เกมรัก : ตอนที่ 11
"วันนี้ก็วันสุดท้ายแล้วสิ่ ที่แกจะไปวิ่ง"
"....."
"เฮ้ ยัยข้าวแกฟังฉันอยู่ไหมเนี่ย?" มีอาพูดเสียงดังลั่นเพื่อเรียกสติคนข้างๆ
"หะ ห๊ะ...แกว่าอะไรนะ" ข้าวหอมที่ได้สติหันกลับมาถามเพื่อนสาวอีกครั้ง
"วันนี้แกเป็นอะไรเนี่ย เหม่อทั้งวันเลย" มีอาถามด้วยความสงสัย วันนี้ข้าวหอมเอาแต่เหม่อลอย พูดอะไรด้วยต้องพูดซ้ำหลายรอบ
"ฉันแค่เพลียๆน่ะ เมื่อกี้แกถามว่าอะไรนะ"ข้าวหอมพยายามทำตัวให้ปกติ แต่ตอนนี้ใจเธอมันรู้สึกแปลกๆ เหมือนกำลังจะสูญเสียอะไรไป ซึ่งตัวเธอเองก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้เธอเป็นอะไร
"ฉันถามว่าวันนี้วันสุดท้ายที่แกจะไปวิ่งตามบทลงโทษของไอ้พี่เควินนั่นแล้วใช่ไหม" มีอาถามอีกครั้ง ครั้งนี้เธอเน้นทุกคำ อธิบายคำถามให้ยาวขึ้น และพูดช้ากว่ารอบแรก
"อืม วันสุดท้าย" ข้าวหอมตอบด้วยน้ำเสียงเจื่อนลง ทำไมเธอถึงรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปวิ่งแล้ว เธอควรจะกระโดดโลดเต้นดีใจ เตรียมตัวฉลองกับเพื่อนเธอซะมากกว่าที่ได้หลุดพ้นจากผู้ชายคนนั้น
ที่ผ่านมาหลายวันเธอกับเควินจะเจอกันที่สนามตอนเย็นเสมอ เขาจะมาเฝ้าเธอวิ่งทุกครั้ง พาเธอกลับคอนโดทุกครั้ง จนตอนนี้เหมือนจะมีข่าวซุบซิบระหว่างเธอกับเควินเข้าหูเธอมาบ้างแล้ว
—//—//—//—//—//—//—
“วันนี้มึงต้องไปเฝ้าน้องข้าวหอมวิ่งอีกปะวะ” โจเซฟถามขึ้น
“อืม วันสุดท้าย” น้ำเสียงเข้มตอบกับด้วยท่าทางปกติไม่แสดงอาการอะไร
“แล้วเรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ววะ จากเสือจะเป็นแมวไหมวะ” ไทม์ถามด้วยท่าทางเยาะเย้ย เพราะพวกเขายังไม่เห็นว่าเควินจะเอาข้าวหอมมานอนใต้ร่างอย่างที่เพื่อนสนิทคุยโม้โอ้อวดไว้ในตอนแรก
“เวลาเสือมันจะตะครุบเหยื่อ ก็ต้องรอให้เหยื่อตายใจ” เควินตอบ
“หึ! สงสัยเหยื่อชิ้นนี้น่าจะตะครุบยาก ทุกทีเสืออย่างมึงไม่เคยรอให้เหยื่อตายใจ” โจเซฟพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยอีกคน จนคนที่โดนพูดถึง ถึงกับมองหน้าอย่างคาดโทษ
“ไอ้เซฟมึงก็ไปพูดให้เสือมันหงุดหงิด กูกลับดีกว่าเดี๋ยวเสือแม่งพาลกัดไม่เลือก” ไทม์พูดพร้อมกับตบบ่าเควินเบาๆ และหยักคิ้วให้กับโจเซฟ
“เอองั้นกูก็กลับก่อนนะไอ้เสือ…..อ่อนด๋อย” โจเซฟเว้นระยะคำพูด และรีบวิ่งหนีทันที
“ไอ้สัสเซฟ” เควินวิ่งไล่ตามไปไม่กี่ก้าวเขาก็หยุดฝีเท้าลง
เควินเดินมาที่สนามกีฬาก็เห็นร่างบางกำลังเดินไปวิ่งที่สนาม ไม่รอต่อล้อต่อเถียงเหมือนทุกครั้ง
ข้าวหอมที่มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว พอเธอเห็นเควินกำลังเดินมา เธอก็รีบลงสนามไปวิ่งทันที ไม่รอที่จะทักทายร่างสูง
ข้าวหอมวิ่งวนรอบสนามเหมือนเดิมทุกอย่าง เควินก็นั่งมองเธออยู่ที่อัฒจันทร์เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ข้าวหอมกับรู้สึกว่าอยากวิ่งให้นานขึ้น อยากวิ่งอยู่ตรงนี้นานๆ
“แฮ่ก แฮ่ก จะครบสิบรอบแล้วเหรอ…ทำไมเหมือนรู้สึกว่าพึ่งวิ่งเองละ” เธอบ่นกับตัวเองทั้งที่มีอาการหอบเหนื่อยแต่ก็ไม่หนักเท่าครั้งก่อนๆ แรงเธอยังสามารถวิ่งได้อีก
“เฮ่อ….” ร่างบางทรุดนั่งลงกับพื้นอย่างเช่นทุกครั้ง
“ไปเปลี่ยนชุด เดี๋ยวฉันไปส่ง” เควินเดินเข้ามาพูดด้านหลังของเธอ ทำให้คนที่กำลังเหม่อถึงกับสะดุ้ง
“ห๊ะ อ่อ .. เดี๋ยววันนี้ฉันกลับเอง” ข้าวหอมพูดอย่างตะกุกตะกักไม่สมกับเป็นข้าวหอมคนที่กล้าต่อล้อต่อเถียงกับเขาเลย
“ฉันไม่ชอบพูดหลายรอบ รถจอดอยู่ที่เดิม” พูดจบเควินก็หมุนตัวเดินออกจากสนาม ไม่รอให้เธอปฏิเสธแต่อย่างใด
“นายก็บังคับฉันจนวันสุดท้าย ฉันละอยากไร้ความรู้สึกแบบนายจัง เฮ้อออออ” ข้าวหอมพูดพร้อมกับถอนหายใจหลังจากที่เควินเดินออกไปแล้ว ดวงตากลมโตมองคนตัวสูงเดินห่างออกไปเรื่อยๆ
“สติสิ่ข้าวหอม หยุดคิดฟุ้งซ่านได้แล้ว” เธอลุกจากที่ตรงนั้นและรีบไปเปลี่ยนชุด
รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวออกจากมหาลัยได้พักใหญ่แล้ว แต่บรรยากาศภายในรถเงียบสนิท จนได้ยินเสียงลมความเย็นจากเครื่องปรับอากาศหน้ารถ เควินยังคงนิ่งและสายตาจับจ้องที่ท้องถนนตรงหน้า คนที่อึดอัดมากที่สุดก็ไม่พ้นตัวเธอเอง
“ฉันหิว ช่วยแวะร้านเดิมหน่อยได้ไหม” ข้าวหอมทำลายความเงียบลงด้วยการขอร้องคนข้างๆ
“อืม” เควินตอบรับจากเสียงภายในลำคอ
ภายในรถกลับมาเงียบเหมือนเดิม ไม่นานรถสปอร์ตคันหรูขับมาจอดหน้าร้านผัดไทยร้านเดิมที่เขาพาเธอมากินครั้งแรก เควินไม่รอช้าดับเครื่องยนต์และเดินออกจากรถทันที ข้าวหอมจึงเดินตามเขาไปอย่างเช่นเดิม
“นายสั่งให้ฉันแล้วใช่ไหม” ข้าวหอมที่เดินตามมาทีหลังถามขึ้น
“อืม ไม่ใส่ถั่ว”
“ขอบใจ”
ไม่นานผัดไทยแสนอร่อยก็มาเซิร์ฟตรงหน้า โดยที่ผัดไทยของเขาเป็นแบบปกติทั่วไป ส่วนของเธอไม่ใส่ถั่วป่นเหมือนเดิม ทั้งคู่ต่างคนต่างกินไปเรื่อยๆ
"นายมากินร้านนี้บ่อยไหม" ข้าวหอมถามคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ปากบางยังเคี้ยวตุ้ยๆ
"เมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ มันคนละทางกับคอนโดฉัน" เควินตอบ
"อ่อ ก็จริงแฮะ"
"นายปีสุดท้ายแล้ว คนรวยอย่างนายจบแล้วคงไปสานต่อธุรกิจครอบครัว ดีจัง" ข้าวหอมพูดต่อมันน่าอิจฉาจริงๆ เพราะเขาคงไม่ไปทำงานเป็นลูกจ้างบริษัททั่วไปแน่เหมือนเธอแน่ คนรวยอย่างเขาจบไปก็มีธุรกิจครอบครัวรองรับอยู่แล้ว อาจจะได้เป็นถึงขั้นผู้บริหารเลยด้วยซ้ำ
"คงงั้น ถ้าเธอจบก็ลองมายื่นใบสมัครบริษัทฉันดู บริษัทฉันเธอคงหาข้อมูลได้ไม่ยาก"
"นี่เป็นการทาบทามตัวฉันตั้งแต่ยังเรียนไม่จบหรือเปล่าน๊าาาาา" ข้าวหอมพูดอย่างเป็นกันเอง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่แสดงออกมาจากข้างใน
"......." ดวงตาคมจ้องไปที่ใบหน้าของหญิงสาว รอยยิ้มที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน
"เอ่อ.....ฉันอิ่มแล้วกลับเหอะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเองถือว่าเป็นค่าน้ำมันที่นายมาส่งฉันละกัน" ข้าวหอมหุบยิ้มเมื่อเห็นเขาเอาแต่จ้องหน้าเธอ จนตัวเธอเองทำตัวไม่ถูก ร่างบางรีบลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปจ่ายเงินค่าอาหารที่หน้าร้าน
ภายในรถกลับมาอึดอัดอีกครั้ง ตั้งแต่ออกรถมาจากร้านอาหารไม่มีใครปริปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว ไม่นานรถสปอร์ตคันหรูขับมาจอดหน้าคอนโดของหญิงสาวตามเดิม
"ขอบใจที่มาส่ง" ข้าวหอมพูดและหันไปเปิดประตูรถ
พรึบ
มือแกร่งคว้าแขนเธอไว้ก่อนที่เธอจะเปิดประตูลงไป ร่างบางหันหน้ากลับมาใบหน้าแสดงความสงสัย ทั้งคู่จ้องตากันอยู่สักพักหนึ่ง ภายในรถตกอยู่ในความเงียบก่อนที่ปากหนาจะพูดกลับมา
"ถ้าฉันบอกว่าฉันชอบเธอ จะเชื่อฉันไหม" เควินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าที่สื่อออกมาแสดงถึงความจริงที่เขาพูดออกไป
"........." ข้าวหอมไม่พูดอะไร สมองเธอตอนนี้คิดอะไรไม่ออก มีแต่คำพูดของเขาฉายซ้ำไปซ้ำมา ดวงตากลมโตยังคงจ้องไปที่ใบหน้าคมเข้มไม่วางตา
"นะ นายว่าอะไรนะ" สุดท้ายเธอก็พูดออกมา ถึงเธอได้ยินคำนั้นตั้งแต่แรก แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจ
"ฉันชอบเธอ" เควินค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ร่างบางจนรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน กลิ่นบุหรี่อ่อนๆจากปากหนาและน้ำหอมที่เธอเริ่มคุ้นชิน คำพูดออกจากปากเขาอย่างแผ่วเบา
จุ๊บ~
เมื่อเควินเห็นว่าคนตรงหน้าไม่มีท่าทีขัดขืน ไม่รอช้าที่ริมฝีปากหนาประทับลงบนริมฝีปากบางทันที เรียวลิ้นสากสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหญิงสาวอย่างง่ายดาย เควินใช้ประสบการณ์ทั้งหมดที่มีหว่านล้อมให้เธอคล้อยตามรสจูบเขาไป ข้าวหอมที่มีท่าทางเงอะงะเพราะเธอไม่เคยจูบกับใคร และเขาคือคนแรกที่สอนรสจูบอันเล่าร้อนแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นนุ่มนวล
"อื้อ อออออ" ข้าวหอมครางออกมาจากในลำคอเมื่อเธอเริ่มขาดอากาศหายใจ ร่างบางพยายามดันแผงอกแกร่งออก
เฮ้อ เฮ้อ~~ หลังจากเควินปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ข้าวหอมรีบโกยอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตจ้องไปที่ใบหน้าคมคายอีกครั้ง
"งะ งั้นฉันไปก่อนนะ ขอบคุณที่มาส่ง" พูดจบข้าวหอมรีบลงจากรถด้วยท่าทางรีบร้อนและรีบเดินเข้าคอนโดโดยไม่หันกลับมามองรถเขาอีกเลย เธอกำลังจัดการกับอารมณ์ตัวเองให้สงบลง
1 ชั่วโมงผ่านไป
"เธอทำอะไรลงไปเนี่ย เธอยอมเขาง่ายๆแบบนั้นเลยเหรอ" ข้าวหอมที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงบ่นกับตัวเอง ตั้งแต่เธอขึ้นมาถึงห้อง เธอเอาแต่นอนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ร่างบางอมยิ้มกับตัวเองแสดงท่าทางเขินจนหน้าแดงเมื่อนึกถึงรสจูบของเขา กลิ่นบุหรี่จางๆผสมกับกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวเขามันยิ่งทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์ นัยส์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นกำลังสะกดเธอเข้าหาอย่างง่ายดาย
"แบบนี้เหรอที่เรียกว่าตกหลุมรัก" ข้าวหอมพูดพร้อมกับยิ้ม ใบหน้าเธอแสดงออกถึงความสุขอย่างเปิดเผย เธอไม่เคยเปิดใจรักหรือชอบใครเลย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักอยู่ในรูปแบบไหน วันนี้เขาทำให้เธอเข้าใจกับคำนี้แล้ว ต่อให้เป็นความรู้สึกที่พึ่งเริ่มได้ไม่นานแต่การตกหลุมรักใครมันทำให้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งมีความสุขมากกว่าเดิม เธอเข้าใจคำพูดของมีอาที่อยากให้เธอลองเปิดใจรักใครสักคน
ติ้ง (เสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นไลน์)
ข้าวหอมรีบหยิบโทรศัพท์มาดู ข้อความตรงหน้าทำให้เธอยิ้มออกมาอีกครั้ง
เควิน : ถึงคอนโดแล้ว
ข้าวหอม : (สติกเกอร์โอเค)
เควิน : พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง
ข้าวหอม : บ่ายโมง :)
เควิน : เดี๋ยวไปรับ
ข้าวหอม : อืม
ข้าวหอม : (สติกเกอร์โอเค)