EP 3

1208 คำ
“สวัสดีครับคุณเค้ก” คนเป็นเจ้านายใหม่เอ่ยเสียงนุ่ม แล้วยิ้มหน้าหล่อให้ผู้จัดการสาว “น้องเค้กทำงานเก่งค่ะคุณคิว สวยสุดๆ แถมยังอึดและถึกทนมากค่ะ ในแผนกมีแค่เค้กกับเลขาฝ่ายแล้วก็กัปตันแค่นั้น ยังรับมือไหวเลยค่ะ” “เหรอครับ? ไม่ทราบว่าคุณเค้กเข้าประชุมด้วยหรือเปล่าครับ?” คนตัวสูงส่งเสียงนุ่มๆ ตามเดิม ตาก็มองผู้จัดการสาว ที่ดูออกว่าอยากจะเดินไปไหนสักแห่ง มากกว่าจะอยู่ให้เขาซักถาม “น้องเค้กไม่ได้เข้าหรอกค่ะ เพราะคุณคิวกับคุณลีให้แจ้งเฉพาะผู้จัดการฝ่ายเท่านั้นนี่คะ ฝ่ายเอฟบีน่าจะคุณทรงพลเข้าประชุมคนเดียวค่ะ จัดเลี้ยงห้อยอยู่กับเอฟบี ไม่ได้แยกตัวออกมาต่างหากค่ะ วดีเลยไม่ได้แจ้ง” “ครับ” “ไปกันเลยมั้ยครับ? จะได้เวลาแล้ว” ลีฮุงมองนาฬิกาข้อมือ แล้วชวนเจ้าของโรงแรมคนใหม่ด้วยท่าทีเป็นการเป็นงาน “ครับ” วรวัชรเองก็เห็นว่าได้เวลาแล้ว เลยเดินตามสองสามีภรรยาไป ด้วยก้าวย่างที่ไม่ใคร่จะมั่นคงนัก แต่สักพักก็ตั้งสติได้ แล้วควบคุมทุกก้าวให้เป็นปกติในที่สุด ผิดกับคนเบื้องหลัง ที่แทบจะก้าวขาไม่ออก ไม่คิดไม่ฝัน ว่าโลกจะกลมดิ๊กขนาดนี้ “เป็นไรแก? หน้าซีดยังกับเห็นผีมา” รุ่งฤดีง่วนกับงานตรงหน้าส่งเสียงเบาๆ ให้ได้ยินแค่สองคน เพราะออฟฟิศมีแค่พาร์ทิชันกั้นเอาไว้ เรียกว่าถ้าใครพูดดังก็รู้ถึงกันไปทั่ว “ยิ่งกว่าผีอีกว่ะมึง” “จริงดิ อะไรๆ เหลามา” ครืดๆๆๆ ยังไม่ทันได้อ้าปากบอกด้วยซ้ำ มือถือที่ตั้งระบบสั่น ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะก็ส่งเสียงขึ้น พอเห็นว่าเป็นลีลาวดี เลยรีบกดรับ ไม่นานคิ้วทั้งสองข้างก็ต้องขมวดม่น หัวใจก็พานจะหยุดเต้น ขาแข้งก็ไม่อยากขยับไปไหน “ใครโทรมาแก?” เห็นเพื่อนสาววางสายได้ รุ่งฤดีก็ส่งเสียงอยากรู้ทันที “พี่วดี” “มีอะไรแก?” “ให้ฉันไปเข้าประชุมด้วยตอนนี้ เฮ้อ” “จะมัวถอนหายใจทำไม ก็ไปสิยะ นี่น่ะมีแนวโน้มดีนะ ที่พี่เขาเรียกแกประชุมด้วย แปลว่าเป็นบุคคลสำคัญ” “แกคิดงั้นเหรอ?” “เอ่อดิ รีบๆ ไป” “เฮ้อ...ฝากสายด้วยนะ” เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยจำต้องลุกขึ้น คว้ามือถือ ซึ่งเป็นรุ่นจดบันทึกได้ไปยังห้องประชุมใหญ่ ตามคำบอกของลีลาวดี ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงถูกเรียก เพราะปกติแล้วถ้าเป็นประชุมระดับผู้บริหาร ตัวเองก็ไม่ต้อง “เชิญครับคุณเค้ก” คนนั่งหัวโต๊ะผายมือไปยังเก้าอี้ตัวสุดท้าย อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาที่ว่างอยู่ “ขอโทษทีนะครับที่เพิ่งโทรตามทีหลัง ผมคิดว่าประชุมนี้สำคัญ ฝ่าย Banquest น่าจะเข้าด้วย เมื่อกี้ทุกคนแนะนำตัวกับผมหมดแล้ว เหลือคุณเค้กเท่านั้น เชิญครับ” อีกครั้งที่คนหัวโต๊ะผายมือมาหา “สวัสดีค่ะนัดดากร อมรรัตนโชติ ผู้จัดการ Banquest ค่ะ” “นัดดากร อมรรัตนโชติ งั้นเหรอครับ?” คนนั่งหัวโต๊ะจ้องมาหาเพราะอยู่ฝั่งตรงกันพอดี สายตาที่มองมานั้น “ค่ะ” “ชื่อเพราะ นามสกุลก็หรูหราดีนะครับ” นัดดากรอ่านไม่ออกจริงๆ ว่ามีความหมายอะไรแอบแฝงไว้ แต่ถ้าจะให้เดา มันไม่น่าจะมีอะไรดีๆ ตามมาแน่นอน “ขอบคุณค่ะ” แต่ก็ยังเอ่ยออกไปเบาๆ ตามมารยาทเมื่อผู้ใหญ่ชม แม้จะไม่ได้ออกมาจากใจ และแม้จะมีอะไรแฝงไว้ก็ตาม “นอกจากจะชื่อเพราะแล้ว ยังสวยบาดใจอีกด้วยครับ” ประโยคนี้ทำเอาวรวัชรกับผู้ช่วยทั้งสอง ต่างหันไปมองคนพูดแทบจะพร้อมกัน คนอื่นๆ พลอยหันไปด้วย เลยได้เห็นหนุ่มหน้าตาดี ที่เพิ่งแนะนำตัวเองว่าชื่อ พชรพล อยู่ในตำแหน่ง Asst. Sales Manager เขาจำได้รางๆ ตอนดูหน่วยก้านฝ่ายขายแต่ละคนมาเมื่อคืน ว่าอีกฝ่ายอายุสามสิบ การแต่งกายเรียบร้อยสมเป็นฝ่ายขาย นั่นทำให้เขาถึงพอใจได้ แต่ไอ้อาการที่กำลังนั่งยิ้มให้ผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาใหม่นี่สิ มันขัดใจจนอยากจะลุกไปเสยปลายคางนัก “ประชุมๆ ห้ามขายขนมจีบแถวนี้” วีระ ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม หันไปแซวน้อยๆ และส่งสายตาตำหนิหน่อยๆ เพราะถือว่าตัวเองอายุเยอะกว่าผู้จัดการคนอื่น และรู้ดีว่าพชรพลเพียรขายขนมจีบให้นัดดาการมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จสักที การกระทำนี้ ทำให้ท่านประธานหน้าหล่อชอบวีระเพิ่มขึ้นอีกอย่างช่วยไม่ได้ “ขายไม่ดูกาลเทศะ ระวังจะแพ้ผู้ช่วย Front นะคุณเต้ย” อำนวย ผู้จัดการฝ่ายฟร้อนต์ออฟฟิศ หรือฝ่ายต้อนรับส่วนหน้า ที่อายุน้อยกว่าวีระหน่อยก็หันไปแซว เพราะลูกน้องของตัวเอง ก็เพียรขายขนมจีบให้นัดดากรไม่ต่างกัน และก็ยังไม่สำเร็จเช่นกัน “โอเค เมื่อมาครบแล้ว เราก็มาเริ่มกันเลยนะครับ” คนนั่งหัวโต๊ะส่งเสียงอย่างเป็นการเป็นงานออกไป ทุกคนในห้องประชุมต่างนั่งเครียด เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางเจ้าของโรงแรมคนใหม่จริงจังขึ้นมา ผิดกับตอนแนะนำตัวคนละเรื่อง นัดดากรจำชายที่นั่งทางฝั่งขวาของเขาได้ดีว่าชื่อ เด่นชัย เป็นผู้ช่วยมือหนึ่งของเขา ส่วนคนนั่งฝั่งซ้ายนั้นคือวริศ เป็นผู้ช่วยอีกคนของเขาเช่นกัน ส่วนชายหญิงอีกสี่คน ที่อายุอานามก็น่าจะใกล้เลขห้านั้น เธอไม่รู้จักและไม่เคยเห็น เดาว่าน่าจะเป็นทีมงานของเขาเช่นกัน เนื้อหาในการประชุมครั้งนี้ ยังไม่ได้ลงลึกถึงแผนกต่างๆ เป็นเพียงการบอกความเป็นไปคร่าวๆ ของทุกแผนกเท่านั้น โดยมีเจ้าของเก่าคอยให้รายละเอียดเพิ่มเติม ต่อจากผู้จัดการฝ่ายนั้นๆ รายงานเขาไป และในเวลาเที่ยงตรง ก็จะเป็นการจัดงานเลี้ยงส่งเจ้าของเก่า บ่ายโมงเจ้าของใหม่ก็นัดประชุมอีกรอบกับฝ่ายต่างๆ ไล่ไปวันละฝ่าย วันนี้คิวแรกเป็นของฟร้อนต์ออฟฟิศ พรุ่งนี้เป็นคิวของแผนกอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งนั่นจะรวมฝ่ายจัดเลี้ยงเข้าไปด้วย “เอาวะแก อย่างน้อยๆ ก็มีเวลาตั้งตัวอีกครึ่งวันกับหนึ่งคืน อย่าเพิ่งกังวลเกินเหตุ เขาอาจจะจำแกไม่ได้” นัดดากรปลอบใจตัวเอง ขณะเดินออกจากห้องประชุมพร้อมคนอื่น ทุกคนต่างพากันเดินไปห้องอาหารลีลาวดี ซึ่งจะจัดเลี้ยงอำลาให้เจ้าของเก่า ถึงอยากจะลาเจ้านายเก่ายังไง แต่เธอจะไม่ไปเด็ดขาด หนึ่งคือไม่แน่ใจว่าตำแหน่งเธอมีสิทธิ์จะไปร่วมงานด้วยได้หรือไม่ สองคือต้องเตรียมตัวออกเซลในรอบบ่าย และสามคือไม่อยากอยู่ให้เจ้าของใหม่เห็นหน้า ถึงอยากจะเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาคงจำเธอไม่ได้อยู่บ้าง แต่ใครจะไว้ใจเต็มร้อยได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม