Part นวพล
ผมตื่นเช้าแต่งตัวออกไปรอคนของไอ้โหดนั่นมารับ เมื่อวานมันแค่ให้ผมไปนั่งให้มันเฝ้าเฉยๆ วันนี้มันให้ผมมาทำงาน คงเพราะกลัวผมกลับไปคุยกับอีฟอีก แต่ผมก็โล่งใจที่เมื่อวานมันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับผม
ลูกน้องของนาฟพาผมไปนั่งกินข้าวร่วมวงกับพวกมัน ก่อนจะส่งผมเดินขึ้นไปบนห้องทำงานชั้นสอง แล้วนั่งลงตรงนั้นรอรับคำสั่ง สักพักนาฟเดินเข้าห้องมาในชุดสูทเหมือนเคย
‘แม่งไม่ร้อนเหรอว่ะ’
“มึงเรียนอะไรมา”
“การจัดการทรัพยากรมนุษย์..ครับ” ผมเกือบลืมคำต่อท้าย
"กูดูประวัติมึงมา อายุ20? ซิ่วมาเหรอ" นาฟถาม
"เปล่าครับ หยุดเรียนไปหนึ่งปีเพื่อหาเงินมาเรียน เลยเรียนช้าไปหนึ่งปี" ผมตอบ
"อืม ชานนท์ก็เพิ่งยี่สิบ เกิดต้นปี" นาฟบ่นลอยๆ
'จะบอกกูเพื่อ?' ผมนึกในใจ
“งั้นมึงตรวจดูตารางการทำงานแล้วดูว่าคำนวณเงินเดือนถูกตามนี้ไหม ตรงไหนผิดใช้ดินสอวงไว้ เข้าใจนะ” นาฟก้มลงมาสอน ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจ
ทำไมคนที่เรียนเกี่ยวกับด้านนี้ต้องเพ่งเล็งให้ทำเรื่องเงินเดือนด้วยก็ไม่รู้ ทั้งที่พวกเราทำได้มากกว่านั้น
“ครับพี่” ผมตอบแล้วดึงเก้าอี้มานั่งมุมข้างโต๊ะทำงานของนาฟ เพื่อกางเอกสารตรวจความเรียบร้อย ผมตรวจจนเสร็จแล้ววงจุดที่ผิดให้กับนาฟตามคำสั่ง แล้วส่งเอกสารให้นาฟตรวจ
“อืม ละเอียดดี” นาฟชม
“กูให้คนไปจ่ายค่าเช่าห้องมึงล่วงหน้าแล้วนะ สามเดือน”
“ขอบคุณครับ” ผมอึ้ง แต่ก็ดีใจที่ภาระหมดไปหนึ่งอย่าง
นาฟผลักกองเอกสารอีกชุดมาให้ผมทำต่อ
“เรียงเอกสารตามวันที่ เรียงตามเลขที่เอกสารด้วย แล้วเข้าแฟ้มตรงตู้ด้านหลังไว้”
“ครับ” ผมรับคำแล้วเริ่มแยกเอกสารเป็นกองๆ ไว้
ครั้งนี้นานหน่อยผมพึ่งแยกเอกสารได้แค่ครึ่งเดียวก็เที่ยงแล้ว ลูกน้องของนาฟยกอาหารเข้ามาเสิร์ฟ นาฟจึงหันมาบอกผมให้ลงไปกินข้าวกับพวกนั้น ผมเลยลุกขึ้นเดินตามลูกน้องนาฟออกไป
ผมทานข้าวเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องดูความเคลื่อนไหวของเหมือนดาว อดีตแฟนของผม ที่ผมนอกใจเธอมามีสัมพันธ์กับอีฟ เหมือนดาวเป็นสาวอวบที่ค่อนไปทางอ้วน แรกๆ ผมคิดจะจีบเธอเพราะเธอหัวดี แต่พอได้คบผมกลับรักเธอขึ้นมา เหมือนดาวไม่ยอมให้ผมล่วงเกินไปมากกว่าการหอมแก้มและจับมือ ผมรู้สึกอึดอัดจนอีฟที่เป็นเพื่อนสนิทของเราทั้งสองสังเกตเห็น และเสนอตัวให้ความสุขกับผม เพราะช่วงหนึ่งชานนท์เอาแต่เรียนจนละเลยเรื่องบนเตียงไป
ตอนนี้เหมือนดาวให้ผมเป็นได้แค่เพื่อน แถมยังมีไอ้เดือนมหา’ลัยตามจีบอย่างออกหน้าออกตา จนผมรู้สึกหมดหวัง อยากจะกลับไปเริ่มต้นใหม่ก็คงไม่กล้า เพราะตอนนี้ศักดิ์ศรีผมถูกเหยียบย่ำด้วยผู้ชายด้วยกันจนไม่เหลือชิ้นดี
ผมเดินสำรวจไปรอบๆ ไนต์คลับที่ตอนนี้เงียบสงัดไม่มีนักเที่ยว ชั้นแรกมีโซนบาร์เหล้า เก้าอี้สูงตั้งหน้าเคาน์เตอร์เรียงกันประมาณ20ตัว มีเวทีเล็กๆ ที่มีเครื่องดนตรีวางอยู่ มีฟลอร์สำหรับนักเต้นหน้าเวที ชั้นสองเป็นห้อง วีไอพีกระจกใสที่มองเห็นบรรยากาศด้านล่าง ผมยืนสำรวจสักพักก็เข้าไปทำงานต่อ
“พักนานนะมึง” นาฟพูดขณะก้มหน้าตรวจเอกสาร
“วันหลังกินเสร็จก็รีบขึ้นมา”
“ครับพี่” ผมรับปาก ในใจอยากทุ่มเก้าอี้ใส่หัวมันใจจะขาด
ผมนั่งแยกเอกสารต่อจนเสร็จ ตอนนี้ก็ปาไปบ่ายสาม นาฟตรวจงานเสร็จนานแล้วกำลังนั่งเช็คหุ้นในมือถืออยู่
‘ขี้เก๊กฉิบหาย’ ผมนึกในใจ พลางสงสัยว่าเป็นพี่น้องกันกับชานนท์จริงรึเปล่า ชานนท์หล่อสะอาดมาดเกาหลี แต่ไอ้คนนี้ออกไปทางแขกขาวหนวดเคราโกนออกไปก็ยังมีรอยครึ้มอยู่
“ผมเรียงเสร็จแล้วครับ ผมกลับได้รึยัง”
“ยัง” นาฟตอบสั้นๆ ผมเลยไม่กล้าถามอะไรต่อ เลยเดินไปนั่งที่โซฟา
“ชงกาแฟให้กูด้วย” นาฟสั่ง
ผมหันไปมีโกโก้ด้วย ผมเลยหันไปขออนุญาต เดี๋ยวมันจะหาว่าบ้านผมไม่สอนอีก
“ผมชงของผมด้วยได้ไหม” นาฟเงยหน้าขึ้นมองแล้วพยักหน้า
“ของกูกาแฟสอง น้ำตาลสอง น้ำครึ่งแก้ว” นาฟสั่ง
ผมเสิร์ฟกาแฟให้นาฟ แล้วมาชงให้ตัวเอง ใส่โกโก้ผสมลงไปด้วย แล้วถือมานั่งจิบที่โซฟา แล้วเล่นมือถือรอนาฟออกคำสั่ง สักพักนาฟเก็บโทรศัพท์แล้วพูดขึ้น
“ปกติกูจะเข้ามาตรวจรายรับรายจ่ายทุกวัน ส่วนเอกสารเงินเดือนเวลาเข้างานตรวจสรุปสัปดาห์ละครั้ง รายละเอียดการจ่ายเงินเดือนตรวจทุกวันที่25 หลักๆ มีแค่นี้ มีพวกบัญชีทำอยู่แล้ว หน้าที่ของมึงคือช่วยกูตรวจความถูกต้องของเอกสารและทำตามที่กูสั่ง”
‘สั่งเยอะฉิบหาย’ ผมได้แต่บ่นในใจ
“ครับพี่”
“ส่วนเรื่องบนเตียง แล้วแต่กูจะเรียกใช้งานมึง” อยู่ดีๆ นาฟก็พูดเรื่องนี้ขึ้น
“แต่คืนนี้ยัง” นาฟบอก
“เอ่อ ครับ” ผมโล่งอก ที่วันนี้รอดไปได้อีกหนึ่งวัน
Part นาฟ
วันนี้ผมออกจากไนต์คลับตอนสามทุ่ม เพื่อกลับมานอนที่บ้าน ผมทำงานหนักแค่ไหนก็ต้องปลีกตัวให้เวลากับชานนท์เสมอ
ชานนท์นั่งดื่มเหล้าอยู่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มในบ้าน ผมโบกมือทำสัญลักษณ์ให้ลูกน้องที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงนั้นให้ออกไปก่อน
“นนท์ เป็นยังไงบ้าง”
“ผมเลิกกับอีฟแล้ว”
“ดีแล้วล่ะ”
“ผมอยากจัดการไอ้นั่น อีฟไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร ไหนบอกพี่จะจัดการให้ผม”
“พี่จัดการมันไปแล้ว ตอนนี้มันคงเข็ดไม่กล้าไปยุ่งกับเมียชาวบ้านอีก” ผมเลี่ยงที่จะบอกว่าเป็นนวพล เพื่อนสนิทของอีฟ ชานนท์เลยไม่เซ้าซี้
“ไม่ลงซัมเมอร์เหรอ?”
“ไม่ครับ ผมคงไม่มีสมาธิเรียน” ชานนท์ยอมรับตามตรง
“อืม พี่ให้โอกาสนนท์ได้พัก แต่เทอมหน้าต้องตั้งใจเรียน ห้ามมีเรื่อง ไม่งั้นพี่จะส่งเราไปฝึกวินัยกับเพื่อนพี่ที่ออสเตรเลีย” ผมบอกชานนท์ ชานนท์ทำหน้าบึ้งทันทีที่ผมพูดถึงเพื่อนที่ออสเตรเลีย
“ไม่เอานะ ผมจะตั้งใจเรียนให้สุดๆ ไปเลย” ชานนท์ถึงจะเอาแต่ใจและเกเรไปหน่อย แต่ก็รักและเชื่อฟังผมดี และถ้าเอาเรื่องเพื่อนผมมาขู่ เขาจะยิ่งเชื่อฟัง เพราะชานนท์ไม่ชอบเพื่อนผมถึงขั้นกลัวเลยก็ว่าได้
ผมลูบหัวน้องชายแล้วนั่งดื่มเป็นเพื่อน สักพักก่อนจะไล่ชานนท์ขึ้นไปนอน แล้วตัดสินใจขับรถออกไปข้างนอกเอง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่อยากให้ชานนท์และลูกน้องรับรู้
ผมยืนอยู่หน้าห้องของนวพล เคาะห้องสองสามทีประตูก็เปิดออก นวพลตกใจจะปิดประตู ผมเอามือดันไว้ก่อน
“มึงจะปิดทำไม?”
“เปล่า ผมแค่ตกใจ” ตอนนี้นวพลหน้าซีด สีหน้าแสดงความกังวล
ผมเดินเข้าไปในห้องดูรูปถ่ายบนโต๊ะ เป็นภาพของแฟนเก่านวพล อีฟ และนวพล
“ใคร?” ผมชี้ไปที่แฟนเก่าของนวพลแล้วแกล้งถาม
“เหมือนดาว แฟนเก่าผม พวกเราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน”
‘ที่แท้ก็นอกใจแฟนมาเอากับเพื่อนสนิท’
‘เลว’
ผมคิดเปรียบเทียบไปถึงเรื่องเพื่อนสนิทของพ่อที่มาแย่งแม่ไป แล้วมองนวพลด้วยความชิงชัง
“วันนี้ได้เวลาที่มึงต้องให้ความสุขกูอีก” ผมพูดขึ้น ในใจอยากจะทำให้ไอ้คนข้างหน้ารู้สึกเจ็บปวดที่สุด นวพลหน้าซีดก้าวถอยด้วยความตกใจ
“ผมยังไม่พร้อม” นวพลพูดเสียงสั่นๆ
“แต่คลิปในมือถือกูพร้อมอัพมาก” ผมบอกมัน แล้วถอดเสื้อพาดไว้ที่เก้าอี้ ปลดเข็มขัดให้หลวมๆ แล้วเดินเข้าไปหานวพล
“ผมว่าพี่เมา เดี๋ยวผมเอาผ้าเย็นมาเช็ดหน้าให้” นวพลจะเดินไปที่ตู้เย็น ผมก้าวเท้าไปดึงแขนเอาไว้ แล้วดึงมาจูบ นวพลดิ้นผลักออก
“อย่าขัดขืนกู กูเตือนมึงแล้วนะ กูไม่อยากรุนแรงกับมึง ถ้าไม่อยากเจ็บ มึงควรยอมดีๆ” ผมบอกแล้วกดจูบลงอีกครั้ง นวพลไม่ขัดขืน สักพักก็คล้อยตามจูบตอบกลับมา
ผมดึงกางเกงนวพลออกให้พ้นทาง แล้วถอดเสื้อผ้าที่เหลือออกจนเราเปลือยเปล่าทั้งคู่ ผมนอนหงายแล้วเรียกนวพลให้มาใกล้ๆ
“เล้าโลมกูสิ แสดงฝีมือของมึงให้กูพอใจ แล้วกูอาจเมตตาปล่อยมึงไปเร็วขึ้น”
นวพลคร่อมทับตัวผมไว้แล้วก้มลงมาจูบที่ปากอย่างดุดันเหมือนระบายอารมณ์โกรธมาที่ผม ผมใช้ลิ้นตวัดกลับอย่างเร่าร้อน มือขย้ำสะโพกของนวพลไว้แน่น นวพลเลื่อนลงจูบที่คอผม ไล่ลงไปที่แผงอก แล้วใช้ลิ้นสะกิดตุ่มกลางอกทั้งสอง มันเล้าโลมเก่งพอตัว
“ใช้ปากให้กูด้วย” ผมสั่ง
นวพลเลื่อนลงไป เอามือรูดแท่งกำยำของผมแล้วใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ หัวหยัก ก่อนจะอมแท่งนั้นเข้าไปเต็มปาก ทำท่าจะอ้วกอยู่หลายครั้ง จนผมสะใจแล้วแกล้งเด้งสะโพกสวนเข้าไปในปากมัน มันดูดเม้มหัวผมเหมือนจงใจแกล้งคืน แต่ผมกลับรู้สึกดี จนครางออกมาเบาๆ
ผมพลิกตัวมาอยู่ด้านบน จับแท่งนั้นเตรียมจะเสียบเข้าไป
“พี่ครับ ผมกลัวเจ็บ” นวพลพูด ไม่กล้าสบตาผม
ผมลุกขึ้นไปหยิบโลชั่น จับนวพลนอนคว่ำคุกเข่า แยกขาออก แล้วป้ายโลชั่นลงไป ใช้นิ้วสอดเปิดทางทีละนิ้ว นวพลจิกหมอนแน่น ผมเอานิ้วออกแล้วป้ายโลชั่นเพิ่มก่อนจะสอดใส่เข้าไปครั้งเดียวมิดด้าม นวพลร้องออกมา ผมเมตตาแค่ช่วยเบิกทางให้มันแค่นั้นแหละ
ผมกระแทกใส่อย่างไม่ออมแรง นวพลก้มหน้าจิกหมอน ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา ผมปล่อยน้ำพุ่งใส่ภายในช่องแคบนั้น แล้วใส่เสื้อผ้า นั่งที่ขอบเตียง นวพลนอนคว่ำหน้าไม่หันมามองผม ผมรู้ว่ามันทั้งเจ็บทั้งอาย แต่มันก็สาสมกับสิ่งที่มันทำกับน้องชายผมและแฟนเก่าของนวพลเอง
“พรุ่งนี้กูจะให้คนมารับเก้าโมง” ผมพูดแล้วโยนเงินทิ้งไว้ข้างตัวนวพลไปห้าพัน
“ไปซื้อยาเอาเองนะ” ผมพูดแล้วเดินออกจากห้องไป ไม่สนใจมองว่ามันจะทำอะไรต่อ
*********************