ตอนที่ 5 อยากได้แม่ไหม

1762 คำ
แผนกับครามนั่งอยู่ในห้องพักของตัวเอง สองคนมองดูเจ้าเพชรกำลังเอร็ดอร่อยจากขนมโดนัทที่แผนเอามาวางให้ “มาอยู่กรุงเทพฯ หลายปี ทองหยิงทองหยอด กินไม่เป็นแล้วมั้ง” สงครามพูด ริมฝีปากหยักยิ้มอย่างเอ็นดูเจ้าผมจุกลูกรักของเพื่อน “โธ่ พี่คราม ขนาดพี่ครามกับพ่อแผนยังเป็นเด็กกรุงเทพฯ ได้เลย หนูก็ต้องเป็นได้สิจ๊ะ” เจ้าเพชรตอบกลับในขณะที่ยังดูดซับอาหารผ่านควันธูป “ให้มันน้อย ๆ หน่อยไอ้เพชร อยากจะเป็นผีในเมืองด้วยว่างั้น” แผนเองที่นั่งมองดูเจ้ากุมารทองอยู่ใกล้ ๆ พูดขึ้น ศีรษะส่ายไปมา แต่ก็ยังยิ้มอย่างเอ็นดู “ไอ้เพชร เอ็งอยากมีแม่มั้ยวะ” จู่ ๆ แผนก็ถามขึ้น ทำเอาทั้งสงครามและเจ้าทองต่างหันมามองเขาเป็นตาเดียวกัน “พ่อจะหาแม่ให้หนูเหรอจ๊ะ” “ใครอีกวะไอ้แผน กี่คนแล้วที่วิ่งหนีไอ้ทองหางจุกตูด” ดวงตาคมเป็นประกายเมื่อนึกถึงคำพูดของกานดา มุมปากหยักโค้งขึ้น ยิ่งทำให้เพื่อนกับเจ้าเพชรสงสัยหนักขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างนั้น แผนก็ยังไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร จนสงครามกับเจ้าเพชรเขยิบมานั่งตรงหน้ากดดันรอฟังคำตอบ “ตกลงพ่อแผนจะหาแม่ให้หนูจริง ๆ เหรอจ๊ะ” “ใครวะไอ้แผน ตอบมาเร็วดิวะ” แผนหันมองเพื่อนกับเจ้าเด็กผมจุก ก่อนที่จะตอบคำถามออกมา “น้องดา หลานรหัสเราไง” พอได้คำตอบ สงครามก็นิ่งอึ้ง ไม่รู้จะตกใจ แปลกใจ หรือรู้สึกอย่างไรดี “ไอ้แผน นั่นหลานรหัส เกิดคบกันไม่ได้เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด” เพื่อนซี้เอ่ยเตือน ถ้าเป็นคนอื่นจะไม่ห้ามเลยแม้แต่น้อย “แล้วไงวะ ก็ดาบอกว่าชอบเด็ก น่าจะเข้ากับไอ้เพชรได้” ทันทีที่ได้ยินคำตอบจาก สงครามก็เอาฝ่ามือตบหน้าผากตัวเอง แล้วก็พ่นลมหายใจแรง ๆ ออกมา “นี่มึงลืมหรือไง ว่าไอ้เพชรมันไม่ใช่เด็กธรรมดา” “เอาน่า กูว่าน้องมันน่าจะโอเค” “เออ มีปัญหากูไม่ช่วยนะ” ก็หนักใจอยู่บ้าง เพราะหากคบกันแล้วไปต่อไม่ได้ แล้วต้องเจอกันอีกหนึ่งปีเต็ม คงมองหน้าลำบากไม่น้อย แต่ไม่รู้ทำไม ถึงได้รู้สึกมั่นใจว่ากานดาจะไม่กลัวเจ้าเพชรเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น “พ่อจะพาแม่มาให้หนูเจอเมื่อไหร่จ๊ะ” “รอก่อน เดี๋ยวได้เจอแน่” ทางด้านกานดา เย็นวันนี้เธอมีนัดทำรายงานกลุ่มกับเพื่อน นัดกันที่คอนโดของมารี เพื่อนผู้หญิงที่ต้องทำรายงานด้วยกัน “ดา อย่าเพิ่งรีบกลับนะ เดี๋ยวพี่รหัสเราจะแวะมาช่วยดูรายงานด้วยน่ะ เผื่อได้แก้ตรงไหนจะได้ทำเลย” มารีหันมาบอก แล้วหันกลับไปจ้องหน้าจอแล็ปท็อปเหมือนเดิม “เหรอ แล้วพี่รหัสมารีเป็นใครอะ” กานดาถามออกไป อาจจะเพราะไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น เลยไม่รู้ว่ามารีเป็นสายรหัสของใคร “พี่กรไง อยู่ปีสี่ ที่จริงก็ต้องเรียกลุงรหัสใช่ปะ ทีแรกพี่เขาก็ถามว่าใครมาบ้าง เราก็บอกไปว่ามีแค่เรากับดา” มารีตอบคำถาม ส่วนกานดาก็พยักหน้าเข้าใจไปด้วย ไม่นาน ทางเจ้าหน้าที่คอนโดก็โทรขึ้นมาถามว่ามีคนมาหา หลังจากมารียืนยันแล้ว ครู่เดียวเสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น “นั่นไง พี่กรมาถึงแล้ว เราไปเปิดประตูก่อนนะ” ประตูเปิดออก ชายหนุ่มหน้าตาดีก็แทรกตัวเข้ามา ในมือถือถุงที่ใส่อาหารหลายอย่างพร้อมกับขนมอีกหลายถุง “สาว ๆ วันนี้พี่ซื้อขนมกับของกินมาให้ด้วย มากินกันก่อนแล้วค่อยทำต่อ” ภากรเอ่ยบอกในขณะที่กำลังวางถุงของกินของบนโต๊ะอย่างคุ้นเคย ราวกับว่าเขามาที่นี่เป็นประจำ “พี่กรมาที่นี่บ่อยเหรอคะ ดูท่าจะคุ้นกับที่นี่” กานดาเอ่ยถามตามตรง “ก็แค่มาบ้าง เวลาต้องช่วยเราติวการบ้านน่ะ” มารีตอบแทน แล้วก็หลบสายตาของกานดา ตอนนี้ก็พอเข้าใจแล้วว่าสองคนตรงหน้าอาจจะมีอะไรในกอไผ่ แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธออยู่แล้ว สองสาวลุกจากโต๊ะที่นั่งทำรายงานมานั่งกินขนม ส่วนภากรเข้าไปในครัวเตรียมน้ำหวานมาให้ เขายกถาดน้ำหวานออกมาแล้วยื่นให้กานดากับมารีคนละแก้ว “ขอบคุณค่ะพี่กร” กานดาเอ่ยขอบคุณ แล้วรับแก้วน้ำมาดื่มอย่างไม่คิดอะไร “น้ำหวานยี่ห้อนี้อร่อยมากเลย ดาอยากได้อีกมั้ย” ภากรเอ่ยถาม แล้วยื่นมือมารอรับแก้วจากเธอ จะว่าไปมันก็อร่อยอย่างที่เขาบอก กานดายื่นแก้วกลับไปให้เขาอีกครั้งพร้อมกับพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นขออีกแก้วนะคะพี่กร” “งั้นรอแป๊บนะ” เขาเดินหายเข้าไปในครัวอีกครั้ง ส่วนมารีกับกานดาก็พูดคุยเรื่องรายงานระหว่างที่รอเขาเอาเครืี่องดื่มมาให้ ไม่นาน แก้วน้ำหวานที่เติมมาจนเต็มก็วางลงตรงหน้าของสองสาว “ดาเป็นไงบ้าง อยู่สายรหัสไอ้แผน มันดูแลดีหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามระหว่างที่กำลังจิ้มขนมเข้าปาก “ก็ดีค่ะ พี่แผน พี่คราม แล้วก็พี่บอยน่ารักกับดามาก แล้วก็ช่วยเหลือตลอดค่ะ” กานดาตอบออกไปตามตรง ทั้งสามคนดีกับเธอมากจริง ๆ เวลามีกิจกรรมเกี่ยวกับสายรหัสก็คอยดูแลตลอด เหมือนพี่ชายทั้งสามคอยดูแลน้องสาวคนสุดท้อง “อย่างนั้นก็ดี แต่ถ้ามันดูแลไม่ดี ย้ายมาสายรหัสพี่ได้นะ เพราะพี่ดูแลน้อง ๆ ทุกคนดีมาก ไม่เชื่อถามมารีดูก็ได้” เขาพูดจบก็หันหน้าไปมองมารี ส่วนเพื่อนของเธอนั้น ก็หน้าแดงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ราวกับกำลังเขินอายผู้ชายตรงหน้า “แต่หนูว่า พี่กรน่าจะดูแลมารีเป็นพิเศษเลยนะคะ” เธอพูดแซวขึ้นอย่างไม่คิดอะไร เพราะอาการของมารีนั้นแสดงออกมาทุกอย่างแล้ว “มันก็ต้องพิเศษอยู่แล้ว มารีเป็นหลานรหัสพี่นี่นา” คราวนี้สายตาของเขาย้ายมามองหน้าเธอแทน แต่มันเป็นสายตาที่แปลกออกไปจากทุกที ดวงตานั้นหรี่ลงพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็น ทั้งสามคนนั่งพูดคุยกันต่ออีกพักใหญ่ ก่อนที่เจ้าของห้องจะเอาจานกับแก้วน้ำเข้าไปล้างในครัว และทันทีที่มารีลุกออกไปจากโต๊ะ ภากรก็เริ่มพูดจาให้แปลกใจ “ดาไม่คิดอยากมาอยู่สายรหัสพี่จริง ๆ เหรอ” เขาพูดพร้อมกับยื่นมือมากุมมือของกานดาเอาไว้ “พี่อยากได้ดามาเป็นน้องรหัสนะ” “เอ่อ ไม่ดีกว่าคะ สายพี่มีมารีอยู่แล้ว ส่วนหนูก็มีพี่แผนอยู่แล้วค่ะ พวกพี่เขาก็ดูแลหนูอย่างดี” กานดารีบชักมือออกจากการเกาะกุมของเขา แล้วก็พาลนึกถึงคำพูดของแผนที่เคยเตือนเอาไว้ “เปลี่ยนใจเมื่อไหร่บอกพี่นะ พี่ยินดีต้อนรับเสมอ” ภากรยังไม่หยุดโน้มน้าว ส่วนเธอก็ไม่รู้จะทำยังไง เพื่อนก็ไม่ยอมออกมาเสียที เลยได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆ กลับไปแทน ที่จริงมารีก็เข้าไปในครัวไม่นานนัก แต่บรรยากาศอึดอัดจากผู้ชายตรงหน้า เหมือนทำให้เวลาที่นั่งอยู่กับเขาสองต่อสองมันเชื่องช้าเหลือเกิน จนในที่สุดมารีก็กลับมา “มารี ไหน ๆ รายงานก็ไม่มีอะไรให้แก้แล้ว เรากลับก่อนนะ มืดแล้วด้วย เดี๋ยวพ่อเราเป็นห่วงน่ะ” “ได้สิ กลับดี ๆ นะดา” เอ่ยบอกเพื่อนเสร็จ กานดาก็รีบเก็บของตัวเองแล้วออกมาจากห้องทันที ค่อยรู้สึกหายใจหายคอโล่งขึ้นมาหน่อย จากนี้คงต้องเลี่ยงการอยู่ใกล้ๆ ผู้ชายคนนี้เสียแล้ว หลังจากกลับมาถึงคอนโดตัวเอง กานดาก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนด้วยความเหนื่อย วันนี้รถติดกว่าปกติ ทำให้ใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงกว่าจะกลับมาถึง ดีที่ย้ายมาอยู่คอนโดคนเดียว เลยไม่ต้องฟังเสียงพ่อบ่นว่าหายไปไหนมา ถึงได้กลับบ้านช้า ตึกตึก ตึกตึก! แต่จู่ ๆ หัวใจก็เต้นแรงไม่รู้สาเหตุ เหมือนจะทะลุออกมานอกเสื้อเสียให้ได้ ดวงตาพร่ามัวคล้ายจะเป็นลม แต่ในความพร่ามัวนั้น กลับเห็นใบหน้าของภากรลอยเด่นชัดขึ้นมา ‘เป็นอะไรวะเนี่ย’ กานดาลุกขึ้นนั่งแล้วสะบัดหน้าไปมา เผื่ออาการที่เป็นอยู่จะหาย สองมือยกขึ้นบีบนวดตรงขมับครู่หนึ่ง แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ “สงสัยจะเหนื่อยเกินไป” เธอพูดกับตัวเองเพียงเบา ๆ แล้วก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จะได้มานอนพักผ่อน พรุ่งนี้ยังมีเรียนแต่เช้า แต่ระหว่างที่กำลังอาบน้ำอยู่ กานดาก็รู้สึกแปลก ๆ ไปทั่วร่างกาย ทุกที่ที่ฝ่ามือสัมผัสลูบไล้ให้ความรู้สึกวาบหวิวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับผิวเนียนกำลังถูกใครบางคนสัมผัส แล้วจู่ ๆ ใบหน้าของภากรก็ลอยเข้ามาในความคิดอีกครั้ง ดวงตาเบิกโต เมื่อเธอได้สติกลับคืนมา กานดารีบอาบน้ำให้เร็วที่สุด ความคิดมากมายสับสน ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้เอาแต่คิดถึงผู้ชายคนนั้น ยิ่งคิด ความรู้สึกแปลก ๆ ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกที หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ร่างเล็กก็ทิ้งตัวลงบนที่นอน พยายามคิดหาเหตุผลกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่รู้ว่าทำไม ที่แน่ ๆ เธอไม่ได้รู้สึกชอบภากรแบบชู้สาว มันไม่ควรจะนึกถึงหน้าของเขาพร้อมกับความรู้สึกแบบนั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ///////////////////////////////////////////////////////
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม