และหญิงสาวทรุดนั่งที่ม้านั่งว่าง อาจจะเริ่มบ่ายสองโมง ในสวนจึงไม่ได้ดูเหงา แต่ก็มีมีหนุ่มสาวที่เดินผ่านประตูเข้ามาเรื่อย บางคู่สวนกลับออกไป อาจจะกลับบ้าน หรือซื้อขนมขบเคี้ยวผลไม้รถเข็นที่มีขายอยู่ข้างนอก
แถวนี้เป็นย่านธุรกิจการค้ากลางเมืองหลวงใหญ่ แต่หล่อนไม่สามารถหางานทำได้ มณีรัชดาคิดจะทำอย่างไรดี ความคิดของหล่อนไม่ล้มเหลวหรอก ที่จะต้องหางานทำให้ได้ กวาดตามองดูหญิงสาวที่เดินผ่านมา เลือกที่แต่งกายแล้วมั่นใจว่าเป็นพนักงานบริษัทในละแวกนี้
หนุ่มหล่อดวงตาคมเดินตามหล่อนมา เขาเห็นหลังหล่อนไว ไม่นึกว่าจะได้พบ จอมพลว่างงานเหมือนเคย มีเวลาว่างมักจะแวะมาหาเพื่อนที่ทำงานอยู่ในละแวกนี้ และเขาชอบเดินเตร่แถวสวนลุมฆ่าเวลาเล่นดูนั่นนี่พอให้สมองปลอดโปร่งบริษัทของเพื่อนสนิทอยู่ตรงข้ามสวยลุมนี่เอง ตึกใหญ่หรูหรา ติดกันสองสามตึก สูงสามสิบชั้นขึ้นไป บนถนนพระราม สี่
มณีรัชดาเลยแปลกใจ หล่อนจำหน้าเขาได้ เพราะว่าเคยคุ้น จึงทักก่อน เพราะร่างของเขามุ่งประสงค์มาทางหล่อน “คุณ”เขายิ้มให้
“ครับผมเอง คิดว่าคงจำได้”จอมภูอยากบอกว่าเคยพบเจอกันแล้วต่างหาก โดยเฉพาะเรื่องราวส่วนตัวของเธอเขาจำเป็นต้องติดตาม เพราะคิดว่าทำไมต้องมาเกาะแกะอยู่กับน้องชายของเขา
หากในดวงตาของเขาแฝงความเจ้าเล่ห์กระด้างที่หล่อนมองลึกไม่ถึง มณีรัชดานิ่ง คิดว่าเคยเห็นหน้าเพียงแค่ครั้งเดียวเอง จะว่าเคยคุ้นไม่ถูกจัดว่าเป็นคนแปลกหน้าสำหรับหล่อนด้วยซ้ำ
“ฉันจำได้ว่า เคยเจอคุณบนรถเมล์”
ความจำหล่อนแม่นจนเขาต้องพยักหน้า
“ครับผมเอง”เขาพยักหน้า
หญิงสาวใช้สายตาสังเกตชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง เขาแต่งกายดีกว่าคนที่หล่อนพบในครั้งนั้น
“ดูเหมือน ..ไม่น่าจะใช่ คุณแต่งตัวดีผิดไปจากคนที่ดิฉันเห็น”
“ใช่ครับคนเดียวกันดูเหมือนผมจะได้งานทำแล้ว”ดวงตาของหล่อนเบิกกว้าง
“หรือคะดีใจด้วย”
ส่วนหล่อนเองยังหางานทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่หล่อนไม่เคยรู้เลยว่าผู้ชายตรงหน้าโกหก เพราะว่า เขาจะต้องหางานทำไปทำไม ในเมื่อเขาเป็นเจ้าของบริษัท มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารใหญ่โต เทียบกับหล่อนแล้วมันกระจอก
“แล้วคุณล่ะมาทำอะไรที่นี่”
เขาเงยหน้าขึ้นมองหล่อนขมวดคิ้ว
“ฉันไม่มีที่ไปค่ะ เลยมาเดินเล่นที่นี่”
มาเดินเล่นหรืออ่อยเหยื่อรายใหม่ เขาจึงแปลกใจอุทานเสียงสูงเหมือนไม่เชื่อ
“คุณเนี่ยนะ มาเดินเล่นที่สวนลุม”
มณีรัชดาเริ่มสีหน้าไม่พอใจบ้างนี่มันเรื่องของหล่อน แล้วแววตาของหล่อนบึ้ง ทำไมล่ะเขามากักกันสิทธิ์ของหล่อนหรือยังไง จึงย้อนถาม
“ทำไมคะผู้หญิงเข้ามาเดินสวนลุมเป็นยังไงหรือ ผิดด้วยหรือคะ”
“มันดูไม่ดี เขาจะกล่าวหาว่ามาอ่อยเหยื่อล่อเอ้อ ดักผู้ชายแถวนี้ไงครับ” เขาต้องหนีบความสุภาพเอาไว้ก่อนวาจาร้ายแดกดันคอยเอาไว้ใช้เฉพาะยามที่ต้องการ” แค่นี้ต้องการให้นางสมันน้อยตายใจก่อน
มณีรัชดาแปลกใจกับผู้ชายคนนี้ เหมือนเขาประชดหล่อน หากแต่หล่อนไม่สนใจหรอก แค่คนแปลกหน้าที่เผอิญมาพบเจอกันครั้งที่สอง
“คุณคงทำงานอยู่แถวนี้ แต่มีเวลาเหลือเฟือมาเดินเล่นหรือคะ”
“เป็นเพราะผมนัดลูกค้าเอาไว้ แต่ยังไม่ถึงเวลานัดครับ” เขาจำใจปดหล่อน มณีรัชดาเองก็มีสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อนักหรอก หากแต่ก็พยักหน้า
“ค่ะคุณเลยมีเวลาว่างถมเถ”
วาจาหล่อนย้อนเหน็บก็ไม่เบานี่
“แล้วคุณล่ะ ทำงานที่ไหนครับ”
“เอ้อฉันตกงานอยู่ค่ะ”มณีรัชดาหันมาตอบเขา“
“ยังหางานทำไม่ได้” ตอบแล้วก็เบือนหน้าไปทางอื่น ชายหนุ่มทราบแต่เขาก็เอ่ย
“สนใจไหมครับถ้าผมจะช่วยหางานให้คุณทำ” ย่อมทำให้มณีรัชดาแปลกใจและตาโตอย่างแน่นอน ด้วยเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อที่หล่อนจะเจอลูกฟลุ้กอย่างนี้ แต่หล่อนก็ต้องชั่งใจก่อน ไม่ผลีผลามเพราะกลัวเหลี่ยมเล่ห์อีกฝ่าย
ก็หล่อนรู้นี่ว่าผู้ชายยุคนี้อันตรายจะตายยิ่งหล่อรวยสง่างามอย่าคิดว่าหล่อนไม่รู้ทันแววตาที่พราวกริ่มของเขา ถ้ามณีรัชดาโง่ หล่อนคงถูกผู้ชายหลอกไปตั้งนานแล้วละ แต่นี่หล่อนไม่โง่
“ว่าแต่งานอะไรล่ะคะฉันยังไม่รู้ว่างานที่ทำเกี่ยวกับอะไร” หากชายหนุ่มยิ้มให้เมื่อหล่อนสนใจอีกครั้งดวงตาของเขาพราวยิบหยีเมื่อเอ่ย
“อ๋อ มีแน่ครับ เรื่องงาน เอ แต่ว่าผมขอเบอร์โทร.ของคุณเอาไว้ก่อน แล้วผมจะให้นามบัตรของเพื่อนผมนี่ไป” เขาขอข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งมณีรัชดาชั่งใจ หากว่าใจอยากได้งานก็อยากได้.. อีกใจหนึ่ง ก็แค่ลองให้เบอร์โทร.คงไม่เป็นไรมั้ง คงไม่มีอะไรเสื่อมเสียนี่ จึงพยักหน้า
“ได้ค่ะ” คิดว่าไม่ลองก็ไม่รู้ แต่ถ้ารู้แล้วหล่อนยังเฉลียวใจทันว่าจะอยากเดินเข้าไปในหลุมกับดักที่เขาพยายามจะขุดหรือเปล่า
เพราะมณีรัชดาไม่ใช่คนโง่ที่หล่อนพอจะรู้ว่าจุดประสงค์ของเขาไม่ใช่คนดีนัก หากแต่หน้าตาเขาดีเท่านั้น หล่อนคิดว่าเขามีเล่ห์เลศนัยซ่อนอยู่ เมื่อเขายิ้มรับ
“นี่ครับนามบัตรของเพื่อนผม” เพราะว่าเขาฉลาดพอไม่เอาเบอร์ของตัวเอง เพราะว่าน้องชายของเขาต้องสงสัย เพราะเขาตั้งใจจะโทร.หาหล่อนด้วยเบอร์สาธารณะ ซึ่งยากแก่การสืบทราบ
และถือว่าหล่อนพลาดไปแล้วไม่ใช่เรื่องอื่นแค่ให้เบอร์มือถือเขาไป ทั้งๆที่มณีรัชดาคิดแล้วว่า มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ขอบคุณที่เขาตั้งใจดิบดีหยิบยื่นไมตรีที่จะหางานทำให้แก่หล่อน ในแง่นี้มณีรัชดาย่อมคิดว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง แง่มีน้ำใจให้หล่อน คนที่เพิ่งจะรู้จักกันแค่ครั้งสองครั้ง
แล้วโชคชะตาก็ซัดเหวี่ยงให้หล่อนได้เจอกับเขาอีกครั้ง กำนามบัตรของเขาติดมา เหลือบมองดูข้อความที่ตัดสินใจพลิกดูข้อความช้าๆ
“จราดลแอนด์แซคโปรโมชั่น”ข้อความระบุถัดไปบอกว่าเขารับจัดงานอีเว้นท์เป็นออแกไนเซอร์ระดับอาชีพ จัดเตรียมศิลปินดาราและเป็นโมเดลลิ่งที่ค้นคว้าปั้นดาวเข้าสู่วงการบันเทิง..แค่นี้ความรู้สึกของหล่อนก็เพ้อเคลิ้มไปว่า มันคงสวยสดงดงามอย่างที่คิดเอาไว้ แต่เปล่าหรอก หล่อนชะงักเอาไว้ ไม่ใช่หลุมเล่ห์อำพรางด้วยหรือไง งานการพวกนี้