สวมเขา

3910 คำ
เมื่อคืนพอฉันกลับมาถึงบ้านฉันก็เอาแต่นั่งดูรูปที่ฉันถ่ายกับพอร์ชทั้งคืนจนไม่เป็นอันหลับอันนอน แถมยังนั่งยิ้มนอนยิ้มอยู่คนเดียว อ้อฉันลืมบอกไปค่ะว่าพ่อกับแม่ฉันรู้เรื่องที่ฉันคบกับพอร์ชแล้ว ตอนแรกพ่อไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ฉันมีแฟน แต่พอฉันกล่าวถึงพ่อของพอร์ชซึ่งเป็นเพื่อนรักของพ่อเมื่อตอนหนุ่มๆพ่อก็เชียร์ฉันกับพอร์ชใหญ่เลยว่าอนาคตขอให้ได้อยู่ด้วยกัน “ไงจ๊ะแม่คนมีความรัก”>พิกเล็ท^_^ “อ๊ะ...นี่ของเธอ”น้ำขิงส่งการ์ดมาให้ฉัน “นี่ ชายปริศนาของแกยังไม่เลิกส่งการ์ดมาให้แกอีกหรอวะตอนนี้แกก็มีแฟนแล้วนะ”>พิกเล็ท ‘ฉันดีใจนะที่เห็นเธอมีความสุข แค่ได้เห็นรอยยิ้มเธอโลกของฉันก็สดใสไปทั้งวันแล้ว’การ์ดพวกนี้จะใช่ของพอร์ชหรือเปล่านะ “แกคิดว่าการ์ดพวกนี้จะเป็นของพอร์ชหรือเปล่า”ฉันหันไปถามพิกเล็ทและน้ำขิง “แล้วเขาจะส่งมาเพื่อ??”>พิกเล็ท “ใช่...ฉันว่าไม่ใช่หรอก”>น้ำขิง “แล้วของใครกันล่ะเนี้ย”-_-^ พักกลางวัน ฉันเดินแยกกับเพื่อนมาที่ห้องซ้อมดนตรีของพอร์ช แต่พอฉันมาถึงที่ห้องกลับไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ฉันจึงเดินไปนั่งที่โซฟาเพราะคิดว่าเดี๋ยวเขาก็คงจะมา แกร๊ก!! เสียงบิดประตูจากข้างนอกดังขึ้น ทำให้ฉันหันไปมองอย่างสนใจว่าใครคือคนที่กำลังจะเข้ามา แต่เมื่อร่างสูงผลักเข้ามาก็ทำให้ฉันรู้ว่าเขาคือใคร “ซัน!!” -_- “เธอมาทำอะไรที่นี่น่ะ” “ฉันมาหาพอร์ช” ฉันไม่ได้มาหานายหรอกย่ะ “อ้าวหรอ มาหามันทำไมอ่ะ”เขาถามอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก “ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย เรื่องส่วนตัว” แอ๊ด!! ฉันหันไปมองทางต้นเสียงของประตูที่เปิดออกเผื่อว่าอาจจะเป็นพอร์ชที่เปิดเข้ามาก็ได้ แต่ฉันก็ต้องผิดหวังเมื่อคนที่ฉันรอคอยไม่ใช่คนเดียวกับคนที่เปิดประตูเข้ามา “แหมมิว เดี่ยวนี้มีไรก็ไม่รู้จักบอกเพื่อนนะไปแอบคบกับไอ้พอร์ชตั้งแต่ตอนไหนกัน ทำเอาซะฉันตกข่าวเลยนะ”>>ปอร์เช่ “ว่าไงนะ-o-”ซันถามย้ำกับปอร์เช่ “อ้าวซัน อย่าบอกนะว่าแกก็ยังไม่รู้เรื่องที่ยัยมิวคบกับพอร์ช” “เห้ยเป็นไปได้ไงเนี้ย เธอใส่เสน่ห์เพื่อนฉันหรือเปล่าเนี้ย-o-”แรงมากเลยนะยะคิดได้ไงว่าฉันใส่เสน่ห์เพื่อนเขา “แหม...ฉันก็มีดีของฉันแหละน่า..." "แสดงว่าผู้หญิงที่พอร์ชบ่นถึงเป็นเธองั้นหรอ...โหไม่น่าเชื่ออ่ะ” “ว่าไงนะ...พอร์ชเคยพูดถึงฉันด้วยหรอ^o^”รู้สึกดีจังที่พอร์ชพูดถึงฉัน “มิว...มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย”อยู่ๆพอร์ชที่เพิ่งโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ก็ถามฉันขึ้น “ซักพักแล้วล่ะพอร์ช” “ว่าแต่มิวมาหาพอร์ชมีธุระอะไรหรือเปล่า” “อ๋อ...มิวจะมาถามว่าการ์ดพวกนี้พอร์ชได้เป็นคนส่งมาให้มิวหรือเปล่า”ว่าแล้วฉันก็ยื่นการ์ดที่ฉันหยิบมาให้พอร์ชดู “พอร์ชไม่เคยส่งการ์ดพวกนี้ไปให้มิวเลยนะ”อ้าวถ้าไม่ใช่พอร์ชแล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะเนี้ย “เห้อ...ตอนแรกมิวคิดว่ามันจะเป็นของพอร์ชซะอีกแต่ดันไม่ใช่ซะงั้น” “เสน่ห์แรงเหลือเกินนะเราน่ะ...”พอร์ชแซว พร้อมกับโยกหัวฉันเบาๆ “เอ่อ...แล้วมันเป็นของใครกันล่ะเนี้ย” “อยากรู้หรอ”พอร์ชถาม “ใช่...มิวอยากรู้ว่าเป็นของใคร” “งั้นเดี๋ยวพอร์ชให้ซันสืบให้ก็ได้”พูดจบพอร์ชก็เดินตรงไปหาซันทันที “ซันนายช่วยสืบให้ฉันได้ไหมว่าใครเป็นคนส่งการ์ดมาให้แฟนฉัน” “อื้ม...แต่ต้องหลังจากแข่งก่อนนะ...อีกอย่างช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่าง”ซันตอบใบหน้านิ่งๆ อยากรู้จังว่าอีตานี่เคยยิ้มให้ใครบ้างไหม “แล้วแต่นายสะดวกเลย”หลังจากที่คุยกับซันเสร็จพอร์ชก็หันมาบอกฉันต่อ “มิว เดี๋ยวตอนเย็นค่อยคุยกันนะ...วันนี้พอร์ชมีซ้อม...อ้าวเอสมาพอดีเลยรีบมาซ้อมเร็วจะได้รีบขึ้นคาบบ่าย”ยังพูดกับฉันไม่ทันจบพอร์ชก็หันไปบอกกับเอสที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องซ้อมดนตรีซะก่อน จะว่าไปแล้วร้อยวันพันปีไม่ยักจะเคยเห็นเอสในห้องนี้เลยนะเนี้ยฉันมาทีไรเจอแต่ซันกับพอร์ชแล้วก็ปอร์เช่ เพิ่งเห็นตัวจริงก็วันนี้แหละ เมื่อก่อนก็รู้แค่ว่าวงนี้มี4คนแต่ก็ไม่เคยเห็นเอสเลย เอ...วงนี้หน้าตาดีกันทุกคนเลยแหะ เอสหน้าตาจะออกตี๋ๆหน่อย ส่วนพอร์ชก็หล่อแบบน่ารักๆสไตล์เกาหลีพอๆกับซันเลยนะ แต่ถึงยังไงฉันก็ห็นว่าพอร์ชหล่อกว่าอยู่ดี ส่วนปอร์เช่ นายเนี้ยเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่ม.ต้นและเมื่อก่อนหน้าตาแทบจะดูไม่ได้เลยส่วนตอนนี้หล่อขึ้นเป็นกองเลยไม่รุ้ไปทำอะไรมา ปอร์เช่หน้าตาจะออกหล่อแบบสเป็คเกย์อ่ะหน้าตาจะออกลูกครึ่งญี่ปุ่นหน่อย เอาเป็นว่าโดยรวมแล้ววงนี้หน้าตาดีหล่อเว่อร์ก็ว่าได้ แล้วก็ขอย้ำอีกทีว่าพอร์ชหล่อที่สุด (อ่ะจ่ะ-_-“) ตกเย็น..... โอ๊ย! คาบสุดท้ายอันแสนง่วงเหงาหาวนอน กว่าอาจารย์แกจะปล่อยได้เล่นเอาฉันเกือบฉี่ราดเลยทีเดียว ตอนนี้เลยได้เวลามาปลดทุกข์แล้วล่ะ ปวดฉี่ก็ปวดแถมอาจารย์ยังปล่อยเลทอีกต่างหาก ครูสมัยนี้นี่แย่จริงๆไม่ตรงต่อเวลาเอาซะเลย “มิวรอฉันด้วยดิ”>พิกเล็ท “ไม่ไหวแล้วพิกเล็ท-o-” พรึบ!! พลั่ก!! “โอ๊ย...”ร่างของฉันกระแทกเข้าอย่างจังกับคนตรงหน้าเล่นเอาฉันกระเด็นลงไปอยู่ตรงพื้นเลยทีเดียว โอ๊ยเจ็บชะมัดเลย ปวดฉี่ก็ปวดดีนะที่ล้มเมื่อกี้ฉี่ไม่ราด “ขอโทษนะ...เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่านะ”ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่ฉันวิ่งไปชน “เอ่อ...นาย...อ๋อฉันไม่เป็นไร...ฉันวิ่งไม่ดูเองขอตัวก่อนนะ”ฉันตอบเอพริล ใช่เมื่อกี้ฉันชนเอพริล “เดี๋ยวก่อนสิ” เอพริลเรียกฉัน “ไม่เดี๋ยวแล้ว...ฉันขอตัวก่อนนะ”จากนั้นฉันก็รีบวิ่งหายเข้าไปห้องน้ำหญิงอย่างรวดเร็ว 3นาทีผ่านไปฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับพิกเล็ท แต่ฉันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเอพริลยืนพิงกำแพงรอฉันอยู่ที่หน้าห้องน้ำ เขาจะจับได้ไหมนะที่ฉันดันไปรู้ความลับของเขากับนาเดียน่ะ แล้วเขามายืนทำอะไรนะชักรู้สึกไม่ค่อยดีแล้วสิ “เอ่อ...นายยังไม่ไปอีกหรอ”ฉันถาม “เมื่อกี้เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอโทษนะ”เอพริลกล่าวอย่างสำนึกผิด เห้อ…ฉันคิดว่าเขาจะรู้ความจริงซะอีก “มิว...ฉันว่าเรารีบกลับบ้านดีกว่านะ”>พิกเล็ทตัดบทขึ้น “ไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องขอโทษ ฉันเองก็ผิดที่รีบจนต้องชนนาย...ฉันไปก่อนนะ” “แต่ฉันก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ดี ให้ฉันเลี้ยงข้าวเพื่อไถ่โทษเถอะนะ”เอพริลยังคงรั้งฉันไว้และพูดต่อ “มิวฉันว่าแกโดนเข้าแล้วล่ะ”พิกเล็ทกระซิบฉันเบาๆที่ได้ยินกันแค่สองคน “เอ่อ...” “เธอชื่อมิวหรอ เธออย่าปฏิเสธเลยนะเอาเป็นว่าฉันจะเลี้ยงข้าวเธอเป็นการขอโทษก็แล้วกันนะ”พูดเองเออเองจบเขาก็เดินจากไป “ฉันว่ามันแปลกๆนะว่าไหม”ฉันหันไปถามพิกเล็ทที่ยืนอยู่ข้างๆฉัน “ฉันก็ว่างั้นนะ” ฉันและพิกเล็ทพากันเดินมายังป้ายรถเมล์เพื่อรอขึ้นรถ แต่พอมาถึง รถของแม่พิกเล็ทก็มาจอดเทียบกับฟุตบาทด้านหน้าเรา2คน “มิวฉันกลับบ้านก่อนนะแม่ของฉันมาแล้ว ดูแลตัวเองดีๆล่ะกลับบ้านดีๆเข้าใจไหม”ก่อนจะขึ้นรถพิกเล็ทก็ไม่วายที่จะเตือนฉัน “อื้อ...รู้แล้ว” หลังจากที่พิกเล็ทกลับไปแล้วฉันก็นั่งรอพอร์ชที่ป้ายรถเมล์อย่างเช่นทุกวัน จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววของพอร์ชเลย สงสัยว่าจะยังซ้อมไม่เสร็จ แต่เขาก็น่าจะโทรหรือแชทมาบอกฉันก็ได้นี่นา “มิว...แฮ่กๆๆ”พอร์ชวิ่งมาหน้าตาตื่น “...” “พอร์ชขอโทษนะซ้อมเพลิน ลืมไปเลยว่ามิวรออยู่ที่นี่ กลับบ้านกันเถอะ”พูดจบพอร์ชก็เอื้อมมือมาถือกระเป๋านักเรียนให้ฉัน “ไม่เป็นไรหรอก ก็พอร์ชซ้อมดนตรีอยู่นี่^___^” “มิวไม่โกธรพอร์ชแน่นะ ที่ปล่อยให้รอนานๆ”พอร์ชหันมาถามเพื่อความแน่ใจว่าฉันไม่ได้โกธรเขาจริงๆ “อื้อ...กลับบ้านกันเถอะ^_^” “พรุ่งนี้พอร์ชสัญญาเลยว่าจะไม่ปล่อยให้มิวรอนานๆแบบนี้อีก”ว่าแล้วพอร์ชก็ยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าฉันเพื่อให้รู้ว่าเขาสัญญา “ก็ได้^o^”ฉันตอบแล้วยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยพอร์ช เราสองคนยิ้มให้กันก่อนที่จะเดินขึ้นรถเมล์ไปพร้อมกันโดยที่นิ้วก้อยของเรายังคงเกี่ยวกันอยู่อย่างนั้น (เขินล่ะซี่^o^) “มิว...วันหลังก็ชวนพอร์ชมาทานอาหารบ้านเราบ้างนะ”>พ่อฉันบอกขณะตักข้าวเข้าปาก “แหมๆๆ...พ่อตอนแรกที่มิวบอกมีแฟนก็ทำเป็นไม่ยอมพอรู้ว่าเป็นลูกชายของเพื่อนรักเท่านั้นแหละไฟเขียวเลยนะคะพ่อ”ฉันแซว “มิวก็อย่าไปแซวพ่อเขาสิ”แม่กล่าว อาหารค่ำของวันนี้ก็ได้ผ่านอย่างมีความสุขไม่บ่อยนักที่จะได้ทานกันพร้อมหน้าพร้อมตา ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อของฉันที่ติดประชุม ติดงานจนไม่สามารถกลับมาทานพร้อมกันได้แต่วันนี้ถือเป็นวันที่ดีที่พ่อของฉันกลับมาทานข้าวที่บ้าน “มิวรีบเข้านอนนะลูกพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ถ้าตื่นสายพ่อไม่รอนะจะบอกให้” “ค่ะพ่อ คอยดูนะมิวจะตื่นแต่เช้า แล้วก็จะตื่นก่อนใครในบ้านเลย^o^” “ทำเป็นพูดดีไป ถ้าไม่ตื่นจะให้ไปรถเมล์ซะให้เข็ดเลย” “โถ่...พ่อคะพ่อจะไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยหรอ รถเมล์คนเยอะจะตายพ่อไม่สงสารมิวหรอที่ต้องไปยืนเบียดๆในรถน่ะ”พูดแล้วฉันก็ตาวิ้งๆเรียกร้องความสงสารจากพ่อ “ไม่ต้องมาทำตาวิ้งๆเลย ก็ช่วยไม่ได้ตื่นสายเอง” เช้าวันต่อมา... “มิวตื่นได้แล้ว...”แม่เรียกฉัน “แม่มิวขอต่ออีก10นาทีนะคะ”ฉันบอกแม่อย่างงัวเงีย “ไม่ได้ มิวต้องตื่นเดี๋ยวนี้ปล่อยให้พอร์ชรอนานมันเสียมารยาท หนูไม่อายบ้างหรอ”ห๊า!! -O- เมื่อกี้แม่ว่าไงนะพอร์ชงั้นหรอ “ว่าไงนะคะแม่-o-”ฉันตะโกนถามแม่อีกครั้งเผื่อว่าจะหูฝาด “พอร์ชมารออยู่ข้างล่างรีบอาบน้ำแต่งตัวเลย”ไม่ได้การล่ะ เมื่อได้ยินแม่พูดชัดเต็มสองหูฉันก็รีบเด้งตัวออกจากที่นอนพร้อมกับคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างไว ใช้เวลาไม่นานนักฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ดูเหมือนว่าวันนี้ฉันจะอาบน้ำเร็วเป็นพิเศษนะ ขืนชักช้าพอร์ชไม่รอฉันก็แย่สิ “มาแล้วๆๆๆ^o^”ฉันวิ่งลงบันไดอย่างร่าเริง “อ้าวๆๆ ลงดีๆสิมิวเดี๋ยวก็พลาดตกลงมาหรอก ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้”นี่ไม่ใช่คำเตือนของคุณแม่แต่เป็นคำเตือนของคุณแฟนของฉันต่างหากล่ะ อร๊าย>///////<” “เว่อร์ไปแล้ว เลิกพูดให้ฉันอิจฉาได้และ หมั่นไส้โว้ย!!” พิกเล็ท “ที่หมั่นไส้เพราะเธอหาไม่ได้ใช่ไหม”เสียงของปอร์เช่ โอ๊ะโอนี่ปอร์เช่มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย “นี่นาย...ไม่ใช่ว่าฉันหาไม่ได้นะแต่เพราะฉันเลือกที่จะคบต่างหากเล่า”เอาแล้วไงสองคนนี้ทะเลาะกันแล้วไง ถ้าไม่ห้ามมีหวังไปกันใหญ่แน่ๆเลย “เลือกคบหรอ ข้ออ้างหรือเปล่าจ๊ะ”ปอร์เช่ยังไม่เลิกแถมยังพูดจาด้วยท่าทางยียวนกวนประสาทอีกด้วยถ้าเป็นฉัน ฉันคงลุกขึ้นต่อยหน้าหมอนี่ไปแล้วนะเนี้ย “นี่...ใช่ซี่ก็นายมันดังมีแต่สาวๆที่วิ่งเข้าหา...”ยังไม่ทันที่พิกเล็ทจะพูดจบปอร์เช่ก็แทรกขึ้นมาก่อน “ที่บอกว่าเข้าหารวมเธอด้วยหรือเปล่า^o^”เอาแล้ว พิกเล็ทจะตอบยังไงล่ะทีนี้ “ไม่มีทาง ไม่ใช่ฉันแน่นอน ขีดเส้นใต้ตัวหนาๆด้วยนะว่า-ไม่-มี-ฉัน-แน่-นอน เข้าใจ๊”พิกเล็ทพูดตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเองเลยนะนั่น เป็นฉันก็คงไม่กล้าพูดความจริงเหมือนกัน สองคนนี้ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมาจนฉันและปาร์ตี้ต้องห้ามทัพ โอ๊ยปวดหัว อีกคนก็ชอบแหย่ ชอบแกล้ง ชอบกวน อีกคนก็ปากไม่ตรงกับใจแล้วยังจะไปบอกอีกว่าขีดเส้นใต้ตัวหนาๆโอ๊ยแล้วอย่างงี้จะรักกันได้ไหมเนี้ยเพื่อนฉัน “พอเลยๆ ทะเลาะกันอยู่ได้ ไปๆแยกๆ”ฉันจับแยกให้ทั้งคู่ออกจากกัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่วายที่จะใช้สายตาจิกกัดกันอีก ไม่พอแค่นั้นยังทำปากขมุบขมิบใส่กันด้วย “นี่แกจะไปทะเลาะกับนายนั่นทำไม แล้วรู้ไหมว่าแกพลาดแล้วที่บอกว่าไม่มีวัน แกพูดออกไปแล้วแกห้ามตัวเองได้หรอ”ฉันพูดกับพิกเล็ทเบาๆเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน “ก็ฉันโมโหนี่ แกก็ดูอีตานั่นสิชอบหาเรื่องทะเลาะกับฉัน-o-” “เธอคิดว่าการเริ่มต้นที่ดีควรทำแบบนี้หรอ”ปาร์ตี้เสริม ใช่ปาร์ตี้พูดถูก “ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่ทะเลาะกันไปมาแล้วได้เป็นแฟนกันน่ะ ไม่มีใครเขาอยากได้คำพูดแย่ๆหรอกนะ” “แต่แกก็เห็นนี่มิวว่านายนั่นมาว่าฉันก่อน ฉันทนไม่ได้หรอกนะ คอยดูแม่จะไปควงผู้ชายหล่อๆมาเย้ยเลย” “ไปกันใหญ่แล้วแก แค่แกไม่ไปพูดตอบโต้แกลองอยู่เฉยๆสิเงียบๆบางทีนายนั่นอาจจะแปลกใจเลิกว่าแกก็ได้” “อื้อ...จะลองดู^_^”พิกเล็ทพูดอย่างมีเลศนัย แถมยังยิ้มเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจอีก นี่เขาคิดจะทำอะไรของเขากันแน่เนี้ย เห้อ...ฉันล่ะเดาไม่ออกเลยจริงๆว่ายัยเพื่อนตัวแสบของฉันคิดจะทำอะไร ฉันกับปาร์ตี้เตือนก็ไม่รู้ว่าจะทำตามไหมยัยเพื่อนคนนี้ยิ่งหัวดื้ออยู่ด้วยขืนทำอะไรแบบไม่คิดมีหวังเรื่องใหญ่แน่ๆเลย “อ้าว...เธอคนเมื่อวานนี่”ระหว่างที่ฉันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ๆเอพริลก็ทักฉัน “เอ้อ...อ้อ...หวัดดี^____^”ฉันทักกลับพร้อมกับยิ้มแหยๆ “เฮ้...ไม่ต้องกลัวฉันไม่ได้ทำอะไรเธอหรอก”ฉันไม่ได้กลัวนายฉันตกใจที่นายทักฉันต่างหาก “อ้อ...ว่าแต่นายมีอะไรหรอ” “เธอชื่อมิวนิคใช่ไหม ฉันชื่อเอพริลยินดีที่ได้รู้จักนะ”พูดจบเอพริลก็ยื่นมือมาข้างหน้าเพื่อเป็นการทำความรู้จัก แต่พอฉันกำลังยื่นมือไปจับก็มีเสียงทักขึ้นก่อนฉันจึงต้องชักมือของตัวเองกลับแล้วหันไปหาเจ้าของเสียงนั้นแทน “มิว!!” “อ้าว...พอร์ช^____^”ขอบคุณนะพอร์ชที่นายมาช่วยฉันทันเวลา “ขอโทษนะที่ให้รอนาน วันนี้ซ้อมหนักไปหน่อย” “ไม่เป็นไร มิวเองก็เพิ่งมา...เอ้อ...เราไปกันเลยดีกว่า...ฉันไปก่อนนะเอพริล^___^”และฉันก็รีบจูงมือพอร์ชให้เดินตามอย่างรวดเร็ว “มิว...มิวไปรู้จักเอพริลตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ”น้ำเสียงเหมือนไม่พอใจเท่าไหร่ “ก็เมื่อไม่นานมานี้เอง พอดีว่ารู้จักโดยบังเอิญ...มิววิ่งไปเข้าห้องน้ำแล้วดันไปชนเอพริลเข้าน่ะเอพริลเขารู้สึกผิดเลยขอโทษ...แต่มิวไม่ได้อยากรู้จักเขาเลยนะ...ดีนะที่วันนี้พอร์ชมาทันเวลา” “ดีแล้วล่ะ ทีหลังก็อย่าไปอยู่ใกล้นายนั่นนะพอร์ชไม่ค่อยชอบ” “เอ๊ะ...เขาเรียกว่าหึงป้ะ^o^”ฉันจ้องหน้าแล้วถามอย่างทะเล้น “ประมาณนั้น^///^”อร๊ายพอร์ชเขินด้วยอ่ะ “เราจะกลับบ้านกันเลยหรือว่ามิวอยากจะไปไหนต่อ”พอร์ชหันมาถามขณะที่เดินไปที่รถของเขา “มิวว่าพอร์ชไปส่งมิวที่บ้านเลยดีกว่า มิวอยากกลับบ้านแล้ว...อ้อลืมบอกไปอีกอย่างพ่อมิวเค้าอยากเจอพอร์ชด้วยนะ^o^” “คุณอามโนน่ะหรอ” “ใช่แล้ว พ่อแม่มิวเขารู้เรื่องเราแล้วนะตอนแรกเหมือนพ่อจะไม่ยอม แต่พอบอกว่าพอร์ชเป็นลูกของเพื่อนรักเขา พ่อก็อยากเจอพอร์ชเลยแถมยังอนุญาติให้เราคบกันด้วยนะ” “ขนาดนั้นเลย ถ้าเกิดว่าพอร์ชไม่ได้เป็นลูกชายของเพื่อนรัก เขาคงไม่ยอมให้เราคบกันแน่เลย”น้ำเสียงออกไปทางน้อยใจ “ถึงไม่ยอมมิวก็จะคบ^o^”คำตอบของฉันทำให้พอร์ชอมยิ้มจนแก้มแทบปริ ฉันรู้สึกว่าตั้งแต่คบกับพอร์ชมาคำพูดของฉันมันก็ยิ่งเลี่ยนเข้าไปทุกวันแล้ว พูดเองก็เขินเองซะงั้น เห้อ...ไม่ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะจำไว้เสมอว่าครั้งหนึ่งฉันเคยมีความสุขมากๆ ฉันเชื่อว่าความรักมันไม่ได้สวยไปซะตลอดทาง แรกเริ่มอาจจะปูด้วยดอกไม้แต่ระหว่างทางที่เดินต่อไปอาจจะเจอหนามของดอกไม้ก็ได้ใครจะรู้ “อ้าว...มิว”ระหว่างที่ฉันนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นเอพริลก็ทักฉันขึ้น ทำไมช่วงนี้ฉันถึงเจอนายบ่อยนักนะเอพริล “อ้อ...สวัสดี^^” “รอพอร์ชหรอ อ้อที่ฉันเคยบอกว่าจะเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการไถ่โทษน่ะไปกันเลยไหม”นายนี่แปลกนะพูดเองเออเอง “ไม่เป็นไรหรอกฉันไม่ถือ”ฉันปฏิเสธทางอ้อม “เธอคงกลัวพอร์ชเข้าใจผิดใช่ไหม ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ”ฉันแค่ไม่อยากคุยกับนาย ส่วนเรื่องกลัวเข้าใจผิดน่ะมันแน่อยู่แล้ว “^_^”ฉันไม่ตอบแต่กลับส่งยิ้มไปให้เขาแทน “งั้นเราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ป้ะ” “อื้มได้สิ^__^”โอ๊ยๆๆมิวนิคปวดหัว นายนี่มาไม้ไหนเนี้ย “งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ บาย”เอพริลกล่าวลาพร้อมกับเดินจากไป “อย่าบอกนะว่าเธอหลอกเพื่อนฉันน่ะ คบเพื่อนฉันแต่ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นเนี้ยนะ”หลังจากที่เอพริลไปไม่นานซันก็เดินเข้ามาทักด้วยประโยคดังกล่าวนี้ “นายจะบ้าหรอ ใครหลอกเพื่อนนาย นายนั่นเข้าหาฉันเองต่างหาก-o-”คิดได้เนอะว่าฉันหลอกเพื่อนนาย “เข้าหาเธอหรอ เธอคิดว่าเธอเลือกได้งั้นหรอจำไว้นะถ้าทำเพื่อนฉันเสียใจฉันจะประจานให้เธออายเลยคอยดู” “นายบ้าป้ะเนี้ย ดูหนังมากไปหรออ้อใช่สิชีวิตคนเราก็เหมือนหนังนั่นแหละไม่คิดเลยว่าจะมีคนโง่แถวนี้โดนหลอก” “ฉันควรพูดคำนั้นหรือเปล่า เพราะคนที่กำลังจะโดนหลอกมันเพื่อนฉัน” “จำไว้เลยนะฉันไม่คิดที่จะหลอกเพื่อนนาย อ้อระวังตัวเองไว้ให้ดีเถอะจะโดนสวมเขาโดยที่ไม่รู้ตัว^o^”ฉันกล่าวอย่างผู้ชนะและเน้นคำว่าจะโดนสวมเขาใส่หน้าเขา มันจะมากไปแล้วคิดได้ไงว่าฉันจะหลอกเพื่อนเขา ตัวเองแท้ๆที่จะเป็นฝ่ายโดนหลอก ฉันไม่อยากบอกนายเรื่องนั้นและปล่อยไปก็แล้วกัน ชีวิตใครชีวิตมัน อีกอย่างมันไม่ใช่ธุระอะไรของฉันด้วย “มิว...คุยอะไรกันเนี้ยหน้าตาเครียดเชียว”พอร์ชที่เพิ่งเดินมาถามขึ้น “อ้อเปล่าหรอก ไม่มีอะไรหรอก ซันรถนายมาพอดีเลยจะกลับบ้านเลยใช่ไหม บ๊ายบายนะ^o^”ฉันกล่าวไล่ (ลา) เขาอย่างรวบรัด จนคนที่โดนไล่นั้นทำท่าไม่พอใจแล้วเดินขึ้นรถไปด้วยความโมโห ส่วนฉันก็ได้แต่โบกมือบ๊ายบายอยู่ด้านล่างด้วยรอยยิ้มที่กวนโมโหเขาเข้าไปอีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม