18

1340 คำ
“หม่ามี้จะซื้อไปไหนตั้งเยอะแยะคะเนี่ย” สุดที่รักถาม ขณะยืนมองอีกฝ่ายเลือกเสื้อผ้าแบรนด์ดังในห้างสุดหรู “ก็ให้หนูไง” ท่านหันมาบอกก่อนจะหันกลับไปหน้าตั้งตาเลือกต่อ “หา! ให้หยี ให้ทำไมคะ แล้วเยอะแยะแบบนี้หยีจะใส่ยังไงไหว” เธอโวยวายหน้าตื่นกับเสื้อผ้ากองโตที่อยู่ในมือของพนักงาน “ก็ใส่ทีละวัน เดี๋ยวก็ครบเองนั่นแหละ ดูสิชุดนั้นก็สวย ชุดนี้ก็น่ารัก เหมาะกับหนูทั้งนั้นเลยลูก” ด้วยความที่ไม่มีลูกสาวให้เลือกซื้อเสื้อผ้าให้แบบนี้ พอมีว่าที่ลูกสะใภ้น่ารักๆ แบบเธอก็อยากจะลองจับเธอมาแต่งตัวตามใจชอบบ้าง “แต่มันเยอะเกินไปนะคะ เอาแค่ชุดสองชุดก็พอแล้วค่ะ” เธอค้านอีก เพราะถ้าจะให้ปฏิเสธไม่รับเลย อีกฝ่ายก็คงจะเสียใจ แต่ครั้นจะให้รับทั้งหมดนี้เธอก็เกรงใจ อีกทั้งมันยังเกินความจำเป็นของเธอด้วย “แค่นั้นพอที่ไหนกันล่ะ เอาหมดนี่แหละดีแล้ว หม่ามี้อยากเห็นหนูใส่ชุดที่หม่ามี้เลือกให้ เอาเป็นว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป หนูก็ลองใส่ชุดพวกนี้มาให้หม่ามี้ดูวันละชุดๆ เลยดีไหมลูก” น้ำเสียงตื่นเต้นราวกับได้ตุ๊กตาตัวใหม่ของมาดามเดียน่า ทำเอาสุดที่รักถึงกับทำหน้าแหย ที่ตัวเองกำลังจะกลายเป็นตุ๊กตาให้อีกฝ่ายจับเล่น “ก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องเอาไปทั้งหมดนี่นะคะ เอาแค่บางชุดที่หม่ามี้ชอบก็พอ” เธอต่อรองอีก แค่เห็นกองเสื้อผ้าพวกนี้ก็เธอก็ผวาไปพลางๆ แล้ว “จ๊ะ! เอาที่ชอบนะ ชุดนี้ก็น่ารัก ชุดนี้ก็สวย สองชุดนี้ก็โอ นี่ก็น่าจะเหมาะกับหนู โอ้ว! ชุดนี้หนูใส่แล้วต้องน่ารักมากแน่ๆ เลย” ท่านชี้ไปยังชุดนั้นชุดนี้ โดยไม่ยอมตัดชุดไหนออกไปแม้แต่ชุดเดียว “ก็ถ้าชอบไปซะทุกตัวแบบนี้คงไม่ต้องเลือกแล้วล่ะค่ะ เหมามันหมดนี่เลยดีไหมคะ” มาดามเดียน่าได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มถูกใจ “โอเคตามนั้น เอาหมดนี่เลยแล้วกัน เดี๋ยวช่วยจัดการให้คนไปส่งที่บ้านฉันด้วยนะ” สุดที่รักทำตาโต เมื่อเห็นอีกฝ่ายหันไปสั่งพนักงานร้านแบบนั้น “หยีประชดค่ะหม่ามี้” เธอพยายามอธิบาย เพื่อหวังให้อีกฝ่ายยกเลิกคำสั่ง แต่ก็เหมือนจะเปล่าประโยชน์ “แต่หม่ามี้เอาจริง ไหนหนูลองใส่ชุดนี้ให้หม่ามี้ดูหน่อยซิ หม่ามี้อยากรู้ว่ามันจะน่ารักขนาดไหน” มาดามเดียน่ายื่นชุดเดรสสีหวานในมือให้เธอไป ทำให้เธอจำต้องเดินเข้าห้องลองชุดไปอย่างไม่มีทางเลือก “โอ้วว้าว! สวยมาก คิดเอาไว้แล้วเชียวว่ามันต้องเหมาะกับหนูมากๆ เชื่อสายตาหม่ามี้รึยังล่ะ” เมื่อเห็นว่ามาดามเดียน่ากำลังภาคภูมิใจกับสายตาช่างเลือกของตัวเอง เธอจึงไม่อยากพูดอะไรให้ท่านต้องเสียน้ำใจอีก ทำได้แค่ยิ้มแหยๆ ตอบกลับไปเท่านั้น “เอาล่ะทีนี้เราไปดูรองเท้ากับกระเป๋ากันต่อดีกว่าเนอะ” หลังจากที่สมใจเรื่องชุดแล้ว ท่านจึงเปลี่ยนเป้าหมายด้วยการลากเธอออกมาจากร้าน “ดะเดี๋ยวสิคะหม่ามี้ แล้วชุดล่ะ หยียังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยนะคะ” เธอพยายามรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ เมื่อตัวเองยังไม่ได้เปลี่ยนกลับไปใส่ชุดเดิม “ไม่ต้องปลงต้องเปลี่ยนแล้วมันล่ะ ใส่ชุดนี้นี่แหละ หม่ามี้ชอบ ไปเถอะไปเลือกรองเท้ากันต่อ จะได้เข้ากับชุดที่ใส่” เนื่องจากตอนนี้เธออยู่ในชุดเดรสสีหวาน แต่กลับใส่รองเท้าผ้าใบ ซึ่งมันดูขัดหูขัดตามากในสายตาของคนเลือก “ไม่เอาแล้วค่ะ แค่เสื้อผ้าก็มากพอแล้ว อีกอย่างรองเท้าของหยีก็ยังใส่ได้แล้วก็สบายมากด้วยค่ะ” ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเลือกรองเท้าให้เหมือนกับที่เลือกเสื้อผ้าให้ เธอจึงพยายามยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง หวังให้อีกฝ่ายเห็นตามด้วย แต่ก็เปล่าประโยชน์อีกตามเคย “เลือกเผื่อเอาไว้สักสองสามคู่ๆ เอาไว้ออกงานกับเลโอไง โอว! อย่างคู่นี้กำลังดีเหมาะกับหนูมาก น่ารักไม่สูงจนเกินไป น่าจะใส่สบาย” แล้วมาดามเดียน่าก็หยิบรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งขึ้นมา ราวกับว่าถูกใจนักหนา ต่างกับเธอที่กำลังห่อปากตกใจกับตัวเลขบอกราคา “มันแพงไปค่ะหม่ามี้ หยีใส่ไม่ลงหรอกค่ะ ถ้าได้คู่นี้ไปหยีคงต้องเอาแขวนที่คอแทนการใส่ไว้ที่เท้าแน่ๆ ค่ะ” ก็รองเท้าราคาร่วมแสนแบบนี้จะให้เธอใส่เข้าไปได้ยังไง รู้หรอกว่าคนซื้อให้ไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องราคาแม้แต่น้อย แต่เธอนี่สิที่รับมันไม่ได้จริงๆ “รองเท้าพวกนี้น่ะถึงจะแพงก็จริง แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพและความทนทานแล้ว หม่ามี้ว่ามันคุ้มนะ เอาล่ะเราอย่าไปสนใจเรื่องราคาดีกว่า มาลองใส่คู่นี้ให้หม่ามี้ดูหน่อยซิว่ามันพอดีรึเปล่า” มาดามเดียน่าเปลี่ยนเรื่องด้วยการยื่นรองเท้าคู่นั้นให้เธอสวมอีก “ไม่เอาอ่ะ หยีใส่รองเท้าแพงๆ แบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงๆ ก็ไม่เอา ถึงคุณภาพมันจะดีหรือทนมากแค่ไหนก็ตาม” เธอส่ายหน้าหวือไม่ยอมท่าเดียว “อืม! งั้นเหมามันทุกไซส์เลยแล้วกันเนอะ หนูจ๊ะเอารุ่นนี้ทุกไซส์เลยนะ” เธอทำตาโตเมื่ออีกฝ่ายหันไปสั่งพนักงานในร้านแบบนั้น ‘เพิ่งรู้สองแม่ลูกคู่นี้นิสัยเหมือนกันอย่างกับถอดกันมา เผด็จการเหมือนกันไม่มีผิด’ “โอเคๆ หยีลองแล้วค่ะ ขอแค่คู่เดียวก็พอ โอเคไหมคะ” สุดท้ายเมื่อไม่มีทางเลือกเธอจำต้องลองและรับมันไว้อีก คู่เดียวก็ยังดีกว่าการที่จะให้อีกฝ่ายเหมามันทุกไซส์แบบนั้น สุดท้ายคำขอของเธอก็ไม่เป็นผล เมื่อในที่สุดเธอก็ได้รองเท้ามาทีเดียวสามคู่ แถมด้วยกระเป๋าอีกสามใบ เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อตอนนี้เธอกำลังถูกแปลงโฉมโดยช่างเสริมสวยชื่อดังจนเธอเองยังจำตัวเองแทบไม่ได้ “ลูกสาวหม่ามี้น่ารักที่สุดเลยจ้าวันนี้ ขอบคุณมากนะเคที่” มาดามเดียน่าหันไปกล่าวขอบคุณช่างเสริมสวยใจหญิง ในขณะที่เธอยังมองตัวเองในกระจกด้วยความงงๆ “เล็กน้อยค่ะมาดาม คุณน้องเธอหน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่งโน่นนี่นิดหน่อยก็สวยปิ๊งแล้วล่ะค่ะ” มันก็จริงอย่างที่ช่างบอก ก็แค่ทำผมให้ดูเป็นทรงมากขึ้นด้วยการดัดผมให้เป็นลอน ทำให้ดูเป็นสาวสะพรั่งขึ้นกว่าแต่ก่อน อีกทั้งยังแต่งหน้าบางๆ เพื่อคงความสดใสของเธอเอาไว้ ทำให้ภาพเด็กกะโปโลก่อนหน้านี้หายไปโดยสิ้นเชิง หลังจากที่จัดการแปลงโฉมลูกสาวคนโปรดจนเป็นที่พอใจแล้ว มาดามเดียน่าจึงพาเธอกลับมาส่งให้คู่หมั้นของเธอตามที่รับปากเอาไว้ แต่ให้ตายเถอะ สายตาที่ทุกคนกำลังจับจ้องมาที่เธอมันทำให้ขาเธอสั่นจนแทบจะก้าวขาไม่ออก และดูเหมือนท่านเองจะเข้าใจความรู้สึกของเธอตอนนี้ดี จึงอยากจะจัดการบางอย่างให้ถูกต้องซะที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม