ไร่องุ่นดินแดน
สามชั่วโมงผ่านไปเป็นการซ้อมเรียกเหงื่อของอินทัชได้ดี
เขาจบจากเมืองนอกมาด้วยซ้ำทำไมเขาถึงต้องมาทนทำงานแบบนี้ด้วย ทำไมตัวเขาเองกลับต้องมาเก็บคอกขี้ม้า ที่ไม่รู้ว่าเก็บวันนี้จะหมดหรือเปล่า
นายน้อยดินมอบหมายงานนี้ให้เขาทำ แล้วที่สำคัญไม่ได้มีแค่คอกม้าที่เดียว ในไร่นี้กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา มีกี่คอกเขาเองก็ยังสำรวจไม่หมด
วันนี้ทั้งวันเขาก็ไม่มีทางทำมันเสร็จแน่ แถมทุกชั่วโมงเขาจะต้องเดินหอบสังขารไปรายงานนายน้อยดินด้วย จากคอกม้าไปที่ห้องเขาอาจไม่ไกล แต่ดูเหมือนแดดที่ประเทศไทยจะไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน
"คนอะไรปากไวชะมัด" อินทัชพูดพร้อมกับจับริมฝีปากตัวเองเบาๆ
ปากไวทั้งด่ากราดแล้วก็ฉวยโอกาสอีกด้วย เขาขโมยจูบแรกไปได้ยังไง แต่ถ้าอินทัชไม่เต็มใจเขาจะถือซะว่าหมามันเลียปากแทนก็แล้วกัน
"อ่า ปวดหลัง" อินทัชบ่นโอดโอย สายตากำลังมองวิวธรรมชาติรอบตัวไปด้วย
เป็นอะไรที่น่าทึ่งสำหรับเขามาก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาหายเหนื่อยเลยสักนิด ปกติจะใช้ชีวิตอยู่แต่ในรั้วมหาวิทยาลัย เวลาอื่นก็แทบจะแบ่งออกมาไม่ได้ ที่นี่ทำให้เขาทึ่งหลายๆอย่าง ทั้งธรรมชาติ ทั้งเจ้าของไร่
"ไปนั่งพักก่อนเถอะพ่อหนุ่ม เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งเอา"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยังไหว" อินทัชตอบกลับป้าแม่ครัวที่เดินเอาอาหารกลางวันไปเสริฟผ่านหน้าเขาไป เขาจะหยุดทำงานได้ยังไงในเมื่อนายน้อยส่งพ่อบ้านเล้งมาดูเขาตลอด
ถ้าหยุดพักมีหวังเขาโดนทดเวลางานอีกแน่
"งั้นไปพักทานข้าวก่อนลูกไป" ป้าแม่ครัวอีกคนเดินมาบอก แล้วก็ถือถาดข้าวตามคนก่อนหน้านี้ไป อินทัชได้แต่มองอาหารที่ผ่านหน้าไปอย่างนึกเสียดาย เพราะงานตรงหน้ายังไม่เสร็จเขาคงยังกินข้าวไม่ได้ นายน้อยดินรู้เขาโดนไล่เตพิดแน่นอน
คนอะไรสามวิดี สี่วิร้ายอีกแล้ว
น้ำตาของเขาก็คงไม่ได้ช่วยให้นายน้อยใจอ่อน แต่ก่อนหน้านี้เขาตกใจกับการกระทำที่ป่านเถื่อนของนายน้อยจริงๆ ตกใจกลัวจนน้ำหู น้ำตาไหล แต่ถึงอย่างนั้นนายน้อยดินก็ไม่ยอมปลักใจเชื่อเขาง่ายๆอยู่ดี
"ให้ช่วยไหมครับ คุณคงมาใหม่ ยังไม่รู้งาน"
"เอ่อ ไม่เป็นไรดีกว่าครับ" อินทัชตอบปฏิเสธคุณลุงไปอย่างเสียดาย คอกม้าก็ใช่ว่าจะเล็กๆ ให้เขาทำแค่คนเดียวแบบนี้ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว มีหลายคนที่เข้ามาช่วยแต่เขาก็ต้องตอบปฏิเสธไปเพราะไม่อยากให้มันเกิดปัญหา ขออยู่แบบเงียบๆวันแรกคงไม่ตายหรอกมั้ง
"มาเถอะครับ ไม่เป็นไร" คุณลุงพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร เอาเข้าจริงทุกคนที่นี่ก็ยินดีต้อนรับเขากันหมด ยกเว้นนายน้อยแค่คนเดียว ทุกคนดูใจดีแล้วก็อัธยาศัยดีกว่าที่คิด แต่ไม่ใช่กับนายน้อยหน้าเหี้ยมนั่นแน่
"เอ่อ.." อินทัชพยายามจะห้ามคุณลุงที่ช่วยขนกองฟางแต่ก็ทำได้แค่ยิ้มๆให้ แล้วช่วยเขาขนกันต่อไป รองเท้าผ้าใบที่ซื้อมาใหม่ของเขาบัดนี้มันเปรอะเปื้อนไปหมดแล้ว ไม่เหลือสภาพรองเท้าใหม่เลยด้วยซ้ำ
"ลุงแดง ถ้าลุงยังช่วยงานคนอื่น ผมคงต้องเพิ่มงานให้ลุงทำ จะได้ไม่ว่างมาช่วยคนอื่นอีก" เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนเอ่ยขึ้น อินทัชเงยหน้ามองต้นเสียงแล้วถึงกลับผงะถอยหลัง เป็นนายน้อยดินแดนที่เดินมาแถวนี้แล้วเขาก็ดูจะไม่ค่อยพอใจซะด้วยที่มีคนไปช่วยงานเขา
"แต่นายน้อยครับ พ่อหนุ่มจะไม่ได้กินข้าวเอา ตัวก็เล็กเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไปจะแย่เอานะครับ"
"ถ้าตายก็ฝัง ไม่ก็เอาศพไปถ่วงน้ำซะ ไม่ยากหรอกครับ" นายน้อยดินว่าราวกับการตายของคนเป็นเร่ื่องปกติ
เขามองอินทัชด้วยสายตาพิจารณาอะไรบางอย่าง ไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้ามองสภาพที่ดูไม่จืดของอินทัชแล้วก็แค่นหัวเราะออกมา ไหนเด็กที่จบสูง เขาให้ลอกคอกม้าแบบนี้นี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะต่ำแหน่งอีกก็ดูเหมือนจะไม่ว่างซะด้วย
"ใช่ครับ ลุงไม่ต้องช่วยผมหรอก เดี๋ยวผมทำเองดีกว่า ลุงไปกินข้าวเถอะครับ"
"ไหวเหรอพ่อหนุ่ม"
"ไหวสิครับ ไม่ต้องห่วง ไปพักเถอะครับ" อินทัชพูดพลางเดินไปยกฟางจากมือของคุณลุงแกเอาไว้
คนตัวสูงที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่พึงพอใจแล้วก็เดินไปตรวจตราที่อื่นต่อ คนตัวเล็กถึงกับจิ๊ปากในลำคออย่างไม่พอใจ แต่ก็ต้องรีบทำงานตรงหน้าต่อให้เสร็จโดยไว ไม่งั้นอดกินข้าวกลางวันแน่นอน
"งั้นเดี๋ยวลุงตักข้าวมาให้ก็แล้วกัน"
"ขอบคุณครับ" อินทัชว่าพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณแล้วเขาก็ก้มหน้าก้มตาแบกฟางเข้าคอกม้าต่อไป ในคอกทั้งเหม็นทั้งร้อนแล้วก็อึดอัด ยิ่งตะวันตรงหัวนี่เขาจะเป็นลมให้ได้ แต่ยังไงเขาก็ต้องมีชีวิตไขข้อข้องใจของตัวเองให้ได้
'มึงรู้ใช่ไหมว่ากูดีกับมึงแค่ไหน'
'รู้สิครับ พี่เป็นพี่ชายผมนะ'
'ฮึ แล้วถ้ากูอยากได้บางอย่างจากมึงล่ะ'
'พี่ไออยากได้อะไรครับ'
'ชีวิตไอ้ดิน'
'แต่.. ผมว่าผมทำไม่ได้หรอก' ที่เขาปฏิเสธไปในตอนนั้นเพราะคิดว่ามันมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เขาอาจจะมีการพูดถึงผู้ชายที่ชื่อดินบ้าง แต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเอาแต่เรียน แต่ทำไมในวันนี้เขาถึงอยากได้ชีวิตผู้ชายคนนั้นกัน
'ถ้ามึงยังไม่ได้พยายาม มึงจะมาพูดได้ยังไงวะว่าทำไม่ได้'
'แล้วพี่ต้องการอะไรจากเขา'
'ฮึ.. สิ่งที่เดียวที่กูต้องการคือวิญญาณของมันไง ให้กูได้ไหมล่ะ'
แค่นึกถึงคำพูดของพี่ชาย มือเล็กก็กำหมัดแน่น ในชีวิตพี่ชายของเขาไม่เคยขออะไรจากอินทัชเลย เขาไม่เคยบอกว่าอยากได้นั่น อยากได้นี่ แต่เขาขอแค่อย่างเดียว แค่นำวิญญาณของนายน้อยดินมาเป็นของขวัญวันเกิดเขาภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าจะถึงวันเกิดของเขา
เขาต้องการสิ่งนี้เป็นของขวัญวันเกิด.. แค่อย่างเดียว
แต่อินทัชจะทำมันได้ยังไง เขาไม่เคยฆ่าคน เขาจะลงมือได้ยังไงกัน อีกอย่างที่นี่มีแต่คนของนายน้อยดินแดน อินทัชเองคงไม่กล้าแน่ แต่ถ้าจะหาหลักฐานสักชิ้นเพื่อเอาผิดนายน้อยดินแดน ให้เข้าคุกล่ะก็.. อันนี้ไม่แน่
ดูท่าทางเขาคงจะมีเรื่องอะไรที่ซับซ้อนกว่านี้เยอะ ถ้าอินทัชมัดตัวเขาได้ คนผิดก็จะได้รับโทษตามกฏหมายและสิ่งที่เขาเคยทำกับพี่ชายของเขา
ไอเอ็มเล่าให้ฟังต่ออีกว่า เขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกันแต่แล้ววันนึงก็โดนทรยศหักหลังเพราะเรื่องผู้หญิง ชีวิตของเขาไม่เหลืออะไรเพราะนายน้อยดินเป็นคนแย่งของเขาไปทุกอย่าง ชีวิตของเขาต้องตกอยู่ในความโศกเศร้าก็เพราะคนใจร้ายแค่คนเดียว
ตอนนั้นอินทัชไปเรียนต่อที่ต่างประเทศมากกว่าจะกลับมาเรื่องทุกอย่างมันก็เงียบลงไปนานซะแล้ว จนวันนี้ที่พี่ชายของเขาเอาเรื่องมาเล่าให้ฟัง ความอยากรู้อยากเห็นของเด็กจบนอกมาก็อยากจะรู้เข้าให้ซะแล้ว
"คุณใจร้ายขนาดนั้นเชียวหรอ ..ดินแดน" อินทัชเอ่ยขึ้นเบาๆ แล้วก็มองภาพของนายน้อยดินประกอบไปด้วย เขาดูนิ่งๆซะมากกว่าเวลาคุยกับคนงานพวกนั้น
แต่ดูเหมือนจะมีบางอารมณ์ที่เขาดูไม่ค่อยสบอารมณ์สักเ่่ท่าไหร่ ทำให้อินทัชถามตัวเองในใจอยู่ตลอดว่า คิดถูกแล้วใช่ไหมที่เลือกก้าวเข้ามาที่นี่
ตกเย็น
เป็นหน้าที่ของอินทัชที่รับหน้าที่ล้างจานของคนงานที่กินเมื่อตอนกลางวันแล้วพอเสร็จก็ต้องไปช่วยเขาขนปุ๋ยลงจากรถอีกด้วย
ทั้งกลิ่นเหงื่อ กลิ่นอับมันฟุ้งไปหมด โชคดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่เป็นลมไปซะก่อน ถ้าไม่ได้ข้าวกลางวันที่คุณลุงคนนั้นเอามาให้อินทัชก็คงไม่น่าจะอยู่รอดถึงตอนนี้ได้แน่นอน
"นายน้อยดินดื่มหนักทุกวันเลยเหรอครับ" อินทัชหันไปถามป้าครัวที่ยืนล้างจานอยู่ข้างๆ
เขายืนสังเกตุอยู่นาน นายน้อยมีอาการหน้าแดงแล้วก็เริ่มเดินไม่ตรง เขาคงคอไม่แข็งเท่าไหร่เพราะเท่าที่เขาสังเกตุดูเจ้าตัวดื่มไม่ไปเยอะ แต่อการก็ออกซะแล้ว
คออ่อนแล้วยังจะโชว์พราวอีก
"เป็นปกติ นายน้อยแกชอบมาสังสรรคแบบนี้แหละ ธรรมดาจ้ะ"
"อ๋อครับ" อินทัชพยักหน้าตอบรับ เขามองภาพคนงานกลุ่มใหญ่กำลังดื่มเหล้าสังสรรคกันอย่างสนุกสนาน เปิดเพลงกันเสียงดังกระหึ่ม โดยที่มีเจ้าของไร่มาร่วมแจมด้วย อินทัชไม่รู้หรอกนะว่าเขามาแจมด้วยหรือเพราะจะมาคอยจับตามองเพราะไม่ไว้ใจเขากันแน่
"เนี่ยนายน้อยแกคออ่อนกว่าที่ป้าคิดไว้เยอะเลย ท่าทางจะเมาแล้วนะนั่น"
"ผมก็ว่างั้นแหละครับ" อินทัชพูดพลางหลุดขำน้อยๆ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาล้างจานตรงหน้าต่อไป อินทัชไม่อยากจะเสวนากับคนเมา เพราะคนเมาชอบพูดเพ้อเจ้อแล้วก็คุยกันไม่รู้เรื่อง เลี่ยงการปะทะมันจะดีกว่าการปะทะกับเขาโดยตรงแบบนี้
อินทัชเข้ามาที่นี่โดยที่ไม่มีแผนในหัวอะไรเลยสักนิด เขาก็แค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น จะมีก็แต่รอฟังคำสั่งจากพี่ชายตัวเองว่าเขาต้องการอะไร แล้วมันก็ขึ้นอยู่ตรงที่เขาจะสามารถทำให้ได้หรือเปล่าด้วย เขาเข้ามาก็เพราะเลือดจบใหม่มันแรง อยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่อง
แต่กับเรื่องนี้เขาไม่ควรเข้ามาเสี่ยงเลยด้วยซ้ำ
"ป้ายงค์ไปช่วยป้าน้อยหน่อยครับ ดูท่าทางแกจะยกของไม่ไหว"
"ยายน้อยแกยังแข็งแรงอยู่เลยนายน้อย เดี๋ยวป้าช่วยพ่อหนุ่มนี่ก่อน"
คนตัวเล็กมองสายตาของคนตัวสูงตรงหน้าที่มองมาไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ อินทัชมองครู่นึงแล้วก็หลบไปเพราะไม่อยากจะทะเลาะตอนนี้ อีกอย่างเขาเมาเดี๋ยวก็อาละวาดหนัก ก่อนหน้านี้ขนาดมีสติครบถ้วนยังเป็นหนักขนาดนั้น เพราะงั้นเลี่ยงไว้ก่อนมันอาจจะดีกว่า
"ป้าไปเถอะครับ ผมทำเองได้" อินทัชเลือกที่จะเลี่ยงจากปะทะกับนายน้อย เพราะตอนนี้เขาก็ล้ามากเหลือเกิน ล้าจนอยากจะร้องไห้ออกมาซะให้ได้
"แต่เราทำคนเดียวไม่ได้หรอก จานอีกตั้งเยอะ เดี๋ยวมือก็เปื่อยไปข้างพอดี"
"ไม่เป็นไรครับ ป้าไปทำงานตรงนู้นเถอะ ผมทำเองได้"
"ฮึ.." คนตัวสูงแค่นหัวเราะในลำคอ สายตามองเขาเหยียดๆก่อนที่เจ้าตัวเองจะเดินโซซัดโซเซไปทางด้านหลัง ป้ายงค์เองก็เดินไปช่วยงานอีกฝั่งเหมือนกัน เหลือทิ้งไว้แค่อินทัชที่ต้องยืนเหงื่อตกล้างจานกองโตตรงหน้าต่อไป
ยืนไปไม่เท่าไหร่เขาก็เริ่มมีอาการปวดปัสสาวะ จนต้องละหน้าที่ตรงหน้าเพื่อไปปลดทุกข์ตัวเองก่อน ไม่งั้นเขาคงต้องใช้มือนึงกดตรงนั้นเอาไว้แล้วก็ล้างจานต่อไปแน่นอน
ห้องน้ำ
อินทัชเดินเข้ามาในห้องน้ำก็พบว่านายน้อยดินกำลังสำรอกอยู่ที่หน้าอ่างล้างมือ เขาดูอาการไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่อินทัชก็เลี่ยงที่จะไม่สนใจเขาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระของตัวเองแทน
"อ้วกกกก" เสียงอ้วกของเขาดังเข้ามาในห้องที่อินทัชกำลังปลดทุกข์อยู่ พอเสร็จเขาก็เดินออกมาแต่ก็ยังพบว่านายน้อยดินยัังอยู่ที่เดิมอยู่เลย
แต่คนตัวเล็กก็ทำเป็นไม่เห็นเขาแล้วเดินไปล้างมือที่อ่างล้างมือข้างๆแทน สายตาของนายน้อยดินเงยมองหน้าเขาผ่านกระจก สายตาหยาดเยิ้มกำลังจ้องมองคนตัวเล็กไม่ละสายตาไปไหนเลย พอเขายกยิ้มแล้วก้มมองต่ำอินทัชถึงกับรีบมองไล่ตามสายตาของเขาทันที
"เชี่ย.." อินทัชสบถเบาๆ หลังจากที่ก้มมองซิปกางเกงตัวเองก็พบว่ามันยังไม่ได้ถูกรูดขึ้น เขาเลยรีบหันหลังให้นายน้อยแล้วรูดมันยกใหญ่ ก่อนหน้านี้เขาก็รูดมันได้สบายๆ
แต่ทำไมจู่ๆมันถึงมาพังเอาตอนนี้ สายตาคนตัวเล็กมองนายน้อยผ่านกระจกก่อนจะพบว่าเจ้าตัวมายืนอยู่ข้างหลังซะแล้ว สายตากำลังจับจ้องมาพอดิบพอดี เหมือนกำลังอยากจะแอบมองมากกว่าว่าคนตัวเล็กทำอะไรอยู่
"อยากให้กูช่วยไหม" ดินแดนถามข้างหู ดวงตากำลังลวนลามร่างกายเขาทางอ้อมชัดๆ ซึ่งอินทัชรู้ได้ทันทีว่าเขาคงกำลังเมาเลยหันหลังไปตอบโต้เขาด้วยประโยคที่ทำให้คนตรงหน้าแทบจะสร่างกันเลยทีเดียว
"เหอะ ผมช่วยตัวเองเป็น"