“พี่แผน พี่คราม!”
เสียงตะโกนเรียกชื่อดังมาแต่ไกล ทำให้ทั้งแผนและสงครามหันไปตามเสียงเรียก ก็เห็นกานดาโบกมือพร้อมกับกำลังก้าวขามาหาพวกเขายังโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะที่นั่งอยู่ แต่เธอเดินมาได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก เพราะภากรเดินมาดักหน้าเอาไว้ก่อน
ไม่สามารถรู้ได้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน เพราะระยะที่กานดากับภากรยืนอยู่มันยังไกลเกินกว่าที่จะได้ยินด้วยการพูดน้ำเสียงปกติ แถมยังไม่รู้อีกด้วยว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นกำลังทำอะไร ก็มันดันเอาตัวใหญ่ ๆ บังไว้เสียมิดแล้วหันหลังให้
“ชิ ไอ้เหี้ยกรอีกแล้ว”
แผนบ่นขึ้นพร้อมจิ๊ปากด้วยอารมณ์หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก หลานรหัสตัวแสบก็กระไร บอกไม่รู้กี่ครั้งว่าอย่าอยู่ใกล้ไอ้ภากร แต่ก็ไม่เคยฟังสักครั้ง ส่วนสงครามก็ได้แต่ส่ายหัวแล้วหัวเราะออกมากับอาการของเพื่อนตัวเอง
“มึงหัวเราะอะไรไอ้คราม” ยัยตัวเล็กยังยืนคุยอยู่ที่เดิม ทำให้แผนหันกลับมาทำท่าเอาเรื่องเพื่อนตัวเองแทน
“หัวเราะมึงไงไอ้แผน”
“หัวเราะกูเรื่องอะไร”
“มึงรู้หรือเปล่าว่าตัวเองอาการหนักมากแล้วนะ กูว่าต้องพบแพทย์ว่ะ”
“พูดอะไรของมึงไอ้คราม”
สงครามก้มหน้าก้มตาทำการบ้านที่ค้างเอาไว้ต่อ โดยที่ไม่ตอบอะไรกลับมาอีก ทำให้แผนละความสนใจเพื่อนสนิทแล้วหันไปมองดูกานดา จังหวะพอดีที่เธอโบกมือให้ภากรแล้วเดินมาทางพวกเขาสองคน
“พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ายุ่งกับมัน” เสียงขุ่น ๆ พูดขึ้นทันทีเมื่อร่างเล็กหย่อนตัวลงบนม้านั่งฝั่งตรงข้าม
“อะไรของพี่แผนเนี่ย พี่กรก็น่ารักดีออก จะว่าไปก็เป็นสเปคผู้หญิงหลาย ๆ คนเลยนะ”
แผนนั่งนิ่งเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น เดี๋ยวสิ เมื่อไม่กี่วันก่อนยังบอกว่าจะสมัครเป็นแม่ของเจ้าเพชรอยู่เลย แล้วเป็นไงมาไงวันนี้ถึงได้บอกว่าไอ้กรคือสเปค
“คนโลเล”
“พี่ว่าหนูเหรอ”
กานดาถามขึ้นพร้อมกับทำหน้าสงสัย ตรงนี้มีแค่เธอกับสงคราม ถ้าไม่ว่าเธอ แล้วเขาจะว่าใคร
“เปล่า พูดลอย ๆ” แผนตอบกลับและไม่ยอมรับ
“พูดลอย ๆ อะไร ตรงนี้มีแค่หนูกับพวกพี่สองคน”
“พูดลอย ๆ ก็คือพูดลอย ๆ”
เขายังคงปฏิเสธว่าไม่ได้ว่าเธอ ส่วนสายตาเฉมองไปทางอื่น กานดาเอี้ยวตัวเพื่อให้ไปอยู่ในรัศมีที่เขามอง แต่แผนก็เอี้ยวตัวหลบเช่นกัน
“พี่โกรธไรหนู”
“เปล่า”
“ไม่บอกก็ช่าง ไม่พูดด้วยละ ไปเรียนดีกว่า”
เธอไม่ได้พูดอะไรต่อจริง ๆ พร้อมกับลุกขึ้นเดินเข้าไปในตึกเรียน สายตาคมมองตามแผ่นหลังเล็กนิ่งเงียบ ทำเอาสงครามที่กำลังทำการบ้านอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
“อ้าว ซึม ซึม นิ่งเลยมึง เป็นไงล่ะ ทำเป็นน้อยอกน้อยใจ โดนน้องงอนกลับใบ้แดกเลย” เพื่อนสนิทเอ่ยแซว แต่แผนก็ยังมองกานดาจนลับสายตา
“เปล่ามึง ไม่ใช่เรื่องนั้น มีบางอย่างกำลังตามน้องอยู่” เขาพูดออกมา ทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่เดิม แม้ว่ากานดาจะเดินเข้าไปในตึกจนมองไม่เห็นแล้วก็ตาม
“บางอย่างอะไรของมึงวะไอ้แผน”
“เงาสีดำ ๆ กูเห็นว่ากำลังลอยตามหลังน้องไปติด ๆ เลยว่ะ”
แผนเป็นคนมีคาถาอาคม มีดวงตาที่มองเห็นสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ที่เขานิ่งเงียบไปเมื่อครู่ ก็เพราะเห็นบางสิ่งบางอย่างกำลังติดตามกานดา
“เจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่าวะ มึงชอบบอกกูว่าคนเรามักจะมีเจ้ากรรมนายเวรติดตามตลอด” สงครามคาดเดาตามสิ่งที่เพื่อนเคยบอกเอาไว้ตั้งแต่สมัยยังเด็ก
“ไม่ใช่ว่ะ ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวร แต่เหมือนมีใครบางคนส่งมามากกว่า”
“เหี้ย! แล้วใครส่งมาทำน้องวะ”
สงครามเอ่ยถามด้วยความตกใจ แต่แผนก็ได้แต่ส่ายหน้า เห็นแค่นี้คงยังบอกไม่ได้ว่าใครส่งมา และเป็นอะไรแบบไหน ต้องหาสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างกานดากับไอ้เงาสีดำนั้นให้ได้ก่อน เขาถึงจะเข้าฌานเพื่อหาต้นตอของมันได้
“ไอ้ตัวไหนกล้าทำของใส่หลานรหัสกู เดี๋ยวมึงเจอดี” แผนสบถออกมาด้วยความไม่พอใจ ไม่คาดคิดว่าในเมืองหลวงยังมีคนคิดเล่นคุณไสยมนต์ดำอยู่
แต่กานดาก็ดูไม่มีพิษมีภัยกับใครทั้งกับพวกรุ่นพี่ผู้หญิงและรุ่นพี่ผู้ชาย เธอก็ดูเป็นที่รักใคร่เอ็นดู หรือเพราะมีคนชอบเธอมาก เลยอาจจะเป็นผู้ชายสักคนที่อยากได้หลานรหัสของเขา
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อวะไอ้แผน” สงครามถามขึ้นด้วยความร้อนใจไม่ต่างกัน หากเป็นอย่างที่เพื่อนเขาว่า ก็เท่ากับกานดานั้นอยู่ในอันตราย ไม่ว่าจะเป็นคุณไสยแบบไหน มันก็ไม่ดีกับคนที่โดนกระทำทั้งนั้น
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ะ กูต้องรู้ก่อนว่าน้องมันโดนอะไร”
คุณไสยมีหลายแขนง ทั้งของไทยของเขมร แต่ละอย่างก็มีวิธีแก้แตกต่างกัน หากสุ่มสี่สุ่มห้าทำอะไรลงไป เกรงจะยิ่งทำให้กานดาเจ็บตัวมากกว่าเดิม
“วันนี้เราเลิกเรียนเร็ว เดี๋ยวมารอน้องหน้าคณะ”
สี่โมงเย็น
แผนกับสงครามนั่งรอกานดาอยู่ด้านหน้าของตึกคณะ ไม่นาน เธอก็เดินออกมาพร้อมกับเพื่อนในคลาสอีกหลายคน พอหันมาเห็นพวกเขา กานดาก็โบกมือลาเพื่อน ๆ แล้วเดินตรงมายังแผนกับสงครามทันที
ในขณะที่สองขากำลังเดินเข้ามาใกล้มากเรื่อย ๆ แผนก็มองกานดาไม่ละสายตา ปากก็ท่องมนต์ไปด้วย เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้มีบางอย่างตามติดเธอ เงาสีดำที่ตามหลังอยู่นั้นค่อย ๆ หายไป เมื่อกานดาเดินเข้ามาใกล้พวกเขา
“หายไปแล้วว่ะ”
“อะไรหาย”
“เงานั่น พอน้องเดินจะถึงพวกเราก็หายไปเลย” แผนหันไปกระซิบบอกกับสงครามที่นั่งอยู่ข้างกัน พอดีกับที่ร่างเล็กมาหยุดตรงหน้าพวกเขา
“ทำไมพวกพี่ยังไม่กลับอีกอะ ไม่มีเรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ” กานดาเอ่ยถามพร้อมกับวางกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วหย่อนตัวลงนั่งตรงข้าม
“พี่ก็มารอเรานั่นแหละ” แผนตอบกลับ อย่างน้อย ๆ วันนี้ต้องรู้อะไรบ้างสักนิดก็ยังดี
“รอหนูเหรอ มีอะไรหรือเปล่าคะ” วันนี้ไม่ได้มีกิจกรรมอะไร เขาเองก็ไม่ได้บอกว่ามีธุระ แล้วมารอทำไม
“ว่าจะชวนไปกินปิ้งย่าง ไปด้วยกันมั้ย” คราวนี้สงครามเป็นคนพูดขึ้น
“จริงดิ พวกพี่เลี้ยงปะ ถ้าเลี้ยงหนูไป”
“ถ้างั้นก็ไป เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” แผนรีบเอ่ยบอกทันที กานดาเองก็พยักหน้าตกลงอย่างไม่ต้องคิดนาน
ระหว่างทางที่รถกำลังแล่นไปร้านปิ้งย่างชื่อดังที่ไม่ห่างจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ โดยที่แผนเป็นคนขับ กานดานั่งข้าง และสงครามนั่งเบาะหลัง
เขาหันไปมองเธอเป็นระยะ เพื่อสำรวจดูว่ามีสิ่งไหนผิดปกติหรือเปล่า แต่ทุกอย่างก็เหมือนไม่มีปัญหาอะไร แล้วอีกอย่างก็คือ พอเธออยู่กับเขา เงาสีดำนั่นก็ไม่ปรากฎให้เห็นอีกเลย
ใช้เวลาแค่ยี่สิบนาที ก็มาถึงร้านปิ้งย่าง ทั้งหมดรีบลงจากรถแล้วมานั่งที่โต๊ะ จากนั้นก็สั่งอาหารกันจนเต็มโต๊ะ
“อะ หนูให้” กานดาพูดขึ้นแล้วคีบหมูสามชั้นที่ย่างสุกเรียบร้อยวางลงในจานของแผน
“ไม่เอา อ้วน” เขาปฏิเสธแล้วก็คีบผักมากินแทน
“นี่พี่ด่าหนูอ้วนทางอ้อมเหรอ”
“เฮ้ย ไม่ได้ด่า”
“ก็พี่พูดว่าอ้วนอะ”
คนตัวเล็กทำท่าทางจริงจังขึงขัง จนแผนจำต้องคีบหมูสามชั้นชิ้นนั้นเข้าปาก กานดาถึงได้หยุดพูด
“เหี้ย แววมาแต่ไกล” สงครามพูดขึ้นเบา ๆ พร้อมกับหัวเราะอยู่ในลำคอ
“แววอะไรไอ้คราม”
“แววเกียมัวไง” พูดเสร็จครามก็หัวเราะต่อ “เพราะพี่มีเกียร์ พี่ถึงได้เกียมัว กลัวเมีย”
เพื่อนซี้หัวเราะไปพลางคีบอาหารเข้าปากพลาง ส่วนยัยตัวเล็กคนต้นเหตุนั้นก็เช่นกัน ดูจะมีความสุขกับการได้กินเสียเหลือเกิน และทุกอย่างก็ดูปกติดี เงาสีดำนั่นก็ไม่มาให้เห็นอีก
“พี่แผน พี่คราม หนูไปห้องน้ำก่อนนะ”
กานดาเอ่ยบอกแล้วลุกออกไปจากโต๊ะ นั่นจึงทำให้แผนเห็นว่า พอเธอห่างออกจากเขา เงาสีดำนั่นก็เริ่มปรากฎให้เห็นอีกครั้ง
“ไอ้คราม กูว่าไอ้คนทำของแม่งไม่ธรรมดาว่ะ” เขาหันไปสะกิดสงครามที่ยังมีความสุขกับการกินขั้นสุด
“มึงรู้ได้ไงไอ้แผน”
“ก็ตอนที่น้องอยู่ใกล้กู เงาแม่งนั่นก็จะหายไป พอน้องห่างกู เงามันก็จะตามน้องอีก แสดงว่าไอ้คนทำมันรู้ว่ากูมีอาคมที่จะจัดการได้” สายตาของแผนยังจับจ้องอยู่ที่เงานั่น ตอนนี้กานดายังปกติดีต้องรีบหาให้เจอว่าเป็นอะไร ยิ่งเจอช้าก็ยิ่งจะทำให้กานดาถูกมนต์ดำนั่นเล่นงานหนักขึ้น
///////////////////////////////////////////////////////