ตอนที่4 ของดี
วันต่อมา...
ใบหน้าสวยเบ้บิดเพราะรำคาญอะไรสักอย่างที่ก่อกวนหน้าอกของเธอ แต่เพราะฤทธิ์แฮงค์ทำให้ยังลืมตาไม่ขึ้นได้ในทันที มือนุ่มพยายามปัดสิ่งรบกวนออกแต่กลายเป็นกำขยุ้มเส้นผมดำขลับแทน
“อื้อออ”
“หึ สิ้นฤทธิ์สินะ” ไมเคิลเงยหน้าจากจุกยอดเล็ก ๆ ของเธอที่เขาละเลงปลายลิ้นจนมันเปียกชุ่ม เห็นเธอยังคงไร้พิษสงจากที่คิดว่าจะแกล้งเฉย ๆ ก็อยากทำมากกว่าที่คิดไว้ตอนแรก
มือหนาไล่ปลดกระดุมกางเกงตัวเมื่อคืนแผ่วเบา แต่มันก็ไม่เบาพอที่จะทำให้หญิงสาวไม่รู้สึกตัว
“หยุด”
“กล้าสั่ง?”
“ฉันแจ้งความข้อหาข่มขืนแน่”
“ก็เอาสิ แต่ไม่อายใจเหรอเพราะเธอเสร็จมากกว่าฉันซะอีก” หญิงสาวขบกรามมองใบหน้าของคนที่กำลังลูบไล้ต้นขาขาวเนียนของเธอ
“เธออายุเท่าไหร่”
“...”
“ยัยอ้วน หูหนวกเหรอ” แสนดียังปิดปากเงียบเพราะเธอไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดเรียก แถมยังปัดมือน่ารำคาญของเขาออกจากเรียวขาไป
พรึ่บ
อ๊าย!
คนตัวโตกระโจนล็อกลำคอของเธอด้วยแขนแกร่งก่อนจะบี้จูบกลีบปากของเธอรุนแรงจนได้รสเลือดที่น่าจะมาจากทั้งสองคน เพราะเธอก็ไม่ยอมที่จะเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว ร่างบางดิ้นขลุกขลักนานหลายนาทีกระทั่งเขาปล่อยให้เป็นอิสระพักหายใจ
“เฮ้อ...เฮ้อ”
“แค่จูบจะตาย?”
“ปากฉัน...แตก อ๊ะ!”
“อย่าดื้อด้านกับฉัน เพราะเธอจะถูกสั่งสอนอย่างหนักเข้าใจมั้ย”
“ไม่เข้าใจ อื้ออ” ชายหนุ่มขบเม้มกลีบปากเธอแรงกว่าเก่าไม่สนว่าตัวเองต้องลิ้มรสเลือดที่ไม่ใช่ของเขาด้วย ‘ขอแค่ได้สั่งสอนผู้หญิงปากดี’
“เจ็บ!”
“ก็เมื่อไหร่จะเลิกปากเก่ง หรืออยากโดนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ดูดปาก?” เป็นอีกครั้งที่เขาได้ยิ้มอย่างสะใจที่เห็นดวงตาของเธอมีหยาดน้ำเอ่อคลอ เขารู้ว่าผู้หญิงหยาบกระด้างอย่างแสนดีไม่ร้องไห้ให้เห็นหรอกถ้าไม่เจ็บจริง ๆ
“อายุเท่าไหร่”
“จะถามไปทำไม”
“ยังอีกนะ”
“สิบเก้า!” หญิงสาวตอบเสียงสั่นเพราะความโกรธที่ไม่สามารถทำอะไร ไมเคิลไล้สายตามองเนื้อหนังขาวอมชมพู และรูปร่างที่ไม่ได้ผอมจนเนื้อติดหนังแล้วถึงกับต้องกัดปาก ‘เด็กมันดีอย่างนี้นี่เองไอ้เจเลอร์ถึงได้คลั่งเข้าไปทุกวัน และถ้าเรื่องเมื่อคืนไม่เกิดเขาก็จะไม่รู้เลยว่าเธอโคตรเป็นของดีอย่างที่ไม่เคยเจอมา’
“อย่ามองแบบนั้นนะ”
“แบบไหน”
“ก็แบบคนโรคจิตแบบนี้ไง”
“อะไรเข้าฝันให้แม่ตั้งชื่อว่าแสนดีวะ แสนแสบเหมาะกว่า”
“แสบบ้านนาย...” คนตัวเล็กรีบงับคำพูดที่เหลือเมื่อเห็นแววตาของเสือหิว
“แล้วเมื่อคืนเธอแสบมั้ย ที่โดนเอาครั้งแรกก็เจอของใหญ่” พูดจบก็ซุกใบหน้ากับอกขาวโพลนที่เธอเพิ่งดึงเกาะอกขึ้นปิดไว้ ทั้งโกรธ ทั้งอายกับคำพูดสุดหยาบโลนจนอยากหายตัวไปจากตรงนี้
“นี่!ออกไปนะ”
“จะไปไหน”
“จะไปอาบน้ำ!”
“ก็ดี เหม็นเหล้า” เขาดันหญิงให้ลุกขึ้นเพราะจะนั่งสบาย ๆ คนเดียวบนโซฟาแทน แต่ก่อนเธอจะเข้าห้องก็อดมองด้วยสายตาแค้นเคืองไม่ได้
“หรือจะเอาเลย”
“ออกไปจากห้องของฉันได้แล้วไอ้บ้า!”
ปึง!!!
“หึ”
แสนดีระบายอารมณ์ครุกรุ่นกับหมอนที่เขาน่าจะใช้มันหนุนมาทั้งคืนด้วยการสาดกำปั้นเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ต้องหยุดลงเพราะทนความเจ็บแสบที่ตรงนั้นไม่ไหว เธอทิ้งตัวลงนั่งอย่างเจ็บใจถึงจะไม่ได้ยึดติดกับคนแรกในชีวิตขนาดนั้นแต่มันควรจะเสียให้คนรักหรือเปล่า ‘ถึงเธอจะยังไม่มีแต่เดี๋ยวมันก็มีสักวัน’ พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงโวยวายหน้าห้อง และเป็นจังหวะเดียวกับเพื่อนที่หายไปทั้งคืนติดต่อมา
“อ๊ะอายเธออยู่ที่ไหน!”
“เรากลับห้องแล้ว แสนล่ะอยู่ไหน”
“...”
“แสน”
“เราก็อยู่ในห้องนี่แหละ ได้ยินเสียงคนโวยวายหน้าห้องเธอไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย”
“ไม่ได้เป็นอะไร เราอยู่ในห้อง คนโวยวายเขาเข้าไม่ได้”
“อืม อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันนะ”
แสนดีบีบมือถือในมือแน่นทั้งที่โล่งใจแล้วว่าเพื่อนยังอยู่ดี แต่เธอนี่สิจะเอายังไงกับชีวิต ถ้ายอมตกอยู่เบื้องล่างเขาเธอไม่มีวันได้เงยหน้าขึ้นมองฟ้าแน่
แอด...
“นึกว่าจะไม่ออกมาซะละ”
“ออกไปจากห้องของฉัน”
“อะไร อยู่ ๆ มาไล่”
“ออกไป!” หญิงสาวยังคงไล่คนที่ครองโซฟาของเธออย่างสบายใจ มองทุกอิริยาบทของเขาที่วางสมาร์ทโฟนลงบนโต๊ะไว้ไม่วางตา และเท้าหนากำลังก้าวมาหาเธอพร้อมกับถอดเสื้อออกพาดไว้บนไหล่
“นาย...”
พรึ่บ
“จัดกลางวันแสก ๆ สักรอบเป็นไง”
เพี๊ยะ!
เมื่อเขากระโจนเข้าหาเธอก็ฟาดฝ่ามือเข้าแก้มสากทันที มันแรงมากพอจะทำให้รู้สึกเจ็บหลังจากที่มันหายชา
“เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอวะ!”
“ออกไป! ออกไป!” มือเล็ก ๆ แต่แรงไม่ธรรมดาผลักเขาให้ถอยไปที่ประตูเรื่อย ๆ เหมือนคนคลั่ง แต่เมื่อการถอยของเขามันแทบไม่ขยับเธอจึงกัดเข้าที่ท่อนแขนอย่างไม่ออมแรง
“โอ๊ยยย!!!”
“ออกไปสิโว้ย!”
“เป็นบ้าอะไรวะ!”
ปึง!
“แสนดี!” เขาตะโกนเสียงดังลั่นไปทั้งชั้นด้วยความโมโห ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับเจ้าของเสียงที่อาละวาดอยู่ก่อนหน้า
“ไอ้เจเลอร์”