ่หากจุดเริ่มต้นของทั้งสองหายไปแล้วแบบนี้ควรทำเช่นไร “อะไรคือ ‘นางเอก’ กับ ‘พระเอก’ งั้นหรือ” เสียงทุ้มต่ำหน้าประตูทำเอากายบางสะดุ้งสุดตัว “คุณชายเฉิน” เหตุใดคู่หมั้นชั่วคราวผู้นี้จึงทำตัวราวกับโจรย่องเบาที่เข้าออกบ้านคนอื่นโดยไม่เคาะประตู! “ข้าเพียงพูดไปเรื่อยเจ้าค่ะ” ร่างสมส่วนเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ข้างในห้องพลางกวาดตามองคล้ายกำลังหาอะไรบางอย่าง “ไม่ทราบว่าคุณชายเฉินมาหาข้า มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ดวงหน้าหวานฉีกยิ้มรับแขกแล้วเอ่ยถาม “ไม่มี” คำตอบนั้นทำเอาโฉมสะคราญถึงกับยิ้มค้าง ‘ไม่มีแล้วมาทำไม!’ “ท่าน…ไม่เข้าเรียนหรือเจ้าคะ” บรรยากาศอึดอัดทำให้หญิงสาวเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง “ข้าไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน” ถิงถิงมองใบหน้าหล่อเหลานั่นอีกครั้งก่อนนึกขึ้นได้ เขาคือผู้ที่ครองอันดับ 1 มาตลอดตั้งแต่เข้าเรียน ดังนั้นไม่ว่าจะเข้าห้องเรียนรึไม่เหล่าเซียนเซิงล้วนไม่กล้าต่อว่า ถึงอย่างนั้นความมั่นอกมั่นใจที่อยู่บนสีหน้าเฉยชาก็ทำเอานางแทบต่อบทสนทนาไม่ออกเช่นกัน “แล้วท่านมาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ” ในเมื่อถามอ้อมไปอ้อมมาแล้วไม่ได้คำตอบ ก็คงต้องถามตรงๆ แล้วล่ะนะ “เยี่ยมเจ้า” เป็นคำตอบที่คาดเดาได้ไม่ยาก มาหาคนป่วยถ้าไม่มาเยี่ยมก็คงมาลอบสังหารกระมัง… “ขอบคุณที่มาเยี่ยมเจ้าค่ะ” ตั้งแต่หมั้นหมายกันมาเขาไม่เคยสนใจใยดีนางนอกเสียจากการพบกันตามหน้าที่ แล้วไฉนเลยยามนี้การกระทำของเขาจึงผิดแผกไป “ถิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เสียงสดใสหน้าประตูเป็นใครไม่ได้เลยนอกเสียจากคุณหนูเหรินและคุณหนูฟ่านซึ่งตามหลังมาไม่ไกลนัก “ข้าดีขึ้นมากแล้ว ขอบใจเจ้ามากที่ส่งสาวใช้มาดูแลข้า” คนงามส่งรอยยิ้มหวานต้อนรับสหายทั้งสอง แต่คำทักทายนั้นทำให้สตรีสองนางไม่เข้าใจ “ข้ามิได้ส่งสาวใช้มานะ” ฟ่านซุนลี่ตอบกลับพร้อมชำเลืองมองแขกที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว “ข้าก็ไม่ได้ส่งมา” ดวงหน้าพริ้มเพราของคุณหนูเหรินแสดงออกถึงความงุนงงไม่น้อย “คุณชายเฉิน…” ทุกสายตาในห้องไปรวมอยู่บนร่างสูงของบุรุษหนึ่งเดียวโดยมิได้นัดหมาย “ข้ามิได้ส่งใครมา” คราวนี้ถิงถิงอยากกุมขมับจริงๆ แล้วสาวใช้นางนั้นคือคนของใครกันล่ะ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม