ยามบ่ายคล้อยคุณชายหลงผู้นั้นจึงยอมออกมาจากห้องของสาวงาม ยามที่เขาลงมาก็พบกับสหายทั้งสี่ นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารด้านล่าง ซึ่งบัดนี้ผู้คนก็ไดกลับมาคึกคักอีกครั้งแล้ว ที่นี่ผู้คนก็ยังคงหลั่งไหลมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสายเช่นเดิม
“คุณชาย ท่านหายไปทั้งคืน คงสุขสมมากเป็นแน่”
เป็นองค์รักษ์เสี่ยวซานเอ่ยเย้านายของตน พระองค์ไม่ใช่ชายหนุ่มที่จะเที่ยวตามหอโคมเขียว ครั้งนี้คงโดนอิทธิฤทธิ์ของท่านเทพอ้ายเสินเป็นแน่
“เจ้าคงอยากไปอยู่ชายแดนสัก 10 ปีไว้กลับไปคราวนี้ เจ้าก็ไปประจำยังชายแดนกับแม่ทัพบูรพาก็แล้วกัน”
เสี่ยวซานแทบทำตะเกียบร่วง ไปสิบปี! ครานี้เขาอยากตบปากพล่อยๆของตนนัก
“เรื่องที่ให้ไปสืบเป็นเช่นไรบ้าง”
“ข่าวด้านโรงรับจำนวนไม่คืบหน้าเลยขอรับ หลงจู๊บอกว่า เมื่อหลายปีก่อนมีหญิงผู้หนึ่งนำมาขายให้ นางแต่งกายมิดชิด ท่าทางเป็นบ่าวในเรือนขุนนางผู้หนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นเรือนใด อีกทั้งนางยังปิดหน้าตา ไม่อาจตามได้ขอรับ”
“เช่นนั้นก็ยังไม่สูญเปล่า อย่างน้อยก็สืบได้ว่าเป็นบ่าวสตรี พวกเจ้าส่งสายเข้าไปจับตามองทุกจวนในเมืองหลวงแห่งนี้ หากพบผู้ใดมีป้ายที่ตามหา ให้รีบส่งข่าว”
“ขอรับ คุณชาย”
“ส่วนข่าวของหอตงเหอ ไม่คืบหน้าเลยขอรับ เมื่อ 20 ปีก่อน ไม่ปรากฏว่าคนสกุลหลิวหลบหนีมาที่นี่ หากแต่ นายหญิงอี๋บอกว่า เรื่องนี้นางอาจช่วยได้ ให้ท่านไปพบนางด้วยตนเองขอรับ”
“อย่างนั้นหรือ ข้า.. คงต้องไปพบนางสักหน่อย”
********
ด้านการแสดงของหอตงเหอ วันนี้ต้องหยุดชะงักเพราะมีปัญหาใหญ่ ยามนี้หญิงงามอันดับหนึ่งยังลุกไม่ขึ้นจากการรับแขกเมื่อคืน และอาจต้องว่างเว้นไปอีกหลายวัน เพราะแขกท่านนั้นแจ้งว่าเขาจะอยู่ที่นี่อีกสองวัน หากเป็นเช่นนั้น ค่ำคืนนี้แขกที่มารอชมคนงามคงไม่ยินยอมแน่ พวกเขามาเพื่อพบกับสาวงามหงซือม่านทั้งนั้น!
หลิวฟงเหมียน เมื่อทราบว่า หงซือม่านรับแขกก็เป็นกังกล นางไปพบนายหญิงมาแล้ว นายหญิงบอกเพียงว่า ทุกอย่างอยู่ที่ความพึงพอใจของหงเออร์เอง นางหาได้บังคับ ถึงจะอย่างนั้น นางก็ยังเป็นกังวล ยามนี้คล้อยบ่ายแล้ว สหายของนางยังไม่ออกมาจากห้องรับรองเลย ไม่รู้เป็นเช่นไรบ้าง
จนกระทั้งแขกสูงศักดิ์ผู้นั้นออกมา เขาลงไปด้านล่าง จากที่นางแอบมองอยู่ไกลๆ เขารูปงามมากจริงๆ อีกทั้งยังดูน่าเกรงขามเหนือคนทั่วไป เมื่อเขาลงไปแล้ว นางจึงแอบเข้าไปพบสหายของนาง
สภาพในห้องยับเยินจนน่าเป็นห่วง ยามนี้สหายของนางนอนหลับใหลอยู่บนเตียงใหญ่ คราบคาวต่างๆส่งกลิ่นเฉพาะคละคลุ้ง บัดนี้สหายของนางแทบไม่เหลือคราบหญิงงามอันดับหนึ่งอีกแล้ว นี่เขาทำอันใดสหายนางกันแน่!
หญิงสาวนำอ่างบรรจุน้ำมาเช็ดหน้าตาเนื้อตัวให้สหาย ภายใต้ผ้าห่มผืนนิ่มนั้น ร่องรอยต่างๆที่เห็น ทำเอาสาวน้อยหน้าแดงเรื่อ เรื่องพวกนี้ใช่ว่านางไม่เคยศึกษา หญิงสาวในหอตงเหอแห่งนี้ ถูกอบรมเรื่องการเสพสังวาสระหว่างชายหญิงจนแตกฉาน แต่เมื่อพบเห็นร่องรอยจากสหายใกล้ชิดเช่นนี้ นางก็ทำหน้าไม่ถูก
เมื่อถูกรบกวนการนอน หงซือม่านจึงลืมตาตื่นขึ้น ยามนี้นางรู้สึกเจ็บระบมไปหมด ชายผู้นั้น ขย้ำนางดั่งพยัคฆ์หิวโหย นางนึกว่า จะขาดใจตายภายใต้กิจกามของเขาเสียแล้ว เมื่อเห็นสายตาของสหายที่มองมา จึงได้แต่หน้าแดง ร้อนฉ่าขึ้นมาเช่นกัน เหมียนเออร์เห็นสภาพน่าอายของนางแล้ว!
“เสี่ยวม่าน เจ้าเป็นเช่นใดบ้าง เจ็บมากหรือไม่” นางเห็นรอยแดงเต็มไปหมดก็น้ำตาคลอด้วยความสงสาร
“เหมียนเออร์ ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องร้องนะ” นางรู้สึกกระดากอายที่ต้องมาคุยเรื่องนี้
“เขาบังคับเจ้าใช่หรือไม่ คนผู้นั้นเขารุนแรงกับเจ้าใช่หรือไม่”
“เปล่า... เขาไม่ได้บังคับ ข้าแค่...” นางจะบอกได้อย่างไรว่าเขารุนแรงกับนาง และนางก็ยังชอบให้เขาทำแรงๆ เช่นนั้น!
“เหตุใด เจ้าถึง.... รับแขกล่ะ ไหนเจ้าบอกว่า...” ฟงเหมียนยังคงไม่สบายใจ ชายมากอำนาจผู้นั้น อาจข่มขู่สหายนาง
“ข้าก็ไม่รู้เช่นเดียวกันเหมียนเออร์ แค่ข้ามองเขา... หัวใจข้าก็สั่นไหว หลังจากนั้น.... ข้าก็ควบคุมใจตนเองไม่ได้ มันคอยแต่จะตอบรับเขา หรือนี่จะเป็นความรัก ความชอบ ที่เขาเคยกล่าวกัน….”
ความเงียบโรยตัวเข้ามาชั่วระยะหนึ่ง หงซือม่านคล้ายจะรำพึงกับตนเองอย่างไม่เข้าใจ ฟงเหมียนได้ยินเช่นนั้นก็สบายใจ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้บังคับสหายนาง ในเมื่อเป็นความเต็มใจ นางก็จะยอมรับการตัดสินใจของสหาย
“เจ้าจะกลับห้องเลยหรือไม่ ข้าจะช่วยเจ้าแต่งตัว”
หงซือม่านส่ายหน้า นางจะกลับได้อย่างไร เขากำชับไว้ก่อนนางหลับไปว่า เขาจะอยู่กับนางอีกสองวัน ระหว่างนี้ ให้นางอยู่กับเขาที่นี่ เป็นของเขาในช่วงสองวันนี้ และคืนนี้ เขาจะเล่าทุกอย่างที่นางอยากรู้ให้ฟัง นางต้องการพบเขาอีก คุณชายหลง! หงซือม่านนั่งอย่างใจลอย
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าพักเถอะ ข้าจะให้สาวใช้เข้ามาดูแลเจ้า”
เมื่อกลับไปที่ห้อง ก็มีสาวงามสามคนมาขอความช่วยเหลือจากนาง ค่ำคืนนี้หงซือม่านไม่อาจทำการแสดงได้ จึงขอร้องให้นางไปช่วยทำการแสดงแทน ด้วยเป็นห่วงหอตงเหอ ที่เปรียบดั่งบ้านของนาง ฟงเหมียนจึงรับปากไปโดยไม่ลังเล
หลังจากหารือกับเหล่าองค์รักษ์และผู้ติดตามแล้วเสร็จ กำลังจะกลับขึ้นไปหาหญิงสาวของตน การแสดงสำคัญก็เริ่มขึ้น บนเวทีงดงามของค่ำคืนนี้ ได้ปรากฏเทพธิดาอีกผู้หนึ่ง ภาพที่ทุกคนได้เห็น หากเปรียบความงามของสตรีดั่งไซซี สตรีผู้นี้ ก็เปรียบดั่งผู้มาปราบไซซีลงด้วยรอยยิ้มเดียวของนาง
เสียงผีผาแว่วทำนองเสนาะ เคล้าคลอกับเสียงขับร้องของหญิงงามในยามนี้ ดั่งขับกล่อมให้ผู้คนตกอยู่ในห้วงฝัน พวกเขาฝันคล้ายกัน ว่าได้ไปเที่ยวเยือนสรวงสวรรค์ กับเทพธิดาที่งามยิ่งกว่าไซซี
องค์รัชทายาทหลงป๋อหลิวจ้องไปที่เวทีไม่กะพริบตา หัวใจเขาเต้นแรงจนแทบทะลุอก ภาพต่างๆเคลื่อนไหวไปอย่างแช่มช้า เขาปล่อยให้เสียงเสนาะนั้นบรรเลงไปเรื่อยๆ สายตาจ้องไปที่สาวงามอีกคนบนเวทีไม่วางตา สองขาที่กำลังจะก้าวขึ้นไปด้านบน พาเขากลับไปนั่งบนโต๊ะเงียบๆ สายตาคมยังจับจ้องไม่ให้คลาดสายตา
เมื่อจบเพลงแรก เพลงที่สองก็บรรเลงขึ้นในห้วงทำนองสนุกสนาน สาวงามลุกขึ้นมาร่ายรำท่ามกลางเสียงเพลงบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีหลากชนิด กลีบดอกเหมยร่วงหล่นปลิวลงมา ส่งให้หญิงงามบนเวทีงดงามชวนฝันยิ่งขึ้น จังหวะส่ายไหวงดงามตรึงสายตาของทุกผู้คนที่นั่น ใครๆต่างก็พึมพำว่า หอตงเหอแห่งนี้ ให้กำเนิดหญิงงามอันดับหนึ่ง อีกแล้ว
เมื่อการแสดงจบลงหลิวฟงเหมียนค้อมกายคาราวะขอบคุณต่อเสียงปรบมือดังกึกก้องให้กับนางในวันนี้ พลันนางสะดุดตากับผู้ที่จดจ้องมายังนางตาไม่กะพริบ เขาคือคุณชายหลง แขกของสหายนางนั่นเอง นางมองเขาเพียงแวบเดียว ก่อนหันหลังกลับเข้าไปด้านหลังม่านเวที
“ข้าต้องการนาง นางควรเป็นของข้า ข้าตกหลุมรักนางเสียแล้ว”
“อ้าว ที่ผ่านมาเจ้าบอกว่ารักแม่นางหงซือม่านหนักหนาไม่ใช่หรือ งั้นคนนี้ก็ควรต้องเป็นของข้า” คุณชายสองคนเกิดการทุ่มเถียงกันขึ้นมาหลังได้พบกับสาวงาม แต่ละคนไม่ได้ดูความสามารถตนเอง เพราะพวกเขามาเฝ้าหญิงงามที่นี่ทุกคืนนานนับปีแล้วก็ยังไม่ได้ครอบครอง ก่อนที่พวกเขาจะได้ทุ่มเถียงกันต่อ กำปั้นลุ่นๆก็ถูกชัดเข้ามายังใบหน้าพวกเขาคนละหมัดอย่างไม่ทันได้รู้ตัว
เมื่อตั้งตัวได้ สองคุณชายก็ต้องการเอาเรื่องผู้ที่มาหาเรื่องตน พอหันไปมองให้ชัดอีกทีก็แทบเข่าทรุด ใครเอาเสือมาปล่อยไว้ที่นี่!! พวกเขาตาลายเห็นคุณชายผู้งดงาม กลายร่างเป็นเสือไปแล้ว หากพวกเขากล้าเอ่ยขึ้นมาอีกคำ คงต้องสิ้นชีวิตที่นี่! และเดี๋ยวนี้ด้วย! เมื่อไม่มีทางออก พวกเขาจึงแกล้งสลบ ล้มหงายหลังแน่นิ่งไปทันที คุณชายหลงไม่ได้สนใจพวกแมลงหวี่พวกนี้ให้กวนใจเขาอีก
“ข้าต้องการพบนาง คืนนี้!!”
เหล่าองค์รักษ์และผู้ติดตามแข็งค้างไปแล้ว คุณชาย นั่นคือสาวงามอันดับหนึ่งของหอตงเหอนะ หากท่านบอกว่าต้องการ แล้วท่านก็จะได้เลยหรือไง! พวกเขาลำบากใจนะ!
************
คุณชายหลงให้คนไปแจ้งแก่นายหญิงอี๋ว่าเขาต้องการพบฟงเหมียน นายหญิงอี๋คิดใคร่ครวญอยู่ครู่ใหญ่ นางรู้เรื่องที่เขาต้องการข่าว และนางก็รู้ว่าคนที่เขาต้องการตัวคือใคร เพียงแต่ เขาจะมีจุดประสงค์ใดนั้น นางก็ไม่กล้าคาดเดา นางนึกถึงนายท่าน จึงเขียนจดหมาย ให้องค์รักษ์เงารีบนำไปส่ง ก่อนตัดสินใจไปพบคุณชายหลง
ในห้องรับรองของนายหญิงอี๋ ยามนี้คุณชายหลงนั่งอยู่อย่างสงบ ในหัวเขาคิดไปมากมายหลายอย่าง เขาคาดหวังว่า สิ่งที่เขาต้องการ นางจะยอมตกลง
ครู่ต่อมา นายหญิงอี๋ก็เข้ามาพบเขาตามประสงค์ นางมาเพียงคนเดียว สร้างความฉงนให้คุณชายหลงอย่างมาก เขาไม่คิดว่านางจะปฏิเสธ แต่กระนั้น เขาก็ยังนิ่งอยู่
“คาราวะคุณชายหลง ที่ข้ามาพบท่านวันนี้ ต้องการคุยกับท่านให้ชัดเจนเจ้าค่ะ หวังว่าท่านจะเมตตา” จิ่งอี๋ค้อมศีรษะเล็กน้อย ใบหน้าของนางนิ่งสงบเช่นกัน นางยามนี้ แม้กระทั่งรัชทายาทผู้ปรีชาก็ยากคาดเดาสิ่งที่อยู่ในใจ
“ข้าขอเรียนตามตรง ข้ารู้จักคนที่ท่านกำลังตามหา แต่ไม่ทราบว่า ท่านตามหาด้วยเหตุใด” สิ้นคำกล่าวนั้น องค์รัชทายาทก็ขยับมาด้านหน้าทันที ใบหน้าเขามีความยินดีแฝงอยู่
“หากสิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริง ข้าจะตอบท่านอย่างงาม บอกมาเถิด บัดนี้คนผู้นั้นอยู่ที่ใด”
“ทูลรัชทายาท คนผู้นั้นเป็นคนรู้จักของหม่อมฉัน เรามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ไม่ว่ารางวัลเท่าไหร่ หากว่าเป็นภัย หม่อมฉันก็ไม่ขอรับ” คำพูดเถรตรงและแน่วแน่นั้น ทำให้เขารู้สึกพอใจในตัวสตรีผู้นี้
“ข้าไม่มีภัยต่อนาง นางเป็นญาติของข้า เราพลัดพรากจากกันมา 20ปีแล้ว”
หลังสิ้นคำพูดนั้น นายหญิงอี๋ถึงกับนิ่งตะลึง พบแล้วหรือ ญาติพี่น้องที่แท้จริงของเจ้า ฟางเซียน จะพบแล้วจริงๆหรือ หากแต่เหตุที่เจ้าต้องหนีมาจนต้องอยู่อยู่ในสภาพนั้น มีสาเหตุมาจากญาติของเจ้าเองล่ะ ข้าจะรู้ได้อย่างไร ว่าคนผู้นี้ จะไม่เป็นอันตรายต่อบุตรของเจ้า
ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างกายสูงใหญ่ของชายผู้หนึ่งขึ้น เขาไปมาไร้ร่องรอย ขนาดเข้ามาในห้องได้สักครู่แล้ว ยังไม่รู้ตัว
“นายท่าน!” นายหญิงอี๋หันไปมองชายคนรัก เขาจะมาเร็วไปหรือไม่ หรือเขาไม่มีงานทำ!
“ถวายพระพรฝ่าบาท กระหม่อมมาไม่แจ้ง ล่วงเกินท่านแล้ว” องค์รัชทายาทแคว้นอู่หลงเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใคร ก็ถวายพระพรให้สมเกียรติ เบื้องหลังหอแห่งนี้ถึงกับเป็นฮ่องเต้! มิน่าล่ะ!
“อย่าได้มากพิธีไปเลย ข้ามาเป็นการส่วนตัว” ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียวเดินมานั่งลงที่ตั่งตัวเดิมที่นายหญิงอี๋เคยนั่ง ก่อนนำนางมานั่งบนตัก เขานั่งลูบมือของนางเบาๆให้หายกังวล มีเขาอยู่ ยังมีสิ่งใดที่นางต้องกังวล
สายตามังกรจับจ้องไปที่ผู้ที่ทำให้นางต้องกลัดกลุ้มใจ เขายังไม่เคยทำเช่นนี้ด้วยซ้ำ สิ่งใดที่นางปรารถนาเขาล้วนพร้อมสนอง ไม่เคยต้องให้ขุ่นเคืองใจ
“นายท่าน เรื่องนี้.....” นางมองสบตาเขาอย่างขอความเห็น ว่านางสามารถไว้ใจรัชทายาทผู้นี้ได้หรือไม่
“จิ่งเออร์ของข้า เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ชายผู้นี้ไม่เป็นภัยต่อหลานสาวของเจ้าแน่ ข้ารับรองได้ เพราะหากเขาทำ เขาจะต้องเสียใจ”
เมื่อโดนข่มขู่ซึ่งหน้า รัชทายาทก็ได้แต่นั่งนิ่ง ก่อนลุกขึ้นคำนับคนทั้งคู่ดังให้สัญญา
“ข้าขอรับรองด้วยเกียร์ติของรัชทายาทแคว้นอู่หลง ข้าจะไม่มีวันทำผิดคิดร้ายต่อคนผู้นั้น คนที่ข้าดั้นต้นมาตามหา ยามนี้อ๋องซีหนานบิดาของนางล้มป่วย หากได้พบหน้า เขาคงมีกำลังใจ”
เมื่อได้รับการรับรองอย่างชัดเจน เหอจิ่งอี๋นางก็คลายกังวลลง ก่อนพยักหน้าให้สาวใช้ไปตามหลิวฟงเหมียนมาพบนาง และผู้ที่นางเฝ้ารอมานาน
*******