ติ๊ดๆๆ ติ๊ดๆๆ ”...” เสียงหนวกหูน่ารำคาญกระชากฉันออกจากนิทราอันเป็นสุข
ให้ตายเถอะ...นี่มันวันเสาร์ฉันควรได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม รู้สึกอารมณ์เสียอย่างหนักรีบคว้าเอาที่มาของเสียงนั้นโดยไม่ลืมตามองมันด้วยซ้ำ พี่เพิร์ททำให้ฉันสิ้นเรี่ยวเสียแรงจนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้เพราะความเหนื่อยและเมื่อยล้า
เสียงโทรศัพท์ดังไม่ยอมหยุด จนฉันคว้ามันมาได้และใช้นิ้วกดสัมผัสมั่วๆ เพื่อปิดการทำงาน จากนั้นก็กลับเข้าสู่โหมดพักผ่อนร่างกายอีกครั้งฉันไม่ได้หันไปมองพี่เพิร์ทที่นอนอยู่ข้างๆ แต่ก็รู้ว่าเขายังคงไม่ตื่นเช่นกัน
กริ๊ง! กริ๊ง!สิ่งที่แผดก้องเข้าหูนั้นเสียงของมันแสบสันยิ่งกว่าเก่าในขณะที่ฉันกำลังกลับเข้าสู่โหมดแห่งการพักผ่อน ฉันผุดลุกนั่งทันทีด้วยอารมณ์ฉุนสุดๆ พี่เพิร์ทเองก็งัวเงียตื่นขึ้นมาด้วย
“เสียงอะไรดังเอะอะแต่เช้าเลย...”
“โทรศัพท์ของคุณนั่นแหละ...ของหนูด้วย รีบรับเถอะค่ะ” ลึกๆ ในใจของฉันมันนึกไปถึงใครบางคนอยู่แล้ว แต่ไม่อยากปักใจ หยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนหัวเตียงส่งให้เขา สีหน้าพี่เพิร์ทเปลี่ยนไปทันทีเมื่อมองหน้าจอซึ่งโชว์ชื่อให้เห็น
เขาไม่รับ...กดปิดเครื่องและโยนไว้ปลายเตียงทันที ก่อนจะหันมาโอบร่างของฉันเข้าไว้ในอ้อมอก
“คุณม่านฟ้าใช่ไหมคะ”
“อย่าไปสนใจเลย นอนต่อเถอะ”
“บางทีเธออาจมีเรื่องสำคัญ...”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่บ้าน วัลลาจะโทร.มารายงานพี่อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก อย่าไปใส่ใจเลย” พี่เพิร์ทพูดเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วๆ ไป
อาจเป็นความเคยชินของเขาแต่สำหรับฉันแล้วไม่ใช่เลย มันเป็นเรื่องใหญ่มาก
“คุณม่านฟ้าคงรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่” ฉันเอ่ยชื่อผู้หญิงที่ไม่อยากพูดถึงมากที่สุด เพราะทุกอย่างที่เป็นเธอคนนั้นทิ่มแทงใจฉันจนบอบช้ำไม่เหลือชิ้นดี
“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก หนูก็อยู่ส่วนหนู เขาก็อยู่ส่วนเขา พี่ก็ดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่องอยู่แล้ว”
“มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิคะ...ก็...”
“นอนต่อเถอะที่รัก...ไม่มีอะไรหรอก” พี่เพิร์ทยิ้มและดึงร่างเปลือยของฉันให้ล้มลงบนที่นอนเช่นเดียวกับเขา ฉันขัดขืนและพลิกตัวลงจากเตียง โดยไม่ได้ดึงอาภรณ์ใดๆ มาปกปิดเรือนกายแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่ปิดเครื่องวางไว้เมื่อครู่มาเปิดดู
เป็นอย่างที่คิด...มีข้อความเตือนสายที่ไม่ได้รับเกือบสิบสาย รวมไปถึงข้อความเอสเอ็มเอสอื่นๆ ด้วย ฉันไม่ลังเลใจ รีบเปิดอ่านทันที เพราะมีสัญญาณเตือนมาแล้วว่าเจ้าของเขากำลังต้องการทวงสามีคืน
ใช่...ฉันถูกสังคมตราหน้าให้อยู่ในฐานะ...เมียน้อย
โดยที่ฉันรู้...แต่ไม่ได้เต็มใจที่จะเป็นมือกดปุ่มเปิดข้อความแล้วก็จ้องมองทุกตัวอักษรอย่างตั้งใจ ทุกๆ บรรทัด ทุกๆ คำบรรยายซึ่งมีแต่คำด่าทอหยาบโลนจงเกลียดจงชัง ร่างกายมันสั่นไปทั้งตัว อาการง่วงหาวหายไปเป็นปลิดทิ้ง
“อีเมียน้อย...หมดเวลาชั่วคราวของมึงแล้ว ถ้ายังร่านไม่หายก็กลับบ้านนอกมึงไปเอากับวัวกับควายโน่นไป!หรือไม่ถ้าอดอยากมากนักจนต้องขอทานผัวชาวบ้านไปนอนกกให้หายคันว่างๆ ก็ขอแบ่งผู้ชายกับแม่มึงสิรู้ใช่ไหม...กูหมายถึงใคร...อีแรด!”
“มีอะไร...” พี่เพิร์ททัก...นั่นเรียกสติฉันกลับมาจากความโกรธสุดขีด ฉันยกมือปาดน้ำตาที่คลอเบ้าด้วยความคับแค้นใจที่ถูกพาดพิงถึงบุพการีด้วยความหยาบคาย รู้สึกรับไม่ได้และแค้นใจตัวเองเหลือเกิน
“ไม่ค่ะ...หนูอาบน้ำก่อนนะคะเดี๋ยวต้องออกไปดูที่โรงเรียน ทำค้างไว้เมื่อวานลืมเอากลับมา” ฉันเลือกที่จะเก็บความเจ็บช้ำน้ำใจและคำกล่าวหาในข้อความนั้นไว้กับตัวเอง ไม่อยากปริปากเอ่ยถึงให้เสียอารมณ์กันทั้งสองฝ่าย และที่สำคัญ...ฉันไม่รู้ว่าที่ไปที่มาของเอสเอ็มเอสนี้คือใคร โวยวายไปมีแต่จะเสียกับเสีย ฉันรู้ตัวดีว่าไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเรียกร้องอะไรได้มากมาย หรือหากอยากทำ...ก็ต้องรอบคอบและเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไปส่งแล้วกลับมานอนรอที่คอนโดนะ ถ้าเสร็จธุระก็โทร.มาบอกก็แล้วกันพี่จะไปรับ”เสียงของพี่เพิร์ทดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แสดงว่าเขาลุกจากเตียงมาแล้ว ก่อนที่ฉันจะคาดคะเนอะไรไปมากกว่านั้นสองมือใหญ่ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อก็สอดเข้ามากอดเอาไว้เสียแล้ว
“ไม่อยากให้ไปเลย...อยู่ด้วยกันต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ”
“เอาไว้คราวหน้านะคะคุณเพิร์ท หนูไม่ว่างจริงๆ เผลอลืมงานสำคัญเสียด้วยเพิ่งจะนึกได้ก็รีบลุกจะไปอาบน้ำนี่แหละค่ะ” ฉันหาคำปดง่ายๆ เพื่อลวงให้ได้เว้นระยะห่างจากเขาในวันนี้ เพราะฉันรู้ดีว่าพี่เพิร์ทมีแพลนจะอยู่ด้วยทั้งวัน อาจเลยไปถึงพรุ่งนี้ มะรืน...ก็แล้วแต่ความพอใจของเขา
แต่ฉันต้องหาวิธีทำให้เขากลับบ้านไปให้ได้! ก่อนที่จะถูกรุกรานไปมากกว่านี้
“คุณเพิร์ท คือ...มีอีกอย่างที่หนูลืมบอก...” น้ำเสียงฉันแผ่วลงออดอ้อนเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสบหน้าตรงๆ สองแขนคล้องคอเขาเอาไว้โน้มหน้าผากของเขาให้ลงมาชนกัน
“มีอะไรเหรอที่รัก หืม...อ้อนแบบนี้อยากได้อะไรจ๊ะบอกพี่มาสิ”
“รู้ทันอีกแล้ว แต่หนูไม่ได้อยากได้อะไรหรอกค่ะ แค่จะบอกว่า...”
“ว่า...”เขายิ้มหยักมุมปาก กึ่งล้อกึ่งหยอกกระตุ้นให้ฉันรีบปริปาก
“คือหนูมีนัดปาร์ตี้งานวันเกิดเพื่อนที่ต่างจังหวัดเย็นนี้ค่ะ เมื่อวานเบลอๆ กับงานมากไปหน่อยพอกลับมาถึงห้องคุณก็เอาเปรียบหนูทั้งคืนจนหนูลืมไปเลยว่าได้แพลนอะไรเอาไว้บ้าง”
“ไม่...ให้...ไป...” สามคำสั้นๆ จากเขาที่ฉันนึกเดาไว้แล้ว ฉันจึงโน้มคอแข็งนั้นลงต่ำมาอีก จูบที่แก้มสากปกคลุมด้วยหนวดเครานั้น ก่อนจะเคลื่อนมาจุ๊บปาก
“นะคะพี่เพิร์ท หนูเครียดจะแย่อยู่แล้วทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องที่บ้าน...ไหนจะคนของพี่อีก ใกล้สอบแล้วด้วย ให้หนูได้พักผ่อนกับเพื่อนบ้างได้ไหมคะ” ถ้าลองฉันเรียกคำนำหน้าว่า 'พี่' เพื่อเอาใจเขาแล้วละก็ นั่นหมายความว่าสิ่งนั้นฉันต้องการมันมากๆ และมักจะเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลเสมอ
“เพื่อนคนไหน...”
“มารี ทับทิม แล้วก็แก้ว มีเพื่อนนอกกลุ่มอีกสองสามคนนะคะพี่เพิร์ท” ฉันอ้อนอีกครั้ง จิกตามองเย้ายวน ปล่อยมือจากต้นคอให้พอหลวมแล้วเบียดตัวเองเข้าชิด เบียดร่างเปลือยเปล่าเสียดสีกับร่างบึกบึนที่ไร้อาภรณ์เช่นกัน
“อา...อย่าทำแบบนี้...”
“อนุญาตให้หนูไปสิคะพี่เพิร์ท...นะคะทูนหัวของหนู”
“ถ้าพี่ยอม...โอลีฟก็ต้องยอมพี่ด้วยนะ...”
เสียงทุ้มห้าวนั้นสั่นพร่าจนนำพาให้ฉันสะท้านอกไปด้วยฉันยิ้มเหยียดตามองอย่างจงใจ
“หนูเคยไม่ยอมพี่เพิร์ทด้วยเหรอคะ...