เกมรัก : ตอนที่ 12
ปึ้ง~ (เสียงปิดประตูรถ)
“รอนานไหม” ข้าวหอมถามคนที่รออยู่ในรถด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
“ไม่นาน” เควินตอบและขับรถออกจากคอนโดหญิงสาวทันที
“ระหว่างคอนโดนายกับคอนโดฉันมันคนละทางเลย นายไม่ต้องมารับมาส่งฉันก็ได้” ข้าวหอมเห็นว่าคอนโดเขาอยู่อีกเส้นทาง เธอไม่อยากให้เขาต้องเสียเวลาอ้อมไปอ้อมมา
“ถ้าไม่อยากให้ฉันย้อนไปย้อนมา เธอไม่ย้ายมาอยู่กับฉันเลยละ” เควินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ใบหน้าคมหันมามองเธอแค่ชั่ววินาทีแล้วรีบหันไปมองถนนตรงหน้า
“…เอ่อ…” คำพูดของเขาทำให้เธอไปต่อไม่ถูก ไอความร้อนเริ่มเห่อขึ้นหน้าจนทำให้เธอหน้าแดง ทั้งๆที่ในรถเปิดเครื่องปรับอากาศหนาวจนตัวสั่น แต่ตัวเธอกับร้อนระอุ
“กลัวเหรอไง?” เควินถามพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก
“เปล่าซักหน่อย ฉันว่าเราควรดูกันไปอีกซักพักจะดีกว่า” เธอตอบด้วยความมีเหตุผล เธอไม่รู้ว่าเควินจะชอบเธอจริงหรือเปล่า คนที่ถูกขนานนามว่าเสือตัวพ่อจะยอมมาหยุดที่เธอจริงเหรอ หรือแค่สนใจเรื่องบนเตียงเท่านั้น
“หึ๊!” เควินหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินคำตอบจากหญิงสาว เขาค่อนข้างแปลกใจที่เธอปฏิเสธ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงพร้อมที่จะเก็บกระเป๋าไปกับเขาแล้ว
“เมื่อเช้าฉันอ่านไลน์คณะมีชื่อฉันกับนายแล้วเพื่อนคนอื่นๆเป็นตัวแทนเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาส่งมอบหนังสือและเสื้อผ้าให้เด็กยากไร้ที่ต่างจังหวัดด้วย แต่ที่น่าแปลกคือฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แล้วใครส่งชื่อฉันไปก็ไม่รู้ นายเห็นหรือยัง” ข้าวหอมพูดด้วยความสงสัย ไม่เคยมีใครชวนเธอให้เขาร่วมกิจกรรมมาก่อนเลย เธอพึ่งจะรู้เรื่องเมื่อเช้าจนตัวเธอเองก็ตกใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เห็นชื่อเควินเธอคงไม่อยากไป แต่ครั้งนี้พอเห็นชื่อเขาเธอกับรู้สึกอุ่นใจที่ได้ไปกับเขา
“อื้ม เห็นตอนที่รอเธอนั่นแหละ เดินทางต้นเดือนหน้า ค้างหนึ่งคืน” เควินตอบด้วยท่าทางปกติ เหมือนรู้เหตุการณ์มาก่อนแล้ว
“ยังดีที่มีนายที่ฉันสนิท เพื่อนสนิทฉันก็ไม่มีชื่อ” ข้าวหอมพูดเหมือนจะร้องไห้ เวลาเธอไปทำกิจกรรมต่างจังหวัดจะมีเพื่อนสาวคนสนิทไปด้วยเสมอ อย่างน้อยก็นอนห้องเดียวกัน
มือหนายกขึ้นมาลูบผมเธอเบาๆ สายตาเขายังจับจ้องอยู่ที่ถนน ข้าวหอมชะงักกับการกระทำของเขา มันเหมือนเป็นการปลอบ การแสดงความอบอุ่น ความเอ็นดูที่เขามีต่อเธอ
“ที่ลูบหัวนี่ปลอบหรือเห็นฉันเป็นหมา” เธอแก้เขินด้วยการหยอกล้อกลับไป
“ไม่เอาสิ่ ไม่ขู่”
“เควิน!” ข้าวหอมพูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม เธอเข้าใจคำพูดของเขาดี
เพี๊ยะ~ มือบางฟาดเขาที่ไหล่เขาอย่างจังด้วยความโมโห
“โอ้ย! นี่เธอกล้าตีฉันเหรอ” เควินพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังมากนัก
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ
“นี่แหนะ นี่แหนะ นี่แหนะ อยากว่าฉันเป็นหมาไม่ใช่เหรอ” ข้าวหอมตีไปที่ไหล่เขาเบาๆไม่ได้ลงน้ำหนักมือเยอะ
“กล้ามากนะ” เควินตีไฟเลี้ยวจอดเข้าข้างทาง
“นี่นายจะจอดทำไม จะไล่ฉันลงรถเหรอไง” ข้าวหอมถามด้วยความสงสัย อยู่ดีๆเขาก็จอดรถและหันมาจ้องหน้าเธอ
“ทำโทษหมาตัวนี้ซักหน่อย” พูดจบใบหน้าคมโน้มลงมาประกบจูบริมฝีปากบางทันที ข้าวหอมยอมรับรสจูบของเขาอย่างเช่นเคย เรียวลิ้นสากสอดเข้าไปในโพรงปากอีกครั้ง รสจูบที่นุ่มนวลชวนเธอคล้อยตาม
อื้อออ~
เมื่อเห็นว่าข้าวหอมไม่มีท่าทีขัดขืน มือแกร่งเคลื่อนไปจับที่หน้าอกคัพดีของเธอ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดนักศึกษา ริมฝีปากหนายังไม่มีท่าทีจะละออกจากเธอ เขายังคงหว่านล้อมเธออยู่แบบนั้น พร้อมกับมือหนาขยำหน้าอกขนาดใหญ่ เขารู้ได้ทันทีว่านี่คือของจริงไม่ใช่ซิลิโคนที่เขาเคยเจอ
อื้อออ~ เห้อ เห้อ
“ยะ หยุดก่อน” ข้าวหอมดันแผงอกแกร่งเพื่อให้เขาละริมฝีปากออก ร่างบางรีบโกยอากาศเข้าปอดทันที และที่เธอให้เขาหยุดเพราะเธอเห็นว่ามันชักจะเกินเลยไปมากแล้ว
“เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน” ข้าวหอมรีบตัดบททันที เธอรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย เพราะเขาแกะกระดุมเธอออกจนเกือบจะถึงเม็ดสุดท้ายอย่างรวดเร็ว
“หึ บทลงโทษนี้ยังไม่จบ ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันจะมาทวงคืน” เควินพูดอย่างคาดโทษ โทษฐานที่เธอทำให้น้องชายเขาตื่นจนตอนนี้มันปวดหนึบๆจนอยากจะระบายออกมาเต็มที
ข้าวหอมได้แต่อมยิ้มกับคำพูดของเขา เธอยังไม่ชินกับการรุกหนักของเควิน
“เดี๋ยวนายจอดตรงทางเข้ามอนะ ฉันจะลงตรงนั้น ไม่อยากเป็นข่าวซุบซิบไปมากกว่านี้” ข้าวหอมพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าจะใกล้ถึงมหาลัยแล้ว
“จะกลัวทำไม ในเมื่อเธอกับฉันเป็นแฟนกันแลัว” เควินพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย เขาไม่สนใจคำพูดของใครทั้งนั้น
ข้าวหอมได้แต่ยิ้มหวานให้กับคำพูดของเขา วันนี้เขาทำให้เธอเขินไปแล้วไม่รู้กี่รอบ การมีแฟนมันเรียกว่าความสุขจริงๆ
ไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็ขับมาจอดในมหาลัย เมื่อทั้งคู่ลงจากรถทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์แถวนั้นพูดคุยและมองมายังที่เธอและเควิน บางคนก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์โทรศัพท์ ซึ่งเธอทำใจมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ในเมื่อเควินต้องการเปิดเผยเธอก็พร้อม แต่ถ้าเขาไม่กล้าเปิดเผยว่าเขากับเธอคบกัน อันนั้นน่าจะหนักใจมากกว่า
“เฮ้ ยังไง ยังไงครับน้องข้าวหอม” เพื่อนสนิทของเขาเอ่ยแซว จนคนที่โดนแซวถึงกับยิ้มหน้าแดง
“สวัสดีค่ะพี่ไทม์ พี่โจเซฟ” ข้าวหอมยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองคน
“ที่กับพวกมันเธอยอมยกมือไหว้ ยอมเรียกพี่ ที่กับฉันเธอไม่เคยทำ” เควินพูดด้วยท่าทางน้อยใจ
“ก็เราสนิทกันไง” ข้าวหอมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปตบบ่าคนตัวสูง
“ลามปามใหญ่ละ……ระวังโดนเพิ่มโทษ” ประโยคหลังเควินโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างใบหูของหญิงสาวเพื่อให้เธอได้ยินแค่คนเดียว
“ไอ้เคครับ เพื่อนมึงนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ครับ” โจเซฟที่เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทเหมือนกำลังจะเขมือบเหยื่อถึงกับเอ่ยแซ่ว
“งะ งั้นข้าวไปเรียนก่อนนะคะ” ข้าวหอมแก้เขินด้วยการบอกลาทุกคน และรีบเดินออกจากที่ตรงนั้น
“จริงจังหรือล่อเหยื่อ” ไทม์ที่พูดหลังจากข้าวหอมเดินออกไปไกลแล้ว
“หึ! มึงคิดว่าไง” เควินตอบกลับมาเสียงเรียบ
“กูแค่อยากจะเตือน ดูท่าทางน้องเขาก็หลงมึงมาก ไม่สงสารเหรอวะ ถ้ามึงไม่จริงใจก็ปล่อยน้องเขาไปเถอะ คนนี้กูรู้สึกสงสารยังไงไม่รู้ ความบริสุทธิ์ใจที่น้องเขาส่งให้มึง พูดตรงๆเลยนะกูไม่อยากเห็นน้องเขาเสียใจ จากผ้าขาวมึงกำลังแต้มสีให้น้องเขาอยู่นะเว้ย” ไทม์พูดเมื่อเห็นท่าทางของข้าวหอมที่มีต่อเพื่อนสนิทของเขา เขาเริ่มไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาววันนี้ เขากลับสงสารเธอถ้าเธอรู้ความจริง
“อันนี้กูก็เห็นด้วยกับไอ้ไทม์นะ พนันระหว่างพวกเราถือว่าเป็นโมฆะก็ได้นะเว้ย” โจเซฟพูด
“ในเมื่อกูสร้างเกมขึ้นมาแล้ว พวกมึงก็ควรเล่นต่อให้จบ เกมนี้ต้องการหาคนชนะเท่านั้น” เควินพูดและเดินออกจากแก๊งค์เพื่อนทันที ทั้งสองคนมองหลังร่างสูงที่เดินออกไปพลางถอนหายใจ
“กูไม่น่าเลยจริงๆ เกมนี้มันจะมีคนที่เสียใจมากที่สุด” โจเซฟพูดกับไทม์แต่สายตาเขายังคงมองไปที่ร่างสูงที่เดินออกไป
“มึงก็รู้ คนอย่างไอ้เคเวลามันทำอะไรมันต้องทำให้สุด และคำว่าแพ้มันไม่เคยรู้จัก กูว่าเราไปเตรียมเอาเงินแสนให้มันจะดีกว่า” ไทม์ไหวไหล่เมื่อพูดจบ เขารู้จักนิสัยเควินดี
--//--//--//--//--//--
"วันนี้แกดูอารมณ์ดีผิดปกตินะ ฉันเห็นแกยิ้มตั้งแต่นั่งเรียนจนคิดว่าแกเป็นบ้าไปแล้ว" มีอาสังเกตอาการเพื่อนสนิทที่ดูแปลกไปกว่าทุกวัน
"ความสุขที่มันออกมาจากข้างใน" ข้าวหอมตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ขยายความด้วยค่ะ" คำตอบของเธอทำให้มีอางงหนักกว่าเก่า
"ฉันคบกับเควินแล้ว" ข้าวหอมก้มลงไปกระซิบเบาๆกับมีอา เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน
"ห๊ะ!!!" มีอาอุทานเสียงดังลั่น
"เบาๆสิ่ คนอื่นหันมามองกันหมดแล้ว"
"นี่ข่าวที่ว่าแกกับพี่เควินไปไหนมาไหนด้วยกันก็เป็นความจริงนะเหรอ" มีอาพอรู้ข่าวซุบซิบระหว่างเพื่อนสาวกับเควินมาบ้าง แต่เธอไม่คิดจะถามข้าวหอมเลย เธอคิดว่าเมื่อข้าวหอมพร้อมจะพูดคงเล่าให้เธอฟังเอง
"อืม" ข้าวหอมตอบพร้อมกับพยักหน้าไปด้วย
"แกคิดดีแล้วใช่ไหม แกก็พอรู้ประวัติผู้ชายคนนี้มาบ้าง แกมั่นใจแล้วเหรอ?" มีอาถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เพราะเธอก็พอรู้เรื่องราวเกี่ยวกับขั้วผู้หญิงของเควินมาบ้าง ถ้าเป็นคนอื่นเธอเฉยๆ แต่นี่ข้าวหอมคือเพื่อนเธอ และอ่อนต่อความรักมาก ไม่มีทางที่จะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเควินได้เลย
"แกไม่ต้องคิดไปไกลเลย ยังไม่ถึงขั้นนั้น" ข้าวหอมรีบพูดดักทาง
"ไอ้เรื่องนั้นฉันเข้าใจ แต่แกคิดดีแล้วใช่ไหม"
"ก็คงดูกันต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าคนอย่างเควินเป็นแบบไหนนะ ฉันยังคิดเสมอว่าเสือก็ยังเป็นเสือ แต่ตอนนี้เขาทำให้ฉันยิ้มได้ ทำให้ฉันมีความสุข ฉันอยากจะลองก้าวข้ามความกลัวนั้นดู" ข้าวหอมพูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม เธอนึกถึงเรื่องราวที่เควินทำให้เธอ ถึงเขาจะไม่ใช่สุภาพบุรุษเต็มร้อยแต่เขาเป็นคนที่เธออยู่ด้วยแล้วสบายใจ
"ฉันจะไม่ขัดความสุขของเพื่อน ฉันจะอยู่ข้างแกเสมอไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์" มีอาพูดแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวคนสนิทที่รู้จักกับความรัก ต่อให้มันพึ่งเริ่มต้นแต่เธอรับรู้ถึงความสุขที่ข้าวหอมส่งมาให้ แววตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงชายหนุ่ม ความสุขที่มันล้นออกมาจนเห็นได้ชัด