ลำนำนางหงส์เคียงบัลลัง

รับแขก

เมื่อได้รับแจ้งจากนายหญิงหลังการแสดงเสร็จสิ้นว่าให้รับรองแขกคนสำคัญท่านหนึ่ง ครั้งแรกนางรู้สึกตกใจ เพราะนายหญิงไม่เคยให้นางต้องรับแขก แต่นางสั่งมาด้วยว่าไม่ฝืนใจ เพียงพบเท่านั้น เรื่องหลังจากนั้น จะไม่บังคับนาง นางจึงค่อยโล่งใจ คงเป็นคนที่ไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ คนบางคนก็ไม่ควรทำให้ขุ่นเคืองใจ

เมื่อก้าวเข้ามาในห้องรับรอง ยามนี้ห้องรับรองเงียบสนิท ไม่มีเหล่าคุณชายหรือหญิงรับใช้คนใดในห้องแห่งนี้ แต่ด้วยรู้จักสถานที่นี้ดี นางจึงวางใจ หากมีการล่วงเกินที่ไม่เต็มใจ นางจะถูกช่วยเหลือในทันที และคนผู้นั้นก็จะถูกกำจัดในทันทีเช่นกัน!

ในห้องแห่งนี้มีเพียงชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ผู้หนึ่งยืนหันหลังชมความงามของท้องฟ้าอยู่ริมหน้าต่าง เมื่อรับรู้ได้ถึงการมาของใครบางคน เขาก็หันหน้ามาทางนาง

ยามเมื่อได้พบกับใบหน้านั้น ราวกับช่วงเวลาได้หยุดหมุน ความรู้สึกลึกๆของนางคล้ายร่ำร้อง นางได้แต่ยืนนิ่ง มองเขาค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ ไร้การพูดจาสิ่งใด เขาเพียงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านาง แววตาเขาตรึงนางไว้แน่นิ่ง สายตาสะท้อนคลื่นอารมณ์ปั่นป่วนจนแทบหยุดไม่ไหว

ไม่นานจากนั้น ริมฝีปากหนาคู่นั้นก็เคลื่อนเข้ามาหานาง ยามนี้สตินางคล้ายว่างเปล่า คล้ายกับรอคอยถึงการสัมผัสนั้น เมื่อสองริมฝีปากสัมผัสกัน มันก็คล้ายกับหากันเจอ ริมฝีปากหยักฉกจูบริมฝีบากบางอย่างนุ่มนวล ยิ่งบดคลึงยิ่งต้องการ มันร่ำร้องโหยหาซึ่งกันและกัน

ยามนี้เขาโอบกอดนางไว้ทั้งตัว สาวงามยังคงยืนนิ่งให้เขาบดจูบล่วงเกินโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกคล้ายจิตวิญญาณที่พลัดพรากจากกันมานานแล้วยามนี้ได้หากันจนเจอ นางรู้สึกโหยหาเขา ต้องการสัมผัสจากเขาให้มากขึ้น

ร่างสูงยังคงบดจูบหญิงงามอย่างลุ่มหลงเร่าร้อน มือร้ายกาจของเขาค่อยๆเปลื้องผ้านาง ยามนี้ชุดคลุมตัวบางที่ใครต่อใครต่างจินตนาการว่าหากได้ถอดจะดีสักเพียงใด ยามนี้มันถูกปลดเปลื้องทิ้งลงไปกองกับพื้น เหลือเพียงไหล่มนขาวนวล เปิดเปลือยต่อสายตาของรัชทายาทหนุ่ม

เขาไม่เคยรู้สึกล่มหลงสตรีนางใด แต่คนงามเบื้องหน้าเขานี้เป็นข้อยกเว้นของทุกอย่าง เขารู้สึกต้องการนางอย่างยิ่งยวด และเขามั่นใจว่าเขาไม่ได้โดนยาปลุกกำหนัด มันเป็นสิ่งแรกที่เขาต้องการจากนางยามได้พบหน้า แม้จากที่ไกลๆ

องค์รัชทายาทพรมจูบไปทั่วไหล่มน ลำคอระหง สองมือเขานวดเฟ้นไปตามช่วงเอวงดงามที่เปิดเปลือย

“เจ้า เป็นของข้า ข้าต้องการเจ้า หงเออร์”

สิ้นคำนั้นร่างงดงามอ่อนยวบลงไปในอ้อมแขนของเขา แม้นางอยากปฏิเสธแต่ความรู้สึกรุนแรงเช่นนี้ยากต้านทาน นางไม่เคยถูกสัมผัสแบบนี้มาก่อน เขาช่างอันตราย เขาทำให้นางรู้สึกต้องการบางสิ่งบางอย่างจากเขา นางต้องการสิ่งที่มากกว่านี้ และต้องจากเขาคนเดียวเท่านั้น

เขานำร่างงดงามของหญิงสาวไปวางลงบนเตียง ก่อนตามขึ้นไประดมจูบไปทั่วร่างงาม ริมฝีบากบางอ้าหอบลมหายใจเข้าปอดตัวเอง กิริยาเช่นนั้น แค่มองก็ทำให้เขาแทบคลั่ง เขาประกบจูบนางอย่างเร่าร้อนโหยหา เอี๊ยมตัวน้อยถูกเขาไล่ปลดก่อนโยนทิ้งไปกองกับพื้นอย่างไม่ใยดี

ยอดอกงดงามอันบริสุทธิ์ไม่เคยมีใครได้แตะต้องปรากฏสู่สายตา เม็ดทับทิมเม็ดเล็กสีชมพูอ่อนระเรื่อนั้น ประดับไว้บนยอดอกขนาดพอดีดั่งบัวตูมสีขาว เมื่อประกอบกันแล้วงดงามน่าหลงใหลอย่างยิ่ง เขาไม่อยากทำลายความงามนี้ แต่เขาต้องการครอบครองมัน องค์รัชทายาทค่อยส่งลิ้นออกไปไล้เลียความงดงามยั่วยวนนั้น

สาวงามไม่เคยต้องมือชายใด บัดนี้เขาถึงกับทำการอุกอาจด้วยการบดขยี้ริมฝีปากและลิ้นร้ายกาจบนหน้าอกของนาง เสียงร้องคร่ำครวญแทบขาดใจดังขึ้นไม่ขาดสาย แม้กระนั้นก็ยังไร้ผู้ใดเข้ามาช่วยเหลือ

“อา... คุณชาย.. อา... ท่าน... อย่า... อา.. ข้าใจจะขาดแล้ว... อา...ซีด..”

แม้ปากจะร้องขัดขืน แต่อกน้อยๆนั่นกลับแอ่นขึ้นให้เขาดูดได้ถนัด นางเสียวสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกเช่นนี้น่าประหลาดนัก อา.. นางจะตายหรือไม่

ร่างสูงแทรกกายเข้ามาตรงกลาง เขาปลดถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นบนกายของนางไปนานแล้ว บัดนี้ความแข็งขืนของเขาพรั่งพร้อมที่จะตักตวงความสุขในขั้นต่อไป ท่อนเอ็นขนาดใหญ่ถูกสาวจนขึ้นลำ ขนาดของเขาไม่ต่ำกว่า9นิ้ว ขนาดอันน่ากลัวนี้ถูกนำไปจ่อตรงช่องทางอันปิดมิดชิด

หญิงงามไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นางมัวเมาลุ่มหลงกับความรู้สึกแปลกใหม่หฤหรรษ์ที่เขาปรนเปรอให้ จนเมื่อมีบางสิ่งพยายามจะดันเข้ามาในร่างกายช่วงล่างของนาง ความเจ็บแปลบแล่นริ้วตีขึ้นมาทันที

หญิงงามตกใจผงะตื่นจากฝัน ยามนี้ชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นกำลังนำสิ่งน่ากลัวนั่นเข้ามาในร่างกายของนาง หญิงสาวกำลังจะดิ้นรนขัดขืนเพราะความเจ็บ ขั้นตอนสุดท้ายไม่ควรเกิดขึ้น แต่ก่อนที่นางจะได้ร่ำร้องของความช่วยเหลือ รัชทายาทหนุ่มก็เข้าประกบจูบปิดปากไม่ให้นางได้ส่งเสียงขึ้นอีก

เขาจับขานางกางออกให้กว้างขึ้นก่อนประคองเอวบางของนางให้ถนัด กระแทกท่อนเอ็นเข้าไปอย่างแรงทีเดียวมิดท่อน ก่อนแช่ค้างไว้ไม่ได้ขยับต่อ เพราะยามนี้สาวงาม จุกจนร้องไม่ออก น้ำตาไหล หน้าตาบิดเบี้ยวเหเกด้วยความเจ็บ

เขามองนางอย่างสงสาร ท่อนเอ็นของเขาถูกนางรัดแน่นจนปวดไปหมดเช่นกัน รัชทายาทหนุ่มใช้สองมือนวดเฟ้นดอกบัวคู่งาม ก่อนดูดชิมหยอกล้อกับเม็ดทับทิมจนนางเผลอครางอย่างเสียวสะท้าน ช่องทางคลายตัวลง เขาจึงขยับเบาๆ เรียกเสียงอือ อา ของนางได้ในที่สุด

ยามนี้สองร่างกำลังบรรเลงเพลงสวาทกันเป็นรอบที่สี่ รัชทายาทหนุ่มจากต่างแดน หยุดตนเองไม่ได้ ยิ่งได้เสพสุขกับนางเขายิ่งหลงใหล เขาไม่เคยรู้สึกมากขนาดนี้กับหญิงคนใดมาก่อน ความรู้สึกมันมากกว่าการปลดปล่อยกามารมณ์ มันรู้สึกอิ่มเอม โหยหา และสุขสม

ค่ำคืนนี้เขาจึงตักตวงอย่างเต็มที่ คล้ายเขาหิวโหยมานานจึงกินด้วยความตะกละตะกลาม ด้วยเป็นครั้งแรกของนาง และสาวงามก็บอบช้ำไปทั้งตัวแล้ว เขาจึงหยุดให้นางได้พักผ่อนในรอบที่สี่ นับเป็นรอบสุดท้ายของการรับแขกในคืนแรกของสาวงามอันดับหนึ่งแห่งหอตงเหอ!

ยามสายแสงสว่างสาดเข้ามา ปลุกให้ร่างชายหญิงคู่หนึ่งที่นอนกอดกันหลับนิทรามาตั้งแต่เมื่อคืนให้ตื่นรู้สึกตัว ยามนี้สามงามสติสัมปชัญญะกลับมาหมดแล้ว เมื่อคืนนางปล่อยตัวปล่อยใจให้ชายแปลกหน้าไปได้ยังไงกันนะ

นางหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา หากจะว่าเป็นเพราะเขารูปงามก็ไม่น่าใช่ จวบจนเปลือกตาคู่นั้นลืมขึ้น ทันทีที่สบตา ใช่! เพราะสายตานี้ นางรู้สึกคุ้นเคย คล้ายเคยรู้จักกับแววตานี้ เมื่อเขาตื่นแล้ว นางจึงลุกขึ้นเพื่อจัดการตนเอง

ทันทีที่ลุกขึ้นผ้าปูเตียงที่เต็มไปด้วยคราบเลือดสาวพรหมจรรย์และคราบน้ำคาวขุ่นของเขาก็ปรากฏ ภาพนั้นทำให้นางใบหน้าร้อนฉ่า ความร้อนแรงของเขาและนางฉายชัดขึ้นมาอีกครั้ง

“เออ.. คุณชาย ท่าน.. เอ่อ..” นางคล้ายหาคำพูดตนเองไม่เจอ

“หงเออร์ เรียกข้า ท่านพี่ ยามนี้ข้าคือสามีเจ้า และจะมีเพียงข้า ได้เป็นสามีเจ้าเพียงคนเดียว นับจากนี้ ชั่วชีวิต!”

คำพูดของเขาทำเอานางมึนงง นางเพียงรับแขก นางไม่ได้แต่งงาน สามีภรรยาอันใด แล้วยังจะให้นางเป็นของเขาชั่วชีวิตอีก!

“ข้าไม่รู้จักท่าน และถึงแม้ข้าจะปรนนิบัติท่านไปแล้ว แต่ข้ายังไม่ได้แต่งให้ท่าน ดังนั้น ข้าจึงยังไม่ใช่ภรรยาของท่าน คุณชาย!”

สิ้นคำนั้นคล้ายนางไปแหย่เสือ คุณชายรูปงามดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด เมื่อคืนเขาคงปรานีนางมากเกินไป ครั้งนี้ เขาจะทำให้นางยอมรับเขาเป็นสามีให้ได้ และแล้วการเคี่ยวกรำสาวงามก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

เสียงครวญครางสุขสมของคนทั้งคู่ดังขึ้นมาในยามสาย ห้องรับรองยามนี้มีเสียงร่วมรักของชายหญิงอันเร่าร้อนดังออกมาไม่ขาดสาย และดังอยู่อย่างนั้นเกือบสองชั่วยาม หากใครเข้าไปดูยามนี้ คงจะได้เห็นสภาพสาวงามอันดับหนึ่ง ที่ถูกจับให้คว่ำหน้า สะโพกยกสูง บั้นท้ายถูกจับยกให้แอ่นขึ้น เพื่อรับแรงกระแทกจากท่อนเอ็นใหญ่โตที่สาวเข้าออกอย่างไร้ปราณีต่อร่องกุหลาบงดงามนั้น คราบน้ำกามไหลเปรอะเปื้อนเต็มร่องขา สาวงามบัดนี้เชิดหน้าครางดังลั่นอย่างสุขสม แม้กระทั่งรูจีบตรงบั้นท้าย ยังมีร่องรอยการกระทำชำเรา บัดนี้ ไม่มีส่วนใดของสาวงามยังคงความบริสุทธิ์ได้อยู่อีก

***************